บทที่ 863 เตะถูกแผ่นเหล็ก
แต่ถ้าหากได้ที่โหล่ในการแข่งขัน หรือขึ้นมาไม่ได้เลย เช่นนั้นเธอคงขายหน้ามหาศาล!
“ใช่แล้ว การทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบวิชาเหินหาวของพวกเจ้า มิใช่อย่างอื่น ดังนั้นไม่อนุญาตให้ใช้เคล็ดวิชาอย่างอื่น! ผู้ฝ่าฝืนจะได้รับบทลงโทษจากข้า!” ตี้ฝูอีที่อยู่ตรงนั้นเสริมขึ้นมาอีกประโยคหนึ่ง
ทุกคนตอบรับอย่างพร้อมพรียงอีกครั้ง
ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้สายตาดั่งคบเพลิง ไม่มีใครกล้าเล่นแง่ต่อหน้าเขา ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วจึงเตะถูกแผ่นเหล็กที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เข้าสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์มา
ตอนที่ใช้วิชาเหินหาวเหาะลงไปเธอไม่ช้ากว่าคนอื่นเท่าไหร่ อย่างไรเสียการลงไปก็ทำได้ง่ายๆ อย่างมาก ท่าทางการโคจรวิชาเหินหาวกลางอากาศยามที่เธอกระโดดลงไปก็ดูน่าเกลียดไปหน่อยเท่านั้น ยังไม่ได้เผยอะไรออกมา แต่ตอนที่ต้องขึ้น เธอประสบความยุ่งยากมหันต์!
เหล่าศิษย์ต่อให้ทฤษฎีขั้นพื้นฐานยอดเยี่ยมสักแค่ไหน แต่วิชาที่สูงส่งซับซ้อนเหล่านี้ก็ยากมากที่จะนำมาปฏิบัติได้ทันที
ตอนเพื่อนร่วมชั้นแทบทุกคนเริ่มโคจรวิชาเหินหาวล้วนเหาะเป๋ไปเป๋มาทั้งสิ้น ราวกับว่าวสายป่านขาด ลอยโซเซอยู่ในอากาศ แต่พอค่อยๆ ไป ในการล้มเหลวแต่ละครั้ง ทุกคนก็เริ่มจับเคล็ดของวิชานี้ได้ ทยอยเหาะขึ้นไปคนแล้วคนเล่า…
เพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ข้างกายลดน้อยลงเรื่อยๆ กู้ซีจิ่วกลับยังคงเหาะได้สูงเท่าเดิม ความรู้พื้นฐานของเธอไม่แน่น ประกอบกับพลังวิญญาณตํ่าต้อย เหาะได้สูงสุดสิบกว่าจั้งก็ร่วงลงมา
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม เพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ข้างกายหายไปหมดแล้ว แม้แต่คนที่เคยเป็นที่โหล่ของชั้นเรียนนี้ก็เหาะขึ้นไปหมดแล้ว ใต้หน้าผาอันกว้างใหญ่เหลือเพียงตัวเธอเท่านั้น…
บนหน้าผา ศิษย์ทั้งหมดล้วนได้รับผลไม้ที่ตนควรได้รับแล้ว
เชียนหลิงอวี่เหาะขึ้นมาเป็นคนแรก ดังนั้นเขาจึงหยิบผลไม้ลูกที่ใหญ่ที่สุด เขาไม่ได้กินมัน แต่เก็บไว้ในถุงเก็บของ หลังจากเขาขึ้นมาได้ก็มองลงไปด้านล่างอย่างร้อนรนอยู่ตลอด มองเห็นเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ข้างล่างเหาะขึ้นมาคนแล้วคนเล่า มองเห็นกู้ซีจิ่วร่วงลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า…
ยามที่เห็นว่าใต้หน้าผาเหลือเพียงกู้ซีจิ่วคนเดียว ตัวเขารู้สึกแย่มาก!
เขาเข้าใจนิสัยชอบเอาชนะของกู้ซีจิ่วดี ไม่ว่ากระทำเรื่องใดล้วนต้องทำให้ดีที่สุด ถึงแม้พลังวิญญาณของนางจะต่ำ แต่นางก็อาศัยการพลิกสถานการณ์ต่อสู้จนชิงชัยได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ต่อให้เป็นชั้นเมฆาม่วงห้องหนึ่งมียอดฝีมือมากมายดั่งเมฆา นางก็ยังได้รับความนับถือจากเหล่าศิษย์มากมาย ถึงขั้นว่ามีศิษย์ไม่น้อยที่เคารพยกย่องนาง
เคารพที่นางสร้างโอกาสพลิกผันได้มากมายในการต่อสู้
เคารพที่นางสามารถใช้อ่อนสยบแข็งสร้างปาฏิหาริย์ได้
แม้กระทั่งบรรดาอาจารย์ชั้นเรียนอื่นก็ล้วนชมชอบนาง เนื่องจากนางเป็นศิษย์ที่เล่าเรียนอย่างเอาจริงเอาจัง มานะบากบั่นที่สุด นางทราบอยู่เสมอว่าตัวเองต้องการอะไร ถึงแม้พลังวิญญาณของนางจะตํ่าต้อยที่สุด แต่ความสำเร็จในการเรียนรู้ของนางกลับเพียงพอให้มองหยามทุกคนในชั้นเรียนนี้ได้!
นางที่ชอบเอาชนะถึงเพียงนั้น จะยินยอมล้าหลังได้อย่างไร?
แต่ยามนี้นางรั้งท้ายแล้ว ซํ้ายังอยู่ภายใต้สายตาจดจ้องของฝูงชนอีก!
เรื่องนี้จะกระเทือนนางอย่างมหาศาลปานใดกัน?
เชียนหลิงอวี่แทบไม่กล้าคิด!
เขาอดไม่ได้จึงส่งกระแสเสียงไปหานาง ‘ซีจิ่ว ใช้วิชาเคลื่อนย้ายของเจ้าผสานกับวิชาตัวเบาเหาะขึ้นมาสิ! ไม่น่าจะมีผู้ใดมองออกหรอก เจ้าขึ้นมาก่อนเถอะ!’
หลานไว่หูวนเวียนอยู่ที่ริมหน้าผาอย่างร้อนรน เมื่อเห็นกู้ซีจิ่วตกเป็นที่โหล่ ก็รู้สึกทุกข์ยิ่งกว่าตอนตนตกเป็นที่โหล่เสียอีก!
นางอดไม่ได้ที่จะลอบมองตี้ฝูอี ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้นั่งอยู่ตรงนั้น บนหน้าสวมหน้ากากเงินไว้ ทำให้คนไม่มีทางมองเห็นสีหน้าของเขา เขาแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นปานขุนเขา เบื้องหน้าเขามีชาที่ชงไว้แต่แรกแล้ว ตอนที่การแข่งขันเพิ่งเริ่ม เขาดื่มชาอย่างสำราญบานใจ แต่ยามนี้เขากลับไม่ดื่มชานั้นมาสักพักแล้ว