ตอนที่ 1247 ผีเสื้อสีเทา
แทบเป็นทันทีที่ชายชราชุดคลุมขาวสูญสลายไป ร่างซูหมิงพลันเปลี่ยนแปลง วิญญาณเผ่าหมานใหญ่กระจายออกแล้วกลับมาอยู่ในร่างกายเขาอีกครั้ง เมื่อเวลาของเปลี่ยนเทพหมานหมดลง ร่างเขาจึงกลับคืนสภาพเดิมด้วยความเร็วระดับสายตา จนเมื่อกลับเป็นสภาพปกติแล้ว เขามีสีหน้าปกติ ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บเพราะเปลี่ยนเทพหมานเลย
นี่เป็นเพราะว่าความรู้ความเข้าใจของเขามากกว่าตอนเพิ่งตระหนักรู้เปลี่ยนเทพหมาน ดังนั้นแม้จะใช้เปลี่ยนเทพหมานเสร็จแล้วก็ไม่ส่งผลใดๆ กับเขาเลย
ดวงตาเขาเย็นชา ยืนอยู่กลางอากาศ โดยรอบเงียบกริบ
ชายชราชุดคลุมดำเหม่อมองอากาศตรงที่ชายชราชุดคลุมขาวสลายไป ไม่ว่าเขาจะสัมผัสอย่างไรก็ไม่พบร่องรอยของชายชราชุดคลุมขาวแม้แต่น้อย นี่ทำให้เขา มีสีหน้าย่ำแย่ยิ่ง นัยน์ตายังฉายแววหวาดกลัว
เดิมทีพวกเขาคิดว่าถูกสังหารไม่ได้ แต่ทุกอย่างตรงหน้ากลับบอกเขาอย่างโหดร้ายว่า พวกเขา…ไม่ได้เป็นอมตะ!
ชายชราชุดคลุมเทาไม่มองตรงจุดที่ชายชราชุดคลุมขาวสิ้นชีพ แต่เหม่อมองซูหมิง ในแววตามีประกายประหลาดใจวูบวาบอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่า…เขาเห็นในสิ่งที่ชายชราชุดคลุมดำไม่เห็นเล็กน้อย แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ เขาก็ยิ่งหน้าซีดขาว และยังมีความซับซ้อนและขมขื่นโผล่มารางๆ
ชาวเผ่าหมานหกแสนคนตอนนี้ขณะคุกเข่าคารวะยังได้เห็นเทพหมานของ พวกเขาสังหารหนึ่งในสามดวงจิตใหญ่ เหตุการณ์นี้ เผ่าหมานส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่ด้วยพลังของพวกหยาหมานอู๋ซวงและหนานกงเหิน พวกเขาเลยรู้มากกว่า รู้ว่าสามดวงจิตนั้นหมายถึงอะไร และยังรู้ว่าสามดวงจิตนี้มีความแกร่งเพียงใด
ดังนั้นตอนนี้ในใจพวกเขาเกิดคลื่นลูกใหญ่ ถึงพวกเขาจะรู้ว่าซูหมิงแกร่งมาก แต่ด้วยความที่ไม่มีอะไรมาเทียบ เลยไม่รู้ว่าแกร่งเพียงใด และพวกเขาก็ไม่ได้คาดการณ์ด้วย แต่ตอนนี้…มีตัวเปรียบเทียบแล้ว พวกเขาเลยรู้ชัดว่าความแกร่งของ ซูหมิง…ความแกร่งที่ไม่ธรรมดานั้น!
นั่นคือความแกร่งที่อยู่สูงสุดและสังหารสามดวงจิตใหญ่ได้!
ซูหมิงมองชายชราชุดคลุมดำอย่างเย็นชา แรงกดดันหลังสังหารชายชราชุดคลุมขาวประทับตราลงบนตัวชายชราชุดคลุมดำผ่านดวงตาซูหมิง ทำให้ชายชราถอยไป หลายก้าวโดยจิตใต้สำนึก
“ต่อไปเป็นเจ้า”
“ซูหมิง ข้ามีตราประทับวิญญาณของศิษย์พี่ใหญ่รวมถึงศิษย์พี่รองของเจ้า หากเจ้าสังหารข้า พวกเขาก็ยากจะหนีพ้นความตายเช่นกัน!” ภายนอกชายชราดู แข็งกร้าว แต่ในใจอ่อนยวบไปหมดแล้ว เขาพูดเสียงเล็กดังขึ้น
“ก็เพราะแบบนี้เลยต้องสังหารเจ้า!” ซูหมิงตอบกลับราบเรียบพร้อมเดินหน้าไปหนึ่งก้าว
ชายชราชุดคลุมดำหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ขณะถอยไปอย่างเร่งรีบ ชายชรา ชุดคลุมเทาข้างกายมีสีหน้าเด็ดขาด ในความเด็ดขาดนั้นเหมือนมีการดิ้นรน แต่มีความแน่วแน่มากกว่า
“ตราประทับวงกลมสี่เหลี่ยม!” ชายชราชุดคลุมเทาสะบัดแขนเสื้อกล่าวอย่างเด็ดขาดกับชายชราชุดคลุมดำ
ชายชราชุดคลุมดำกัดฟัน ตอนนี้ถึงเวลาเป็นตาย ไม่เหมือนก่อนหน้าที่นี่พวกเขาคิดว่าซูหมิงสังหารตนไม่ได้ เลยมีคำพูดโอหัง แต่ตอนนี้เห็นชายชราชุดคลุมขาวตาย ตกไปกับตาตัวเองแล้ว ตนจึงสนใจอะไรได้ไม่มากนัก ขณะกัดฟันดวงตายังฉายแวว บ้าคลั่ง เขาสะบัดแขนเสื้อไป ทั้งตัวพลันกลายเป็นหมอกดำจำนวนมาก
ภายในหมอกแฝงไว้ด้วยดวงจิตมหึมาของเขา ดวงจิตนี้สูงส่งที่สุดในน้ำวนมรณะหยิน ทุกสิ่งมีชีวิตต้องคารวะ อยู่สูงส่ง ควบคุมชะตาชีวิตนับไม่ถ้วน ต่อให้อยู่ข้างนอก หากออกจากน้ำวนมรณะหยิน ดวงจิตมหึมาของเขาก็ยังสู้กับบรรพชนวิญญาณได้
กระทั่งในยุคสมัยที่ดวงจิตโลกแท้จริงดาราสัจธรรมหลับใหล เขายังกดขี่อยู่เหนือผู้ฝึกฌาน ทว่าตอนนี้มาเจอซูหมิงกลับอนาถาอย่างยิ่ง เรื่องนี้เขาไม่ได้ไม่ยอมอะไร ความแกร่งของซูหมิงสยบเขาลงด้วยพลานุภาพแล้ว ตอนนี้หากอยากรอดตายก็ต้องบ้าคลั่งแล้ว
“ได้ ข้ายอมเป็นสี่เหลี่ยม!” ตอนที่หมอกร่างแปลงชายชราชุดคลุมดำส่งเสียงตะโกนดังมา หมอกพลันหมุนตลบกลายเป็นขนาดเกือบหมื่นจั้ง จากนั้นก็ก่อรูปเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมยักษ์ ไม่ได้ตั้งขึ้น แต่ราบกับพื้นดิน
ขณะเดียวกันนัยน์ตาชายชราชุดคลุมเทาขยับประกายจิตสังหาร ทั้งยังมีความซับซ้อนและเหี้ยมโหด ตัวเขาเกิดเสียงดังสนั่นพร้อมกลายเป็นหมอกเทาพุ่งขึ้นฟ้าไป ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นลักษณะวงกลมสีเทายักษ์
“วงกลมฟ้า!” เสียงชายชราชุดคลุมเทาดังก้องรอบๆ ด้วยความแก่ชราและเด็ดขาด
“สี่เหลี่ยมปฐพี!” เสียงชายชราชุดคลุมดำดังสนั่นมาจากในหมอกข้างล่าง น้ำเสียงบ้าคลั่ง แฝงไว้ด้วยความกล้าหาญไม่เกรงกลัวใคร นี่คือช่วงเวลาสำคัญ นี่คือ ความเป็นตาย เขาต้องใช้ทุกอย่าง
“วงกลมสี่เหลี่ยมสังหาร!” ภานในหมอกเทาที่กลายเป็นวงกลมบนฟ้าส่งเสียงดังอื้ออึง ตอนนี้เองหมอกวงกลมพุ่งตรงไปหาซูหมิงกลางฟ้าดิน
ต่อมา ก็เกิดเสียงอื้ออึงดังก้องกลางหมอกสีดำบนพื้นดิน หมอกดำในลักษณะสี่เหลี่ยมลอยขึ้นฟ้าไปหาซูหมิง
จิตสังหารเด่นชัดอัดแน่นฟ้าดินพุ่งตรงไปหาซูหมิง
ยามนี้เองเหมือนกับท้องฟ้าถล่มลง แผ่นดินลอยขึ้น ภายใต้การบีบเข้ามาของฟ้าดิน มันสังหารดวงจิตและทุกสิ่งในนั้นได้ โดยเฉพาะวิชานี้ใช้โดยชายชราชุดคลุมดำและเทาพร้อมกัน ดังนั้นระหว่างวงกลมฟ้ากับสี่เหลี่ยมดินจึงมีพลังแห่งผนึก พวกมันเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างหนาแน่น เมื่ออภินิหารนี้ทำงานฟ้าดินก็เหมือนขุ่นมัวทันที ในความเลือนรางมีจิตสังหารสะเทือนฟ้า
“พลานุภาพแห่งฟ้าดินรึ…ข้าก็มีเหมือนกัน!” ซูหมิงมีสีหน้าปกติ เขามองวงกลมที่เป็นตัวแทนฟ้าเข้ามาหาตน มองสี่เหลี่ยมที่เป็นตัวแทนพื้นดินบีบเข้ามาพลางยิ้มเยาะมุมปาก
“เจ้าใช้แผ่นดินบีบเข้ามา ข้าก็จะใช้ภูผากำราบ! เคลื่อนย้ายภูผา!” ซูหมิงสะบัดแขนเสื้อ มือขวาชี้ไปทางแผ่นดินที่ตรงเข้ามา พลังแห่งเคลื่อนย้ายภูผาปะทุขึ้น เกิดเงาภูเขาขึ้นรอบตัวเขา ยอดเขาเหล่านั้นมากมายไม่มีสิ้นสุด นี่คือภูเขาทั้งหมดที่เขาเคยพบมาในชีวิต มีเขาทมิฬ มียอดเขาลำดับเก้า และยังมี…ภูเขาใหญ่แสนลูก อยู่กันเนืองแน่น หลังภูเขาปรากฏแล้วก็เคลื่อนไปตามนิ้วซูหมิง
ยอดเขาเหล่านี้พุ่งลงไปยังแผ่นดินใหญ่ที่เป็นตัวแทนหมอกสี่เหลี่ยม เกิดเสียง ดังสนั่นฟ้า ภูเขาแสนลูกกดทับลงไป ทำให้หมอกนั้นสั่นสะเทือน
ในเวลาเดียวกัน ซูหมิงยกมือซ้ายชี้ไปบนฟ้า
“เจ้าใช้พลังแห่งฟ้าถล่มทลาย ข้าก็จะใช้แก่นยมโลกพลิกทะเล! พลิกทะเล!” ซูหมิงยิ้มเยาะพร้อมชี้ไป ทันใดนั้นในร่างกายเขาเปล่งแสงดำสว่างจ้า แสงดำมาพร้อมกับ ไอหนาว มีความหยั่งลึกที่ทำให้ดวงตาคนดำมืด แสงนี้ไหลผ่านนิ้วมือเขาในพริบตา เหมือนกับน้ำทะเลสีดำครึ่งหนึ่งกลืนกินแสงสว่างและยังถาโถมไปบนฟ้ารกร้าง
สี่เหลี่ยมปฐพีมีภูเขาแสนลูกกดทับ บนฟ้ารกร้างมีแก่นยมโลกพลิกทะเลยกขึ้นไป ฟ้าดินเกิดเสียงดังสนั่น ซูหมิงยกมือขึ้นและกดมือลง ใช้พลังตัวคนเดียวต่อต้าน ท่ามกลางเสียงครึกโครม ทำให้วงกลมแห่งฟ้ารกร้างไม่อาจลดระดับลงมาได้ ทำให้สี่เหลี่ยมแห่งปฐพียากจะลอยขึ้นไป ส่งผลให้อภินิหารฟ้าดินทำได้เพียงเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ไม่อาจกดทับเข้ามา รวมถึงยากจะระบำยจิตสังหารออก ทำได้เพียงต่างฝ่ายต่างสูสีกัน
ที่ทำแบบนี้ได้ก็เพราะกลิ่นอายพลังโลกแท้จริงช่วยผลักดันอย่างยิ่ง ทันทีที่อภินิหารฟ้าดินต่างสูสีกัน ซูหมิงก้มหน้ามองสี่เหลี่ยมดินใต้ภูเขาแสนลูกข้างหลัง ดวงตามีจิตสังหารวาววับ
ระหว่างที่อ้าปาก มีแสงสีม่วงพุ่งออกมาจากปากอย่างรวดเร็ว นั่นคือกระบี่ตัดดวงจิต ตอนนี้เป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของเขา อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ายมโลกใหญ่เล่มนี้ ยามนี้เปล่งแสงสว่างจ้าแสบตาในมือ ภายใต้การขยับแสงวาววับ พลังอำนาจเป็นดั่งสายรุ้ง ก่อให้เกิดเสียงแหลมเสียดแก้วหู มันข้ามผ่านภูเขาแสนลูกไปยังสี่เหลี่ยมดิน
สังหารดวงจิต แค่กระบี่เล่มนี้ก็พอ!
กระบี่นี้มีนามว่าตัดดวงจิต เดิมทีมันก็อยู่ในเก้ากระบี่อยู่แล้ว เป็นกระบี่สังหารที่สร้างขึ้นเพื่อจัดการกับดวงจิตโดยเฉพาะ ตอนนี้มันพุ่งข้ามผ่านสี่เหลี่ยมดินนั้น ภายใต้จิตสื่อสารจากซูหมิง มันพลันปะทุดวงจิตกระบี่ออกมา
การปะทุครั้งนี้ไม่ใช่แค่สามส่วนอย่างตอนสังหารจิตแยก แต่ปะทุออกมาสิบส่วน ช่วงที่ดวงจิตกระบี่ปะทุออกมา ทั้งแผ่นดินเกิดเสียงดังไม่หยุดหย่อน ดวงจิตกระบี่ขนาดมหึมาแปลงเป็นกระบี่คมกริบนับไม่ถ้วนกวาดล้างเข้าไป มีเสียงคำรามแหลมดังแว่วมาจากในหมอกสี่เหลี่ยมปฐพี เสียงนั้นมีความสิ้นหวัง ความแค้นแรงกล้า แต่กลับดังไม่นานนักก็เงียบหายไป
แผ่นดินสั่นสะเทือน ยอดเขาแสนลูกหายไป หมอกแห่งสี่เหลี่ยมปฐพีเหมือน ถูกสายลมพัดผ่าน ชั่วพริบตาเดียวก็หายตามไปอย่างไร้ร่องรอย ส่วนดวงจิตของ ชายชราชุดคลุมดำก็สูญสิ้นไปชั่วนิรันดร์ตามหมอกนั้น
แสงสีม่วงขยับวูบวาบจากพื้นดินมาอยู่ตรงหน้าซูหมิงในพริบตา พอซูหมิงอ้าปากมันก็เข้าไปข้างใน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วยิ่ง ชั่วขณะที่สี่เหลี่ยมปฐพีหายไป วงกลมแห่งฟ้ารกร้างยังคงถูกแสงแก่นยมโลกดันอยู่
ทว่าใบหน้าชายชราชุดคลุมเทาที่รวมขึ้นจากหมอกกลางวงกลมฟ้าหมอกเทาหลังถูกแสงแก่นยมโลกปกคลุมกำลังมองผ่านแสงแก่นยมโลกมาที่ซูหมิงข้างล่างด้วยความคลุ้มคลั่ง
เขารู้สึกถึงการตายของชายชราชุดคลุมดำ นั่นคือการลบหายไปในความหมายแท้จริง ไม่มีโอกาสที่จะคืนชีพได้เลย ตนเป็นผู้นำของสามดวงจิตใหญ่ ชายชราชุดคลุมเทาจึงเข้าใจความลับที่อีกสองดวงจิตไม่รู้มากกว่า
“จะใช้มือเด็กคนนี้ลบพวกข้าสามคนรึ…หรืออาจพูดได้ว่าพวกข้า…เป็นศัตรูกับเขาไม่ได้อย่างนั้นรึ…นี่คือความตั้งใจของเจ้ารึ? แต่เขายังไม่ตื่น เขายังไม่ถือว่าเป็น แกนหมุน!” นัยน์ตาชายชราชุดคลุมเทาฉายแววคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิม เขาพลันเงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้า
“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ข้าอยากรู้นักว่า ทุกอย่างนี้เจ้าหมายความว่าอย่างไรกันแน่!”
“ผู้รับใช้ซางแผดเผาตัวเอง เผาความคิดเป็นผีเสื้อ!” ใบหน้าชายชราชุดคลุมเทาสั่นไหว ทันใดนั้นหมอกจากวงกลมฟ้าม้วนตลบ ก่อนรวมขึ้นเป็นใบหน้ายักษ์เหนือ แสงแก่นยมโลก ใบหน้านี้มีขนาดหลายพันจั้ง เมื่อเสียงเขาดังกึกก้อง ก็เกิดเปลวเพลิง เผาไหม้
มองไกลๆ เหมือนกับดวงตะวัน ขณะที่เพลิงเผาไหม้มีควันสีเทาลอยโชย ควันเหล่านี้ไม่ได้ลอยขึ้นฟ้า แต่วนเวียนอยู่โดยรอบ หมุนวนเป็นชั้นๆ จนมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ซูหมิงยกมือขวาโบกไป แสงแก่นยมโลกหายไปตรงหน้าเขา เผยเป็นชายชรา ชุดคลุมเทารวมถึงควันที่วนเวียนเป็นชั้นๆ รอบตัวด้านหลังแสงแก่นยมโลก
ภายใต้การแผ่กระจายของควันเหล่านั้น ชายชราชุดคลุมเทาพลันตะโกนเสียงต่ำด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ด้วยร่างของผู้รับใช้ ขออัญเชิญเงาแห่งซาง!” ชายชราตะโกนออกไป ทันใดนั้นควันรอบตัวพลันเปลี่ยนไป มองไกลๆ ควันเหล่านี้กลายเป็นสองปีก เหมือนกับ…
ผีเสื้อที่รวมจากควันเทา!