Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 953

บทที่ 953 ควานหาตัวผู้บงการอยู่หลังม่าน

“เยี่ยนเฉิน เจ้าจำกัดขอบเขตการสู้ให้เล็กลงหน่อย รักษากำลังไว้ก่อน ข้าจะไปค้นหารอบๆ!” กู้ซีจิ่วสั่งการ

สีหน้าเยี่ยนเฉินแปรเปลี่ยนนิดๆ “ไม่ได้! เจ้าไปคนเดียวอันตรายเกินไป!”

“ไม่เป็นไร ข้ามีวิชาเคลื่อนย้าย พวกมันทำร้ายข้าไม่ได้หรอก” ร่างกายกู้ซีจิ่วส่องแสงวูบ หายลับไปทันที

“ข้าจะไปกับนาง!” หลังจากอิงเหยียนนั่วทิ้งประโยคนี้ไว้ก็เลือนหายไปทันที

เยี่ยนเฉินพูดอะไรไม่ออกแล้ว

อิงเหยียนนั่วผู้นี้ก็หายตัวไปว่องไวยิ่งนัก!

หรือว่าเขาก็เป็นวิชาเคลื่อนย้ายด้วย?

เป็นไปไม่ได้กระมัง?

เขาจำได้ว่าเคยได้ยินกู้ซีจิ่วบอกไว้ วิชาเคลื่อนย้ายของนางเป็นความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง มิใช่วิชาที่สามารถฝึกฝนกันได้ เว้นแต่เขาจะฝึกฝนวิชาเหินหาวถึงขั้นแปดแล้ว แต่วิชาประเภทนี้ผู้ที่มีพลังวิญญาณขั้นเก้าเท่านั้นถึงจะบรรลุได้มิใช่หรือ?

และพลังวิญญาณของอิงเหยียนนั่วในยามนี้เพิ่งฝึกฝนถึงขั้นหกสองส่วนเท่านั้น…

ที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ เยี่ยนเฉินได้รับการยอมรับว่าเป็นยอดอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เป็นคนพิเศษในหมู่คนพิเศษมาโดยตลอด หลังจากกู้ซีจิ่วมาถึง ก็ชิงเอาคำว่าคนพิเศษสามคำนี้ไป ตอนนี้มีอิงเหยียนนั่วโผล่มาอีกคน มงกุฎของยอดอัจฉริยะก็ดูเหมือนจะถูกยื้อแย่งไปด้วย…

เขารู้สึกมาเสมอว่าอิงเหยียนนั่วศิษย์น้องเล็กผู้นี้ค่อนข้างประหลาด บัดนี้ความรู้สึกนี้ยิ่งหนักขึ้นกว่าเก่า อิงเหยีนนั่วผู้นี้คงมิใช่คนชั่วที่แฝงตัวอยู่ในที่มืดอันใดนั้นปลอมตัวมากระมัง?!

หน้าผากของเยี่ยนเฉินมีหยาดเหงื่อผุดพรายออกมาทันที ตัดสินใจว่าถ้ากู้ซีจิ่วกลับมาจะเตือนให้นางระวังตัวสักหน่อย…

ในเมื่อผีดิบเหล่านี้สังหารเท่าไหร่ก็ไม่สิ้น เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองพลังงานทุ่มเทต่อสู้ถึงเพียงนั้น

เยี่ยนเฉินตะโกนบอกทุกคนอย่างรวดเร็วว่าจำกัดขอบเขตให้เล็กลง ให้ทุกคนรักษากำลังไว้ ไม่ต้องเป็นฝ่ายบุกโจมตีอีก

จางฉูฉู่ติดใจการสังหารแล้ว ถึงแม้จะถอยกลับมา สีหน้านางก็ยังคงดุดันอยู่ “มารดามันเถอะ! สรุปแล้วเจ้าพวกนี้โผล่มาจากไหนกันแน่? ทำไมมากมายถึงเพียงนี้”

เยี่ยนเฉินตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พวกเขาก็คือทหารที่เสียชีวิตแล้วหายตัวไปเหล่านั้น!”

จางฉูฉู่ตะลึง

เล่อชิงซิ่งเอ่ยขึ้นว่า “คนที่คอยควบคุมพวกมันอยู่เบื้องหลัง ไม่ธรรมดาเลย! หากว่าเจ้าพวกนี้ถูกปล่อยออกไปยังโลกภายนอก เกรงว่าทหารทั่วไปคงต้านรับไม่ไหว จะมีคนที่ถูกกัดเพิ่มมากขึ้น…”

เยี่ยนเฉินสูดหายใจเบาๆ “ด้านนอกมีทหารธรรมดาที่ถูกกัดแล้ว ทหารม้ากองหนึ่งของอาณาจักรเฟยซิงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พวกข้าสามคนได้ตรวจสอบเรื่องนี้ เมื่อติดตามร่องรอยไปพบว่ามีประชาชนของเมืองชายแดนแห่งหนึ่งถูกกัดเข้า ที่ตายก็ตาย ที่เจ็บก็เจ็บ พวกเราคิดจะดูอาการผู้บาดเจ็บเหล่านั้น ก็พบตัวคนน่าสงสัยคนหนึ่งอยู่ไม่ไกล จึงรีบไล่ตาม ตามมาจนถึงที่นี่…”

พายุหิมะพัดโหม หัวใจของทุกคนก็หนาวเหน็บไปหมดเช่นกัน หากถูกเจ้าสิ่งนี้กัดก็จะกลายเป็นแบบเดียวกับเจ้าสิ่งนี้ เช่นนั้นมิใช่หายนะของแผ่นดินนี้หรอกหรือ?

….

ณ ส่วนลึกของเมืองร้างแห่งนี้ มีบ้านพักที่ดูธรรมดายิ่งนักหลังหนึ่ง บ้านดินกำแพงดิน เครื่องเรือนภายในบ้านเสื่อมโทรม

ลึกลงไปใต้พื้นของบ้านดินหลังนี้ กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ที่ใต้พื้นมีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของตัวเมืองอยู่ใต้ดิน

กำแพงศิลาหนาหนัก เฉลียงทางเดินเทียบกับสุสานของจักรพรรดิได้เลย ที่ส่วนลึกของเฉลียงทางเดิน มีประตูศิลาบานหนึ่ง ประตูศิลาจะเปิดออกบ้างเป็นครั้งคราว ทุกครั้งที่เปิดออกล้วนมีผีดิบชุดขาวสิบกว่าตัวพุ่งออกมา มุดออกไปผ่านช่องทางแห่งหนึ่ง…

ที่ส่วนลึกของเฉลียงทางเดิน มีพระราชวังใต้ดินแห่งหนึ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าปราการเหล็กกล้าเสียอีก การตกแต่งภายในพระราชวังใต้ดินค่อนข้างประหลาด บนผนังสี่ด้านฝังกระจกฉาบปรอทไว้ ภาพที่สะท้อนออกมาจากกระจกมิใช่การจัดแต่งภายในวัง แต่เป็นฉากสถานการณ์ภายนอก บ้านเรือนทุกหลัง ถนนทุกสาย ลานกว้างทุกแห่งล้วนปรากฏออกมาภายในกระจกฉาบปรอทเหล่านั้น ไม่มีจุดอับสายตาเลยสักแห่ง และภายในวังจัดวางอุปกรณ์หน้าตาประหลาดส่วนหนึ่งไว้เสมือนห้องทดลองขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version