บทที่ 598 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไปได้อย่างไร? 1
เดี๋ยวก่อน เธอไม่ควรจะคิดเรื่องนี้ในเวลานี้
แต่เธอรู้สึกว่าคืนนี้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ค่อนข้างร้ายกาจ เขาพูดแบบนี้ทำไม?
เย้าเธอเล่นหรือ?
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่า ภาพลักษณ์อันสูงส่งของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งก่อขึ้นมาในใจตนได้สั่นคลอนง่อนแง่นเสี่ยงจะพังทลายลงมา
เธออ้าปากน้อยๆ มองดูท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ รู้สึกอยู่รางๆ ว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเข้าสิงร่าง…
น่าจะสัมผัสได้ว่าตนเองพลั้งปากไป ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จึงยืนขึ้นตรงๆ กล่าวอย่างเฉยชาว่า “เข้ามา!”
แล้วหันหลังกลับเข้าเรือนไป
กู้ซีจิ่วเงียบงันไร้วาจา
มองดูประตูตำหนักที่เปิดอ้าอยู่ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกกดดันขึ้นมาเล็กน้อย!
….
“บทที่สามสิบสอง ว่าด้วยการดูดซับพลังวิญญาณธาตุลม เจ้าลองท่องสิ” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์นั่งเป็นระเบียบจริงจังเสมือนอาจารย์ผู้แสนเข้มงวด ต่างจากคนที่เพิ่งเย้าเล่นเธออย่างเอยเฉื่อยเมื่อครู่ลิบลับ
กู้ซีจิ่วท่องออกมา น่าจะเป็นผลมาจากความตกใจก่อนหน้านี้ยังไม่หายไป เธอจึงท่องติดๆ ขัดๆ ไปบ้าง
“บทที่แปดสิบเก้า…” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ชี้อีกบทให้เธอท่องต่อ
หนนี้ เธอทำได้ดีขึ้น ท่องออกมาอย่างคล่องแคล่วนัก
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ให้เธอท่องติดๆ กันเจ็ดแปดย่อหน้า กู้ซีจิ่วล้วนตอบได้ลื่นไหลทั้งสิ้น
เวลาล่วงเลยไปแบบที่ฝ่ายหนึ่งถามฝ่ายหนึ่งตอบเช่นนี้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เคาะโต๊ะ ท่าทีเคร่งขรึม ในที่สุดก็กลับเป็นปกติแล้ว
ส่วนกู้ซีจิ่วก็จับทางได้แล้ว ยิ่งท่องยิ่งชำนาญ
เพียงแต่ระหว่างที่อธิบายถ้าเธอพูดผิด ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะเอ่ยถามติดๆ กันหลายข้อด้วยปัญหาที่เธอยังไม่เคยพบมาก่อน กู้ซีจิ่วอ้าปากค้างตอบไม่ได้จริงๆ
นิ้วท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เคาะโต๊ะเบาๆ ถามเธอเรียบๆ ว่า “ภารกิจนี้ถือว่าเจ้าทำเสร็จเพียงครึ่งเดียว ตัวเจ้าเองจะว่าอย่างไร?”
กู้ซีจิ่วยอมรับชะตากรรม ตอบไปว่า “วันพรุ่งข้าจะไปวิ่งรอบสนามด้วยขาเดียวเจ้าค่ะ”
“อืม เห็นแก่ท่าทางไม่เลวของเจ้า ถึงแม้การบ้านจะเสร็จสิ้นเท่าที่เปิ่นจุนคิดไว้ แต่ก็พอถูไถใช้ได้ จะลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้วกัน”
ดวงตากู้ซีจิ่วส่องประกายนิดๆ “วิ่งสิบรอบหรือเจ้าคะ?”
“ไม่ใช่ จำนวนรอบเท่าเดิม เพียงแต่เจ้าวิ่งสองขาได้”
เอาเถอะ วิ่งสองขาก็ดีกว่าวิ่งขาเดียวมากแล้ว และไม่แปลกประหลาดชัดเจนถึงเพียงนั้นกู้ซีจิ่วตอบรับ
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ลุกขึ้น โยนม่านเตียงที่วางอยู่บนโต๊ะเข้าไปในอ้อมแขนเธอ “เจ้าเอาม่านนี้ไปซ่อม หากสามารถซ่อมให้เปิ่นจุน
พอใจได้ ก็ไม่ต้องชดใช้แล้ว”
กู้ซีจิ่วอุ้มม่านนี้ไว้ รู้สึกเหมือนอุ้มเผือกร้อนลวกมือหัวหนึ่งไว้ เรื่องซ่อมแซมเสื้อผ้าอาภรณ์เธอทำได้ แต่ซ่อมอย่างไรถึงทำให้ท่าน
เทพศักดิ์สิทธิ์ผู้ฝักใฝ่ความสมบูรณ์แบบพอใจได้เป็นปัญหายาก…
เธออุ้มผ้าม่านไว้แล้วขอตัวลาออกมา กลับไปยังเรือนของตน
จากนั้นก็พบว่าเจ้าสามตัวในเรือนหายไปแล้ว…
เรือนหลังน้อยที่เมื่อก่อนค่อนข้างรกวุ่นวายบัดนี้สะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยประหนึ่งถูกแม่บ้านผู้ยอดเยี่ยมเก็บกวาดให้
ของเล่นกระจุกกระจิกพวกนั้นที่เคยรกรุงรังอยู่ในบ้านก่อนหน้านี้หายไปจนหมด
ผ้าห่มที่ถูกเจ้าลู่อู๋ดึงทึ้งก็ปูเป็นแถบยาว บนเตียงไม่มีรอยยับเลยสักรอย
กู้ซีจิ่วโง่งมอยู่บ้าง เพียงแต่เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นผลงานของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น!
ยามที่ เธอที่ยอมรับชะตากรรมทำความสะอาดห้องเขา เขาก็มาตรวจสอบห้องของเธอ แล้วใช้วิธีรุนแรงสะสางความยุ่งเหยิงซะ!
เห็นทีว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะเป็นเช่นเดียวกับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย
คลั่งความสะอาด เป็นโรคเจ้าระเบียบย้ำคิดย้ำทำ
ดูเหมือนสองคนนี้จะมีส่วนที่คล้ายกันมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาคงมิใช่คนเดียวกันกระมัง?!
กู้ซีจิ่วถูกความคิดของตัวเองทำให้ตกตะลึง
ไม่หรอกน่า เป็นไปไม่ได้มั้ง?
ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไปได้อย่างไร?
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นสานุศิษย์สวรรค์ เช่นเดียวกับคนอื่นที่เหลือชัดๆ เป็นลูกน้องของเขา…
หรือเทพอย่างเขาสามารถแสดงสองบทบาทได้ด้วยตัวคนเดียว?
อยู่ว่างไม่มีอะไรทำจนต้องมาเล่นละครหรือ?
ท่านเทพศักดิ์คงมิใช่คนที่ว่างถึงเพียงนั้นกระมัง?