บทที่ 764 ใช้ร่างนี้ของท่านเต้นรูดเสา
เพียงแต่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์เช่นนี้ดีที่สุดสำหรับหลัวซิงหลานแล้วจริงๆ ต่อเคยให้เคยรักกันลึกลํ้าแล้วอย่างไร?
ก็ไม่อาจข้ามผ่านการเสื่อมถอยของกาลเวลาไปได้ คู่รักเปลี่ยนเป็นคู่แค้น สุดท้ายก็แตกหักเลิกรา โชคดีที่นางมีศิษย์พี่ที่หลงรักนางมาตลอด
ยอมรับช่วงเวลาที่จนตรอกและลำบากที่สุดครองคู่กับนางจนถึงวัยโรยรา และรักกันไปชั่วชีวิต…
กู้ซีจิ่วอดไม่ได้ที่จะมองตี้ฝูอีแวบหนึ่ง ‘ที่แท้ท่านก็ทราบเรื่องของนางอยู่ก่อนแล้ว ทว่าไม่เคยปริปากออกมาเลย’
นํ้าเสียงตี้ฝูอีเรียบเฉย ‘ไม่จำเป็นต้องเอ่ย อีกทั้งนางก็ไม่ใช่มารดาของเจ้า!’
นี่ก็ใช่!
กู้ซีจิ่วไม่พูดอะไรอีก เธอยกชาขึ้นจิบอึกหนึ่ง
กู้ซีจิ่วรู้สึกขมขื่นอยู่บ้าง ร่างนี้ของตี้ฝูอียามนี้ไม่อาจลิ้มสุราได้ ดังนั้นขั้นตอนทั้งหมดในวันนี้เธอทำได้เพียงใช้ชาแทนสุรา โชคดีที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย มีรสนิยมแปลกๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะไปไหนล้วนใช้แต่จอกสุราของตน กานํ้าชาของตน ไม่เคยดื่มสิ่งของจากภายนอก ดังนั้นต่อให้เธอดื่มชาที่นี่ก็ไม่มีใครกล้าพูดเป็นอื่น
พิธีเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ กู้ซีจิ่วมองพิธีปักปิ่นยุคโบราณนี้แล้วรู้สึกสนุกสนานยิ่ง
เด็กสาวที่จะปักปิ่นต้องให้ผู้อาวุโสเกล้าผมให้ใหม่ ผู้อาวุโสที่ว่านี้ย่อมรับหน้าที่โดยมารดาของตน หากมารดาไม่อยู่ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นญาติผู้หญิงคนอื่นที่มีคุณวุฒิสูงส่งได้
ยามที่พิธีเริ่มขึ้น จิ้งจอกน้อยและศิษย์หญิงคนอื่นๆ ได้ยกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องขึ้นมา หลัวซิงหลานล้างมือให้สะอาด เตรียมไปเกล้าผมให้บุตรสาว…
นางติดค้างบุตรสาวคนนี้มากมายเหลือเกิน นางอยากจะชดเชยอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้สักครั้ง…
ตี้ฝูอีกลับส่งกระแสเสียงไปหากู้ซีจิ่ว ‘เสี่ยวซีจิ่ว ข้าไม่ต้องการให้ผู้อื่นแตะต้อง เจ้ามาเกล้าผมให้ข้าที’
กู้ซีจิ่วไม่ขยับเขยื้อน ‘อาศัยสิ่งใดกัน? พวกเราเป็นชายหญิงมิพึงชิดใกล้!’
‘แม้แต่สังขารข้าเจ้าก็ยึดครองแล้ว ยังจะไม่ชิดเชื้ออีกหรือ?
เร็วหน่อย! หรือเจ้าอยากให้ข้ายื่นความประสงค์ข้อนี้ต่อหน้าฝูงชนในยามนี้? เจ้าอย่าลืมนะ นี่คือร่างของเจ้า ถ้าข้าเป็นผู้ยื่นความประสงค์ ในสายตาทุกคนก็คือกู้ซีจิ่วเป็นฝ่ายที่ประสงค์ให้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาเกล้าผมให้!’ ตี้ฝูอีข่มขู่
กู้ซีจิ่วตกตะลึง
‘หากว่าเจ้าปฏิเสธ เจ้าจะให้ร่างเจ้าเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ต้องทราบไว้ว่าคนที่ขายหน้ามิใช่ตัวข้า…’ ตี้ฝูอีส่งกระแสเสียงเข้ามาเรื่อยๆ
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก มารดามันเถอะ เธอทำเป็นไม่ได้ยินได้หรือไม่?!
กู้ซีจิ่วก็ข่มขู่อย่างดุร้าย ‘ถ้าท่านยังบ่นจู้จี้เช่นนี้ต่อไป ข้าก็จะใช้ร่างนี้ของท่านเต้นรูดเสาต่อหน้าสาธารณะชน! ถึงอย่างไรผู้ที่เสียหน้าก็ไม่ใช่ข้า แต่เป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย!’
ตี้ฝูอีเงียบไปครู่หนึ่ง เอ่ยถามด้วยความสงสัย ‘ข้ารู้จักการเต้น ทว่าการเต้นรูดเสาคืออันใด?’
‘เป็นการเต้นที่ยั่วยวนผู้คนยิ่งนักประเภทหนึ่ง โดยทั่วไปสตรีจะสวมชุดที่เปิดเผยเนื้อหนังเต้นไปรอบๆ เสาต้นหนึ่ง เคลื่อนไหวอย่างเร่าร้อนเย้ายวนและดึงดูดยิ่ง ทำให้บุรุษที่เห็นเลือดกำเดาไหล…’ กู้ซีจิ่วเล่าสรรพคุณของการเต้นรูดเสานี้อย่างออกรส จากนั้นก็กล่าวว่า ‘ถ้าท่านขู่ข้าอีก ข้าจะออกไปเต้นจริงๆ!’
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเต้นรูดเสาต่อหน้าสาธารณชน ฉากเช่นนี้แค่คิดก็น่าสะพรึงแล้ว
ตี้ฝูอีเงียบไปอีกครู่หนึ่ง แล้วถามต่อ ‘เจ้าเต้นเป็นหรือ?’
‘เป็นสิ! แถมยังเต้นได้ยอดเยี่ยมมากด้วย!’
ตี้ฝูอียิ้มบางๆ ‘ประเสริฐ’
แล้วเขาก็ไม่พูดอะไรอีก
กู้ซีจิ่วถูกคำว่า ‘ประเสริฐ’ ของเขาทำให้จิตใจกระสับกระส่าย เพียงแต่โชคดีที่เขาไม่บังคับเรียกร้องให้ไปเกล้าผมให้เขาอีก เธอจึงปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน
(ในอนาคตเธอถึงได้ทราบว่าเธอต้องจ่ายไปมากเท่าใดสำหรับเรื่องนี้ การเต้นรูดเสานี้กลายเป็นรายการที่เขาหมายมาดปรารถนา ทำให้เธออยากย้อนเวลากลับไปยิ่งนัก จะได้กลืนประโยคนี้กลับไปไม่พูดออกมาแน่นอน นี่คือถ้อยคำในอนาคต)