Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1106

ตอนที่ 1106 มือขวาข้า 4

“พลังแห่งการรวมฝ่ามือ!” พลันเกิดเสียงอื้ออึงดังขึ้นรอบๆ ผู้ฝึกฌานทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างใจสั่นสะท้าน โดยเฉพาะศิษย์สำนักดาราสัจธรรม พวกเขาต่างพากันตื่นเต้นและตะโกนนามเต้าคงไม่หยุด เสียงดังกึกก้องสั่นสะเทือนไปโดยรอบ

“ตอนที่ยอดฝีมือทุกคนก้าวสู่ขั้นกุมจะเกิดพลังแห่งการรวมฝ่ามือที่เหมือนฟ้าลงมาเยือนแบบนี้ ภายใต้พลังนี้ แม้แต่ขั้นดับสูญยังไม่อาจทำอันตรายเขาได้แม้แต่น้อย

ยอดฝีมือในตอนนี้จะถูกปกป้อง!” ยอดฝีมือสี่คนที่ถอยไปจากตรงหน้าซูหมิงต่างมีสีหน้ามืดทะมึนและแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว ระหว่างที่ถอยไปพร้อมกันยังส่งกระแสจิตหาถึงกัน

“บัดซบ เหตุใดเขาถึงก้าวสู่ระดับยอดฝีมือในตอนนี้ ดูจากร่างกายและกำลังรบแล้ว เดิมทีคิดเขาว่าเป็นผู้กุมชะตาเกิดดับสูญแล้วเสียอีก!”

“พวกเราโจมตีเขาไม่ได้ แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ออกจากการมาเยือนของพลังแห่งจักรวาลไม่ได้ ได้แต่รอรวมฝ่ามือจนบรรลุถึงขั้นกุมอย่างสมบูรณ์แบบแล้วถึงออก มาได้”

“รวมพลังเอาไว้ ตอนที่เขาออกมาจะเป็นช่วงเวลาตายของเขา!” สี่คนกัดฟัน สายตาจ้องซูหมิงเขม็ง สีหน้ามีจิตสังหาร พลังพวกเขากำลังทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะหวาดกลัวขั้นพลังหลังซูหมิงทะลวงสู่ขั้นกุม ทว่าถึงอย่างไรพวกเขาก็มีสี่คน อีกทั้งยังเป็นตัวประหลาดที่ก้าวสู่ขั้นชะตามาหลายปี จึงมีความมั่นใจว่าจะสังหาร ซูหมิงได้อย่างแน่นอน

ในสายตาพวกเขา ต่อให้ซูหมิงแกร่งกว่านี้อีกก็ได้เพียงเพิ่งก้าวสู่ขั้นกุม หากอาศัยช่วงที่รากฐานไม่มั่นคง ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลย

ไม่เพียงแต่พวกเขาที่หยุดลงมือเท่านั้น สองผู้เฒ่าโยวหมิงกับจูโหย่วไฉยังแยกย้านกัน สายตามองซูหมิงที่ยามนี้ทั่วร่างถูกน้ำวนยักษ์โอบล้อม และยังแผ่กระจายแรงกดดันรุนแรงเหมือนจะหลอมรวมกับจักรวาลเป็นหนึ่งเดียว

และยังมีผู้อาวุโสสำนักจำนวนมากของสำนักดาราสัจธรรมรวมถึงสามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดารา พวกเขาตาขยับประกายวาว สายตามองไปพร้อมกัน

อวี่เซวียนมองซูหมิงที่กำลังเงยหน้าคำรามเสียงต่ำในน้ำวน ใบหน้านางเผยรอยยิ้ม ในรอยยิ้มมีความภูมิใจ นางกำลังภูมิใจแทนซูหมิง

องค์ชายสามมีสีหน้าทะมึนทึบไม่แน่นิ่ง นัยน์ตาฉายแววริษยาเด่นชัด เขาเฝ้าปรารถนาจะก้าวสู่ระดับยอดฝีมือ แต่ตอนนี้เห็นซูหมิงก้าวสู่ขั้นกุมกับตาตัวเอง นี่จึงทำให้แววตาเขาเย็นชา

ท่ามกลางสายตาจับจ้อง การต่อสู้ทุกอย่างรอบตัวเข้าสู่ความเงียบ ช่วงที่ทุกสายตามองซูหมิง ซูหมิงรู้สึกอย่างชัดเจนว่าขั้นพลังตนกำลังทะยานไม่หยุดขึ้นด้วยความเร็วน่าสะพรึงยิ่ง

ดวงตะวันภัยพิบัติที่เพิ่งรวมขึ้นข้างหลัง ตอนนี้ภายใต้การปะทุของขั้นพลังในร่างกาย มันหลอมละลายอย่างรวดเร็ว จนเมื่อหดเล็กลงหนึ่งรอบแล้ว หากมองไกลๆ ดวงตะวันภัยพิบัตินี้จะเหมือนกับกำปั้นยักษ์ห้านิ้วมือ

ในเวลาเดียวกัน แทบเป็นทันทีที่ดวงตะวันคล้ายกำปั้นหยุดละลาย ขั้นพลังซูหมิงที่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องพลันหยุดชะงัก ราวกับเจอคอขวดไร้รูปจึงเกิดการปะทะขึ้น

ระหว่างที่ซูหมิงตัวสั่นสะท้านไปทั่วร่าง ในสายตาที่มองมาจากรอบๆ มีไม่น้อยคนนัยน์ตาเป็นสมาธิ

“เริ่มรวมนิ้วแล้ว ทะลวงภัยพิบัติตะวันก้าวสู่ขั้นกุมจำเป็นต้องรวมห้านิ้วมือออกมา ด้วยความที่คนมีความสามารถและศักยภาพต่างกัน จำนวนนิ้วมือที่รวมออกมาจึงต่างกันด้วย”

“ไม่ผิด ตอนนั้นเราสามคนรวมออกมาได้สี่นิ้วครึ่งก็เป็นเรื่องที่แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสำนักดาราสัจธรรมแล้ว การก้าวสู่ขั้นกุม คนที่รวมออกมาห้านิ้วมือใช่ว่าไม่มีเลย แต่มีน้อยมากๆ หนึ่งโลกแท้จริงในช่วงไม่รู้กี่หมื่นปีมานี้มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น”

“ไม่รู้ว่าเต้าคงจะรวมออกมากี่นิ้วมือ” สามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดาราแห่งสำนักดาราสัจธรรมมองหน้ากันและกันพลางส่งกระแสจิตหากัน

เวลานี้สองผู้เฒ่าโยวหมิงแห่งโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ยิ้มเยาะมุมปาก ด้วยขั้นพลังพวกเขาจึงกังวลเพียงฉางเหอเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนซูหมิง ในเมื่อพวกเขากล้ามาที่นี่ย่อมไม่เกรงกลัว แน่นอนว่าต้องมีของไว้รับมือกับเตาหลอมลำดับห้าอยู่แล้ว ดังนั้นตอนที่เห็นซูหมิงจะรวมนิ้วมือ พวกเขาจึงยังยิ้มเยาะอยู่ได้

“เด็กคนนี้แค่สามนิ้วมือก็คือขีดจำกัดแล้ว!” ตอนที่สองผู้เฒ่าเอ่ยขึ้นเรียบๆ มีเสียงหัวเราะลากยาวดังมาจากโลกแท้จริงที่สี่ เป็นเสียงชายชราเสื้อคลุมฟ้าหัวเราะเสียงดังก้อง

“ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่ ข้าเดิมพันว่าเต้าคงรวมนิ้วมือออกมาได้มากกว่าสามนิ้วอย่างที่พวกเจ้าสองคนว่า กล้าเดิมพันหรือไม่?”

สองผู้เฒ่าโยวหมิงหมุนตัวกลับมามองชายชราเสื้อคลุมฟ้าแห่งโลกแท้จริงที่สี่ สีหน้ามีความอึมครึมอยู่เล็กน้อย ทว่าในสีหน้ากลับซ่อนความกลัวเอาไว้ ก่อนแค่นเสียงหึเย็นชาทีหนึ่ง

ในระหว่างที่คนโดยรอบต่างมีสีหน้าไปต่างๆ นาๆ ทันใดนั้นเกิดเสียงดังสนั่นฟ้ามาจากทางซูหมิง ซูหมิงหน้าเหยเกย หากไม่อาจข้ามผ่านคอขวดที่เป็นดั่งปราการหนึ่งชั้นไปได้ก็จะยากทะลวงสู่ขั้นกุม ในช่วงที่ดวงตาเขาวาววับ ขั้นพลังในร่างกายปะทุขึ้นพร้อมกันกลายเป็นแรงปะทะไม่อาจบรรยายม้วนพาพลังทั้งหมดในร่างกายพุ่งชนใส่ปราการไร้รูปนั้น

เสียงดังสนั่นจากในตัวเขาดังกึกก้องไปรอบๆ ภายใต้การปะทะ ซูหมิงรู้สึกอย่างชัดว่าปราการไร้รูปนั้นเกิดเค้าลางจะพังลง ครู่ต่อมาเกิดเสียงครึกโครมดังสนั่น ปราการพลันพังพินาศลง ในเสี้ยวพริบตาเดียว ขั้นพลังซูหมิงก็พุ่งทะยานขึ้นอย่าง บ้าคลั่งอีกครั้ง

เส้นผมยาวโบกสะบัด ดวงตาสองข้างเปล่งประกายเด่นชัด มวลอากาศรอบๆ บิดเบี้ยว น้ำวนจากการมาเยือนของพลังแห่งจักรวาลขยายออกยิ่งกว่าเดิมในเวลานี้ ขณะเดียวกันข้างหลังซูหมิง ท่ามกลางการปะทุของขั้นพลังในร่างเขา ดวงตะวัน ภัยพิบัติยักษ์ในลักษณะกำมือนั้นยื่นนิ้วมือแรกออกมา!

เริ่ม นิ้วแรก!

พลังจากขั้นพลังที่แกร่งกว่าเดิมหลายเท่าถาโถมอยู่ในตัวเขา ถึงขั้นยังแผ่ขยายออกไปข้างนอก ส่งเสียงดังสนั่นแก้วหู ตอนนี้เองซูหมิงในน้ำวนหันหน้าไปมององค์ชายสามที่มีสีหน้ามืดทะมึนอยู่ในม่านแสงบนแผ่นดินนกกระจอกแดงข้างล่างแวบหนึ่ง

นัยน์ตาซูหมิงขยับประกายวาวดื้อรั้น ก่อนยกมือขวาชี้นิ้วมือไปยังแผ่นดินนกกระจอกแดงอย่างไม่ลังเล

พร้อมกันนั้นเกิดเสียงดังสะเทือน น้ำวนที่ซูหมิงอยู่พลันเกิดเสียงอึกทึก มีเงามายานิ้วมือรวมขึ้นจากในน้ำวนอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นนิ้วมือยักษ์ข้างหนึ่ง มันมีความใหญ่หลายร้อยจั้ง ทันทีที่โผล่มามันก็สมจริงขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ มองไม่ออกว่าเป็นมายาแม้แต่น้อย

นิ้วมือยักษ์ข้างนี้ก็คือนิ้วแรกในห้านิ้วมือขั้นกุมที่ซูหมิงเพิ่งรวมออกมา เขารอ ห้านิ้วมือครบไม่ไหวเลยลงมือทันที

เมื่อเขาชี้ไปพลันเกิดเสียงดังก้องกังวานพร้อมกับนิ้วมือยักษ์พุ่งตรงไปยังแผ่นดินใหญ่นกกระจอกแดง ด้วยความเร็วของมัน ตรงหน้านิ้วมือจึงเกิดเส้นลักษณะโค้งขึ้นราวกับอากาศระเบิด กระทั่งเส้นโค้งยังเกิดเค้าลางเผาไหม้ เหมือนกับว่าที่นี่มีปราการชั้นหนึ่งที่มันกำลังจะทะลวงผ่านไป

องค์ชายสามยิ้มเยาะกับพลังแห่งหนึ่งนิ้วมือนี้ ซ้ำยังเหยียดหยาม เขาย่อมรู้ว่าตอนที่พลังแห่งจักรวาลมาเยือน มีพลังแห่งจักรวาลอยู่ คนนอกจะทำอันตรายซูหมิงไม่ได้ ทว่าในขณะเดียวกัน ซูหมิงก็ทะลวงผ่านพลังแห่งจักรวาลไปโจมตีคนอื่นไม่ได้เช่นกัน

นี่คือกฏ เป็นวงโคจรที่เปลี่ยนมิได้

ดังนั้นในสายตาเขา นิ้วมือนี้จึงน่าหัวร่ออย่างยิ่ง ทว่าเขาเพิ่งจะเย้ยเยาะกลับต้องมีสีหน้าเหลือเชื่อ ใบหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง

คนที่หน้าเปลี่ยนสีไปพร้อมกันยังมีทุกคนโดยรอบ รวมถึงสามผู้เฒ่าตะวันจันทราและดารา รวมถึงสองผู้เฒ่าโยวหมิง และเซียนจื่อหลงกับชายชราชุดคลุมฟ้าที่มีสีหน้าไม่ใส่ใจมาตลอด

ทุกคนต่างหรี่ตาแคบลงในตอนนี้

เพราะว่า…..ระหว่างที่นิ้วมือยักษ์ของซูหมิงกำลังเสียดสีกับพลังแห่งจักรวาล ความเร็วจึงลดลงไปเรื่อยๆ จนเหมือนจะทะลวงผ่านพลังแห่งจักรวาลไร้รูปไปไม่ได้และจะถูกทำลายนั้น ทางด้านมังกรยมโลกสองตัวที่วนเวียนอยู่รอบๆ หนึ่งในนั้นที่มีขนาดใหญ่กว่าอีกตัวเล็กน้อยกลอกตาไปมา เพียงแต่คนที่มันมองจะเกิดความรู้สึกเหมือนของทุกอย่างในถุงเก็บวัตถุตัวเองถูกมองทะลุ…..

มันกระแอมไอทีหนึ่ง ด่าทอเบาๆ ด้วยคำว่าย่ากระเรียน จากนั้นใช้กงเล็บมังกรคว้าไปข้างหน้าเบาๆ ฉับพลันนั้นพลังแห่งจักรวาลที่ล้อมนิ้วมือยักษ์ของซูหมิงไม่ให้มันพุ่งออกไปกลับหายไปในพริบตา

ชั่วพริบตาที่มันหายไป นิ้วมือซูหมิงพุ่งออกไปด้วยความเร็วที่มากกว่าตอนอยู่ในพลังแห่งจักรวาล พุ่งตรงไปยังแผ่นดินกระจอกแดง ไปยังองค์ชายสามในม่านแสงด้วยความบ้าคลั่งจะทำลายล้างฟ้าดิน

“เป็นไปไม่ได้!” ผู้เฒ่าตะวันจันทราและดาราสามคน ด้วยขั้นพลังพวกเขา ด้วยความมั่นคงของพวกเขา ในเวลานี้กลับยังตื่นตะลึง จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น

โดยเฉพาะยอดฝีมือสี่คนที่ปกป้ององค์ชายสาม เดิมทีพวกเขาสี่คนกำลังรวมพลังกันอยู่ แต่กลับเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกะทันหัน พวกเขาสี่คนจึงหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรงพร้อมกัน พวกเขาคือองครักษ์ขององค์ชายสาม ย่อมไม่มีทางยอมให้มีใครมาทำร้ายองค์ชายสามต่อหน้าพวกเขา มิเช่นนั้นแล้วก็เป็นพวกเขาที่ไร้ความสามารถ และสิ่งที่รอพวกเขาอยู่ก็คือการลงโทษจากโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก

สี่คนลงมือพร้อมกันอย่างไม่ลังเล กลายเป็นสายรุ้งยาวสี่สายพุ่งไปยังนิ้วมือยักษ์ของซูหมิง

เสียงโครมดังสนั่น เกิดแรงปะทะรุนแรงกระจายออกไปโดยรอบโดยมีจุดที่พวกเขาปะทะกันเป็นใจกลาง ระลอกคลื่นแผ่ขยายออก มวลอากาศเกิดรอยแตกจำนวนมาก นิ้วนั้นของซูหมิงขยับวูบวาบติดกันหลายครั้งก่อนหายไปในสายตาของทุกคนช้าๆ

ทว่าราคาที่นิ้วแรกของซูหมิงหายไปคือยอดฝีมือสี่คนกระเด็นถอยไปพร้อมกัน ซ้ำยังกระอักเลือดไม่หยุด ยอดฝีมือขั้นกุมคนหนึ่งที่มีขั้นพลังอ่อนแอที่สุดในนั้น ร่างระเบิดเป็นเสี่ยงๆ วิญญาณสูญสลายไป!

ตายหนึ่งบาดเจ็บสาม นี่คือพลังน่าสะพรึงกลัวหลังซูหมิงใช้นิ้วแรกของขั้นกุม

“ไม่ยุติธรรม!” สามคนที่เหลือต่างถอยไปอย่างเร่งรีบ หนึ่งในนั้นผู้หน้าขาวซีดตะโกนด้วยความไม่ยอม พวกเขาทำอันตรายซูหมิงไม่ได้ เพราะมีพลังแห่งจักรวาลอยู่ ทว่าซูหมิง….กลับเมินเฉยต่อพลังแห่งจักรวาลได้ ใช้หนึ่งนิ้วสังหารไปหนึ่งและบาดเจ็บอีกสาม

นี่…..ไม่ยุติธรรมจริงๆ แต่สิ่งที่ตอบกลับเขาคือมังกรยมโลกร่างแปลงกระเรียนขนร่วงยักย้ายส่ายก้น ตอนที่มันหมุนตัวกลับมายักคิ้วหลิ่วตาให้เขายังด่าออกไปด้วยว่า

“ย่ากระเรียนเจ้าเถอะ…..” ขณะเอ่ยอยู่นี้ บางทีเมื่อครู่อาจเป็นเพราะมันส่ายก้นแรงไปหน่อย ตอนที่เพิ่งกล่าวประโยคนี้ออกไป ก้นมังกรยมโลกของมันที่หันออกไปข้างนอกจึงเกิดเสียงดังปู้ด…..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version