ตอนที่ 1107 มือขวาข้า 5
นิ้วนี้สังหารหนึ่งคน ทว่ากลับสร้างความตื่นตะลึงกับทุกคนที่นี่ เมื่อนิ้วมือนี้หายไป โดยรอบเงียบกริบ ทุกสายตาจับจ้องมังกรยมโลกร่างแปลงกระเรียนขนร่วง และยังมีมังกรยมโลกที่เป็นที่จับตามองรองลงมา ตอนนี้มีสีหน้าลำพองใจ ขณะกระแอมไอเตรียมจะเอ่ยถ่อมตัวแบบง่ายๆ นั้น…..
เกิดเสียงดังสนั่นมาจากในน้ำวนของซูหมิงอีกครั้ง มันดังราวกับหยุดหัวใจเต้นได้ ทำให้ตอนที่เสียงดังขึ้น คนรอบๆ ต่างใจสั่นสะท้าน
ในเวลาเดีนวกัน ซูหมิงรู้สึกว่าขณะขั้นพลังทะยานขึ้นนี้ก็เจอกับปราการไร้รูปที่สอง มันคือคอขวดที่สอง เป็นประตูใหญ่ของนิ้วมือที่สองของขั้นกุม!
หากทำลายมันดวงตะวันภัยพิบัติจะปรากฏนิ้วมือที่สอง จากนั้นขั้นพลังเขาจะพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งในพริบตา หากทำลายไม่ได้ ถึงขั้นพลังจะยังเป็นขั้นกุม แต่กลับไม่สมบูรณ์แบบ
ถึงแม้ว่าจะแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ถึงอย่างไร…..เดิมทีเขาก็แกร่งได้มากกว่านี้!
“หลังจากแซ่เต้าเปิดนิ้วที่สองแล้วจะลงมืออีกครั้งทันที ดูหน่อยว่าพวกเจ้าสามคน….จะยังเหลือกี่คน” ขณะที่เสียงเย็นชาจากซูหมิงดังแว่วมาจากในน้ำวน ขั้นพลังในร่างกายเขาปะทุขึ้นทั้งหมดก่อนทะลวงไปยังปราการไร้รูปนั้น
หนึ่งครั้ง สองครั้ง พอถึงครั้งที่สาม เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นกว่าก่อนหน้านี้ ตอนนี้เองดวงตะวันภัยพิบัติยักษ์ข้างหลังซูหมิงปรากฏ….นิ้วมือที่สอง!
เมื่อดวงตะวันภัยพิบัติที่เหมือนกลายเป็นกำปั้นปรากฏนิ้วมือที่สอง ขั้นพลังซูหมิงก็ทะยานขึ้นอีกครั้ง กลิ่นอายพลังน่าสะพรึงกระจายมาจากตัวเขา เพียงพลังของ สองนิ้วมือก็เทียบเท่ากับขั้นกุมสมบูรณ์ของคนปกติแล้ว
รู้กันดีว่านี่เป็นเพียงขั้นพลังซูหมิง ยังไม่ใช่พละกำลังของเขา แต่ก่อนหน้านี้ร่างกายเขาเหนือกว่าขั้นพลังไปมากเกินไป แต่ตอนนี้…..มันถูกบีบเข้ามาใกล้กันอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันยังหมายความว่ากำลังรบของเขาบรรลุถึงระดับน่าตกตะลึงด้วย
ต่อมา แทบเป็นทันทีที่ซูหมิงเปิดนิ้วมือที่สองของขั้นกุม เขายกมือขวาขึ้นใช้ สองนิ้วเป็นกระบี่ฟันแนวขวางไปยังแผ่นดินใหญ่นกกระจอกแดง
โครม พลันปรากฏนิ้วมือยักษ์สองนิ้วชิดกันนอกน้ำวนที่ซูหมิงอยู่ เมื่อปรากฏขึ้นในพริบตาแล้ว ก็ทะลวงผ่านพลังแห่งจักรวาลด้วยพลังที่แกร่งกว่าก่อนหน้านี้มุ่งหน้าไปยังแผ่นดินใหญ่นกกระจอกแดง
สามยอดฝีมือนอกม่านแสงขององค์ชายสามบนแผ่นดินนกกระจอกแดงตอนนี้หน้าขาวซีด ระหว่างที่นัยน์ตาฉายแววสิ้นหวัง ดวงตาพวกเขากลับจุดไฟแห่งความบ้าคลั่งขึ้นมา สามคนเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้าพร้อมกัน วิญญาณ เลือดเนื้อ ขั้นพลังเผาไหม้ในเวลานี้ โดยเฉพาะยอดฝีมือที่ควบคุมชะตาตัวเองได้ การเผายังทำให้ขั้นพลังสูงขึ้นในเสี้ยวพริบตาจนถึงระดับใกล้ขั้นเกิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สามคนนี้กลายเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไปยังสองนิ้วมือซูหมิงกลางฟ้า
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ชั่วขณะที่คนโดยรอบหายใจกระชั้น สองนิ้วมือซูหมิงหายไป แต่ราคาต้องจ่ายคือ….ยอดฝีมือขั้นชะตาในสามคนร่างระเบิดออกเป็นเศษเหลือคณานับ ส่วนยอดฝีมือขั้นชะตาอีกคนกระอักเลือดต่อเนื่องกันสิบกว่าครั้ง ร่างกายพลันแห้งเหี่ยว ดวงตามัวหมอง จนถอยไปหลายร้อยจั้งแล้วก็เกิดเสียงโครม อีกครั้ง ไม่อาจใช้การกระอักเลือดมายับยั้งบาดแผลได้อีก ร่างจึงระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
ยอดฝีมือคนสุดท้ายที่เผาวิญญาณเพื่อแลกกับพลังซึ่งใกล้เคียงขั้นเกิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาร่างสั่นไหว ขณะถอยไปกลิ่นอายพลังอ่อนลง เขากระอักเลือดจนย้อมอาภรณ์ แม้ยังไม่ตาย แต่อวัยวะภายในกลับแหลกละเอียด เพียงแต่เพราะขั้นพลังแข็งแกร่ง เพราะการเผาวิญญาณ เขาจึงไม่สิ้นชีพในทันที
ระหว่างถอยไปเขายกมือขวาคว้าอากาศอย่างไม่ลังเล ฉับพลันนั้นมีเม็ดยามากกว่าครึ่งถูกยัดใส่ปาก นัยน์ตาฉายแววบ้าคลั่ง เขาเชื่อว่าหากตนไม่ถูกสังหารในพริบตา เช่นนั้นด้วยขั้นพลังตนก็จะยืนหยัดจนกลับโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกได้ หากเป็นอย่างนั้นเขาอาจจะมีชีวิตรอด
เขากำลังเดิมพัน เดิมพันว่าซูหมิงเรียกนิ้วที่สามออกมาไม่ได้
“พลังจากขั้นพลังบรรลุถึงขั้นกุมสมบูรณ์แล้ว นี่เพียงแค่สองนิ้วมือเท่านั้น เต้าคงคนนี้…..” สามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดารามองหน้ากันและกันด้วยสีหน้าจริงจังอย่างยิ่ง
“ประกอบกับพละกำลัง เมื่อรวมกับขั้นพลังแล้วทำให้สองนิ้วนี้…..มีพลังการโจมตีที่สังหารขั้นชะตา กระทั่ง…..ขั้นเกิดตอนต้นได้”
“เด็กคนนี้มีอนาคตไร้ขีดจำกัด คนที่ควบคุมแดนอันเลื่องลือได้….เดิมทีคิดว่าตอนนั้นเขาบรรลุถึงขั้นกุมแล้ว แต่ตอนนี้พวกเรา….มองเขาต่ำไป!”
“ระดับความเข้มของสายเลือดเขาเป็นสีทอง เรื่องนี้…..หากเขาเปิดนิ้วที่สามได้ พวกเราจะ…..” สามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดาราสามคนดวงตาวาววับ สีหน้ามีความประหลาดใจ แต่ไม่นานก็หายไปเป็นอันความเห็นตรงกัน
“หากเด็กคนนี้เปิดนิ้วที่สามได้ สำนักดาราสัจธรรมในภายภาคหน้าจะมีผู้แข็งแกร่งที่สุดยอดเพิ่มมาอีกคน” ชายชราชุดคลุมฟ้าแห่งโลกแท้จริงที่สี่ส่ายศีรษะแล้วเอ่ยเรียบนิ่ง จื่อหลงเจินเหรินด้านข้างดวงตาแวววาว
“ทว่าตอนนี้เขาสร้างมหันตภัยครั้งใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์หรือจักรพรรดิยมโลก สำหรับเขาแล้วคือเคราะห์ภัยครั้งใหญ่……”
“สามโลกแท้จริงคงสู้กันเองไม่ได้ คงได้แต่เถียงกันเท่านั้น ต่อให้เต้าคงสังหาร องค์ชายสาม อย่างมากสำนักดาราสัจธรรมก็ต้องจ่ายให้มากกว่าเดิมเล็กน้อยเท่านั้น
อีกอย่างเจ้าเห็นตาแก่ตายยากตะวันจันทราและดาราสามคนนั้นหรือไม่ สามคนนี้ส่งกระแสจิตหากัน ถึงข้าจะไม่ได้ยินก็เถอะ แต่ก็เดาได้ว่าพวกเขาเปลี่ยนใจไปกับ เต้าคงแล้ว
มิหนำซ้ำ ข้าเองก็สนใจเต้าคงมากด้วย…..” ชายชราเสื้อคลุมฟ้ายิ้มเล็กน้อย ดวงตาวาววับ ไม่รู้ว่าในใจเกิดความคิดอะไรขึ้น
ระหว่างที่ทุกคนต่างมีเกิดความคิดของตัวเอง ทันใดนั้นความคิดทุกคนหายไป สายตาจับจ้องเสียงที่ดังกึกก้องมาทางซูหมิงอีกครั้งกันอย่างพร้อมเพรียง
ครั้งนี้เสียงคำรามซูหมิงปะปนอยู่ในเสียงครึกโครม ช่วงที่เขาเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ดวงตะวันภัยพิบัติข้างหลังปรากฏ…..นิ้วมือที่สาม!
บนใบหน้าเขามีเส้นเลือดดำปูดโปน การปรากฏนิ้วมือที่สามดูเหมือนง่าย ทว่าความจริงเขาต้องใช้ขั้นพลังตัวเองโจมตีเกือบร้อยครั้งกว่าจะทำลายปราการไร้รูปนั้นได้ หากมิใช่เพราะมีร่างกายแข็งแกร่ง เช่นนั้นด้วยการปะทะแบบนี้ร่างเขาต้องแหลกแน่ๆ
นี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่คนที่เปิดนิ้วมือที่สามได้พบเห็นได้ไม่มากในสี่มหาโลกแท้จริง!
ความจริงแล้ว ยอดฝีมือขั้นกุมเหล่านั้นที่ซูหมิงเจอก่อนหน้านี้ แทบทั้งหมดเปิดได้เพียงนิ้วเดียวหรือสองนิ้วเท่านั้น เขาในยามนี้ยังไม่เคยเจอคนที่เปิดนิ้วมือได้สามนิ้วมาก่อนเลย
ถึงอย่างไร แม้จะเปิดเพียงนิ้วเดียวก็ฝึกถึงขั้นกุมสมบูรณ์ได้ และยังไปสู่ขั้นชะตาได้ เพียงแต่ความต่างจะถูกยืดออกในช่วงที่ทะลวงสู่ขั้นกุม
เป็นขั้นกุมเหมือนกัน บรรลุถึงระดับสมบูรณ์เหมือนกัน ทว่าคนที่เปิดสี่นิ้วสังหารขั้นกุมหนึ่งนิ้วได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
แทบเป็นตอนที่ซูหมิงเปิดนิ้วที่สาม เขาพลันก้มหน้าลง นัยน์ตาฉายแววจิตสังหารพร้อมด้วยความบ้าคลั่ง นั่นคือพลังความยึดมั่นที่เกิดจากความสนใจถึงขีดสุด
นั่นคือพลังต้นกำเนิดที่ซูหมิงใช้ทะลวงไปสู่ระดับยอดฝีมือ นั่นคือ….ความสนใจโดยใช้ฝ่ามือปกป้องทุกอย่าง ปกป้องของล้ำค่าในฝ่ามือ ไม่ให้มันได้รับอันตราย!
“ข้าอยากรู้นักว่า….เจ้าจะต่อต้านอย่างไร!” ซูหมิงยกมือขวาวาดสามนิ้วไป ท่ามกลางฟ้าดินเกิดเสียงดังสนั่น กลางอากาศนอกน้ำวนปรากฏนิ้วมือยักษ์สามนิ้วขึ้นด้วยความยาวหลายร้อยจั้ง ตอนนี้เองมีพลังที่เหมือนจะปกคลุมฟ้าพุ่งตรงไปยังแผ่นดินนกกระจอกแดง
ยอดฝีมือขั้นชะตาที่เผาวิญญาณคนสุดท้ายมีสีหน้าขมขื่น นัยน์ตาฉายแววสิ้นหวัง ช่วงที่ซูหมิงเปิดนิ้วที่สาม เขาก็เข้าใจแล้วว่าตน….ขวางไว้ไม่ได้
เป็นได้เพียงหินขวางทางที่ถูกใต้เท้าเต้าคงบดทำลายในระหว่างการผงาดขึ้นของเขา ยอดฝีมือขั้นชะตาฝืนยิ้มด้วยความปวดร้าว เขาเข้าใจว่าตนไม่มีทางถอยแล้วจึงเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า ทันทีที่สามนิ้วมือยักษ์ของซูหมิงพุ่งเข้ามา เขาก็พุ่งทะยานออกไป ก่อนเลือดระเบิดตัวเองในเสี้ยวพริบตาที่ปะทะกับสามนิ้วมือ
เกิดเสียงระเบิดดังก้องฟ้า การระเบิดตัวเองจากยอดฝีมือโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกท่านนี้หยุดสามนิ้วมือที่รวมขึ้นจากมายาของซูหมิงไม่ได้แม้แต่น้อย มันยังพุ่งเข้าไปยังแผ่นดินนกกระจอกแดง พริบตาเดียวก็เข้าปะทะกับม่านแสงสีดำที่อยู่ขององค์ชายสามซึ่งหน้าเปลี่ยนสีไปทั้งหมดและกำลังจับอวี่เซวียนมาบังไว้ข้างหน้า
แผ่นดินนกกระจอกแดงสั่นสะเทือน นกกระจอกที่ค้ำยันแผ่นดินส่งเสียงร้องโหยหวน ร่างมันดิ่งลง จึงส่งผลให้แผ่นดินต่ำลงมากกว่าหลายร้อยจั้ง ขณะที่นกกระจอกแดงกำลังร้องโหยหวนมันก็บินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ค้ำยันแผ่นดินนี้ ไว้อีก แต่มองซูหมิงด้วยแววตาหวาดกลัว
หลังจากไม่มีนกกระจอกแดงค้ำยัน แผ่นดินใหญ่กลับไม่ร่วงลง แต่ม่านแสงสีดำนอกร่างองค์ชายสามพลันขยายออกไปข้างนอก จนปกคลุมทั้งแผ่นดินในพริบตาแล้ว นิ้วที่สามของซูหมิงจึงกระเด็นถอยพร้อมระเบิดหายไป
“ฮ่าๆ มีม่านคุ้มกันของบิดาข้าอยู่ เจ้าจะทำลายอย่างไร ข้าจำเรื่องในวันนี้เอาไว้แล้ว!” องค์ชายสามหัวเราะเสียงดังก่อนยกมือขวากดไปทางแผ่นดินใหญ่ ฉับพลันนั้นพื้นดินตรงหน้าเขาปรากฏเส้นแสงขึ้นทีละเส้น มันวนเวียนพลางประทับลงแผ่นดิน ขณะเส้นแสงวนเวียนอยู่ยังเห็นว่ามันกำลังรวมขึ้นเป็นอาคมเคลื่อนย้ายบนแผ่นดินด้วยความเร็วสูงยิ่ง!
“ตั้งแต่เริ่มวางไปจนเสร็จอาคมเคลื่อนย้ายต้องใช้เวลาสามสิบลมหายใจ จากนั้นข้าจะไปจากที่นี่ก็ต้องใช้เวลาอีกยี่สิบลมหายใจ ซูหมิง เจ้ามีเวลาเพียงห้าสิบลมหายใจ เจ้าทำได้เพียงมองข้าพานางสารเลวนี่ไปเท่านั้น” องค์ชายสามหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง นัยน์ตาฉายแววเย้ยเยาะและดูถูก
“ใช้ไม่ถึงห้าสิบลมหายใจหรอก” นัยน์ตาซูหมิงฉายแววเย็นชา ขณะเอ่ยราบเรียบเขาพลันกัดปลายลิ้นพ่นโลหิต ในเวลาเดียวกันยังยกมือขวาวาดผ่านโลหิตเหล่านั้น ทำให้โลหิตกลายเป็นตราประทับสีเลือด เมื่อวาดมือไปแล้วก็กดตรงระหว่างคิ้ว
เกิดเสียงโครมดังขึ้น ซูหมิงใช้ตราประทับจากสัญลักษณ์โลหิตบริสุทธิ์อย่างไม่เสียดาย จ่ายทุกอย่างเพื่อกระตุ้นศักยภาพของตน ทำให้ย่นเวลาในการพังปราการให้น้อยลง แม้ราคาแบบนี้ทำให้ร่างกายเขาต้องรับแรงปะทะที่มากขึ้น ทว่าเขาที่เป็น เอ้อชางไม่สนใจ
ท่ามกลางเสียงครึกโครม ดวงตะวันภัยพิบัติข้างหลังซูหมิงปรากฏนิ้วที่สี่!
“นิ้วที่สี่!” ผู้ฝึกฌานทั้งหมดรอบๆ ล้วนลมหายใจกระชั้น ซูหมิงใช้การกระทำบอกกับทุกคนว่าเขาจะยิ่งใหญ่ขึ้น!