Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 974

บทที่ 974 อันคำว่าเซียน 6

ส่วนพวกเยี่ยนเฉินทั้งสองก็ซ่อนอยู่ในที่ลับตา เตรียมพร้อม หากกู้ซีจิ่วตกอยู่ในอันตรายจริงๆ พวกเขาก็จะออกไปช่วยเหลือ โชคดีที่วิชาเคลื่อนย้ายของกู้ซีจิ่วลํ้าเลิศยิ่ง หลังจากเธอใช้วิชาเคลื่อนต่อเนื่องกันสิบกว่าครั้ง ก็แทบจะทำให้สัตว์ร้ายทั้งสองตาลายแล้ว

ดรุณีขี่มังกรเจียวและข้ารับใช้ของนางที่ชมการต่อสู้อยู่บนฟ้าก็มองอย่างตกตะลึง ดูเหมือนพวกเขาจะคาดไม่ถึงว่าเด็กสาวชาวมนุษย์อย่างกู้ซีจิ่วจะมีวรยุทธ์ที่พิสดารปานนี้

ดรุณีขี่มังกรเจียวขุ่นเคืองที่ตนยืนอยู่สูงเกินไป มองเห็นท่าร่างของกู้ซีจิ่วไม่ชัด ดังนั้นจึงสั่งการให้มังกรเจียวบินตํ่าลงหน่อย จากนั้นก็บินตํ่าลงไปอีก นางจะได้ชมการต่อสู้สะดวก

เดิมทีนางยืนอยู่ที่ระดับความสูงกว่าสามพันเมตร ทว่ายามนี้กลับค่อยๆ ลดระดับลง ยิ่งบินยิ่งตํ่า จนห่างจากพื้นดินเพียงหนึ่งร้อยเมตร เช่นนี้ในที่สุดนางก็มองเห็นชัดเจนแล้ว ขณะที่นางกำลังมองอย่างใจลอย ทันใดนั้นสาวน้อยที่เคลื่อนย้ายไปเคลื่อนย้ายมาอยู่บนพื้นก็เงยหน้ามองนางแล้วยกยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง รอยยิ้มนั้นเย็นชายิ่ง ทำให้นางใจหายวาบทันที!

วินาทีถัดมากู้ซีจิ่วเคลื่อนย้ายไปอยู่บนหลังมังกรเจียวของนางโดยตรง!

ดรุณีนางนั้นยังไม่ทันได้ซัดเธอลงไป สัตว์ร้ายที่อยู่ด้านล่างสองตัวนั้นก็ไล่ตามขึ้นมาอย่างดุดันเหี้ยมหาญแล้ว…

ส่วนกู้ซีจิ่วนั่นใช้วิชาเคลื่อนย้ายหายไปนานแล้ว หนนี้เธอเคลื่อนย้ายไปค่อนข้างไกล เงาร่างหายลับไปทันที

เมื่อสัตว์ร้ายสองตัวนั้นหากู้ซีจิ่วไม่เจอ ในที่สุดก็พบดรุณีขี่มังกรเจียวผู้นี้อีกครั้ง พวกมันยังคงเจ้าคิดเจ้าแค้นนัก นึกถึงตอนที่เสียเปรียบในเงื้อมมือนางก่อนหน้านี้ขึ้นมาทันที ด้วยเหตุนี้เป้าหมายโจมตีจึงย้ายไปที่ร่างนาง…

ดรุณีขี่มังกรเจียวนางนั้นโมโหจนแทบจะตะโกนด่าแล้ว แต่นางไม่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายแบบกู้ซีจิ่ว ไม่อาจหลุดพ้นจากสัตว์ร้ายสองตัวนี้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ ทำได้เพียงเปิดฉากต่อสู้อีกครั้ง ท้องนภากลายเป็นสนามรบ

เมฆาล่องลอย สายลมคำราม เสียงต่อสู้กลางนภาดังเปรี้ยงปร้างรุนแรงเสมือนมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ขาดสาย เร่าร้อนยิ่งนัก

ห่างออกไปหลายลี้ สิงโตเวหาหยุดอยู่บนเนินเขาที่ไม่สะดุดตาแห่งหนึ่ง หอบหายใจแฮ่กๆ มันเหนื่อยเหลือเกิน!

การหลบหนีเมื่อครู่แทบจะบีบให้มันเค้นเรี่ยวแรงที่สะสมไว้ตั้งแต่เกิดออกมา

เชียนหลิงอวี่และพวกหลานไว่หูก็ลงมาหมดแล้ว สีหน้าพวกเขาแต่ละคนค่อนข้างซีดเซียวเช่นกัน

เมื่อครู่โยกคลอนเกินไปหวาดเสียวยิ่งกว่านั่งรถไฟเหาะเป็นร้อยเท่า พวกเขารู้สึกว่าอวัยวะภายในถูกเขย่าจนจะหลุดออกมาแล้ว!

โดยเฉพาะเชียนหลิงอวี่ ถึงอย่างไรเขาก็บาดเจ็บอยู่ เมื่อลงจากรถจึงอาเจียนออกมาทันที

พวกเยี่ยนเฉินทั้งสองก็ตามมาแล้วเช่นกัน

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง  ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ใช้วิชาเคลื่อนย้ายปลีกตัวมา ในที่สุดคนทั้งหลายก็ได้อยู่พร้อมหน้าอีกครั้ง

ครานี้นับว่าทุกคนรอดพ้นจากความตายมาได้ จึงโล่งอกกันถ้วนหน้า พวกเขาเหนื่อยล้าจนถึงขีดสุดแล้ว ยามนี้เลยถือโอกาสนั่งพักผ่อนกินอาหาร ฟื้นฟูพละกำลัง

แน่นอนว่าพวกเขามักจะมองดูการต่อสู้บนฟากฟ้าด้านนั้นจากที่ไกลๆ กันไม่ให้ถูกนางเซียนขี่มังกรเจียวผู้นั้นลากลงนํ้าอีก

จิ้งจอกน้อยติดกู้ซีจิ่วเป็นที่สุด เมื่อเห็นเธอมาถึง ก็กระโดดมาอยู่ข้างกายเธอทันที พูดจ้อถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้เธอฟัง เมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้นางเซียนผู้นั้นใช้พวกเขาเป็นโล่กำบัง นางยังคงเดือดดาลนัก

กู้ซีจิ่วสอบถามเยี่ยนเฉิน “เจ้ารู้จักผู้คนค่อนข้างมาก ทราบหรือไม่ว่านางเป็นเทพเซียนจากที่ใด?”

เยี่ยนเฉินใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง จึงเปิดปากเอ่ย “ยามที่ข้ากำลังเดินทาง ได้ยินว่าดินแดนเบื้องบนส่งเซียนท่านหนึ่งลงมา วรยุทธ์ของเซียนท่านนี้เก่งกาจยิ่ง ชำนาญการปราบมารปีศาจ ได้รับเกียรติจากจักรพรรดิของอาณาจักรเฮ่าเยวี่ยยิ่งนัก แต่งตั้งให้นางดำรงตำแหน่งราชครูกำหราบปราบมาร แน่นอนว่านางไม่สนใจศึกระหว่างสองอาณาจักรเลย สนใจเพียงการตรวจสอบเรื่องเภทภัยชั่วร้าย ได้ยินว่านางก็ตรวจสอบเรื่องการหายตัวไปของทหารเหมือนกัน ซํ้ายังมีการติดต่อกับกลุ่มของรัชทายาทหรงเจียหลัวด้วย…ข้าได้ยินมาเพียงเท่านี้ อย่างอื่นไม่ทราบแล้ว”

หลานไว่หูกล่าวอย่างโกรธเคือง “เซียนเซินอันใด?! เซียนที่ไหนจะทำแบบนางกัน?! นางไม่เห็นชีวิตของพวกเรามีค่าเลย! พวกเราเกือบถูกนางใช้ เป็นเบี้ยรับเคราะห์แล้ว!!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version