บทที่ 965 ฉากนี้ช่างอุจาดตาโดยแท้!
ห้องโดยสารของรถม้าคันที่พวกกู้ซีจิ่วนั่งอยู่นี้กว้างขวางมาก แต่ยามนี้การยัดคนแปดคนเข้ามาในคราวเดียวก็ค่อนข้างแออัดอยู่บ้าง ร่างกายของทุกคนแทบจะแนบชิดเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว นี่ล้วนเป็นสิ่งที่พอรับได้ แต่สิ่งที่ทำให้คนใจหายใจคว่ำที่สุดคือ ยามนี้เห็นได้ชัดว่ารถคันนี้บรรทุกเกินนํ้าหนักการลากกินแรงสิงโตตัวนั้นยิ่งนัก มันลากรถส่ายไปส่ายมาอยู่ในอากาศ ราวกับพร้อมจะเกิดอุบัติเหตุพลิกควํ่าได้ทุกเมื่อ
เห็นได้ชัดว่าพวกเยี่ยนเฉินก็นึกไม่ถึงว่าผีดิบที่ทะลักออกมา ด้านล่างจะมากมายถึงเพียงนี้ ทุกคนล้วนตกตะลึง บัดนี้เมื่อเห็นว่าคลื่นผีดิบด้านล่างเริ่มกระจายตัวออกไปรอบๆ ก็หน้าซีดเผือดจนปัญญาจะต่อกร
ผีดิบที่ด้านล่างมากมายสุดลูกหูลูกตา ไม่อาจควบคุมได้แล้ว เนื่องจากสูญเสียเป้าหมายที่ต้องการฉีกทึ้งไป พวกมันจึงเริ่มกระจายออกไปรอบๆ…
ทุกคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี ผีดิบเหล่านี้มีนิสัยดุร้ายทุกตัว แถมยังมีวรยุทธ์สูง หากปล่อยให้หลุดเข้าไปในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน จะกลายเป็นหายนะทันที!
และแหล่งชุมชนที่อยู่ใกล้ที่นี่ที่สุดอยู่ห่างออกไปประมาณห้าหกสิบลี้ ด้วยความเร็วของผีดิบเหล่านี้คิดจะเดินทางไปยังที่แห่งนั้นก็ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามด้วยซ้ำ!
ทำยังไงดี?
ทำยังไงดี?!
ทำยังไงดี?!
ในดวงตาของทุกคนแทบจะเขียนอักษรตัวใหญ่สี่คำนี้ไว้
ถึงแม้ทุกคนล้วนเป็นมือดีในการสังหารผีดิบทั้งสิ้น แต่ยามนี้ผีดิบที่อยู่ด้านล่างมีมากมายเกินไป
พยัคฆ์ห้าวหาญมิอาจต้านทานฝูงหมาป่าได้!
ยิ่งไปกว่านั้นคือผีดิบเหล่านี้กระจายออกไปทั่วสารทิศ กำลังคนของพวกเขาน้อยเกินไป ต่อให้คิดจะขวางก็ขวางไม่อยู่!
สายตาของทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปยังตัวต้นเหตุที่อยู่กลางอากาศสองคนนั้น
เห็นได้ชัดว่าดรุณีที่ขี่มังกรเจียวนางนั้นก็โง่งมไปแล้วเช่นกัน
นางนึกว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านล่างจะเป็นสัตว์ร้ายขนาดใหญ่สักตัว ไม่นึกเลยว่าจะเป็นกองทัพผีดิบจำนวนมหาศาลเช่นนี้!
นางขี่มังกรเจียวสาดกระบวนท่าชุดใหญ่ใส่คลื่นผีดิบอย่างต่อเนื่อง วรยุทธ์ของนางยอดเยี่ยมยิ่งนัก สายฟ้าเส้นแล้วเส้นเล่าฟาดลงไป ทุกสายล้วน
สามารถฟาดผีดิบสักตัวให้ล้มควํ่าได้ แม้แต่มังกรเจียวที่อยู่ใต้ร่างนางก็พ่นไฟออกมาด้วยความโกรธ ลามเผาคลื่นผีดิบเป็นทรงใบพัด…
หลังจากเปลวไฟเผาผลาญแล้ว ชุดขาวบนร่างผีดิบเหล่านั้นก็มอดไหม้ไป แต่ผีดิบยังคงกระโดดโลดเต้นอยู่ ร่างของพวกมันถูกเผาจนดำ แต่ไม่บุบสลายเลยสักนิด ทันทีที่ดรุณีขี่เจียวนางนั้นก้มหน้าลง ก็เห็นผีดิบเปลือยเปล่าดำมะเมื่อมฝูงใหญ่ทั้งกระโดดทั้งกระโจนเข้าใส่นาง
ผีดิบเหล่านี้แทบจะเป็นบุรุษทั้งสิ้น น่าจะเป็นเพราะผลกระทบจากตัวยา จุดนั้นของพวกมันจึงคักคักอยู่ตลอด ด้วยเหตุนี้นางจึงเห็น ‘ปูขน’ นับไม่ถ้วน แถมยังเป็นปูขนที่ลุกผงาดอีกด้วย…
ฉากนี้ช่างอุจาดตาโดยแท้!
ดวงหน้าเฉิดฉันของดรุณีขี่เจียวนางนั้นเขียวครึ้ม ตะโกนใส่คนยักษ์เกราะทองที่เป็นข้ารับใช้ของนางอย่างขุ่นเคือง “เจ้าหยุดมือซะ!”
ข้ารับใช้ร่างยักษ์ผู้นั้้นจึงไม่กล้าลงมือสะเปะสะปะอีก
ทุกคนที่อยู่บนรถม้า ย่อมมองเห็นฉากนี้เช่นกัน เยี่ยนเฉินปิดตาจิ้งจอกน้อยไว้ทันที เลี่ยงมิให้จิตใจอันบริสุทธิ์ไร้มลทินของนางต้องแปดเปื้อน
เล่อชิงซิ่งสบถออกมาคราหนึ่งยกมือปิดตาน้องสาวเอาไว้เช่นกัน
ส่วนจางฉูฉู่ เดิมทีนางก็เป็นหญิงแกร่งห้าวหาญอยู่แล้ว ทุกคนจึงไม่สนใจนางไปชั่วขณะ นางมองตาปริบๆ อย่างสนอกสนใจนัก เอ่ยโพล่งออกมาประโยคหนึ่ง “ที่แท้ส่วนนี้ของบุรุษก็ยืดยาวเช่นนี้! ช่างน่าเกลียดเสียจริง!”
ประโยคนี้ของนางทำให้บุรุษที่เหลืออยู่ภายในรถมองมาด้วยสายตาขุ่นเคือง
ดวงตาของกู้ซีจิ่วก็ถูกคนใช้แขนเสื้อบดบังไว้ เสียงอิงเหยียนนั่วดังขึ้นริมหูเธอ “อย่ามองของแสลงตา ห้ามแอบดูนะ!”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก เธอจะอยากแอบดูไปทำไม?
ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นเสียหน่อย!
กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่อวลอยู่ในแขนเสื้อเขาทำให้จิตใจเธอว้าวุ่น เธอยกมือดึงแขนเสื้อของเขาลง จากนั้นก็พบว่าม่านรถปลดลงมาแล้ว ไม่มีทางมองเห็นด้านนอกจากในห้องโดยสารได้