บทที่ 992 ไม่แน่นางอาจจะหนีไปกับคนอื่น…
“ข้าได้ยินมาจากคนอื่นว่าความสัมพันธ์ของเจ้ากับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายยอดเยี่ยมนัก เจ้าชอบเขาใช่ไหม? ภายหน้าจะแต่งให้เขาหรือ?” อิงเหยียนนั่วตัวน้อยไม่ยอมเลิกรา
กู้ซีจิ่วใจเต้นแรงแวบหนึ่ง ตี้ฝูอีบอกว่าถ้าเธออายุสิบแปดจะมาสู่ขอเธอ เธอเคยคิดว่าเป็นเรื่องที่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่ค่อยแน่ใจแล้ว เธอไม่ได้พบเขามาหนึ่งปีครึ่ง และเขาก็ผิดนัดด้วย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน สืบถามข่าวคราวไม่ได้เลย
เช่นนั้นเมื่อถึงเวลาเขาจะมาขอจริงหรือไม่เธอก็ไม่อาจทราบได้…
เธอไม่อยากสนทนาหัวข้อนี้กับอิงเหยียนนั่ว จึงยื่นมือไปยัดผลไม้ใส่อ้อมแขนเขา “เรื่องของผู้ใหญ่เด็กน้อยอย่าได้ถามเซ้าซี้ เด็กดี กินผลไม้ลูกนี้ซะ ไม่แน่เจ้าอาจะฟื้นฟูเป็นปกติก็ได้”
เอ่ยพลางหันหลังเข้าไปในห้องโดยสารอีกครั้ง
ตี้ฝูอีเงียบงัน เขามองมือน้อยๆ ของตน จู่ๆ ก็รู้สึกว่าการกลับสู่ร่างเดิมกลายเป็นเรื่องสำคัญที่สุดแล้ว!
ถ้าเขายังไม่กลับร่างเดิมแล้วไปพบนางอีก ไม่แน่นางอาจจะหนีไปกับคนอื่น…
….
เส้นทางสู่หุบเขาถามสวรรค์ห่างไกลนัก อาศัยความสามารถของสิงโตเวหาก็ต้องใช้เวลาสองวันกว่าจะไปถึง
ช่วงพลบคํ่า คนทั้งสองเข้าไปในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งเตรียมกินข้าวกินปลาพักผ่อนสักคืนแล้วค่อยเดินทางต่อ
หนูน้อยอิงเหยียนนั่วร่างกายบอบบางแถมยังจุกจิกเลือกกินอีก
ทั้งสองย่อมต้องเสาะหาภัตตาคารที่ดีที่สุด
ทั้งสองมาถึงไม่ค่อยถูกเวลานัก เป็นเวลาอาหารพอดี ในภัตตาคารไม่มีห้องส่วนตัวแล้ว ในโถงใหญ่เหลืออยู่เพียงโต๊ะเดียวไม่มีทางเลือกอื่นอีก
ปัจจุบันรูปโฉมของกู้ซีจิ่วงดงามยิ่ง เรือนร่างก็ไร้ที่ติ ไม่ได้แปลงโฉม ทั้งนี้เนื่องจากเธอฝึกฝนพลังวิญญาณถึงขั้นเจ็ดแล้วผิวพรรณจึงเปล่งปลั่ง รอบกายแฝงรัศมีบริสุทธิ์เรียบง่าย เธอที่เป็นเช่นนี้ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนล้วนกลายเป็นจุดสนใจของฝูงชนได้ทั้งนั้น
ส่วนตี้ฝูอียามนี้ก็งดงามประหนึ่งตุ๊กกระตากระเบื้องเคลือบ นุ่มนิ่มอ่อนเยาว์ ดวงตาใสฉ่ำวาว ทำให้คนเห็นแวบเดียวก็ไม่อาจละสายตาไปได้
คนสองคนที่เป็นเช่นนี้เดินเคียงกันเข้ามาย่อมดึงดูดสายตาของคนทั้งโถงได้ สายตามากมายมองตามพวกเขาไปตลอดจวบจนนั่งลง…
โชคดีที่ทั้งสองถูกผู้คนจับจ้องอยู่เสมอจนเคยชิน แล้วจึงไม่สนใจเรื่องนี้
ตี้ฝูอีท่องไปทั่วแผ่นนี้อยู่ตลอดปี เขาแทบจะคุ้นชินกับทุกพื้นที่แล้ว ที่ไหนมีของดีประจำท้องถิ่น ที่ไหนมีอาหารเลิศรสอันใดเขาล้วนจำแนกได้คล่องแคล่วปานนับสมบัติในบ้านตน แถมเขายังทราบรสชาติที่กู้ซีจิ่วโปรดปรานด้วย ดังนั้นไม่ต้องเปิดรายการอาหารก็สามารถสั่งอาหารได้ทันที
เพิ่งจะสั่งไปไม่กี่อย่าง จู่ๆ คุณชายวัยหนุ่มโบกพัดจีบคนหนึ่งก็ก้าวมาอยู่ด้านข้าง คุณชายโบกพัดจีบผู้นี้รูปโฉมหล่อเหลา แย้มยิ้มอย่างสุภาพให้กู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง “แม่นาง ข้าพเจ้าเห็นหน้าท่านแล้วรู้สึกถูกชะตา ราวกับเคยพบที่ไหนมาก่อน…”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วขึ้นแวบหนึ่ง วิธีตีสนิทแบบนี้ชาติก่อนเธอเคยเจอมาแปดร้อยรอบแล้ว และมีภูมิต้านทานอยู่ก่อน ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจ
คุณชายโบกพัดมิได้รับการตอบสนอง ทว่าไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เขาก้าวเข้าไปหาเสมียนร้านที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้วเอ่ยสั่งว่า “แม่นางท่านนี้กับข้าพเจ้าเพียงแรกพบก็รู้สึกถูกชะตา ค่าอาหารของพี่ชายน้องสาวคู่นี้คุณชายอย่างข้าจะจ่ายเอง”
แล้วหันมายิ้มน้อยๆ พูดคุยกับกู้ซีจิ่วต่อ “แม่นางสั่งได้ตามสบายเลย ข้าพเจ้าจะเป็นเจ้ามือเอง”
ขณะที่กู้ซีจิ่วกำลังจะเอ่ยบางอย่าง ตี้ฝูอีที่อยู่ข้างๆ ก็กะพริบตาปริบๆ พลางเอ่ยถาม “คุณชายต้องการเป็นเจ้ามือหรือ?”
คุณชายหนุ่มผู้นั้นพยักหน้า “มิผิด ข้าถูกชะตากับพี่สาวเจ้าตั้งแต่แรกพบ…”
ตี้ฝูอีตัดบทเขา “ตกลง เช่นนั้นข้าจะไม่เกรงใจแล้ว”
เขาสั่งอาหารไปหลายสิบอย่าง โดยไม่มองรายการอาหารเลย ทุกอย่างล้วนเป็นอาหารขึ้นชื่อของภัตตาคารนี้ ราคาแพงเหมือนปล้นทรัพย์
คุณชายโบกพัดผู้นั้นหน้าคลํ้าแล้ว ฝืนยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า “คุณชายน้อยสั่งอาหารมากมายถึงเพียงนี้…เกรงว่าจะกินไม่ไหวเอา ฟุ่มเฟือยเกินไปคงไม่ดีเท่าไหร่…”
ตี้ฝูอีมองดูเขา “ท่านเลี้ยงไม่ไหวหรือ?”
คุณชายโบกพัดพูดไม่ออก อาหารเหล่านี้เป็นเงินถึงเจ็ดแปดร้อยตำลึง ถึงแม้เขาจะรํ่ารวย แต่ก็ไม่ได้พกติดตัวมามากมายปานนั้น