Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 810

บทที่ 810 เป็นเด็กที่แก่แดดเสียจริง

จู่ๆ สมองก็นึกถึงถ้อยคำที่ตี้ฝูอีเคยเตือนไว้ ‘ข้ามีเป็นหมื่นวิธีที่สามารถแยกพวกเจ้าออกจากกันได้ รวมถึงการครอบครองเจ้าโดยตรงหรือ ไม่ก็สังหารเขาซะ!’

หรือว่าตอนนี้เขาคิดจะข่มเหงเธอ?

เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งร่างกู้ซีจิ่วล้วนแข็งทื่อ “ตี้ฝูอี ท่านอย่ามารุ่มร่ามนะ! ท่านเพิ่งจะออกจากร่างนี้ไป ก็เหมือน…ก็เหมือนเป็นร่างของท่านเองเหมือนกัน ท่านไม่ควรจะเกิดความสนใจ…”

ตี้ฝูอีเงียบงัน ยกมือขึ้นมา ค่อยๆ ยื่นเข้าหาทรวงอกเธอ…

จะอย่างไรกู้ซีจิ่วก็นึกไม่ถึงเลยว่าพอสลับร่างคืนแล้วจะประสบพบเจอสถานการณ์เช่นนี้ แทบจะโง่งมไปแล้ว อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องว่า “ตี้ฝูอี ต่อให้เจ้าได้ร่างข้าไปก็จะไม่ได้หัวใจข้าด้วย!”

ตี้ฝูอียิ้ม ดรรชนีพลันจี้ออกมาติดๆ กัน กระแสลมจากดรรชนีเหล่านั้นซัดใส่ร่างเธอ กู้ซีจิ่วรู้สึกเพียงว่าชีพจรทั้งร่างที่ค่อนข้างเคร่งตึงคล้ายจะเปิดโล่งขึ้นมาทันที มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง ความอ่อนล้าปวดเมื่อยที่เคยครอบงำร่างเธอ ดั่งหิมะที่ละลายในฤดูใบไม้ผลิ สลายไปกับกระแสดรรชนีของเขา

เขายกมือขึ้น คลายจุดเธอ พลางเอ่ย “ลองลุกขึ้นมาเดินสิ ยังมีจุดไหนที่รู้สึกไม่สบายอยู่หรือไม่?”

กู้ซีจิ่วชะงักไปครู่หนึ่ง ลงจากเตียงทันที ลองขยับแขนขยับขาอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกปลอดโปร่งผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กระทั่งพลังวิญญาณก็เปี่ยมล้น มีชีวิตชีวากว่าแต่ก่อนไม่น้อย เธอสงบใจแล้ว ตรวจสอบรากฐานวิญญาณของตนดูตามสัญชาตญาณ นัยน์ตาพลันเปล่งประกาย!

ขั้นหกแล้ว!

ช่วงเวลาหลายวันมานี้ เขายกระดับร่างนี้ให้เธอ!

เธอไม่เห็นเลยว่าเขาไปฝึกฝนตอนไหน….

เธอปลาบปลื้มอยู่ในใจ เอ่ยขอบคุณเขาโดยตรง “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ขอบพระคุณ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”

“ไม่ต้องเกรงใจ” ตี้ฝูอีตอบอย่างไม่อินังขังขอบ

“เมื่อครู่เหตุใดข้าถึงมีสภาพเช่นนั้นหรือ?” กู้ซีจิ่วยังคงฉงนอยู่บ้าง

“ข้ายกระดับร่างกายของเจ้า แต่ดวงวิญญาณของเจ้ายังมิได้ยกระดับ เมื่อเข้าไปก็เข้ากันไม่ค่อยได้ เมื่อครู่ข้าใช้วิชาเสริมพลังให้ดวงวิญญาณของเจ้าเล็กน้อย อาการจึงหายไป” ตี้ฝูอีอธิบายแก่เธอ

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!

กู้ซีจิ่วลองขยับแขนขาดูอีกครั้ง แล้วเพ่งพิศตี้ฝูอีต่อหลายครา “นึกไม่ถึงว่าท่านจะฟื้นฟูได้รวดเร็วยิ่ง ไม่เกิดสภาวะเข้ากันไม่ได้สักนิดเลย”

ตี้ฝูอีเอ่ยเรียบๆ ว่า “อืม เนื่องจากร่างนี้ของข้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนเลย และเจ้าก็ไม่ได้ยกระดับอะไรมัน อีกทั้งดวงวิญญาณของข้าก็แข็งแกร่ง ย่อมเข้ากันได้ดีอย่างยิ่ง”

เขายังคงถ่ายทอดความรู้ให้เธอ

นี่เขากล่าวโทษที่เธอไม่ได้ยกระดับให้เขาใช่ไหม?

แต่พลังวิญญาณของเขาเลิศลํ้า ไร้เทียมทานเกินไป ลํ้าลึกดั่งร่องลึกก้นสมุทร เธอไม่รู้เลยว่าสรุปแล้วตอนนี้ระดับของเขาอยู่ที่ขั้นใด…

“เอาเถิด นอนซะ เจ้าเพิ่งกลับเข้าร่างต้องพักผ่อนสักหน่อยถึงจะดี” ตี้ฝูอีก็ขึ้นเตียงของตน ยามที่เขาจะปลดม่านเตียงลงมาจู่ๆ ก็เอ่ยถามเธอขึ้นมาประโยคหนึ่ง “ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าเสริมพลังให้วิญญาณเจ้า เจ้ากล่าวอันใดออกมา?”

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน

ตี้ฝูอีกล่าวเนิบๆ อีกครา “เมื่อครู่เจ้าคงคิดเหลวไหลกระมัง? เป็นเด็กที่แก่แดดเสียจริง!”

กู้ซีจิ่วนํ้าท่วมปาก

เป็นเขาที่จงใจทำตัวคลุมเครือเองมิใช่หรือ?!

จะมาโทษว่าเธอคิดเหลวไหลได้ยังไง?

เธอดึงผ้าห่มมาคลุมหน้าอย่างหงุดหงิด จากนั้นเธอก็ดมร่างตัวเองอยู่ในผ้าห่ม แปลกนัก กลิ่นหอมพิศวงนั้นหายไปแล้ว…

ยามที่ตี้ฝูอีอยู่ในร่างนี้ของเธอ เมื่อเข้าใกล้เธอ เธอจะได้กลิ่นหอมน่าหลงใหลชนิดนั้นที่มีเฉพาะบนร่างเขา ทำให้เธอรู้สึกว้าวุ่นอย่างน่าประหลาด ยังนึกอยู่ว่าเขาใช้กำยานหอมพิเศษอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้เมื่อทั้งสองสลับร่างคืน ว่ากันตามเหตุผลแล้วกลิ่นหอมนี้ก็ไม่ควรจะติดตัวเขาไปด้วยสิ แม้แต่กลิ่นหอมก็หายไปด้วยได้ยังไงกันนะ?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version