Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 694

บทที่ 694 ข้าไม่ต้องการเจ้า 2

เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อพวกกู้ซีจิ่วทั้งหกที่ประลองกันอยู่บนเวที คณะอาจารย์ถึงแม้จะถกเถียงกันหน้าดำหน้าแดง แต่นํ้าเสียงล้วนแผ่วเบายิ่ง มีเพียงโต๊ะของผู้ตัดสินเท่านั้นที่ได้ยิน

กู่ฉานโม่ถูกเสียงทะเลาะของพวกเขาทำให้หนวกหู เมื่อเหลืออดแล้วจึงตบโต๊ะคราหนึ่ง “หุบปากกันให้หมด! เหล่าเฉียนเมื่อก่อนเชียนหลิงอวี่ถูกถีบออกมาจากชั้นเรียนเมฆาม่วงห้องสองของเจ้า ตอนนั้นเจ้ามาโอดครวญอยู่ข้างหูอาจารย์ใหญ่เช่นข้าทุกวันบอกว่าเขาถ่วงความก้าวหน้าของชั้นเรียนพวกเจ้า ศิษย์อัจฉริยะที่โดดเด่นคนหนึ่งถูกถีบไปชั้นเรียนเมฆาคล้อยถึงได้ยอมเลิกรา! เหล่าหวง เจ้าก็สายตามืดบอดเช่นกัน เมื่อก่อนหลานไว่หูผู้นี้เป็นศิษย์ในห้องสามของเจ้า แล้วเจ้าว่าอย่างไรเล่า? บอกว่านางเป็นไม้ผุที่ไม่อาจสลักเสลาได้ เป็นโคลนที่มิอาจก่อกำแพงได้ ตอนนี้พอเห็นว่านางดีแล้วเลยคิดจะมาแย่งนางไปอีกครั้งหรือ?”

เขากวาดสายตามองคณะอาจารย์อย่างน่าเกรงขามรอบหนึ่ง เอ่ยต่อไป “ตอนที่กู้ซีจิ่วเพิ่งมาที่นี่ พวกเจ้ากล่าวว่าอย่างไรเล่า? กล่าวว่าข้าผู้เฒ่ายอมก้มหัวให้แก่อำนาจ กล่าวปล่อยให้อุจจาระหนูก้อนหนึ่งอย่างนางมาทำลายโจ๊กทั้งสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ของพวกเรา ยามนั้นแต่ละคนต่างกระโดดเหยงๆ มาร้องอุทรณในห้องหนังสือข้าผู้เฒ่า เหตุใดยามนี้แต่ละคนถึงคิดยื้อแย่งกันขึ้นมาเล่า?”

คณะอาจารย์เงียบงันไร้วาจา…

กู่ฉานโม่ปรายตามองทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแวบหนึ่ง สั่งสอนลูกน้องของตนต่อไป “ข้าว่าพวกเจ้าน่ะปกติแล้วต่างถือตนว่ามีดีมองคนแม่นยำ คิดว่าตนมองเมล็ดพันธุ์ชั้นดีใดๆ ไม่เคยพลาด ความจริงแล้วพวกเจ้าทุกคนล้วนสายตามืดบอด! ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ ที่แท้แล้วยังคงเป็นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ที่สายตาเฉียบคมที่สุด ถึงได้ค้นพบแร่หยกชั้นเลิศก้อนใหญ่นี้แล้วส่งมาให้สำนึกศึกษาชุมนุมสวรรค์ของพวกเรา ผู้เฒ่าเชื่อว่าในภายภาคหน้ากู้ซีจิ่วเด็กน้อยคนนี้จะต้องไม่ด้อยกว่าผู้ใด! ในอนาคตความสำเร็จของนางจะไร้ซึ่งขีดจำกัด! บางที…หึ อาจจะก้าวลํ้าหน้าสานุศิษย์สวรรค์บางคนก็ได้ ใครจะรู้ ต่อไปพวกเจ้าต้องเบิกตาให้กว้างๆ หน่อย อย่าได้เห็นเพชรเป็นกรวดแล้วโยนทิ้ง เช่นนั้นต่อให้เก็บหยกขาวชิ้นหนึ่งกลับมาได้ มูลค่าก็ยังห่างไกลจากเพชรนัก! ต่อไปพวกเจ้าจะเสียใจภายหลัง จนแทบกระอักโลหิต!”

เหล่าอาจารย์อับจนวาจา เหตุใดพวกเขารู้สึกว่าอาจารย์ใหญ่กู่กำลังพูดจากระทบกระแทกแดกดันบางคนที่นี่อยู่นะ?

ด้วยเหตุนี้สายตาลุ่มลึกของทุกคนจึงลอบมองไปที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย

ครั้งนี้ดูเหมือนว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่หลักแหลมกว่าวานรเป็นร้อยเท่าเสมอจะไม่ได้ยิน แม้แต่ปฏิกิริยาตอบสนองสักนิดก็หามีไม่ เขาจิบชาคำ หนึ่ง สายตาจับจ้องที่สนามประลองอยู่ตลอด…

ดูจากแนวโน้มครั้งนี้ รอบนี้น่าจะเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้ กลุ่มของกู้ซีจิ่วจะพ่ายแพ้เช่นเดิม เพียงแต่นางสามารถยื้อไว้นานขนาดนี้ได้ก็ไม่ธรรมดามากแล้ว!

แทบจะอยู่เหนือความคาดหมายของเขา เขามองบางคนที่อยู่ในสนามประลอง แววตาลึกลํ้าดั่งท้องสมุทรที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ทราบว่าศึกตัดสินของช่วงสุดท้ายมาถึงแล้ว…

การต่อสู้ในสนามประลองเข้าขั้นดุเดือดแล้ว

ท่ามกลางหกคนนี้ พลังวิญญาณของกู้ซีจิ่วตํ่าที่สุด เป็นพลังวิญญาณธาตุลม ความเร็วจึงว่องไวที่สุด แต่ก็สิ้นเปลืองพลังอย่างหนักหนาเช่นกัน เป็นธรรมดาที่ระดับความอึดจะสู้อีกหลายคนที่เหลือไม่ได้ ประกอบกับเธอต้องคอยปรับรูปขบวนอยู่เนืองๆ ไม่เพียงออกกระบวนท่าของตนเท่านั้นยังต้องชี้แนะให้หลานไว่หูออกกระบวนท่าอีก ไม่ว่าจะเป็นแรงกายหรือแรงสมองล้วนแต่สิ้นเปลืองไปอย่างรวดเร็วทั้งสิ้น

หน้าผากของเธอมีหยาดเหงื่อผุดซึมไม่ขาดสาย เหงื่อบนแผ่นหลังก็ชุ่มเหงื่อ หยาดเหงื่อบนหนังศีรษะไหลย้อยชุ่มเส้นผม มองแล้วจนตรอกนัก กระบวนท่าที่สำแดงออกมาก็ไม่ปราดเปรียวเหมือนตอนแรก

มองไปที่หลานไว่หูต่อ พลังวิญญาณของนางนับว่าอ่อนแอเป็นอันดับสอง อีกทั้งนางยังมีประสบการณ์ไม่เพียงพอ นี่คือการต่อสู้ที่นางยืนหยัดได้นานที่สุดและอันตรายที่สุดด้วย ยามนี้เส้นผมของนางเปียกชุ่มด้วยหยาดเหงื่อเช่นกัน มือเท้ายิ่งอ่อนแรงดั่งมิใช่มือเท้าของตน แต่นางยังคงยืนหยัด สู้สุดชีวิตเช่นเดิม ในใจมีเพียงความคิดเดียว ยืนหยัด! ยืนหยัดไว้! แม้จะถูกผู้อื่นสังหารก็ต้องสู้ในสนามประลองนี้ให้ถึงที่สุด!

เชียนหลิงอวี่ถึงแม้พลังวิญญาณจะสูง ไม่เคยเสียทีให้ผู้ใด…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version