บทที่ 988 นุ่มนิ่มน่ารัก อ่อนแอบอบบาง ร้องขอให้อุ้ม…
ผ่านไปครู่หนึ่ง รถลากสิงโตเวหาคันนั้นก็มาถึง กู้ซีจิ่วอุ้มเขาขึ้นไป วางเขาลงบนเบาะนุ่ม ขณะที่กำลังจะออกไปบังคับรถ ตี้ฝูอีก็ยื่นมือมาดึงชายชุดเธอไว้ “รถคันนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องบังคับ ข้าให้มันเสาะหาเส้นทางด้วยตัวเองได้”
กู้ซีจิ่วนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยถามเขา “เจ้าบอกมิใช่หรือว่าสิงโตตัวนี้จดจำได้เพียงเส้นทางที่คุ้นเคย? เส้นทางใหม่ๆ ต้องมีคนคอยบังคับอยู่
ตลอดเวลาไม่ใช่หรือไง?”
ตี้ฝูอีกระแอมเบาๆ คราหนึ่ง “นี่คือ…คือว่านิสัยของสิงโตตัวนี้ค่อนข้างพิเศษ เกรงว่าเจ้าจะบังคับไม่ได้ มีแต่ข้าที่บังคับได้…”
กู้ซีจิ่วมองใบหน้ากะจ้อยร่อยที่ซีดขาวของเขา “เจ้าจะนั่งยังนั่งไม่อยู่เลย จะบังคับรถได้อย่างไร?”
ตี้ฝูอีถอนหายใจ “อุ้มข้าออกไปสิ พวกเราไปนั่งบังคับรถตรงกราบรถด้วยกัน เจ้าฟังคำชี้แนะจากข้าก็พอ”
สีหน้ากู้ซีจิ่วทะมึน เดินออกไปทันที “ข้าจะไปลองด้วยตัวเองก่อน”
เธอไม่เชื่อกหรอกว่าจะบังคับรถไม่ได้!
แม้แต่เพรียกวายุยังถูกเธอสยบได้ สิงโตเวหาตัวเดียวจะนับเป็นสิ่งใดกัน?
ยิ่งไปกว่านั้นคือสิงโตเวหาตัวนี้ฉลาดกว่าสิงโตเวหาทั่วไปมาก น่าจะบังคับได้ง่ายกว่าถึงจะถูก…
….
รถลากสิงโตเวหาแล่นไกลออกไปอย่างว่องไวนัก เลือนหายไป ณ ขอบฟ้า
สี่ทูตที่ซ่อนอยู่ในที่ลับถูกการกระทำของเจ้านายตนทำให้ตกตะลึงพรึงเพริดไปเสียแล้ว!
พวกเขาทราบว่าเจ้านายของบ้านตนเดาทางยากแต่ไหนแต่ไรแล้ว ความคิดซับซ้อน กระทำเรื่องที่ผู้อื่นคาดไม่ถึงอยู่บ่อยๆ แต่การกระทำเช่นวันนี้ พวกเขารู้สึกว่าสามมุมมองถูกปรับปรุงใหม่แล้ว!
นุ่มนิ่มน่ารัก อ่อนแอบอบบาง ร้องขอให้อุ้ม…
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเล่นได้อย่างไม่รู้สึกย้อนแย้งเลยสักนิด!
ดูเหมือนการกลายเป็นเด็กยิ่งทำให้เขาเสาะหาผลประโยชน์เข้าตัวได้ไม่น้อย…
นี่…นี่ยังใช่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงส่งของพวกเขาอยู่หรือไม่?
สี่ทูตมองกันไปมองกันมา สุดท้ายสายตาของทูตทั้งสามก็รวมอยู่ที่ร่างของมู่เตี่ยน
เจ้านี่เคยสวมรอยเป็นอิงเหยียนนั่ว เขาก็เคยชิดเชื้อไร้ระยะห่างกับแม่นางกู้ด้วยหรือเปล่า?
เห็นแม่นางกู้ก็อุ้มอิงเหยียนนั่วอย่างไม่ลังเลสักนิดเลยเช่นกัน…
เมื่อมู่เตี่ยนเห็นสายตานี้ก็ทราบแล้วว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ รีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธทันที “อย่าเข้าใจผิดนะ! เวลาที่สวมรอยข้าอยู่ในระยะที่ปลอดภัยตลอด! ไม่กล้ายื่นเท้าลํ้าเส้นเด็ดขาด!”
แม้แต่มือน้อยๆ ของนางเขาก็ไม่กล้าแตะด้วยซ้ำ…
มู่เฟิงตบไหล่เขาเบาๆ “ศิษย์น้อง โชคดีที่เจ้าไม่ได้ลํ้าเส้น มิเช่นนั้นเกรงว่าเจ้าคงถูกฟ้าผ่ากลายเป็นซากไปแล้ว”
มู่เตี่ยนนวดคลึงหน้าผากอย่างกระวนกระวาย “อันที่จริงข้าเกรงว่านายท่านจะให้ข้าปลอมเป็นเป็นเขาในยามนี้อีกน่ะสิ ถ้าแม่นางกู้ผู้นี้้อุ้มเขาจนติดเป็นนิสัย แล้วมาอุ้ ข้าต่อจะทำยังไง?”
มู่เหล่ยปรายตามองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าคิดมากไปแล้ว! เจ้านึกว่านายท่านที่ใช้ตัวตนนี้ขลุกกับนางจนถึงขั้นนี้แล้วยังจะปล่อยให้เจ้าปลอมเป็นเขาอีก หรือไง?”
มู่อวิ๋นที่เพิ่งจัดการตนเองจนสะอาดเอี่ยมยามนี้ในที่สุดก็กลับมีสภาพสง่างามอีกครั้งแล้ว เขายิ้มอย่างมีเลศนัยแวบหนึ่ง ถามคำถามหนึ่งออกมา “จะว่าไปมู่เตี่ยน เจ้ากับนายท่านผลัดกันปลอมเป็นอิงเหยียนนั่ว บุคลิกน่าจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกระมัง? อย่างน้อยเจ้าก็ไม่กล้าเข้าใกล้นางจริงๆ นางไม่สงสัยเลยหรือ?”
มู่เตี่ยนกล่าวด้วยเสียงงึมงำว่า “นางนึกว่าอิงเหยียนนั่วเป็นคนสองบุคลิกอะไรสักอย่าง…”
สามทูตเงียบงัน
พวกเขามองรถลากสิงโตเวหาที่จากไปไกลแล้ว มู่เฟิงเอ่ยขึ้นมา“ใช่แล้ว ไป๋เจ๋อ[1] ตัวนี้คงมิใช่ว่าบินไปได้ครึ่งทางก็เผยร่างออกมาซะแล้วกระมัง?”
มู่เตี่ยนส่ายหน้า “วางใจเถอะ ไป๋เจ๋อเป็นสัตว์วิเศษขั้นแปด ช่วงนี้มันมีความสุขมากที่ได้รับบทเป็นสิงโตเวหา และพึ่งพาได้มากเช่นกัน ยังไม่เคยเกิด ความผิดพลาดขึ้นเลย มิเช่นนั้นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์คงไม่ใช้มันหรอก”
นี่ก็ใช่ มู่เฟิงวางใจแล้ว
ไป๋เจ๋อนิสัยหนักแน่น และปกป้องผู้เป็นนายยิ่งนัก เป็นสัตว์วิเศษชั้นเลิศในการครอบครองของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีมันติดตามอยู่ข้างกายนายท่านตลอด ต่อให้ร่างกายของนายท่านจะอ่อนแอลงไปบ้าง ก็ไม่เกิดอันตรายใดๆ ขึ้น
….
หมู่เมฆขาวเฉียดผ่านข้างกายไป อาภรณ์ถูกสายลมหนาวพัดจนเกิดเสียงเสียดสี
———————————————————————
[1] ไป๋เจ๋อ เป็นสัตว์ในตำนานของชาวจีน มีลักษณะลำตัวเหมือนสิงโต มีเขาหนึ่งคู่ และมีเคราเหมือนแพะ เชื่อกันว่าเป็นสัตว์มงคล