Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 929

บทที่ 929 หิมะซา นภาใส จันทร์ลอยเด่น

จิ้งจอกน้อยต้องการสหายร่วมกลุ่มที่สอดประสานกับนางได้เป็นอย่างยิ่ง และอิงเหยียนนั่วผู้นี้สำหรับนางแล้วถือเป็นสายฝนที่ตกลงมาทันท่วงที หลังจากเข้าร่วมกลุ่มของตนประสานงานกันเพียงเล็กน้อย ก็สามารถก้าวตามพวกกู้ซีจิ่วทั้งสองทัน เมื่อทั้งสามคนสอดประสานกัน แทบจะไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เลย สามารถต่อยตีจนกลุ่มอื่นหวาดหวั่นพรั่นพรึงได้…

กู้ซีจิ่วยินดีนัก ในที่สุดก็ไม่ต้องมองจิ้งจอกน้อยเป็นทุกข์เซื่องซึมอีกต่อไปแล้ว

….

หิมะเพิ่งตกอย่างหนัก

หิมะซา นภาใส จันทร์ลอยเด่น

กู้ซีจิ่วผลักเบาๆ ให้ประตูบานใหญ่เปิดออก แล้วก้าวเท้าเข้าไปเรือน

ที่นี่คือสถานที่ที่ตี้ฝูอีเคยพักอาศัย หลังเขาจากไปที่นี่ก็ถูกปิดไว้ นอกจากกู้ซีจิ่วแล้วไม่มีบุคคลอื่นได้เข้ามา

ตี้ฝูอีนิสัยประหลาด สถานที่ของเขาไม่อนุญาตให้ผู้อื่นเข้าออกตามอำเภอใจ ดังนั้นหลังจากเขาจากไป กู่ฉานโม่จึงไม่ได้ส่งศิษย์มาปัดกวาดตาม กิจวัตรประจำวัน กลับเป็นกู้ซีจิ่วที่ส่วนใหญ่จะมาเดินเอ้อระเหยอยู่ที่นี่ทุกสองสามวัน มาปัดกวาดเช็ดถูที่นี่ เก็บกวาดบ้านเรือน

สถานที่แห่งนี้เธอเคยใช้ร่างของตี้ฝูอีพักอยู่กว่าครึ่งเดือน และเป็นที่พักพิงทางความรู้สึกด้วย โดยเฉพาะเมื่อตี้ฝูอีจากไป เธอจะมาที่นี่ทุกครั้งที่คิดถึงเขา…

คืนนี้เธอนอนไม่ค่อยหลับอีกแล้ว จึงตรงมาที่นี่

จันทร์นวลกระจ่างดั่งแผ่นจานแขวนลอยอยู่ตรงนั้น เป็นคืนจันทร์เพ็ญอีกคืนหนึ่ง แต่ที่นี่ยังคงว่างเปล่าเช่นที่ผ่านมา

กู้ซีจิ่วนั่งอยู่บนคาคบไม้ใหญ่ต้นหนึ่งในลานเรือน มองกำไลบนข้อมือ จากนั้นก็มองจันทร์บนฟากฟ้า “ตี้ฝูอี เจ้าบอกว่าเจ้าขอเวลาหนึ่งปี อีกหนึ่งปีให้หลังจะมาพบข้า แต่ตอนนี้ผ่านมาหนึ่งปีห้าเดือนแล้ว เจ้ายังคงไร้ซึ่งข่าวคราว เจ้าผิดนัดแล้ว!”

ไม่มีใครเอ่ยตอบเธอ กำไลสีทองบนข้อมือวงนั้นส่องประกายล้อแสง ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เช่นกัน

เธอหัวเราะเบาๆ หยิบนํ้าเต้าสุราขึ้นดื่มอึกหนึ่ง สุราที่ดื่มอยู่ในปากนั้นค่อนข้างขมเฝื่อนนิดๆ

หนึ่งปีกว่านี้เธอยุ่งยิ่งนัก ยุ่งกับการฝึกฝน ยุ่งกับการเล่าเรียน ยุ่งกับการฝึกฝนวิชาหลอมโอสถ ยุ่งกับการประดิษฐ์คิดค้น วุ่นวายหัวหมุนเหมือนลูกข่างทุกวัน

เธอเคยชินกับการเก็บความรู้สึกไว้ ดังนั้นคนนอกจึงมองไม่ออกว่าเธอมีอะไรในใจ และสิ่งที่ควรทำเธอก็ยังทำไปตามปกติ ทำตัวสดชื่น กระฉับกระเฉงทุกวัน ไม่มีใครรู้ว่าในใจเธอมีความคิดที่หนักหนาขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ เอ่อล้นกัดเซาะ…

มีเพียงยามราตรีที่ผู้คนหลับใหล เธอถึงอนุญาตให้ตัวเองปลดปล่อยออกมาเล็กน้อย มาคิดถึงเขาอยู่ที่นี่ เธอนั่งกอดเข่าครุ่นคิด ที่แท้รสชาติของความคิดถึงเป็นเช่นนี้นี่เอง เสมือนมีบางอย่างกัดแทะหัวใจ ฟุ้งซ่านเล็กน้อย ในสมองก็เต็มไปด้วยเขา…

กู้ซีจิ่วเคาะกำไลบนข้อมือ “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ที่แท้เจ้าไปมุดอยู่ซอกหลืบรูไหนกัน? ดีชั่วอย่างไรก็ส่งข่าวมาบอกข้าบ้างสิว่ายังปลอดภัยดี! เจ้าเคยบอกว่ารอจนถึงตอนที่ข้าอายุสิบแปดจะมาสู่ขอข้า เจ้าคงไม่รอจนข้าอายุสิบแปดถึงค่อยมาพบข้ากระมัง?!”

กำไลย่อมไม่สามารถเอ่ยตอบเธอได้ เธอถอนหายใจเบาๆ อีกครั้ง ดื่มสุราเข้าไปอีกอึก

เป็นเพราเขาผิดนัด ครึ่งปีมานี้เธอจึงใช้สารพัดวิธีสืบถามข่าวคราวของเขา จนปัญญาที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้เป็นเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหางเหลือเกิน ไม่มีผู้ใดทราบร่องรอยของเขาเลย แม้แต่สี่ผู้คุ้มกันของเขาก็เหมือนจะหายตัวไปด้วย สาบสูญไร้ร่องรอย

อย่าว่าแต่หนึ่งปีครึ่งเลย สถิติที่ยาวนานที่สุดของเขาคือหายตัวไปห้าปี! ยามนั้นทุกคนล้วนนึกว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ประสบเคราะห์กรรมบางอย่างที่ไม่อาจเดาได้ไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าต่อมาให้หลังเขาจะปรากฏตัวขึ้นอย่างลอยชาย…

ดังนั้นการหายตัวไปครั้งนี้ของเขา ไม่มีผู้ใดเก็บมาใส่ใจเลย บนโลกนี้คงมีเพียงกู้ซีจิ่วที่ร้อนรนกับการหายไปครั้งนี้ของเขา…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version