บทที่ 882 เจ้าก็ชอบข้า!
กู้ซีจิ่วไม่นึกเลยว่าเขาที่สูงส่งอยู่เหนือปวงชนมาโดยตลอดจะเอ่ยขอโทษตนได้ จึงอํ้าอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง
ตี้ฝูอีหลุบตามองนกในมือที่กิน ไปไม่เท่าไหร่ ถอนหายใจเบาๆ “ซีจิ่ว ข้าไม่มีประสบการณ์”
กู้ซีจิ่วใจเต้นแรงนิดๆ “อะไรนะ?”
ตี้ฝูอีรำพึงรำพัน “เป็นครั้งแรกที่ข้าชมชอบคนผู้หนึ่งอย่างจริงจัง แต่เจ้าผลักไสอยู่เสมอ ข้าไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับเจ้าดี มู่เฟิงหาบทละครรัก ประโลมโลกมากมายมาให้ข้าอ่าน ข้าอ่านไปมากมายยิ่งนัก และละครรักประโลมโลกเหล่านั้นล้วนเป็นรักแรกพบทั้งสิ้น ตกหลุมรักและประคับ ประคองกันเข้าห้องหออย่างรวดเร็ว ต่อให้มีอุปสรรคจากภายนอกเข้ามากีดขวางบ้าง แต่ก็ไม่สั่นคลอนจิตใจของคนทั้งสอง ละครเหล่านี้ต่างจากสถานการณ์ของข้ากับเจ้า ข้าไม่มีแหล่งให้เรียนรู้ ข้าเคว้งคว้างยิ่ง…”
ขนตาของเขาหรุบหรู่ มองหงส์ครามย่างในมือ เงาร่างนั้นดูเหงาหงอยอยู่บ้าง ถึงขั้นค่อนข้างเปราะบางด้วยซ้ำ “ข้าไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรถึงจะทำให้เจ้าไม่หมางเมินข้าอีก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเจ้าชอบข้าแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่อาจปล่อยวางและไม่คิดจะปล่อย แต่ข้าไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะทำให้เจ้ายอมฟังหัวใจของเจ้าจริงๆ มองเห็นเจ้ากับหลงซือเย่พูดคุยกัน หัวเราะด้วยกัน แต่พอเจอข้าก็หมางเมินเย็นชา ในใจข้าทุกข์ทรมานนัก ข้าอยากเข้าใกล้ เจ้าก็เว้นระยะห่างกับข้า อยากแยกเจ้ากับหลงซือเย่ก็ไม่อาจบังคับดึงดันได้…”
กู้ซีจิ่วอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขัดเขา “ไม่ได้เห็นกันชัดๆ เสียหน่อยว่าข้าชอบท่าน…”
เธอไหนเลยจะแสดงออกชัดเจนปานนั้น มิเช่นนั้นจะแม้แต่ตัวเองก็ไม่ทราบได้อย่างไร?
ตี้ฝูอีมองเธอ กล่าวอย่างจริงจัง “เจ้าก็ชอบข้า! ข้ารู้!”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก
เขาช่าง…จริงๆ
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าตนหาถ้อยคำที่เหมาะสมจะใช้บรรยายเขาไม่ได้ เธอไม่คิดจะถกเถียงปัญหาข้อนี้กับเขา เธอรู้สึกว่าวิธีตามตื้อขอความรักของเขาเป็นตรรกะโจรโดยแท้ หากเธอกับหลงซือเย่รักกันด้วยใจจริง เขาทำเช่นนี้มีแต่จะเพิ่มปัญหาให้เธอ…
“ตี้ฝูอี ท่านไม่เคยคิดบ้างหรือว่าข้ากับหลงซือเย่รักกันด้วยใจจริง? ข้า…”
“ซีจิ่ว เจ้าไม่ได้รักเขา ข้าเคยพูดไปนานแล้ว ความรู้สึกที่เจ้ามีต่อเขาไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความยึดติดอย่างหนึ่ง…” ตี้ฝูอีกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
กู้ซีจิ่วเงียบงัน เธอรู้สึกว่าเธอกำลังถูกตี้ฝูอีล้างสมองอยู่!
ถูกเขาพูดเช่นนี้ใส่บ่อยเข้า เธอจึงรู้สึกเช่นกันว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อหลงซือเย่ไม่ใช่ความรัก แถมยังไม่แน่ว่าจะเป็นความยึดติด คล้ายจะเป็นการเลือกสรรหาสามีที่มีสติปัญญามากกว่า…
ช้าก่อน ดูเหมือนจะผิดประเด็นแล้ว!
เธอถามต่อ “จากนั้นล่ะ? จากนั้นท่านบังเกิดความคิดพวกนี้ขึ้นมาหรือ?”
ตี้ฝูอีถอนหายใจเบาๆ “เป็นมู่อวิ๋น เขาเคยเป็นชายหนุ่มผู้โชกโชนในสนามรัก ในสนามรักเขาไม่เคยพ่าย ดังนั้นข้าจึงได้แต่ทำหน้าหนาไปถามเขา…”
เขาเล่าทัศนคติเหล่านั้นของมู่อวิ๋นออกมารอบหนึ่ง
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย ในใจเธอปรารถนาจะเอ่ยทักทายบรรพบุรุษของมู่อวิ๋นนัก!
สายตาเธอร่อนลงบนร่างตี้ฝูอี แววตาค่อนข้างเฉียบคม “ท่านฟังคำเขาจึงเย็นชาต่อข้ายิ่งนัก…”
จากนั้นก็สูดหายใจนิดๆ แล้วพูดต่อ “การที่ท่านกับเล่อจื่อซิ่งร่วมมือกันเล่นละครถึงแม้ข้าจะรู้สึกว่าไม่เป็นไร แต่ตัวท่านปากก็บอกว่าชอบข้า ทว่ากลับจงใจทำให้ข้าขายหน้าต่อหน้าสาธารณะชนถึงเพียงนั้น ท่านทราบอยู่ชัดเจนว่าพลังวิญญาณของข้าไม่เข้าขั้น สำหรับตัวข้าในยามนี้ภาคปฏิบัติของวิชาเหินหาวเดิมทีก็เป็นจุดอ่อนอยู่แล้ว…ตี้ฝูอี หากว่าท่านชมชอบคนผู้หนึ่งจริงๆ ควรจะปรารถนาดีต่อนาง เห็นนางมีเกียรติจะยินดียิ่งกว่าตนมีเกียรติ มิใช่คิดหาวิธีให้นางขายหน้าต่อหน้าสาธารณะชน ทำให้นางกลายเป็นที่น่าขบขันของทั้งชั้นเรียน…”