ตอนที่ 1245 เรื่องราวซับซ้อนยากจะมองออก
ดวงจิตสามดวงแห่งน้ำวนมรณะหยินที่ซูหมิงเคยมองว่าเหนือกว่าพลานุภาพสวรรค์ และไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีพลังต่อต้านหรือไม่พลันลงมาเยือน
ทันทีที่ดวงจิตสามดวงนี้ปรากฏ ความรู้สึกเก่าแก่เหมือนทำให้ทั้งโลกหมาน เสื่อมโทรมทำให้แทบทุกคนที่รู้สึกถึงคล้ายกับว่าชีวิตตนเดินมาถึงขีดจำกัด เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นตรงส่วนลึกในใจ
ฟ้าดินบิดเบี้ยว หมอกหมุนตลบ ผนึกบนฟ้าเหมือนจะไม่เสถียรเล็กน้อย ไม่มีคำพูดใดๆ เพียงแค่ดวงจิตลงมาเยือนก็สร้างแรงกดดันรุนแรงทันที ทำให้โลกนี้สั่นไหว ประหนึ่งว่าแค่ดวงจิตพวกเขาเพียงดวงเดียวก็ทำลายโลกหมานได้
ซูหมิงเคยคิดว่านี่คือ สามผู้ปกครองน้ำวนมรณะหยิน!
แต่ยามนี้ เขาไม่คิดว่าสามดวงจิตโบราณในน้ำวนมรณะหยินจะเป็นผู้ปกครองสูงสุด กลับกันในความคิดเขา ดวงจิตสามดวงนี้ เหมือนถูกบังคับให้อยู่ที่นี่มากกว่า ต้องเป็นผู้รับใช้ปฏิบัติตามคำสั่งบางสิ่งลึกลับในน้ำวนมรณะหยิน
“ซูหมิง!” เสียงคำรามต่ำประหนึ่งพลานุภาพสวรรค์ดังก้องทั้งโลกหมาน ขณะเดียวกับที่เสียงฟ้าผ่าดังกังวาน หมอกหมุนตลบตรงหน้าซูหมิงแล้วเกิดเป็นร่างเงาสามร่าง
นั่นคือชายชราสวมชุดคลุมดำ ขาวและเทาสามคน พวกเขาไม่มีผม ดวงตาลึกลงไปยังเผยร่องรอยของเวลา พวกเขาเพ่งมองซูหมิง คนที่เอ่ยก่อนหน้านี้คือชายชรา ชุดคลุมดำ
“ในเมื่อเจ้าไปแล้ว ในเมื่อหนีออกจากกรรมในทะเลลำดับห้าได้แล้ว เหตุใดต้องกลับมาอีก” ชายชราชุดคลุมขาวเอ่ยเสียงแหบช้าๆ ทันทีที่เสียงดังขึ้น นัยน์ตาซูหมิงมีประกายรวดเร็วและดุดันวูบผ่าน
“ตอนนั้นเป็นเจ้านี่เอง” ซูหมิงยิ้ม เขาฟังเสียงนี้ออก เป็นดวงจิตนี้เองที่ตอนนั้นหลังมาเยือนแล้วก็ใช้อำนาจบีบเขา
“ข้าเอง” ชายชราชุดคลุมขาวตอบกลับเรียบๆ
“ซูหมิง หากไม่ใช่เพราะตอนนั้นซูเซวียนอีลงมือ เจ้าไม่มีทางหนีออกจากทะเลลำดับห้าได้ ในเมื่อเจ้ากล้ากลับมาอีก กล้าสังหารจิตแยกของพวกข้า เช่นนั้นครั้งนี้ ก็เป็นโอกาสให้พวกเขาได้เปลี่ยนทุกอย่างให้กลับมาถูกต้อง!” ชายชราชุดคลุมดำเอ่ยด้วยเสียงมืดทะมึน เขาจ้องซูหมิงตาเขม็งและยังเผยจิตสังหาร
“ครั้งนี้ ซูเซวียนอีก็ช่วยเจ้าไม่ได้! ที่นี่คือน้ำวนมรณะหยิน ซูเซวียนอียังไม่กล้าปรากฏกายด้วยตัวเอง ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะหนีไปได้อย่างไร!” ชายชราชุดคลุมดำยิ้มเยาะ
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง เป็นบุตรแห่งมรณะหยินที่นี่ต่อไป ข้าจะไม่เอาความเรื่องที่เจ้าสังหารจิตแยกของพวกข้า ถ้าไม่อย่างนั้น…ไม่มีซูเซวียนอีช่วย เจ้าหนีไม่รอดเงื้อมมือพวกข้าแน่” ชายชราชุดคลุมขาวพูดขึ้นเรียบๆ
“ต่อให้เจ้ากลับมาครั้งนี้เป็นแผนการของซูเซวียนอีก็ตาม แต่ก็ต้องล้มเหลวแน่ เพราะว่า…” ชายชราชุดคลุมดำยังเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาไม่จบ ซูหมิงขมวดคิ้วแล้วพูดขัดอย่างเย็นชา
“หนวกหู!” ซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ หมอกกลางฟ้าดินม้วนถอยไปเป็นชั้นๆ แล้วหายวับไป ผนึกที่ไม่เสถียรกลางฟ้าพลันหนาแน่นขึ้นหลายเท่า แรงกดดัน จิตสัมผัสจากชายชราสามคนนั้นยังเหมือนถูกซูหมิงสะบัดแขนเสื้อหายไป
“เป็นจิตแรกของพวกเจ้าตายเร็วเกินไปเลยไม่ทันเห็นภาพก่อนตาย หรือว่า… พวกเจ้าเพิ่งตื่น เลยยังแยกแยะความอ่อนแอและแข็งแกร่งไม่ค่อยได้ ไม่รู้จัก ประมาณตน” ซูหมิงพูดเสียงเย็นชาด้วยสีหน้าเฉยชา
ชายชราชุดคลุมดำหน้าเปลี่ยนสี ชายชราชุดคลุมขาวหรี่ตาลงเล็กน้อย มีเพียงชายชราชุดคลุมเทาที่มีสีหน้าปกติตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เขาไม่พูดสิ่งใดเลย ต่อให้เป็นตอนนี้ก็ยังมีสีหน้าปกติ
“รนหาที่ตาย!” ขณะที่ชายชราชุดคลุมดำหน้าเปลี่ยนสี พลันมีดวงจิตมหึมาแทบจะเรียกได้ว่าน่าสะพรึงปะทุมาจากในร่างกายเขา พุ่งเข้าไปกดทับซูหมิง
เป็นหนึ่งในสามดวงจิตใหญ่แห่งแดนมรณะหยิน ตั้งแต่ชายชราคนนี้จำความได้ หากมีใครไม่เคารพเขา เพียงแค่ใช้ดวงจิตกดทับก็ทำให้ร่องรอยชีวิตอีกฝ่ายหายไป นี่คือ การกำราบด้วยระดับชีวิต เป็นพลานุภาพอภินิหารของหนึ่งในสามดวงจิตใหญ่
แต่ว่าครั้งนี้ ทันทีที่เขาส่งดวงจิตไปกดทับ นัยน์ตาซูหมิงกลับเย็นชา ดวงจิตเขาโผล่ขึ้นมาในฉับพลันแล้วแผ่ขยายออกอย่างไม่ลังเล จนเมื่อปะทะกับดวงจิตของ ชายชราชุดคลุมดำอย่างไร้รูปแล้ว ซูหมิงยิ้มเยาะมุมปาก
ท่ามกลางเสียงครึกโครม ชายชราชุดคลุมดำหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง ดวงจิตม้วนถอยไป ร่างเขาถอยไปไม่หยุด จนถอยไปร้อยจั้งแล้วถึงหยุดลง ตอนที่เงยหน้าขึ้นเขามีสีหน้าหวาดกลัวและเหลือเชื่อ
“ระดับชีวิตเจ้า…นี่…”
ตอนนี้เอง ชายชราชุดคลุมขาวหรี่ตาลงพร้อมกับยกมือขวาชี้ซูหมิง
“ขอใช้เจตนารมณ์สวรรค์ของโลกนี้ผนึกจิตใจเจ้า ดับสูญ!”
เพียงชี้ไปก็ปรากฏดวงตาข้างหนึ่งตรงหน้าซูหมิง มันเพ่งมองเขา ขณะที่เข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วยังเหมือนจะผนึกเขาเอาไว้
ซูหมิงมีสีหน้าปกติ เขาหันไปมองชายชราชุดคลุมขาว ดวงจิตในร่างกายถาโถมเข้าไป เพียงพริบตาเดียวเกิดเสียงดังกึกก้อง ชายชราชุดคลุมขาวตัวสั่นสะท้าน ถอยไปหลายก้าวแล้วมีสีหน้ำตกตะลึงเหมือนกับชายชราชุดคลุมดำ
ขณะเดียวกับที่เขาถอยไป ดวงตาที่เข้าไปใกล้ซูหมิงกลายเป็นสีเทา มันพลันขยายใหญ่ขึ้นจนระเบิดออก
“แค่นี้รึ?” ซูหมิงส่ายหน้า เขาผิดหวังเล็กน้อย สามดวงจิตที่ตอนนั้นแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ตอนนี้ในมุมมองเขา ซูเซวียนอียังแกร่งกว่าพวกเขาอีก
ความจริงแล้วไม่ใช่ว่าสามดวงจิตนี้อ่อนแอ แต่เป็นเพราะซูหมิงเติบโตขึ้นในพันกว่าปีนี้ โดยเฉพาะเขายึดครองโลกดาราสัจธรรมแล้ว ทำให้การคงอยู่ของเขาเหนือกว่าขอบเขตผู้ฝึกฌาน นั่นคือ เส้นทางไปสู่ขั้นพลังไม่อาจกล่าว
กระทั่งวิชาคำสาปรกร้างของเขา นั่นคือวิชาที่แม้แต่ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ยังหวาดกลัว สามารถสาปดวงจิตสามรกร้างได้ วิชานี้…ทำให้ดวงจิตสามรกร้างรู้สึกถึงอันตราย และยังสู้กับขั้นไม่อาจกล่าวได้!
ซูหมิงในมหาโลกสามรกร้างตอนนี้ ถึงจะพูดไม่ได้ว่าไร้คู่ต่อสู้ แต่ก็ยากจะหาคู่ต่อสู้ได้
ชายชราชุดคลุมดำหน้าเปลี่ยนสี เขาขยับวูบไหวถอยไป ชั่ววูบเดียวทั่วทั้งตัวเขากลายเป็นหมอกดำ ชายชราชุดคลุมขาวข้างๆ ก็เช่นกัน ตัวเขาขยับไหวกลายเป็นหมอกขาว ส่วนชายชราชุดคลุมเทาดวงตาวาววับ สองมือประสานพนม
ทันใดนั้นหมอกขาวกับดำวนเวียนรอบตัวเขา ส่งผลให้ในดวงตาสองข้างชายชราชุดคลุมเทาแยกเป็นสีขาวกับดำชัดเจน เขาเพ่งมองซูหมิงพลางพูดเป็นครั้งแรกด้วยเสียงแหบ
“เจ้าแกร่งมาก ถึงไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดไม่เจอกันพันกว่าปีเจ้าจะแกร่งถึงขนาดนี้ อีกทั้ง…ข้ายังรู้สึกคุ้นเคยกับดวงจิตเจ้าเล็กน้อย
แต่ว่า…ข้าสามคนคือสามดวงจิตใหญ่แห่งน้ำวนมรณะหยิน เป็นผู้รับใช้ซาง เจ้าย่อมไม่มีทางทำอะไรพวกข้าได้ง่ายๆ ที่ให้เจ้าไปทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ให้เจ้าไปทะเลลำดับห้า ให้เจ้าเปิดเส้นทางสู่เงามืดรุ่งอรุณ กระทั่งให้เจ้าตามหาราชาที่ถูกผนึกในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต…
สิ่งเหล่านี้ข้าไม่ได้หลอกเจ้า แต่เป็นการทดสอบของเจ้าต่างหาก น่าเสียดายซูเซวียนอีมาก่อกวน แล้วตี้เทียนก็มายุ่งด้วยเช่นกัน พวกเขาไม่อยากให้เจ้าตื่น ไม่อยากให้ เจ้าเข้าใจ ดังนั้นจึงใช้ทุกวิถีทางก่อกวน
จนกระทั่งเจ้าไม่เดินไปตามการชี้นำของพวกเขา แต่เจ้ากลับมาโทษพวกข้า… ช่างเถอะ เจ้าเดินมาถึงจุดที่เป็นศัตรูกับพวกข้าแล้ว…ถึงเจ้าจะรู้ทุกอย่างก็ยังเลือกแบบนี้” ขณะชายชราชุดคลุมเทากล่าวยังเหมือนถอนหายใจเบา สองมือผลักไปข้างหน้าในฉับพลัน
“ชิง วิญญาณแห่งมรณะหยิน ทุกสิ่งมีชีวิตที่อาจกำเนิดหรือเข้ามาในแดนมรณะหยิน ล้วนเรียกว่าชิง”
“หยิน นามเรียกแห่งผู้รับใช้ซาง ผู้ชี้นำบุตรแห่งมรณะหยิน”
“สามหยินคือ ดำ ขาว เทา”
“สามหยินสังหารชิง!” ชายชราชุดคลุมดำมองซูหมิงอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ทันทีที่ผลักสองมือไป พลันเกิดสายลมไร้รูปขึ้นตรงหน้าชายชรา สายลมนี้รวมขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นมือใหญ่ข้างหนึ่งปกคลุมฟ้าดินแล้วคว้าลงมายังซูหมิง
ความรู้สึกถึงอันตรายในใจทำให้ซูหมิงดวงตาเป็นสมาธิ ในความคิดดังก้องเป็นคำพูดชายชราชุดคลุมเทาก่อนหน้านี้ ในคำพูดเหล่านั้นเหมือนจะแฝงไว้ด้วยความลับที่มีเลศนัยอย่างหนึ่ง
เพียงแต่ว่าซูหมิงรู้เบาะแสน้อยมาก ดังนั้นจึงไม่อาจเชื่อมโยงด้วยกันเป็นคำตอบ ตอนนี้ฝ่ามือยักษ์นั้นจะเข้ามาแล้ว มันแฝงไว้ด้วยแรงกดดันที่เหมือนจะใช้เฉพาะกับสิ่งมีชีวิตในน้ำวนมรณะหยิน คล้ายกับว่าจะลบซูหมิงหายไป
ซูหมิงหรี่ตาลง เขาถอยไปหลายก้าวแล้วหลับตาลงทันใด ทันทีที่หลับตาลง เขาร้องเรียก ร่างแยกโลกแท้จริงในใจ
ตอนนี้เองโลกแท้จริงดาราสัจธรรมนอกน้ำวนมรณะหยินเกิดเสียงดังสนั่น โลกแท้จริงมหึมาบิดรูป บางครั้งก็ขยายออกเหมือนลูกศรดอกหนึ่ง บางครั้งพลัน หดเล็กลง สิ่งมีชีวิตในโลกแท้จริงไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ทว่าขณะที่ โลกแท้จริงหดและขยายนั้น ซูหมิงในน้ำวนมรณะหยินลืมตาขึ้น
พริบตาที่ลืมตาขึ้น ดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วเปิดออก ดวงตาที่สามนี้เป็นที่ที่เขาเก็บโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ยามนี้มันเปิดออก ลูกตาในนั้นยังเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาด
บางครั้งลูกตาก็ขยายใหญ่อย่างไร้ขีดจำกัดเหมือนจะปกคลุมทั่วดวงตาที่สาม บางครั้งก็หดลงเป็นเส้นถี่เหมือนหายไป
ขณะที่มือใหญ่นั้นเข้ามาใกล้ ซูหมิงพูดขึ้นช้าๆ
“ขอสร้างเส้นทางแห่งโลกแท้จริงด้วยกฏชะตาของที่นี่!” สิ้นเสียง พลังแห่งกฏชะตาหนึ่งร้อยหกสิบล้านสายที่อัดแน่นอยู่ในโลกหมานคล้ายกับเดือดพล่านขึ้นมา ส่งผลให้โลกหมานบิดเบี้ยว
“ขอเปิดการชี้นำแห่งน้ำวนด้วยสายเลือดเผ่าหมานที่นี่!” สายเลือดของเผ่าหมานทั้งหมด ความคิดที่ปรารถนาจะให้เผ่าหมานผงาดขึ้นในใจพวกเขา การเฝ้ารอคอยที่พวกเขาเชื่อว่าซูหมิงจะพาพวกเขาไปจากที่นี่ สิ่งเหล่านี้รวมเข้าด้วยกันเป็นการชี้นำเหมือนกับเพลิงเทียนกลางเงามืด
“ขอแผ่ขยายไปถึงจุดสูงสุดของฟ้าด้วยความคิดของข้าที่นี่!” ฟ้าดินเกิดเสียงดังสนั่น ท้องฟ้าสั่นสะเทือน ตัวประหลาดจากนอกผนึกนอกโลกพากันถอยไป เหมือนรับรู้ถึงความน่ากลัวบางอย่าง โดยเฉพาะนอกน้ำวนมรณะหยิน ระหว่างที่โลกแท้จริง ดาราสัจธรรมหดตัวและขยายออก ยังกดอัดมาทางน้ำวนมรณะหยิน
“โลกแท้จริงจงปรากฏ!” ซูหมิงยกสองมือขึ้นสะบัดไปในระหว่างที่มือใหญ่นั้นเข้ามาใกล้ ทันใดนั้นแผ่นดินหมานสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ท่ามกลางฟ้าดินส่งเสียงดังครึกโครม โลกแท้จริงของเขากลางดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วขยายไปสู่ภายนอกจากในดวงตาที่สาม
ซูหมิงเรียกโลกแท้จริงดาราสัจธรรมให้มายังมิติเผ่าหมาน ให้มายังที่ที่เขาอยู่
ชั้นเมฆบนฟ้าเปลี่ยนไป ประหนึ่งฟ้ากระจ่างดาวย้อนกลับ ท้องฟ้าเปลี่ยนแปลง มือใหญ่ที่กดลงมาหยุดห่างจากตัวเขาครึ่งจั้ง ก่อนเกิดเสียงดังสนั่นแล้วพังลงด้วยความเร็วระดับสายตา
“โลกแท้จริงดาราสัจธรรม นี่มัน…กลิ่นอายพลังของโลกแท้จริงดาราสัจธรรม! จะ…เจ้า…”
“เจ้า…ยึดครองโลกแท้จริงดาราสัจธรรม!”