บทที่ 975 ไม่ได้การแล้ว! เธอต้องไปดูสักหน่อย!
นัยน์ตาของเยี่ยนเฉินมีแววเยียบเย็นวาบผ่านแวบหนึ่ง ยิ้มหยันพลางกล่าวว่า “คำว่าเซียนเป็นเพียงสิ่งที่นางเรียกขานเอาเองเท่านั้น เพียงแต่นางเป็นคนที่ดินแดนเบื้องบนส่งมาจริงๆ กระทำการไร้น้ำใจนัก ไม่เห็นชาวมนุษย์อย่างเรามีค่าเลย!”
กู้ซีจิ่วเงยหน้ามองเงาคนที่ต่อสู้อยู่ไกลๆ แวบหนึ่ง กระตุกยิ้มแวบหนึ่งพลางเอ่ย “นางไม่เห็นพวกเรามีค่า พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติต่อนางเยี่ยงมนุษย์ สัตว์ร้ายสองตัวนี้เป็นนางปลดปล่อยออกมา บัดนี้ไล่กัดนางก็นับว่าสมเหตุสมผลแล้ว พวกเราก็รอชมฝีมือที่แท้จริงของนางเซียนผู้นี้อยู่ตรงนี้แล้วกัน แต่หวังว่านางจะไม่ทำให้คำขนานนามว่า ‘เซียน’ ของนางต้องเสื่อมเสียนะ พวกเราก็ชมเรื่องครื้นเครงอยู่ที่นี่เถิด”
ทุกคนนั่งล้อมวงกัน ดื่มกินพลางชมเรื่องครื้นเครงอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นดรุณีขี่มังกรเจียวนางนั้นถูกสัตว์ร้ายทั้งสองไล่ล่าจนอยู่ในสภาพจนตรอกก็รู้สึกเพียงว่าสาแก่ใจอย่างยิ่ง แทบจะปรบมือด้วยความยินดี ทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือ ย่อมมองจุดด้อยจุดแข็งออก
“วรยุทธ์ของสตรีนางนี้ไม่เลวเลยจริงๆ ข้าคิดว่าพลังวิญญาณของนางน่าจะสูงกว่าพวกเจ้าสำนักหลงเสียอีก คงบรรลุขั้นสิบในตำนานแล้ว แต่น่าจะเทียบกับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไม่ได้” เล่อชิงซิ่งวิจารณ์ตามที่เห็น
“กระบวนท่าของนางก็ไม่เหมือนชาวมนุษย์อย่างพวกเราจริงๆ ดูวรยุทธ์ของ ไอ้ยักษ์โง่ข้างกายนางสิ บรรลุพลังวิญญาณขั้นเก้าแล้วกระมัง?! กระบวนท่าที่ง้าวจันทร์เสี้ยวเล่มนั้นของเขาสำแดงออกมาล้วนสามารถฟันจระเข้ตีนเป็ดตัวนั้นให้หลั่งเลือดได้”
เชียนหลิงอวี่ก็เอ่ยขึ้นเช่นกัน “ฟันจนได้แผลแล้วอย่างไรเล่า? สัตว์ร้ายสองตัวนั้นไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน! ข้ารู้สึกว่าต่อให้พวกนางสู้ทั้งวันทั้งคืนก็ยังไม่แน่ว่าจะจัดการสัตว์ร้ายสองตัวนี้ได้!”
จางฉูฉู่ยิ้มเยาะ “หวา เรือนผมของนางคลายแล้ว ร่างกายก็ดูเหมือนจะบาดเจ็บแล้ว ดูไม่คล้ายนางเซียนแล้ว เหมือนนางเพิ้งต่างหาก”
เล่อจื่อซิ่งยินดีในคราวเคราะห์ของผู้อื่น “ซีจิ่ว สัตว์ร้ายสองตัวนี้ร้ายกาจเกินไป เกรงว่าพวกเราล้วนยับยั้งมันไว้ไม่ได้ทั้งสิ้น หากนางเซียนผู้นี้ก็ยับยั้ง พวกมันไม่ได้ เกรงว่าพวกมันจะก่อหายนะขึ้น…”
“อย่ากังวลไปเลย เดี๋ยวข้าจะลองใช้วิธีอื่นดู” กู้ซีจิ่วตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน ถึงอย่างไรร่างของสัตว์ร้ายสองตัวนี้ก็มีเลือดเนื้อ เกรงว่าจะหวั่นเกรงการโดนเผาเช่นกัน เดี๋ยวเธอค่อยล่อพวกมันไปที่หล่มนํ้ามันแห่งนั้น…
เมื่อนึกถึงหล่มนํ้ามัน สีหน้าของกู้ซีจิ่วก็แปรเปลี่ยนทันที ลุกพรวดขึ้นมา
อิงเหยียนนั่ว!
อิงเหยียนนั่วยังล่อพวกผีดิบอยู่ที่หล่มนํ้ามันแห่งนั้น!
เธอออกจากหล่มนํ้ามันแห่งนั้นเกือบครึ่งชั่วยามแล้ว อิงเหยียนนั่วน่าจะล่อผีดิบเหล่านั้นลงไปในหล่มหมดแล้วกระมัง?!
เธอเคยบอกว่าจะใช้ไฟเผาผีดิบพวกนั้นอีกครั้ง…
ไม่ได้การแล้ว!
เธอต้องไปดูสักหน่อย!
เธอบอกกล่าวแก่ทุกคนคราหนึ่ง ขณะที่กำลังจะใช้วิชาเคลื่อนย้าย ทันใดนั้นพลันมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ เสียงนั้นดังกึกก้องกัมปนาท พสุธาทั้งผืนสั่นสะเทือนเลือนลั่น!
กู้ซีจิ่วโซซัดโซเซ มองไปตามเสียง หน้าเปลี่ยนสีในทันใด!
เสียงระเบิดนั้นแว่วมาจากหล่มนํ้ามันแห่งนั้น ที่นั่นควันไฟดำโขมง เปลวไฟแดงฉานพวยพุ่งขึ้นครึ่งฟ้า!
‘ตูม!’ ‘ตูม!’
ราวกับสถานที่แห่งนั้นจุดระเบิด อานุภาพสูงขึ้นนับไม่ถ้วน เสียงระเบิดค่อยดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนเปลวไฟก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ย้อมนภาให้เป็นสีแดง
ทว่าใบหน้าของกู้ซีจิ่วกลับซีดเผือดลงทันที เธอทำผิดพลาดอย่างมหันต์!
ในอากาศเหนือหล่มแห่งนั้นน่าจะมีสิ่งที่มีคุณสมบัติไวไฟประเภทแก๊สมีเทนอยู่ เมื่อสัมผัสไฟก็ระเบิดขึ้นอย่างง่ายดาย!
ก่อนหน้านี้เธอรีบร้อนจากมา เลยไม่ได้นึกถึงข้อนี้ไปชั่วขณะ ไม่ได้กำชับอิงเหยียนนั่วให้ออกห่างจากหล่มแห่งนั้นหลังจากจุดไฟ หากว่าหลังจากเขาล่อผีดิบพวกนั้นลงไปในหล่มแล้วยืนอยู่ริมหล่มเพื่อจุดไฟ ต่อให้วรยุทธ์ของอิงเหยียนนั่วสูงส่งกว่านี้อีกเท่าหนึ่ง ก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถหนีออกมาได้!
ภาพอิงเหยียนนั่วถูกระเบิดจนเลือดเนื้อแหลกเหลวคล้ายจะแวบขึ้นมาเบื้องหน้า มือเท้ากู้ซีจิ่วเย็นเฉียบไปหมด ไม่พูดพรํ่าอันใด เคลื่อนย้ายไปทันที!