Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1225

ตอนที่ 1225 ยึดครองดาราสัจธรรม 3

การแย่งชิงของสามจิตสำนึก หนึ่งคือดวงจิตของโลกดาราสัจธรรม กำลังต่อสู้ดิ้นรนอย่างดุเดือด มันไม่มีทางยอมถูกยึดครองแน่ หากถูกยึดครอง ทุกอย่างของมันจะถูกลบหายไป การต่อสู้ดิ้นรนนี้คือสัญชาตญาณชีวิต

อีกสองดวงจิตคือซูเซวียนอีกับซูหมิง สองคนนี้ฝั่งหนึ่งระวังกันและกัน อีกฝั่งหนึ่งใกล้จยึดครองโลกดาราสัจธรรมได้แล้ว เมื่อเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องโลกดาราสัจธรรม การต่อสู้ของสามฝ่ายก็เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด

ซูหมิงแผ่ขยายวิญญาณและจิตสำนึกไปไม่หยุด ชั่วพริบตาเดียวก็ปกคลุมพื้นที่ทั่วโลกดาราสัจธรรมไปหนึ่งส่วนและยังขยายต่อไปเรื่อยๆ เพราะมีความคิดแห่งยมโลกอยู่ ดังนั้นวิญญาณซูหมิงจึงขยายออกไปเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ทางด้านซูเซวียนอี หลังปะทะกับวิญญาณซูหมิงเป็นครั้งแรกและถอยไปแล้วไปก็ไม่ยอมปะทะกับซูหมิงอีก แต่ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการยึดครองโลกดาราสัจธรรม สำหรับเขาแล้ว ความล้ำค่าของเวลาคือสิ่งสำคัญไปสู่ความสำเร็จ

เวลาผ่านไปช้าๆ พริบตาเดียวเจ็ดวัน เจ็ดวันนี้สำหรับคนอื่นแล้วอาจจะชั่ววูบเดียว แต่สำหรับซูหมิงกับซูเซวียนอีแล้วกลับเหมือนผ่านไปหลายปี

จิตสำนึกขยายไป ความรู้สึกเหมือนกลายเป็นดาราสัจธรรมลอยขึ้นมาในใจซูหมิงกับซูเซวียนอี ความรู้สึกนี้เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ตามการยึดครองของพวกเขา ความรู้สึกที่ดวงจิตตนแกร่งขึ้นทำให้ซูหมิงสัมผัสได้ถึงเส้นทางที่ต้องเดินอย่างแน่นอนและความรุ่งเรืองในภายภาคหน้า

วันที่แปดมาถึง วิญญาณซูหมิงยึดครองพื้นที่โลกดาราสัจธรรมไปเกือบสามส่วน ยิ่งเดินเข้าไปลึกยิ่งยาก การต่อต้านจากดวงจิตดาราสัจธรรมทำให้วิญญาณเขาเกิดระลอกคลื่นจำนวนมาก หากไม่ใช่เพราะเขาเป็นบรรพชนวิญญาณ เกรงว่าคงถูกระลอกคลื่นทำลายดวงจิตไปแล้ว กลายเป็นคนกึ่งเป็นตายที่ไม่มีวิญญาณ

ยามนี้ดวงจิตบรรพชนวิญญาณมีส่วนช่วยซูหมิงอย่างยิ่ง ส่งผลให้วิญญาณไม่สลายไป แม้ดวงจิตดาราสัจธรรมจะแกร่งเพียงใด แต่วิญญาณซูหมิงก็ยังขยายต่อไปได้

เมื่อเกิดการยึดครองและควบคุม การตระหนักรู้ลอยขึ้นมาในใจเขาไม่หยุด เขารู้สึกชัดว่าระดับชีวิตตนกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้วิญญาณเขาใหญ่ขึ้น พื้นที่ที่วิญญาณเขาปกคลุมอยู่ตอนนี้เต็มไปด้วยดวงจิตเขา กลายเป็นเจตนารมณ์สวรรค์ซึ่งอยู่สูงส่งยิ่ง เพียงแค่หนึ่งความคิดก็ตัดสินความเป็นตายของโลกนี้ได้

แต่ขณะเดียวกัน ภายใต้การยึดครองอย่างต่อเนื่องของซูหมิง ทางด้านซูเซวียนอีก็ไม่ช้าเลย ถึงอย่างไรเขาก็เตรียมการมาหลายปี ในเจ็ดวันนี้ตะเกียงน้ำมันมอดดับไปสิบกว่าอัน ตอนนี้เหลือสี่สิบเอ็ดอัน พื้นที่ยึดครองก็สามส่วนเช่นเดียวกัน

ถึงตอนนี้สามดวงจิตที่อัดแน่นอยู่ในโลกดาราสัจธรรมเกิดเหตุการณ์ต่างไม่ยอมกัน ซูหมิงยากจะขยายไปต่อ เพราะตอนนี้ดวงจิตดาราสัจธรรมมาถึงจุดคลุ้มคลั่งมากแล้ว พอเข้าไปใกล้แค่เล็กน้อยซูหมิงรู้สึกเหมือนวิญญาณตนจะถูกฉีกทันที

ซูเซวียนอีก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน แต่เหตุการณ์ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันนี้เกิดขึ้นไม่นาน ในใจซูเซวียนอีร้อนรน ตะเกียงน้ำมันเขาดับไปอีกสามอันแล้ว เหลือเพียงสามสิบแปดอัน

เขารู้ว่าเวลาตนน้อยลงไปทุกที ตอนนี้ไม่สนใจอะไรแล้ว ในใจเต็มไปด้วยความแค้นต่อซูหมิง

“ลูกทรพี!” ชั่วพริบตาที่ดวงจิตซูเซวียนอีตะโกนออกไป ตะเกียงน้ำมันติดไฟสามสิบแปดอันในโลกจักรพรรดิยมโลกสั่นไหวพร้อมกันเหมือนมีลมพัดผ่าน ฉับพลันนั้นมีตะเกียงหกอันมอดดับ แต่การมอดดับของพวกมันแลกมาซึ่งแสงสว่างจากตะเกียงสามสิบสามอันที่มากขึ้นหลายเท่า

ขณะเดียวกันในโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก ผู้ฝึกฌานมากกว่าสิบล้านคนที่นั่งฌานอยู่บนดาวมากกว่าสามร้อยดวงต่างกระอักเลือดพร้อมกัน ร่างกายพลันแห้งเหี่ยวลง พลังชีวิตพวกเขาเหมือนถูกสูบไปมากกว่าครึ่ง กลายเป็นสารอาหารบำรุงให้ตะเกียงส่องแสงสว่าง

ด้วยการเพิ่มขึ้นของแสงตะเกียง ทำให้จิตสำนึกซูเซวียนอีขยายใหญ่ขึ้น ตอนที่โลกดาราสัจธรรมเกิดเสียงดังสนั่น พื้นที่ที่ซูเซวียนอียึดครองขยับแสงสายฟ้าไม่มีที่สิ้นสุด ในวิญญาณเขาเหมือนมีแสงสายฟ้าไหลเวียน และยังมีแสงสว่างจ้าละลานตา ส่งผลให้ฟ้ากระจ่างดาวที่ยึดครองไม่ใช่สีดำมืดอีก แต่เป็นลักษณะกลางวัน

ขณะเดียวกันยังมีแสงเพลิงสว่างอยู่กลางวิญญาณ คนนอกมองเห็นภาพนี้ แต่สิ่งที่คนนอกมองไม่เห็นคือตอนนี้วิญญาณซูเซวียนอีเหมือนกลายเป็นตะเกียงน้ำมันใหญ่หนึ่งอัน เมื่อแสงเพลิงสว่างวูบวาบ ชั่วพริบตาเดียวก็ทำให้พื้นที่ที่วิญญาณเขายึดครองเพิ่มมากขึ้นไม่น้อย จากสามส่วนก่อนหน้านี้เพิ่มมาเป็นมากกว่าสี่ส่วน ชิงหนึ่งส่วนจากดวงจิตดาราสัจธรรมไปได้

นี่คือไพ่ตายที่ซูเซวียนอีเตรียมการเอาไว้!

“อยากให้ข้าลงมือหรือไม่?” ซูหมิงมองภาพนี้อย่างเย็นชาพลางมีเสียงชายชราวิญญาณสวรรค์ดังก้องในใจ

“อย่าเพิ่งก่อน”

“อ้อ? หากเจ้าไม่ขวางชาวเผ่ายมโลกใหญ่ที่เหมือนกับเจ้าคนนี้ โลกดาราสัจธรรมจะไม่ใช่ของเจ้า” ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์มีน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงไว้ด้วยความประหลาดใจเสี้ยวหนึ่ง

“แม้ดวงจิตดาราสัจธรรมจะอ่อนแอถึงขีดสุด แต่ว่านอกจากจะมีคนยึดครองมันได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว…หากมันถูกยึดครองง่ายขนาดนั้น มันคงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้” คำพูดซูหมิงเย็นชา ในใจสงบนิ่งมาก ไม่มีการลงมือ แต่รักษาพื้นที่ สามส่วนที่เขายึดครองอยู่นี้เอาไว้ และมองซูเซวียนอีกับดวงจิตดาราสัจธรรมปะทะกันอย่างดุเดือด

เสียงครึกโครมดังก้องในโลกดาราสัจธรรม ทำให้ผู้ฝึกฌานจำนวนมากรู้สึกไม่ปลอดภัยและตื่นกลัว ต่อให้เป็นผู้ฝึกฌานของยอดเขาลำดับเก้าก็ด้วย มีเพียง พวกศิษย์พี่ใหญ่ที่ตอนนี้มองฟ้าไกลๆ อยู่ในสำนักยอดเขาลำดับเก้าเงียบๆ

พวกเขารู้สึกรางๆ ถึงสามดวงจิตในฟ้า หนึ่งในนั้น…มีความรู้สึกที่พวกเขาคุ้นเคย นั่นคือความรู้สึกเหมือนมองซูหมิง

ภายในสำนักดาราสัจธรรมที่ถูกผนึก บรรพชนแห่งทะเลเต๋ามองทุกอย่างเงียบๆ แต่ก็ยังไม่เคลื่อนไหวใดๆ แต่รอผลการเลือกอย่างสงบนิ่ง รอผู้ยึดครองดาราสัจธรรมมาถึงหากทำสำเร็จ

เสียงครึกโครมดังก้อง ซูเซวียนอีอาศัยพลังแห่งแสงเพลิงมหึมายึดครองพื้นที่ โลกดาราสัจธรรมไปสี่ส่วนแล้วก็กระโจน

ไปยังดวงจิตดาราสัจธรรม เขาต้องทำแบบนี้ ไม่ว่าจะโจมตีซูหมิงหรือยึดครอง โลกดาราสัจธรรมก็ต้องใช้พลังจากเพลิงเทียนตลอด และเขายังเสียเวลาไม่ได้อีก ดังนั้นถึงปล่อยซูหมิงไปชั่วคราว แต่นำทุกอย่างไปรวมอยู่ที่การยึดครองโลก ดาราสัจธรรม

ขณะเดียวกันเขายังกักพลังเอาไว้ส่วนหนึ่งเพื่อขวางไม่ให้ซูหมิงเข้ามาอย่างกะทันหัน เขาเตรียมการยึดครองครั้งนี้มาหลายหมื่นปี แต่ผลกลับน่าอึดอัดเช่นนี้ เลยแค้นซูหมิงจนอยากจะกินเลือดเนื้อ

แต่ว่าช่วงที่ดวงจิตดาราสัจธรรมถูกซูเซวียนอียึดครองจนขนาดหดลงอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นมีแสงสีแดงฉานสว่างวาบมาจากภายใน แสงสีแดงนี้เหมือนกับกลายเป็นกระบี่คมเล่มหนึ่งพุ่งตรงไปยังวิญญาณซูเซวียนอี

คนนอกมองไม่เห็นแสงสีแดงนี้ มีเพียงซูหมิงกับซูเซวียนอีที่เห็นชัด นี่ไม่ใช่อภินิหารอะไร แต่เป็นโลหิตหนึ่งหยดที่รวมออกมาจากกฏเหลือคณานับ โลหิตสีแดงฉาน ภายในแฝงไว้ด้วยพลังทำลายล้างทุกชีวิต เป็นโลหิตประจำตัวของมันที่รวมมาจากดวงจิตดาราสัจธรรม

ทันทีที่แสงสีแดงสว่างวาบปะทะกับวิญญาณซูเซวียนอี มันก็แตกออกอย่างเงียบเชียบกลายเป็นหมอกแดงหลอมรวมเข้าสู่กลางวิญญาณซูเซวียนอี ซูเซวียนอีคำรามเสียงต่ำ ตะเกียงน้ำมันสามสิบสองอันในโลกจักรพรรดิยมโลกแกว่งไกวพร้อมกันและมอดดับไปอีกสาม หลังเหลือยี่สิบเก้าอันแล้ว แสงตะเกียงพลันสว่างยิ่งกว่าเดิมก่อนเข้าต่อต้านกับหมอกแดง

แต่ตอนนี้เองในดวงจิตดาราสัจธรรมปรากฏโลหิตอีกแปดหยด ขณะที่บินออกมาอย่างรวดเร็ว โลหิตเหล่านี้รวมเข้าด้วยกันกลายเป็นดาบยาวสีโลหิตเล่มหนึ่ง ดาบเล่มนี้กวัดแกว่งและฟันอากาศไปทางซูเซวียนอีซึ่งห่างไปไกลมาก

เพียงฟันลง วิญญาณซูเซวียนอีพลันถอยไป เขาถูกฟันไปเกือบครึ่ง ระหว่างที่ถอยไป ฟ้ากระจ่างดาวสี่ส่วนที่เขายึดครองหดลงเหลือสามส่วนเท่าก่อนหน้านี้

นัยน์ตาซูหมิงพลันสว่างพร่างพราว เมื่อส่งกระแสจิตไปหาชายชราวิญญาณสวรรค์แล้ว วิญญาณเขาพลันเคลื่อนไหวตรงไปหาซูเซวียนอี

“ขอให้ผู้อาวุโสช่วยลงมือด้วย ช่วยผนึกดวงจิตดาราสัจธรรมชั่วคราว ให้เวลาผู้เยาว์สู้กับซูเซวียนอี!” ซูหมิงไม่ได้ให้ชายชราวิญญาณสวรรค์ช่วยตนบีบซูเซวียนอี เขาคนนี้…ซูหมิงอยากลงมือเอง ให้เขาตกรอบไปในการยึดครองโลกดาราสัจธรรม!

ขณะที่จิตสื่อสารดังก้อง วิญญาณและจิตสำนึกซูหมิงพลันเข้าไปใกล้ซูเซวียนอีที่ถอยไป เขาไม่ใช้อภินิหาร ไม่ใช้วิชา ไม่ใช้ของวิเศษใดๆ แต่ใช้เจตนารมณ์สวรรค์ที่เปลี่ยนจากดวงจิตบรรพชนวิญญาณชนเข้าไปอย่างแรง

ผืนฟ้าเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องโลกดาราสัจธรรม ทำให้ฟ้าโลกดาราสัจธรรมเกิดระลอกคลื่น มวลอากาศฉีกออก ดวงดาวเกิดเสียงดังสนั่น ระหว่างที่ผู้ฝึกฌาน ต่างหวาดกลัว วิญญาณซูเซวียนอีร้องตะโกนด้วยความไม่ยอม

“ลูกทรพี!”

ภายใต้การชนด้วยวิญญาณ จึงทำให้ตะเกียงน้ำมันในโลกจักรพรรดิยมโลก มอดดับไปสองเหลือเพียงยี่สิบเจ็ดอัน

วิญญาณซูหมิงฮึกเหิมแล้ว เขาไม่หยุดเท่านี้ แต่ชนเข้าไปอีกครั้ง พลังที่ไม่ตายจะไม่เลิกราปะทุมากลางวิญญาณเขา ภายในพลังนี้ปะปนไปด้วยความซับซ้อนในอดีต มาพร้อมกลิ่นอายมรณะที่เขาเคยประสบ และยังแฝงไว้ด้วยการต่อต้านโชคชะตา ก่อนหน้านี้

เสียงอึกทึกกึกก้อง ซูเซวียนอีตะโกนเสียงแหลม ภายใต้การชนของซูหมิงอีกครั้ง ตะเกียงน้ำมันของเขามอดดับจากยี่สิบเจ็ดเหลือยี่สิบห้า เหลือยี่สิบสาม จนชนอีกหลายครั้ง จนตะเกียงน้ำมันเหลือเพียงสิบเจ็ด พื้นที่สามส่วนที่เขายึดครองไว้ก่อน หน้านี้กลายเป็นสองส่วน ส่วนที่เหลือถูกวิญญาณซูหมิงจำนวนมากยึดครองไป จากนั้นก็ลุกลามซูเซวียนอีอีกครั้งประหนึ่งเผยคมเขี้ยว

“ข้าไม่เคยเป็นบุตรของเจ้า เอาอะไรมาพูดว่าข้าเป็นลูกทรพี!”

“เจ้าหลอกใช้ข้ามาหลายปี ปลูกเมล็ดพันธุ์ทำลายล้างชีวิตในใจข้า เร่งให้มันเติบโต ตอนที่เกิดเรื่องนี้ ตอนที่หัวใจข้าตาย เจ้ากับข้าไม่มีบุญคุณความแค้นต่อกันอีก ตอนนี้ยึดครองดาราสัจธรรม…

หากเจ้ากล้ามาแย่งเส้นทางอนาคตของข้า ข้าจะไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้า!” ชั่วขณะที่ซูหมิงส่งกระแสจิตไป วิญญาณเขาชนกับวิญญาณซูเซวียนอี เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากการที่วิญญาณซูหมิงชนเข้าไปอย่างต่อเนื่องจึงต้องรับความเจ็บปวดจะสลายไปเช่นกัน แต่ในใจเขามีความแน่วแน่ เขามั่นใจว่าซูเซวียนอีอยู่ได้ไม่นานนัก ตอนนี้จึงโจมตีไปอีกครั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version