บทที่ 91
ที่แท้ก็เป็นประเภทที่เจริญเติบโตได้
ช่องมิติ?
แววตาของกู้ซีจิ่วเปล่งประกายเล็กน้อย
ชาติก่อนเธอเคยอ่านนิยายแฟนตาซีมาไม่น้อย ตัวเอกในเรื่องมักจะเข้าไปในช่องมิติ ในช่องมิติก็จะปลูกสมุนไพรบ้าง เลี้ยงสัตว์วิเศษบ้าง ทั้งยังมีพลังวิญญาณ พรั่งพร้อมสมบูรณ์ไว้ใช้ฝึกยุทธ์ ถึงขั้นสามารชำระไขกระดูกหลอมร่างอยู่ในนั้นได้ ทำให้วรยุทธ์ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน กลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน…
มีช่องมิติก็เหมือนมีนิ้วทองคำ[1] นิ้วทองคำย่อมมีประโยชน์กว่าขาใหญ่ๆ[2] อยู่แล้ว กล่าวได้ว่าแค่มีช่องมิติก็เท่ากับมีทุกอย่าง!
ในที่สุดยามนี้เธอก็ได้รับการดูแลจากเทพเจ้า ก็เลยให้ช่องมิติมาสินะ?
เธอจ้องมันด้วยสายตาที่ลุกวาว ‘มาๆ บอกข้าหน่อยว่า ช่องมิติของเจ้าอยู่ที่ไหน? เปิดยังไง? จะเข้าไปได้อย่างไร?’
หยกนภาถูกสายตาของเธอจ้องมองจนขนลุกชัน เอ่ยออกมาอย่างอึกๆ อักๆ ‘จะ…เจ้าขะ…เข้าไปไม่ได้อย่างมากก็แค่ใส่ของเข้าไปได้’
ช่องมิติเก็บของหรือ?
แบบนั้นก็ได้!
ภายใต้การรบเร้าของกู้ซีจิ่ว ในที่สุดหยกนภาก็ยอมเปิดช่องมิติของมันออกมาด้วยท่าทีเหนียมอาย…เป็นช่องว่างขนาดเท่าลิ้นชักอันหนึ่ง
ทำไมเล็กขนาดนี้?! หรือว่าถึงจะดูเล็กแต่ความจริง แล้วสามารถใส่ของได้ไม่จำกัด?
กู้ซีจิ่วไม่พูดพรํ่าทำเพลงอะไรก็คว้าเอาหนูจิตวิญญาณเหมันต์ที่อ้วนพีตัวหนึ่งออกมาจากซอกมุมหนึ่ง คิดจะยัดเข้าไปข้างใน
หยกนภารีบร้องบอก ‘ใส่สิ่งมีชีวิตไม่ได้!’
ที่แท้มีข้อแม้เยอะถึงขนาดนี้!
กู้ซีจิ่วรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังรู้สึกยินดีอยู่บ้าง ใส่ของไม่มีชีวิตได้ก็ยังดี ต่อไปเม็ดยา เตาหลอมยา รวมถึงสิ่งของต่างๆ นานา ของเธอก็มีที่เก็บแล้ว ถ้าหากใส่เข้าไปได้ทั้งหมด เช่นนั้นคราวหน้าเวลาออกไปไหนแค่พกกำไลเส้นนี้ไปก็พอแล้ว…
อันที่จริงแล้วเธอหวังไว้มากไป แค่กู้ซีจิ่วเอาหน้ากากและรองเท้าคู่หนึ่งใส่เข้าไป ด้านในก็แน่นเอี๊ยดแล้ว!
หยกนภาไม่พอใจยิ่งนัก ‘ใหญ่ไป! ใหญ่ไป! ข้าไม่มีทางปิดช่องมิติได้หรอก… หญิงสาว อย่าใส่ขยะพวกนี้เข้ามา ถ้าจะใส่ก็ใส่ของลํ้าค่า หรือของชิ้นเล็กๆ เถอะ อย่างเช่น ขวดยาอะไรทำนองนั้น’
กู้ซีจิ่วมองมันด้วยสายตาน่ากลัว ‘ช่องมิติของเจ้าทำไมถึงเล็กขนาดนี้?!’
หยกนภาใจฝ่อ ‘สำหรับกำไลเส้นหนึ่งแล้ว ช่องมิตินี้ไม่เล็กนะ’
‘เช่นนั้นเจ้าก็มีประโยชน์ไม่เท่ากระเป๋าหนังใบหนึ่งด้วยซํ้า’ กู้ซีจิ่วเหยียดหยาม
‘ช่องมิติของข้าสามารถขยายได้! รอให้ข้าดูดซับพลังงานได้มากพอก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ…’
ที่แท้ก็เป็นประเภทที่เจริญเติบโตได้ กู้ซีจิ่วมุ่นหัวคิ้ว รู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าเจ้าหยกนภาชิ้นนี้ค่อนข้างจะห่วยแตก ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะมีโอกาสได้เปิดใช้ สูตรโกง ผลคือสูตรโกงนี้ดันไร้ประโยชน์ยิ่ง!
เหมือนเธอจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ‘เจ้าบอกว่าเจ้ารู้ทุกเรื่องใช่หรือไม่?’
‘ไม่ผิด!’ หยกนภายืดอกรับ
‘คนที่อยู่ในบ่อนํ้าพุร้อนคนนั้นเป็นใคร?’
‘เขา…นางไม่ใช่องค์หญิงหรอกเหรอ?’
นัยน์ตาของกู้ซีจิ่วฉายแสงแวบหนึ่ง ‘นางไม่คล้ายจะเป็นองค์หญิงอะไรนั้น’
เธอรู้สึกว่าคนผู้นั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน กลิ่นอายที่อยู่บนกายนั้นเหมือนไม่ใช่กลิ่นอายที่องค์หญิงคนหนึ่งจะมีได้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะเชื่อฟังคำสั่งยิ่งนัก น่าเอ็นดูราวกับลูกแมวตัวหนึ่ง แต่กู้ซีจิ่วรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายคือราชสีห์ต่างหาก…
ยิ่งกว่านั้นคือ เธอรู้สึกว่าใบหน้าของโฉมงามผู้นี้ดูคุ้นตาเล็กน้อย
‘คนผู้นั้น…จริงๆ แล้วค่อนข้างประหลาดนิดหน่อย…’ หยกนภาเอ่ยประโยคพินิจพิเคราะห์ออกมา ‘ข้าเองก็หยั่งเชิงไม่ได้’
‘หมายความว่าอย่างไร?’
‘ข้าต้องเข้าใกล้ตัวคนก่อนถึงจะสามารถหยั่งพลังวิญญาณของเขาได้ ยกตัวอย่างเช่นรัชทายาทหรงเจียหลัวตอนนี้มีพลังวิญญาณขั้นหก องค์ชายหรงเช่อขั้นที่ห้า องค์ชายหรงฉู่ก็ใกล้บรรลุขั้นห้าแล้ว องค์ชายหรงเหยียนก็ใกล้จะขั้นสี่…’
มันร่ายระดับพลังวิญญาณของทุกคนที่มันสัมผัสได้ออกมาในคราวเดียว ไม่ตกหล่นเลยสักนิด
สุดท้ายยังกล่าวอีกว่า ‘แต่คนผู้นี้…ข้าหยั่งไม่ได้ เหมือนจะไม่มีพลังวิญญาณ หรือไม่ก็ลึกลํ้าจนไม่สามารถหยั่งได้…