Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1203

ตอนที่ 1203 ความคิดของซูหมิง

ช่วงที่วิญญาณเหล่านี้คารวะพร้อมกัน ซูหมิงยกมือขวาขึ้น เขาเพ่งมองมือตัวเอง หลังเงียบอยู่ชั่วครู่แล้วก็วาดออกเป็นเส้นวงโคจรหนึ่งตรงหน้าช้าๆ

เขาวาดช้ามาก เส้นวงโคจรที่เหมือนธรรมดานี้มีจุดเริ่มต้นคือภูเขาทมิฬ เผ่าหมานในความทรงจำ ระหว่างทางคือความขรุขระในชีวิต จุดสุดท้ายคือชายชราบนแท่นบวงสรวงคนนั้นที่ลอยอยู่ในความคิดตอนพึมพำเมื่อครู่

ระหว่างทางคือหนึ่งชีวิตของเขา กล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งชีวิตของเทพหมานในรุ่นนี้

“ใช้ความคิดแห่งเทพหมานแปรเปลี่ยนเป็นความปรารถนาให้เผ่าหมานผงาดขึ้น สร้างเผ่าหมานใหม่ขึ้นมา นี่…คือหนึ่งการสร้างรกร้างบรรพกาลของข้า!” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับวาดลง ฉับพลันนั้นวิญญาณร้อยล้านดวงรอบๆ ต่างตัวสั่นพร้อมกัน ยามที่ทุกดวงเงยหน้าขึ้นก็กลายเป็นสายลมเย็นลากยาวเข้ามารวมที่ซูหมิงจากรอบๆ ทั้งหมด หล่อหลอมเข้าไปในวงโคจรลายเส้นนั้นตรงหน้าเขา เปลี่ยนจากมายาให้กลายเป็นจริง กลายเป็นลายเส้นที่

ดูเหมือนง่าย แต่ในลายเส้นนั้นกลับแฝงไว้ด้วยวิญญาณเผ่าหมานร้อยล้านดวง และยังมีการไหลเวียนเวลาของเผ่าหมานใหญ่ นั่นคือจุดที่ตัดสลับกันระหว่างอดีตกับปัจจุบัน

“นี่คือเปลี่ยนเทพหมานรูปแบบแรกของข้า อภินิหารระดับสูงหมานสังหาร มันยังไม่ถึงระดับรกร้างสร้างบรรพกาล แต่ใช้หมื่นสร้างบรรพกาลได้” ซูหมิงพึมพำ วงโคจรที่วาดด้วยมือขวากดลงไปตรงหน้า ฟ้าดินเกิดเสียงดังสนั่น ท้องฟ้าบิดเบี้ยว พลังน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาอย่างชัดเจน เขาพลันกำหมัดขวากักทุกอย่างเอาไว้ใน ฝ่ามือ

เขารู้สึกว่าเปลี่ยนเทพหมานรูปแบบแรกที่สมบูรณ์หลังตนตระหนักรู้นี้ หากใช้อย่างสุดกำลัง จะเปลี่ยนฟ้าที่เขาอยู่ตอนนี้กลายเป็นยุคสมัยโบราณ พลังของ หมื่นสร้างบรรพกาลจะวิญญาณเผ่าหมานใหญ่ร้อยล้านดวงให้พวกมันโจมตีพร้อมกัน ใช้อภินิหารที่แกร่งที่สุดของเผ่าหมานใหญ่ออกไปพร้อมกัน

‘เปลี่ยนท้องนภาเป็นเผ่าหมานใหญ่ กาลเวลาซ้อนทับ เปลี่ยนปัจจุบันให้เป็นบรรพกาล วิญญาณร้อยล้านดวงรวมด้วยกัน หมื่นสร้างบรรพกาล…’ ชายชรา เผ่าวิญญาณสวรรค์ที่อยู่ไกลออกไปจับจ้องทั้งขั้นตอนนี้ แม้เขาจะมองไม่เห็นโลกที่ ซูหมิงมอง

เห็น แต่ด้วยคุณสมบัติของการยกระดับวิญญาณแปดครั้ง จึงมองเห็นเงื่อนงำจากร่องรอยเล็กน้อยเหล่านี้

ตอนนี้เขาหรี่ตาลง สายตาที่มองซูหมิงมีความจริงจังเพิ่มมา หมื่นสร้างบรรพกาลของซูหมิงคืออภินิหารที่ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย ถึงตอนนี้อภินิหารจะไม่มีอำนาจคุกคามต่อเขาแล้วก็ตาม แต่หากภายภาคหน้าซูหมิงยกระดับวิญญาณอีกสองสามครั้ง ระดับความแกร่งจะมากพอที่จะเชิดหน้าอย่างทะนงต่อฟ้า

‘หากเขายกระดับวิญญาณได้ห้าครั้งก็จะได้รับโชควาสนาที่ใหญ่ยิ่งกว่าของครั้งที่ห้า เช่นนั้นเขาจะมีโอกาสสูงมากที่จะเป็นหมายเลขหนึ่งของคนที่ต่ำกว่าเทพบรรพชนในยุคสมัยนี้!’ ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์มองซูหมิงแวบหนึ่ง

ซูหมิงก้มหน้ามองมือขวาตัวเอง ก่อนคลายออกช้าๆ ดวงตาเป็นประกายคมกริบ

‘รูปแบบที่สองของเปลี่ยนเทพหมานตั้งนามโดยศิษย์พี่รอง นั่นคือภูตพริบตา เป็นความเร็วสูงยิ่งที่ข้าเคยใช้บ่อยในอดีต แต่พอพลังสูงขึ้น ความเร็วในรูปแบบที่สองนี้ก็ช่วยอะไรข้าไม่ได้มากแล้ว…

ตอนนี้รูปแบบแรกบรรลุถึงระดับสูงแล้ว รูปแบบที่สองก็จะต้องสมบบูรณ์เช่นกัน’ ซูหมิงทำสัญลักษณ์มือขวาชี้ไปยังมวลอากาศข้างหน้า ทันใดนั้นปรากฏภาพประหลาดขึ้น ฝ่ามือเขาเกิดเศษเงานับไม่ถ้วนขึ้นติดกัน และที่ประหลาดไปกว่านั้นคือเศษเงาเหล่านี้ไม่ได้หายไป ทั้งหมดยังคงอยู่ ประหนึ่งซูหมิงมีมือขวาเพิ่มมานับไม่ถ้วน

‘ร่างเงาที่ข้ามผ่านโลกในอดีตกับปัจจุบันไม่ถูกจำกัดด้วยวิชาเคลื่อนย้ายพริบตาใดๆ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงของมิติ แต่เป็นการเดินไปตามเวลา เพราะเลือนราง เพราะประหลาด เพราะยากจะถูกจำกัดด้วยวงแหวนอาคมหรือผนึก ดังนั้น…ถึงถูกเรียกว่าภูตพริบตา!’ ซูหมิงเดินหน้าไป ชั่วพริบตาเดียวร่างเขาหายวับไป มาปรากฏอีกทีห่างไปหลายสิบจั้ง ภาพนี้เหมือนปกติ คล้ายว่าผู้ฝึกฌานที่มีความสามารถเล็กน้อย ก็ทำได้เช่นกัน

แต่ความจริงคือซูหมิงไม่ได้ใช้เคลื่อนย้ายพริบตา และก็ไม่ใช้ความเร็วสูงยิ่ง แต่เสี้ยวพริบตาเมื่อครู่นี้เขาอาศัยพลังของบรรพชนวิญญาณ ใช้ความปรารถนาตนเป็นหลัก เปลี่ยนฟ้าให้เป็นการตระหนักรู้ของเผ่าหมานใหญ่ ข้ามผ่านอยู่ กลางกาลเวลา นี่คือการเคลื่อนย้ายของเวลา เป็นวิชาที่เหนือกว่าเคลื่อนย้ายพริบตาและเคลื่อนย้ายปกติไปอีกขั้นหนึ่ง

เคลื่อนย้ายและเคลื่อนย้ายพริบตาปกติจะตามหาวงโคจร แต่ภูตพริบตาของ ซูหมิงเป็นดั่งนามนี้ สามารถหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ด้วยวิชาภูตพริบตานี้ แม้เขาจะเจอกับคนที่แกร่งกว่าก็ยังหนีไปได้ตามใจนึก

“ด้วยวิชานี้ จะทำให้อภินิหารข้าไปได้เร็วกว่าคนอื่นหนึ่งก้าว” ซูหมิงพูดกับตัวเองเบาๆ เขาหลับตาลงช้าๆ นี่เพียงสองรูปแบบแรกสมบูรณ์เท่านั้น เขายังไม่หยุด เขาจะสร้างรูปแบบที่สามของเปลี่ยนเทพหมาน สร้างวิชาที่แกร่งยิ่งกว่าอีกชนิดหนึ่ง หลังจากรวมกับพลังของบรรพชนวิญญาณแล้วก็จะใช้พลังที่แกร่งที่สุดในตอนนี้ออกมาได้

‘รูปแบบที่สามนี้มีนามว่า…เปลี่ยนเทพหมาน!’ ซูหมิงพลันลืมตาขึ้น ตอนที่ยก มือขวาตามไป ดวงตาเผยแสงหม่น

เมื่อแสงหม่นปรากฏ พลันปรากฏวิญญาณจำนวนมากขึ้นบนมือขวาเขา วิญญาณเหล่านี้ล้อมมือขวา มีอยู่ราวๆ สิบห้าล้านดวง ทุกดวงล้วนเป็นบรรพบุรุษของ เผ่าหมานใหญ่ พวกเขา

คำรามอย่างเงียบๆ ภายใต้ดวงจิตเทพหมานของซูหมิง ชั่ววูบเดียวพวกเขาต่างมุดเข้าไปในมือขวาซูหมิง ขณะเดียวกับที่ความเจ็บปวดถูกฉีกส่งมา มือขวาซูหมิงขยายใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน ความรู้สึกถึงพลังแก่กล้าหลั่งไหลเข้าไปในจิตใจ

ต่อมาเขายกมือซ้ายขึ้นและก็มีวิญญาณเผ่าหมานสิบห้าล้านดวงโผล่มาเช่นกัน ภายใต้การหลอมรวมเข้าไปพร้อมกัน ซูหมิงกระโดดลอยขึ้นพร้อมรับความเจ็บปวด ก่อนเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้าอยู่กลางอากาศ ฉับพลันนั้นรอบขาสองข้างมีวิญญาณ เผ่าหมานโผล่มาอีกสามสิบล้านดวง แต่ละดวงต่างมุดเข้าไปในสองขาอย่างรวดเร็วด้วยความจริงใจแต่ฮึกเหิม และยังมีความเคารพกับเฝ้าปรารถนา

จากนั้นมวลอากาศรอบตัวซูหมิงบิดเบี้ยว ในความเลือนรางปรากฏวิญญาณอีก สี่สิบล้านดวงขึ้น พวกมันพุ่งมายังร่างซูหมิงและหล่อหลอมเข้าไปทีละดวง ทันทีที่ ร่างเขาแบกรับวิญญาณร้อยล้านดวง ร่างกายจึงเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นพร้อมกับเกิดการเปลี่ยนแปลง

ร่างกายเขาสูงขึ้นจนหลายสิบจั้ง ยืนอยู่บนฟ้าประหนึ่งภูเขาเล็ก ร่างกายอัดแน่นไปด้วยพลังน่าสะพรึงยากจะบรรยาย ซ้ำยังแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายพลังของบรรพชนวิญญาณ เมื่อหลอมรวม

กับร่างเผ่าหมานของเขาแล้วทำให้ฟ้าดินสั่นไหว ท้องนภาถอดสี จากนั้นเขาเงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้าอีกครั้ง

เสียงตะโกนครั้งนี้ราวกับแทนที่กฏฟ้าและกลายเป็นเจตนารมณ์แห่งสวรรค์ ส่งผลให้พลังเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วขณะใช้เปลี่ยนเทพหมาน พลังเขาข้ามผ่านขั้นดับ จนบรรลุถึงขั้นที่แม้จะไม่ใช่ขั้นไม่อาจกล่าว แต่กลับแกร่งกว่าขั้นดับมาก ทว่าขณะเดียวกันก็ยืนหยัดใช้เปลี่ยนเทพหมานได้ไม่นานนัก นานเท่าไรนั้น เขาเองก็เลือนรางเล็กน้อย จึงพลันก้มหน้าลงมองชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ที่ อยู่ไกลๆ แวบหนึ่ง

ชายชราก็มองซูหมิงที่มองตนเช่นกัน ดวงตาเขาขยับประกายวาว ตอนที่สบตาซูหมิง เขาเห็นความมุ่งมั่นในการต่อสู้ในดวงตาอีกฝ่ายจึงยิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้าให้ ก่อนยกเท้าขวาเดินมวลอากาศไปหนึ่งก้าว ฟ้าดินพลันเกิดเสียงดังครึกโครม ซูหมิงเองก็ขยับไหวตัวใช้ภูตพริบตาในสภาวะเปลี่ยนเทพหมาน

ภูตพริบตาคือสภาวะที่คล้ายกับเคลื่อนย้ายพริบตาแต่ไม่ใช่อย่างสิ้นเชิง เขาไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าชายชราอย่างเงียบเชียบและไม่เกิดระลอกคลื่นใดๆ ก่อนยกหมัดขวาชกใส่ชายชรา

นัยน์ตาชายชราเป็นสมาธิ เขากางฝ่ามือขวาออกแล้วทำสัญลักษณ์มือชี้ไปยังหมัดซูหมิง ทันใดนั้นเกิดเสียงระเบิดพร้อมกับมวลอากาศถูกฉีกออก ระหว่างสองคนเกิดรอยแยกอากาศยักษ์หนึ่งเส้น ชายชราหยุดชะงัก ไม่ถอย ซ้ำยังมีสีหน้ายินดี

“สมกับเป็นเผ่าหมานใหญ่แห่งเว่ยของเราที่ในด้านพละกำลังต่อต้านกับเผ่าเทพแคว้นสู่ได้จริงๆ !”

ซูหมิงถอยไปต่อเนื่องกันหกก้าวแล้วถึงเงยหน้าขึ้น ก่อนพุ่งไปอีกครั้ง ครั้งนี้ก็ใช้ความเร็วของภูตพริบตา

ท้องฟ้าระหว่างสองคนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ราวเจ็ดลมหายใจต่อมา ท่ามกลางเสียงกึกก้องที่สุดเป็นครั้งแรก จังหวะที่ซูหมิงถอยไป เขายกมือขวาวาดไปทางชายชราคนนั้น เพียงวาดไปผืนฟ้าบิดเบี้ยวกลายเป็นฟ้ายุคโบราณ แผ่นดินแยกออกกลายเป็นเผ่าหมาน วิญญาณแห่งเผ่าหมานนับไม่ถ้วนขยายออกจากในตัวซูหมิง อย่างเร็วไว ต่างหลอมรวมเข้าไปกลางลายเส้นนั้น กลายเป็น…หมื่นสร้างบรรพกาล

ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์หรี่ตาลง ในใจสั่นสะท้าน ตอนนี้ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะรู้สึกถึงอันตรายเสี้ยวหนึ่งจากในวิชาหมื่นสร้างบรรพกาลในเปลี่ยนเทพหมาน ของซูหมิง

แม้อันตรายจะมีเพียงเสี้ยวเดียว แต่เขาเป็นคนที่ยกระดับวิญญาณสำเร็จแปดครั้ง อีกทั้งยังเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุคที่คล้ายกับขั้นไม่อาจกล่าว ถึงก่อนหน้านี้เขาจะไม่ได้ลงมืออย่างสุดกำลังกับซูหมิง ทว่ายามนี้ทำให้เขารู้สึกถึงเสี้ยวอันตรายได้ นี่มากพอจะอธิบายได้ถึงความแกร่งของซูหมิงตอนนี้

เห็นหมื่นสร้างบรรพกาลของซูหมิงตรงเข้ามา ภายในลายเส้นไม่เพียงแฝงไว้ด้วยวิญญาณเผ่าหมานร้อยล้านดวง แต่ยังสูบโลกนี้เข้ามาด้วย ประหนึ่งว่าลายเส้นนี้กลายเป็นหลุมดำที่กินทุกอย่างได้

โดยเฉพาะในหลุมดำนั้นแฝงไว้ด้วยดวงจิตของซูหมิง นั่นคือดวงจิตที่เทียบได้กับดวงจิตฟ้าดินจากการที่เขากลายเป็นบรรพชนวิญญาณ ตอนที่ดวงจิตมาเยือนก็พุ่งเข้าไปหาชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ในทันใด

ดวงตาชายชราเผ่าวิญญาณขยับวาววับ ขณะกำลังจะกระทำบางอย่าง เขาหน้าเปลี่ยนสีไป เพราะหมื่นสร้างบรรพกาลที่เขาเคยเห็นในอดีต กระทั่งหมื่นสร้างบรรพกาลที่แกร่งกว่าซูหมิงตอนนี้ก็ยังเคยเห็นมาแล้ว ทว่าของซูหมิงตอนนี้กลับมีความแปลกอยู่เล็กน้อย เขารู้สึกว่าโลกที่ตนอยู่รวมถึงตัวเองกลายเป็นภาพวาดถูกหยุดนิ่ง ลายเส้นนั้นที่วาดมา หากวาดลงบนภาพนี้ จะทำให้ภาพนี้แตกออกทั้งหมด

เห็นลายเส้นหมานสังหารจะวาดลงมา ชายชราวิญญาณสวรรค์หลับตาลงทว่าก็ลืมตาขึ้นในพริบตาเดียว ในดวงตาทุกดวงปรากฏลูกตาดำสามลูก ส่วนมือขวายกขึ้นเพียงแค่ชี้ไปข้างหน้าแบบสบายๆ ก่อนปะทะกับวิชาหมานสังหารของซูหมิง เกิดเสียงดังกึกก้อง หมอกฝุ่นคละคลุ้ง ชายชรายืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิม สายตามองซูหมิงที่ตอนนี้เดินออกมาจากหมอกช้าๆ และฟื้นกลับมาสภาพเดิมจากเปลี่ยนเทพหมานแล้ว

“ก่อนหน้านี้ตอนสัตว์รกร้าง ผู้อาวุโสดูแลผู้เยาว์ไว้มากจริงๆ เลยทำให้สัตว์รกร้างนั้นกลายเป็นภัยพิบัติรกร้าง” ซูหมิงเดินออกมาจากในหมอก สายตามองชายชราพลางกล่าวด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version