บทที่ 752 เจ้าเตรียมจะชดใช้อย่างไร
อีกอย่างคือหลงซือเย่จะคิดยังไง?
เธอเพิ่งตัดสินใจจะสานสัมพันธ์กับหลงซือเย่เองนะ…
ช้าก่อน!
หลงซือเย่!
ดูเหมือนเมื่อเช้าหลงซือเย่จะมาแล้ว แถมยังจากไปด้วยท่าทีไร้ วิญญาณ…
“ตี้ฝูอี ก่อนหน้านี้หลงซือเย่เข้ามาใช่ไหม? ท่านพูดอะไรกับเขา? ทำไมเขามีท่าทางได้รับความสะเทือนใจ?” กู้ซีจิ่วมีสีหน้าระแวงสงสัย
ตี้ฝูอีแย้มยิ้ม “เหตุใดเจ้าไม่ไปถามเขาเองล่ะ?”
กู้ซีจิ่วมีน้ำโหแล้ว “ข้าเป็นแบบนี้จะไปถามเขาได้ยังไง? หรือให้ข้าบอกเขาว่าข้ากับท่านสลับร่างกันอยู่?”
คราวนี้ตี้ฝูอีจริงจังขึ้นมาอย่างที่พบเห็นได้ยาก “ซีจิ่ว ไม่อาจให้ผู้ใดรู้ได้เด็ดขาดว่าเจ้ากับข้าสลับร่างกัน!”
กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว “เพราะอะไร?”
ตี้ฝูอีถอนใจเบาๆ “หากพูดออกมา ชีวิตของเจ้าและข้าจะหาไม่”
กู้ซีจิ่วตกตะลึง ไม่ค่อยอยากเชื่อนัก “ท่านหลอกข้ากระมัง? ใครจะทำอะไรท่านได้?”
นัยน์ตาตี้ฝูอีสาดแสงแวบหนึ่ง บางเรื่องนั้นยังไม่สะดวกจะบอกกล่าวต่อสาวน้อยผู้นี้ เกี่ยวพันลึกล้ำกว้างขวางเกินไป บอกกล่าวได้ไม่กระจ่างในระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้นเขาจึงอ้างเหตุผลอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างทำให้คนเชื่อถือได้ เอ่ยออกมาเบาๆ สองคำ “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “ท่านจะบอกว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะจัดการเราด้วยเหตุนี้หรือ? เป็นไปไม่ได้กระมัง? และพวกเราก็ไม่ได้ตั้งใจด้วย อีกอย่างหากว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ทราบ บางทีเขาอาจมีวิธีที่สามารถช่วยให้พวกเราสลับร่างกลับได้”
ตี้ฝูอีส่ายหน้าเล็กน้อย “พูดยากนัก พวกเราไม่ควรเสี่ยงกับเรื่องนี้ อันที่จริงข้าเคยศึกษาวิธีสลับวิญญาณอย่างหนึ่งมา แต่น่าเสียดายที่มิอาจร่ายได้ในยามนี้”
กู้ซีจิ่วตาเป็นประกายทันที “วิธีอะไร? ท่านลองว่ามาก่อน ข้าอาจใช้ร่างท่านร่ายออกมาได้ ข้าเรียนรู้ได้รวดเร็วยิ่ง”
ตี้ฝูอีส่ายหน้าอีกครั้ง “ร่างนั้นของข้าสูญเสียพลังวิญญาณมหาศาลนัก ยามนี้พลังยุทธ์สิบส่วนใช้ออกมาได้ไม่ถึงครึ่ง และวิธีนั้นต้องใช้พลังวิญญาณของข้าอย่างน้อยห้าส่วนถึงจะร่ายออกมาได้”
กู้ซีจิ่วตรวจสอบร่างกายครู่หนึ่ง พบว่าจุดพลังวิญญาณของเขาว่างเปล่าจริงๆ ใช้พลังวิญญาณไม่ได้เลย
มิน่าล่ะตอนที่เขาอยู่ริมสระถึงถูกเสือพวกนั้นลากไปได้ ที่แท้ร่างกายนี้ก็ถูกเขาทำลายจนกลายเป็นเช่นนี้แล้ว…
แต่เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเขาแข็งแกร่งมาตลอด จู่ๆ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
หรือสาเหตุเป็นเพราะสูญเสียพลังวิญญาณมากเกินไปในตอนที่…ช่วยถอนกระบี่ให้เธอ?
แต่ว่าตอนนั้นยามที่เขาจากไปก็ดูไม่ผิดปกติอะไรนี่…
“เหตุใดจู่ๆ ร่างกายของท่านจึงเสื่อมถอยลงเช่นนี้? เพราะช่วยข้าหรือ?” กู้ซีจิ่วอดไม่ได้จึงเอ่ยถาม
ตี้ฝูอีนิ่งไปครูหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าแรงๆ “มิผิด! ข้าสูญเสียพลังวิญญาณไปเกือบหมดเพื่อช่วยเจ้า”
จิตใจกู้ซีจิ่วหนักอึ้งอีกครั้ง นึกย้อนกลับไปยังสถานการณ์นั้น เอ่ยถามอีกครั้ง “ตอนนั้นท่านกระอักเลือดใช่ไหม?”
ตี้ฝูอีถอนหายใจ “กระอักหนึ่งชามใหญ่”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก
เธอรู้สึกเดือดดาลขึ้นมาเล็กน้อย “ตี้ฝูอี ข้าจริงจังอยู่นะ!”
ตี้ฝูอีมองเธออย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม “ข้าก็จริงจังอยู่เหมือนกัน”
พูดกันดีๆ ไม่ได้เลยจริงๆ!
คนผู้นี้พูดจาเดี๋ยวจริง เดี๋ยวเท็จอยู่เสมอ ทำให้คนสับสนฉงนฉงาย
กู้ซีจิ่วนึกถึงตอนที่ถูกเขาจับตัวกลับมาจากเขาถามสวรรค์ครั้งนั้น ระหว่างทางที่กลับ ดูเหมือนว่าเขาสูญเสียพลังวิญญาณไปหนหนึ่งเหมือนกัน กลายเป็นขยะชิ้นหนึ่ง ต้องบ่มเพาะอยู่พักหนึ่งถึงจะดีขึ้นอีกครั้ง ตอนนั้นเขายังแสร้งทำเป็นอ่อนแอวางแผนโต้กลับทูตสวรรค์ฝ่ายขวาอยู่เลย…
บนร่างคนผู้นี้มีความลับมากมายเหลือเกิน ทุกความลับล้วนทำให้ผู้คนประหนึ่งก้าวเข้าสู่ดงหมอก จับทิศทางไม่ได้
เธอสูดลมหายใจนิดๆ “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ติดค้างหนีนํ้าใจท่านครั้งหนึ่งแล้ว…”
“เช่นนั้นเจ้าเตรียมจะชดใช้อย่างไร?” ตี้ฝูอีเอ่ยขัดเธอ