Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 642

บทที่ 642 ข้าจะเป็นกำลังใจให้เจ้านะ!

กู้ซีจิ่วพยักหน้า ล้วงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา ปูลงบนโขดหินที่อยู่ด้านข้าง ตวัดเขียนอักษรอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเรียกคนที่เหลือเข้ามา “นี่คือสัญญาเป็นตาย หลังจากพวกเจ้าลงนามแล้วสามารถต่อสู้กันอย่างเต็มที่ได้! ไม่ว่าเป็นหรือตายขึ้นอยู่กับฝีมือ!”

หวงเทียนสิงตกตะลึง จ้องมองกู้ซีจิ่ว “เจ้าเอาจริงหรือ? ถ้าข้าสังหารนางจริงๆ พวกเจ้าจะไม่ล้างแค้นให้นางหรือ? ไม่สิ เยี่ยนเฉินไม่ปล่อยข้าไปแน่…”

“หลังจากลงนามในสัญญาเป็นตาย เป็นอยู่ตกตาย ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย เยี่ยนเฉินก็ทราบเหตุผลนี้ ไม่เอาเรื่องเจ้าแน่นอน ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วว่ากล้าลงนามหรือ ไม่” นํ้าเสียงกู้ซีจิ่วสบายๆ

หวงเทียนสิงตัดสินใจได้ทันที “ได้! เช่นนั้นเจ้าสองคนก็ต้องเป็นพยานรู้เห็นด้วย! ลงนามของตนด้วยเช่นกัน!”

“ไม่มีปัญหา” กู้ซีจิ่วเขียนชื่อตัวเองลงไปก่อน

เชียนหลิงอวี่ยังคงเชื่อใจกู้ซีจิ่วมาก ดังนั้นหลังจากที่เขาชะงักไปครู่หนึ่งก็เขียนนามของตนลงไปเช่นกัน

ใบหน้าน้อยๆ ของหลานไว่หูขาวเผือด แต่นางก็กัดริมฝีปากแน่นแล้วเขียนนามของตนลงไป

หวงเทียนสิงถูกต้อนมาถึงตรงนี้ ครั้นจะไม่ลงนามก็ดูขี้ขลาดเกินไปหน่อย ด้วยเหตุนี้จึงลงนามเช่นกัน

กู้ซีจิ่วโบกสัญญาเป็นตายฉบับนั้น เป่าจนหมึกบนนั้นแห้ง ยิ้มบางๆ ทว่ารอยยิ้มนั้นมองอย่างไรก็ดูน่าขนลุก หวงเทียนสิงถูก

รอยยิ้มนี้ของเธอทำให้อกสั่นขวัญแขวน

กู้ซีจิ่วมองหลานไว่หู “จิ้งจอกน้อย วรยุทธ์เจ้าแข็งแกร่งกว่าเจ้านี่มาโดยตลอด เพียงแต่เจ้าใจอ่อนเกินไป ยามต่อสู้ลงมือไม่เต็มที่

ถ้าเจ้าทุ่มเทจริงๆ เขาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องพิสูจน์ตัวเองแล้ว! จำไว้ประโยคหนึ่ง พบพานศัตรูบนทางแคบ

ผู้ที่กล้าหาญกว่าถึงจะมีชัย ยามนี้เจ้ามีแต่ต้องสู้!”

ไม่มีใครสามารถซุกอยู่ใต้ปีกผู้อื่นไปได้ชั่วชีวิต เป็นความจริงที่ว่าจะต้องพึ่งพาตัวเอง สิ่งเดียวที่หลานไว่หูขาดไปคือความเหี้ยมหาญ แถมยังใจอ่อน เกรงว่าถ้าควบคุมแรงไม่ดีจะทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บได้ หากเป็นเพียงคุณหนูผู้หนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ในห้องหอ นิสัยเช่นนางไม่นับว่ามีอะไร ปกติทั่วไปยิ่ง

แต่นางเป็นส่วนหนึ่งของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ที่ให้ความเคารพต่อผู้ที่แข็งแกร่ง หากนางไม่ฮึดสู้ก็มีแต่จะถูกทิ้งไว้ด้านหลัง และถูกกลั่นแกล้งรังแก!

ดังนั้นครั้งนี้กู้ซีจิ่วต้องบีบให้นางทลายกำแพงในใจตนให้ได้

หลานไว่หูมองเธอด้วยสายตาเปล่งประกาย เห็นได้ชัดเจนยิ่งนัก จิตวิญญาณการต่อสู้ของนางถูกวาจานี้ของกู้ซีจิ่วปลุกเร้าขึ้นมาแล้ว

กู้ซีจิ่วยิ้มนิดๆ “ข้าจะเป็นกำลังใจให้เจ้านะ!”

จากนั้นเธอก็ถอยหลังไป “เอาล่ะ พวกเจ้าเริ่มได้เลย!”

….

เชียนหลิงอวี่ยังไม่วางใจเท่าไหร่ กระซิบถามกู้ซีจิ่ว “จิ้งจอกน้อยจะไหวหรือ? อย่าได้ถูกอีกฝ่ายสังหารเข้าจริงๆ เลย! หากว่านางเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น บางทีเยี่ยนเฉินอาจจะไม่สนสัญญาเป็นตายแล้วไปเอาเรื่องหวงเทียนสิงก็ได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะมาเอาเรื่องเจ้า…”

กู้ซีจิ่วเอ่ยว่า “วางใจเถอะ! ยามที่ถูกบีบให้ถอยจนหมดทางถอยแล้ว จิ้งจอกก็สามารถเปลี่ยนเป็นหมาป่าได้! อีกอย่างยังมีข้าอยู่ทั้งคน!”

ในที่สุดหลานไว่หูกับหวงเทียนสิงก็เริ่มสู้กันแล้ว ในสนามรบเกิดคลื่นโหมกระหน่ำ

ตอนแรกเริ่ม บางทีอาจเป็นเพราะอิทธิพลที่สั่งสมมานานของหวงเทียนสิง หลานไว่หูเลยยังไม่กล้าใส่เต็มที่ ตกเป็นรองทันที

เชียนหลิงอวี่ค่อนข้างร้อนรน กระโดดเหยงๆ อยู่ตรงนั้น “จิ้งจอกน้อย ทุบเขาสิ! ทุบเขาเลย! อย่าเอาแต่ถอย!”

กู้ซีจิ่วจับจ้องสนามรบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเริ่มนับจำนวน “สอง แปด ห้า สี่ สาม…”

คนอื่นอาจไม่ทราบว่าเธอนับทำไม แต่หลานไว่หูกลับทราบดี เนื่องจากกู้ซีจิ่วเคยเรียงลำดับกระบวนท่าทั้งหมดของนางไว้เช่นนี้ ยามที่ต่อสู้จะได้ ตักเตือนได้สะดวก แต่เดิมเพื่อให้ประสานงานได้สะดวก นึกไม่ถึงว่าจะได้ใช้ที่นี่วันนี้!

วรยุทธ์พื้นฐานของหลานไว่หูไม่ได้ต่ำต้อย เพียงแต่ยามต่อสู้ไม่รู้ว่าควรใช้กระบวนท่าไหนตอบโต้ศัตรูเท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version