ตอนที่ 1193 เผ่ายมโลกใหญ่
ซูหมิงฟังคำพูดชายชราพลางมองร่างเงาสองพันกว่าคนนอกวิหารใหญ่สีทองบนฟ้า จิตใจสั่นสะเทือนเพราะรู้สึกถึงความอนาถาจากในคำพูดชายชรา เพียงแค่แถวล่างสุดก็มีตำแหน่งเทพบรรพชนแปดร้อยแปดสิบเอ็ดคนแล้ว ทว่าในนั้นอาจจะมีเพียง คนเดียวที่เหมาะกับสายเลือดเผ่านี้ในการเซ่นไหว้ยกระดับวิญญาณ นี่ต้องเสียสละ คนที่มีคุณสมบัติยกระดับวิญญาณ ใช้ความตายของพวกเขาปูเป็นเส้นทางในการยกระดับวิญญาณ!
แต่จะเห็นได้ชัดว่าเผ่าพันธุ์ต่างกัน ถึงจะเป็นของเว่ยเหมือนกัน แต่เผ่าหมานใหญ่ เผ่ายมโลกใหญ่และเผ่าวิญญาณสวรรค์ พวกเขาต้องหาเทพบรรพชนที่เหมาะสม จะหลอมรวมกับเผ่าพวกเขาในแถวล่างสุดให้พบ
เพราะการเลือกของทุกเผ่าต่างกัน และก็ไม่มีการร่วมมือกัน เลยทำให้เส้นทางยกระดับสู่บรรพชนนี้อาบไปด้วยโลหิต ต้องใช้ชีวิตเพื่อปูทางขึ้นมา
ทว่านี่เพียงแค่เริ่มต้น ต่อให้หาตำแหน่งเทพบรรพชนที่เหมาะจะหลอมรวมกับ เผ่าตนในชั้นล่างสุดพบ ก็ยังมีชั้นที่สองไปจนถึงชั้นสูงสุด เส้นทางนี้ คนที่ตายทั้งหมดล้วนเป็นผู้แข็งแกร่ง ล้วนเป็นคนที่มีสิทธิ์ยกระดับเป็นบรรพชน ขณะเดียวกันยังทำให้หนึ่งเผ่าค่อยๆ โรยรา จนกระทั่งหากยืนหยัดต่อไป สุดท้ายจะปรากฏ…เทพบรรพชนอย่างแท้จริง!
ทว่าในโลกนี้ต้องใช้เวลาหลายแสนปีถึงจะทำได้ อีกทั้งเวลาก็ไม่ได้ให้โอกาส แบบนี้กับทุกเผ่าพันธุ์ เมื่อยุคสมัยชนเผ่าล่มสลาย ทุกอย่างกลายเป็นความว่างเปล่า แม้แต่ลำดับและตัวเลขของเทพบรรพชนที่หลอมรวมกับสายเลือดทุกเผ่าอันล้ำค่าที่สุดส่วนใหญ่ยังถูกฝังอยู่ในกองฝุ่น
ซูหมิงมองเงาแผ่นหลังเผ่าหมานสูงใหญ่บนแท่นราบเงียบๆ อีกฝ่ายเงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้า เขาพุ่งทะยานขึ้นฟ้าไปยังร่างเงาเทพบรรพชนลำดับที่ห้าร้อยหกสิบเจ็ดในแถวล่างสุดของเก้าชั้นหากไม่นับร่างเงาสีทองเพียงหนึ่งเดียวบนสุด เมื่อเข้าไปสัมผัสเทพบรรพชนคนนี้ในพริบตาแล้ว ท่ามกลางเสียงตะโกนของชาวเผ่าหมาน นับไม่ถ้วนบนพื้นดิน ชั่ววูบเดียว…แผ่นดินเงียบสงัด
ซูหมิงเห็นกับตาว่าทันทีที่ชายร่างกำยำเผ่าหมานสัมผัสกับร่างเงาเทพบรรพชนลำดับที่ห้าร้อยหกสิบ เขาพลันตัวสั่น เหมือนว่าในร่างกายตอนนี้ปะทุความเจ็บปวดยากจะบรรยาย ขณะเดียวกันเขายกมือขวาขึ้นคว้าไปบนฟ้า ราวกับคว้าอะไรบางอย่างแล้วกดไปยังเทพบรรพชนที่เขาจะหลอมรวมด้วย
“หนึ่งการสร้างแห่งบรรพกาล!” คนที่กล่าวไม่ใช่ชายร่างกำยำคนนั้น เพราะร่างเขา สั่นสะท้านและกลายเป็นเถ้าธุลีหายไปแล้ว มีแสงสีแดงลอยมาจากในร่างที่กำลัง สลายไป ลอยอยู่บนฟ้าอย่างสับสน คลับคล้ายว่าอยากจะก้มหน้ามองชาวเผ่าบนพื้นเป็นครั้งสุดท้าย แต่เขาก็ทำไม่ได้…
ร่างเงาถูกแรงดูดรุนแรงม้วนเข้าไปในวิหารสยบวิญญาณข้างๆ ตอนที่เสียงร้องโหยหวนแหลมเล็กดังแว่วมา ทุกอย่างก็สงบลง
คนที่กล่าวประโยคนั้นคือ ชายชราข้างกายซูหมิง เขาพูดเสียงเบา ทำให้ซูหมิงที่เหม่อมองภูตผีร่างเงาสีแดงและถูกดูดไปเงียบ
ท้องฟ้ากลับมาดังเดิม วิหารสยบวิญญาณก็ดี วิหารเหล่าเทพก็ดี ทั้งหมดล้วนหายไปบนฟ้า มีเพียงชาวเผ่าหมานเหลือคณานับบนพื้นที่เงียบและเศร้าโศก
“หนึ่งการสร้างแห่งบรรพกาล นี่คือวิชาที่มีแต่เผ่าหมานใหญ่เท่านั้นถึงจะมี คนนอกยากจะเข้าใจ มันเป็นวิชาที่แกร่งที่สุดของเผ่าหมานใหญ่ที่มีเพียงชาวเผ่าหมานเท่านั้นถึงจะเข้าใจ
ต่อให้เป็นข้า ตอนนี้ผ่านการยกระดับวิญญาณมาแปดครั้งแล้ว หากเจอ ผู้แข็งแกร่งในระดับเดียวกันของเผ่าหมานใหญ่ใช้หนึ่งการสร้างแห่งบรรพกาล ข้าก็ยังต้องหลีกเลี่ยงชั่วคราว” เสียงชายชราดังก้อง กลายเป็นระลอกคลื่นไร้รูปม้วนตลบไปรอบๆ ส่งผลให้โลกนี้บิดเบี้ยว
จนกระทั่งภาพนี้หายไปตรงหน้าซูหมิง จนกระทั่งทุกอย่างรอบตัวกลับมาเป็นหมอกขาวอีกครั้งราวกับตื่นจากในกาลเวลาหนึ่งและก้าวมายังเวลาในปัจจุบัน ซูหมิงถอนหายใจเบา
“ต่อไปข้าจะพาเจ้าไปดูการยกระดับวิญญาณของเผ่ายมโลกใหญ่” ชายชราข้างกาย ซูหมิงกล่าวเรียบๆ หลังเงียบไปนาน เขาสะบัดแขนเสื้อ ความรู้สึกฟ้าดินย้อนกลับเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อทุกอย่างชัดเจน ซูหมิงไม่ได้อยู่บนแท่นราบก่อนหน้านี้แล้ว แต่มาอยู่กลางหมอกกว้างใหญ่
หมอกที่นี่หนายิ่งและวนเวียนไปรอบๆ ชายชราคนนั้นยกมือขวาโบกไป หมอกกระจายออกไปพร้อมกัน เผยเป็นหลุมลึกยักษ์ที่มองไม่เห็นขอบด้วยตาเนื้อ กลางหลุมลึกมีแท่นยกระดับวิญญาณหลายร้อยเป็นอย่างต่ำ พวกมันล้อมอยู่รอบๆ ในหลุมลึก ให้ความรู้สึกเหมือนจะพุ่งขึ้นฟ้า
“เผ่าหมานใหญ่คือ เผ่าที่ข้าค่อนข้างเคารพ ถึงชาวเผ่าจะไม่เป็นมิตร แต่พวกเขาตรงไปตรงมา พวกเขาไม่เกรงกลัวความตาย นี่คือสิ่งที่เผ่าอื่นไม่มี รวมถึงเผ่าวิญญาณสวรรค์ของข้าด้วย ในจุดนี้ยังสู้เผ่าหมานใหญ่ไม่ได้
แต่หากถามว่าทุกเผ่าภายใต้เว่ยรวมถึงเผ่าหมานใหญ่ เผ่าใดที่ข้าเคารพที่สุด กระทั่ง…เกิดความริษยาเล็กน้อยก็คงมีเพียงเผ่าเดียว นั่นคือเผ่ายมโลกใหญ่!” ชายชรายืนอยู่บนหนึ่งในแท่นราบหลายร้อย สายตามองไปรอบๆ พลางพูดเสียงเบา
“ที่นี่คือที่ตั้งเผ่าที่เพิ่มมาของเผ่ายมโลกใหญ่ ตอนนั้นที่นี่เป็นทะเลกว้างใหญ่ ทะเลนั้นถูกเรียกว่า ทะเลยมโลก และก็เป็นแดนต้องห้ามในเว่ย!
เผ่ายมโลกใหญ่มีพรสวรรค์เชี่ยวชาญพลังในการย้อนเวลา ชำนาญในการยึดร่างทุกสิ่ง ผู้แข็งแกร่งเผ่านี้ยังสร้างยมโลกของตัวเองได้ด้วย…นอกจากพรสวรรค์สามอย่างนี้แล้ว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเผ่ายมโลกใหญ่คือ…วิญญาณไม่ดับสูญ!
วิญญาณไม่ดับสูญ นี่คือพลังสูงสุดสำหรับคนที่เปิดพรสวรรค์สามอย่างของ เผ่ายมโลกใหญ่จะตระหนักรู้ได้ หากตระหนักรู้สำเร็จ วิญญาณจะแทบไม่มีวัน สูญสลาย ไม่ว่าผ่านวัฏจักรมากี่ครั้งก็ยังคงอยู่ จุดนี้ทำให้คนริษยาและจำใจยอมรับ” ตอนที่ชายชราถอนหายใจ เขายกมือขวาโบกไป ฉับพลันนั้นฟ้าดินเกิดเสียงครึกโครม ท้องฟ้าแตกออก เศษนับไม่ถ้วนถาโถมเข้ามารวมกัน ก่อนมีระลอกคลื่นแผ่ขยายออกไปรอบๆ
การแผ่ขยายระลอกคลื่นทำให้โลกนี้เปลี่ยนไป มันเหมือนกับภาพหนึ่งที่สลัด ฝุ่นออก เผยเป็นสีสันออกมา เมื่อระลอกคลื่นขยายออกไปแล้ว ซูหมิงเห็น… โลกของเผ่ายมโลกใหญ่
นั่นคือทะเลสีดำ น้ำทะเลม้วนฟองคลื่นหมุนม้วนไป ภายในทะเลมีแท่นหินที่เหมือนจะเชื่อมกับฟ้าตั้งตระหง่านอยู่รอบๆ หลายร้อย บนแท่นหินตอนนี้ส่วนใหญ่ มีร่างเงานั่งอยู่
ร่างเงาเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน ทุกคนสวมเสื้อคลุมยาวสีดำ ในสีดำเหมือนมีคล้ายๆ เงาภูตผีสีเทา พวกเขานั่งฌานเงียบๆ อยู่ตรงนั้น บนทะเลรอบๆ มองไกลออกไปมีร่างเงานั่งฌานอยู่นับไม่ถ้วน ต่างนั่งล้อมอยู่บนแท่นหิน ไม่มีใครส่งเสียงใดๆ
นอกจากเสียงทะเลแล้ว ที่นี่เงียบสงบ
“เผ่ายมโลกใหญ่เป็นเผ่าที่เงียบสงบมาก แต่ก็เป็นเผ่าที่น่ากลัวยิ่ง หากพูดถึงกำลังรบ บางทีพวกเขาอาจจะไม่ชำนาญในสงครามเท่าชาวเผ่าวิญญาณสวรรค์ข้า แต่คน เผ่ายมโลกใหญ่มีทักษะในการมีชีวิตที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
กระทั่งตอนนั้นมีข้อวิจารณ์กันว่าหากเคราะห์ภัยมาเยือน บางทีเผ่าอื่นอาจสูญสิ้นไป แต่เผ่ายมโลกคงไม่สิ้นไปทั้งหมด นี่คือเผ่าที่ต่อให้เหลือชาวเผ่าคนสุดท้ายก็ยังผงาดขึ้นมาใหม่ได้” ชายชรามองทะเลสีดำพร้อมกล่าวช้าๆ
ซูหมิงเงียบ เขามองชาวเผ่ายมโลกใหญ่และพบความรู้สึกคุ้นเคยอีกแบบหนึ่ง จากตัวพวกเขา นั่นคือความรู้สึกของวิญญาณซึ่งต่างกับเผ่าหมาน
“ยกระดับวิญญาณ!” ตอนที่ซูหมิงมองไป เสียงราบเรียบดังแว่วมาจากแท่นราบเหล่านั้นบนทะเล คนเกือบร้อยบนแท่นราบหลายร้อยยกระดับวิญญาณขึ้นพร้อมกัน!
“นี่ก็เป็นสิ่งที่เผ่าอื่นทำไม่ได้เช่นกัน เพราะมีพลังเปลี่ยนเวลา เพราะมีร่างแยก ดังนั้นตอนที่เผ่ายมโลกใหญ่ยกระดับวิญญาณจึงมีข้อได้เปรียบมาก พวกเขายกระดับวิญญาณพร้อมกันได้หลายคน ดังนั้นจึงหาลำดับที่ซ่อนอยู่ในตำแหน่งเทพบรรพชนง่ายขึ้น” เมื่อเสียงชายชราข้างกายซูหมิงดังก้อง พลันปรากฏวิหารเหล่าเทพบนฟ้าทันที แสงทองสว่างจ้าหมื่นจั้ง ก่อนเผยร่างเงาสองพันกว่าคนขึ้น
ต่อมามีคนเกือบร้อยบินขึ้นจากบนแท่นราบพร้อมกัน พุ่งไปยังตำแหน่งเทพบรรพชน ซูหมิงมองตาไม่กะพริบ เขาเห็นว่าชาวเผ่ายมโลกใหญ่แต่ละคนกลายเป็นร่างเงาสีแดง มองฟ้าอย่างสับสน จนกระทั่งในคนเกือบร้อยมีคนหนึ่งเปล่งแสงทองสว่างจ้าไป หมื่นจั้ง เขา…หลอมรวมกับเทพบรรพชนเสร็จแล้วก็เงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า
เสียงคำรามดังสนั่นมาพร้อมกับกลิ่นอายพลังที่ยากจะบรรยาย นั่นไม่ใช่กลิ่นอายพลังของผู้ฝึกฌาน แต่เป็นของบรรพชนวิญญาณ!
คลื่นทะเลส่งเสียงดัง ม้วนตลบเป็นคลื่นลูกใหญ่ขึ้นฟ้า หมุนวนไปรอบๆ ชาวเผ่ายมโลกใหญ่ต่างดวงตาเปล่งประกาย พวกเขามองผู้สำเร็จเพียงหนึ่งเดียวใน ผู้ล้มเหลวเกือบร้อยคนบนฟ้า ก่อนค่อยๆ ยืนขึ้นคารวะพร้อมกัน
“ด้วยพรสวรรค์ของเผ่ายมโลกใหญ่ เดิมทีน่าจะมีผู้ยกระดับวิญญาณครบเก้าครั้งเร็วที่สุดในทุกเผ่าของพวกเรา ทว่ามหันตภัยครั้งใหญ่ไม่ให้โอกาสนี้กับพวกเขาและพวกเรา…” ชายชราถอนหายใจเบา เขายกมือขวาขึ้นคว้าอากาศ ภาพตรงหน้า ซูหมิงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จนค่อยๆ กลับมายังโลกหมอกเดิม
“ด้วยพลังของข้ายังอำพรางดวงจิตแห่งสามรกร้างได้อีกครั้ง นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ข้าจะดึงความทรงจำส่วนหนึ่งให้เจ้าลอกแบบ ครั้งนี้ข้าจะให้โอกาสเจ้าเลือก
เจ้าจะเลือกแท่นยกระดับวิญญาณของเผ่าหมานใหญ่ ยมโลกใหญ่หรือว่า เผ่าวิญญาณสวรรค์ของข้าในการยกระดับวิญญาณ!” ชายชรามองซูหมิงแวบหนึ่ง ก่อนยกมือขวาโบกไป ฟ้าดินเกิดเสียงดังสนั่น โลกประหนึ่งหดเล็กลง ตอนที่ตรงหน้า ซูหมิงกลับมาชัดเจนอีกครั้ง เขากลับไปยังนอกถ้ำนั้นที่ชายชราอยู่ก่อนหน้านี้ เห็นยอดเขาสีขาวตระหง่านอยู่กลางหมอก
อีกทั้งยังเห็นว่าตรงปลายยอดเขาปรากฏแท่นหินขึ้นอันหนึ่งเมื่อใดไม่ทราบ ตอนนี้มีระลอกคลื่นแผ่มาจากแท่นหินปกคลุมไปรอบๆ เห็นได้รางๆ ว่าบนแท่นหิน มีชายชรานั่งขัดสมาธิอยู่คนหนึ่ง
“ไม่ต้องดูแล้ว” ซูหมิงพลันกล่าวขึ้น
“ข้าไม่ใช่ชาวเผ่าวิญญาณสวรรค์ ดูไปก็ไม่มีประโยชน์ ผู้อาวุโสเก็บพลังไว้เถอะ ไม่ต้องสิ้นเปลือง” นัยน์ตาซูหมิงฉายแววเด็ดขาด เรื่องนี้ยิ่งดูมากก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีประโยชน์มาก แต่ภาพที่หากล้มเหลวจะกลายเป็นร่างเงาสีแดงนั้น หากดูมากๆ แล้ว ความมั่นใจในตัวเองจะถูกรบกวน
ชายชราหยุดมือขวาที่ยกขึ้น ดวงตามองซูหมิงด้วยประกายวาวประหลาดใจ
“เช่นนั้นเผ่ายมโลกใหญ่กับหมานใหญ่ เจ้าจะเลือกแท่นยกระดับวิญญาณของเผ่าใด?”
“ข้าเลือกของเผ่าหมานใหญ่!” ซูหมิงตอบกลับอย่างเด็ดขาด!