Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1415

ตอนที่ 1415 ไข่มุกวิญญาณหวนคืน

ซูหมิงเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหยกนั้นด้วยสีหน้าใคร่ครวญเสี้ยวหนึ่ง ผ่านไปพักหนึ่งถึงยืนขึ้น สะบัดแขนเสื้อ กายเนื้อที่สิ้นชีพไปแล้วของบัณฑิตแตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเถ้าธุลีตรงหน้าเขา

‘ผู้แข็งแกร่งที่สุดของสำนักเจ็ดจันทรา ผู้อาวุโสใหญ่สายเลือดที่หนึ่ง…ถูกเรียกขาน กันว่าเจ้าสำนักกู่ไท่…’ ก่อนหน้านี้ซูหมิงก็พอรู้จักอีกฝ่ายอยู่บ้าง ถึงอย่างไร เขาก็มาสำนักเจ็ดจันทราราวห้าสิบปีแล้ว ประกอบกับตอนตื่นขึ้น การชี้แนะของ เทียนเสียจื่อระหว่างการเดินทางทำให้เขาเข้าใจแคว้นกู่จั้งไม่น้อย

‘เขาคือคนที่เคยเตือนข้าก่อนหน้านี้ว่าหากจะหลอมรวมวิชาเจ็ดชะตา จำเป็นต้องทำลายเพื่อกำเนิด’ ดวงตาซูหมิงขยับประกาย การใคร่ครวญในนั้นหายไป เมื่อกลับมาปกติแล้วก็ยกมือขวาขึ้นรับแผ่นหยกนั้น เดินอากาศไปหนึ่งก้าว

เดินไปหนึ่งก้าว แผ่นหยกในมือพลันเปล่งแสงสว่างจ้า กลายเป็นน้ำวนหนึ่งจมร่างซูหมิงเอาไว้แล้วหายไปในฟ้าเหนือฟ้าชั้นห้า

ณ ฟ้าเหนือฟ้า ยามนี้ผู้อาวุโสใหญ่สิบสามท่านรวมเต้าหานกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นบวงสรวงสูงตระหง่านกลางแผ่นดินแห่งแรกของโลกนี้ ตอนนี้เองปรากฏน้ำวนขึ้นกลางแท่นบวงสรวง เมื่อน้ำวนหายไป เมื่อสิบสามคนมองไป ร่างเงาซูหมิงเผยออกมาช้าๆ

“คารวะผู้อาวุโสใหญ่ทุกท่าน” ซูหมิงกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนประสานมือคารวะ แม้เขาจะไม่ได้อยู่ในสังกัดสำนักนี้มากนักเพราะมีเป้าหมายอื่น แต่ว่า…สำนักนี้โต้กลับสำนักเอกะเต๋า เหตุการณ์นี้ทำให้เขาสะเทือนใจเล็กน้อย

ดังนั้นตอนนี้ถึงคารวะ

ผู้อาวุโสใหญ่สิบสามคนรอบๆ พากันมองซูหมิง มีไม่น้อยที่เพิ่งเคยพบหน้าซูหมิงเป็นครั้งแรก ยามนี้มองไป ชายวัยกลางคนจีวรเต๋าฟ้าครามหรืออาจารย์ในสำนัก เจ็ดจันทราของซูหมิงเผยรอยยิ้ม

“ศิษย์ ไม่ต้องกลัว พวกเรารู้ฐานะของเจ้านานแล้ว เพราะแบบนี้เองข้าถึงรีบร้อนเป็นอาจารย์เจ้า เรื่องนี้…หวังว่าองค์ชายสามจะไม่กล่าวโทษ”

ซูหมิงได้ยินดังนั้น แม้มีสีหน้าปกติ แต่ในใจกลับไม่คิดเลยว่าอาจารย์ท่านนี้ จะยอมรับเรื่องนี้ ดังนั้นซูหมิงจึงเกิดความเคารพต่ออาจารย์ตนในสำนักเจ็ดจันทราเล็กน้อย

“เชิญองค์ชายสามนั่ง” กู่ไท่หนึ่งในสิบสามผู้อาวุโสใหญ่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม มีสีหน้าชื่นชม ขณะพูดเนิบๆ ซูหมิงไม่ได้ปฏิเสธ แต่นั่งขัดสมาธิลง

“ดูท่าด้วยสายเลือดราชวงศ์ขององค์ชายสาม ด้วยพลังและสติปัญญาของเจ้าจะต้องเห็นเงื่อนงำในพลังของพวกเราแน่ๆ ที่นี่…นอกจากเต้าหานที่บรรลุขอบเขตวิญญาณเต๋าขั้นสามเข้ามาเป็นผู้อาวุโสใหญ่ในภายหลังแล้ว ในสิบสามคนนี้มีแปดคนบรรลุเต๋าสูงศักดิ์ขั้นเจ็ด อีกสี่คนจิตเต๋าขั้นห้าและหก

พวกเราล้วนเป็นส่วนค้ำจุนสำนักเจ็ดจันทรา พวกเราอยู่ สำนักเจ็ดจันทราอยู่ พวกเราสิ้นสูญ…สำนักเจ็ดจันทรา…จะหายไป” กู่ไท่กล่าวเรียบๆ

ซูหมิงไม่ตอบ เพียงแค่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น ฟังด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

“ไม่ต้องโทษสวี่จงฝาน เขารีบร้อนเป็นอาจารย์เจ้าเกินไปหน่อยจริงๆ และเพราะแบบนี้ถึงเกิดการเชื่อมต่อกับรูปแบบชะตาเจ้าเสี้ยวหนึ่งได้ ถึงได้มีโอกาสเดิมพันโอกาสบรรลุขอบเขตมหาเต๋าสูงศักดิ์

แต่…เจ้าต้องรู้ว่าการเดิมพันครั้งนี้ก็มีการตัดสินใจเหมือนกัน ทันทีที่เขาบอกว่าจะเป็นอาจารย์เจ้า นับจากนั้นมา…ความเป็นตายของเจ้าถูกลิขิตไว้แล้วว่าเป็นเรื่องที่เขาต้องให้ความสำคัญมากที่สุด ความสำเร็จและล้มเหลวของเจ้าก็ถูกลิขิตไว้แล้วว่าเป็นความท้าทายที่เขาเลี่ยงไม่ได้

หากเจ้าล้มเหลว สิ่งที่เขาวางเดิมพันไว้คือพลัง อายุขัยที่เหลืออยู่รวมถึงโชคชะตาทั้งหมด การเดิมพันครั้งนี้ เขาวางของเดิมพันไว้เยอะมาก ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจ

กระทั่งแม้ตอนนี้ข้าลงมือกับเจ้า เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าอาจารย์เจ้าจะกัดฟันสู้เพื่อช่วยเจ้าให้ได้ เพราะเขาเชื่อมต่อกับรูปแบบชะตาเจ้าอย่างตัดไม่ขาดแล้ว” กู่ไท่มอง ซูหมิงอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่งแล้วพูดขึ้นช้าๆ

“และเพราะแบบนี้เองข้าถึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด พาสำนักเจ็ดจันทราเข้าสู่ การแย่งชิงบัลลังก์จักรพรรดิ ช่วยเจ้าอย่างสุดความสามารถ! เพราะว่า…สวี่จงฝานก็ดี ผู้อาวุโสใหญ่สิบเอ็ดท่านอื่นก็ดี ความจริงแล้ว…ล้วนเป็นศิษย์ของข้า!” พูดจบ ซูหมิงหน้าเปลี่ยนอารมณ์ เขาไม่รู้เรื่องนี้

“เพียงแต่หลังจากพวกเขาสำเร็จเต๋าแล้ว ข้าก็ร้องขอพวกเขาว่าอย่าเรียกข้าอาจารย์ ศิษย์ของข้าเกิดการเชื่อมต่อกับรูปแบบชะตาเจ้า ข้าเป็นอาจารย์เขาจึงถูกดึงเข้ามาพัวพันด้วยเช่นกัน

ดังนั้น สำนักเจ็ดจันทรานับจากนี้ พวกเราสิบสามคน ศิษย์หลายแสนคนจะช่วยเจ้าอย่างสุดความสามารถ!” เสียงกู่ไท่ดังก้อง ทำให้ซูหมิงเงียบไปครู่หนึ่งแล้วก็เอียงศีรษะมองอาจารย์ของตนแวบหนึ่ง ตอนนี้สวี่จงฝานมีสีหน้าละอายใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่า ละอายใจซูหมิงหรืออาจารย์ของเขา

สุดท้ายซูหมิงก็มองกู่ไท่

“ข้าต้องทำอย่างไรบ้าง” ซูหมิงพูดตอบนิ่งๆ ในน้ำเสียงไม่มีฐานะของศิษย์ สำนักเจ็ดจันทราอีก แต่อยู่ระดับเดียวกับทุกคน

“องค์ชายใหญ่มีสำนักเอกะเต๋าช่วย ความแกร่งของสำนักนี้อยู่สูงสุดในเจ็ดสำนัก! องค์ชายรองมีฝ่ายอสุราช่วย เป็นฝ่ายอยู่แดนห่างไกล ศักยภาพลึกลับไม่อาจคาดเดาเช่นกัน กระทั่งในบางด้าน…ยังเหนือกว่าสำนักเอกะเต๋า!

เพราะในฝ่ายอสุรามีเทียนซิวหลัวหนึ่งในสามเทพเต๋าขั้นเก้าในตำนานแคว้นกู่จั้ง!” สิ้นเสียงกู่ไท่ ผู้อาวุโสสิบสองคนรอบๆ ต่างหน้าเปลี่ยนสี เห็นได้ชัดว่าแม้แต่พวกเขายังเพิ่งเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก

“แต่ว่าผู้อาวุโสเทียนซิวหลัวปิดด่านนั่งฌานมานานมาก เว้นแต่ฝ่ายอสุราจะเจอกับภยันตรายเป็นตาย มิเช่นนั้นเขาจะไม่ออกมา ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องแย่งชิง บัลลังก์จักรพรรดิ

เพราะหากเขาเข้าร่วม เช่นนั้นสิ่งแรกที่เขาต้องเผชิญคือ…กู่หวงหนึ่งในสามเทพเต๋า ขั้นเก้าแห่งแคว้นกู่จั้ง หรือก็คือ บิดาของเจ้าองค์ชายสาม!

สำนักเอกะเต๋า ฝ่ายอสุรา นี่คือศัตรูตัวฉกาจที่เจ้าต้องเผชิญหน้าตอนนี้ เพราะโชคชะตาของสองสำนักนี้ก็เหมือนกับสำนักเจ็ดจันทรา นั่นคือมีการเชื่อมต่อที่แยกไม่ออกกับพวกเจ้าสามองค์ชาย!

เพราะว่าแม้แต่สำนักอื่นจะให้สามฝ่ายนี้เป็นศูนย์กลางทีละน้อยในภายภาคหน้า ค่อยๆ รวมด้วยกัน จนสามพันปีผ่านไป สุดท้าย…จะปะทุเป็นมหาสงครามแย่งชิงบัลลังก์!

แต่เงื่อนไขคือเจ้าต้องไม่ตายก่อนมหาสงครามมาถึง! นี่คือเรื่องที่เจ้าต้องจดจำเอาไว้ หากเจ้าตาย สำนักเจ็ดจันทราจะถูกคัดออกจากการแย่งชิงบัลลังก์

นี่คือข้อแรก ข้อสอง แม้เจ้าจะบรรลุขอบเขตวิญญาณเต๋า แต่ก็ยังไม่เสถียร ต้องเคาะเสียงวิญญาณเต๋าของเจ้า นี่คือเรื่องใหญ่ สำนักเจ็ดจันทราจะเตรียมการไว้ให้อย่างดีพร้อม ถึงตอนนั้นเรื่องที่เจ้าเคาะเสียงวิญญาณเต๋าจะเป็นที่จับตามองของ ทุกสำนักทั้งแคว้นกู่จั้ง แบบนี้…จะช่วยเจ้าสร้างอำนาจได้!

ข้อสาม พลังเจ้ายังไม่พอ พวกข้าก็ช่วยเจ้าเรื่องพลังไม่ได้มากนัก ทว่าผลพิสูจน์เต๋าที่จะออกผลในทุกหมื่นยุคใกล้จะสุกแล้ว นี่เป็นการแย่งชิงของทั้งแคว้นกู่จั้งเลย

ผลพิสูจน์เต๋านี้จะออกดอกในทุกห้าพันยุค ออกดอกอีกห้าพันยุคก็จะเป็น ผลพิสูจน์เต๋า หนึ่งครั้งมีสองผล ผลเล็กกับผลใหญ่!

ผลใหญ่ใช้หลอมเป็นสมบัติล้ำค่าได้ มันรับได้ทุกสรรพสิ่งในฟ้าดิน ดีเยี่ยมจน ไม่อาจบรรยาย ผลเล็ก…ล้ำค่าที่สุด เมื่อกินไปแล้วปิดด่านนั่งฌานสามเดือน จะทำให้ขอบเขตจิตเต๋ายกระดับพลังไปราวสามขั้น แต่ว่าคนที่กินต้องบรรลุขอบเขต วิญญาณเต๋า อีกทั้งเมื่อเกิดผลแล้วจะจำกัดพลังอยู่ที่ขอบเขตเต๋าสูงศักดิ์!

ครั้งนี้เป็นครั้งที่แปดที่มันจะออกดอกออกผลตั้งแต่มีบันทึกมา!

ข้อสี่ เจ้ายังขาดของวิเศษ แต่ของวิเศษของสำนักเจ็ดจันทราไม่เหมาะกับเจ้า แม้ผู้อาวุโสหลันหลันจะจงใจเรียกปรมาจารย์ดาราออกมา แต่นั่นก็เป็นไปตามความต้องการของพวกเรา อีกอย่างดูจากท่าทางเจ้าแล้วน่าจะมีเบาะแสอยู่บ้าง พวกเราจะช่วยเจ้าตามหาแส้สะเทือนดาราเส้นนั้นของเจ้าอย่างสุดกำลังเอง!

ข้อห้า สิ่งที่เจ้าต้องทำในตอนสุดท้ายคือหลังจากเสร็จเรื่องเหล่านี้แล้ว จงเดินไปถึงจุดสูงสุด หากสุดท้ายแล้วได้เป็นจักรพรรดิ สำนักเจ็ดจันทราจะได้ทะยานสู่ฟ้าด้วยเช่นกัน พวกเราสิบสามคนที่มีดวงชะตาเสริมร่างจะได้ก้าวสู่ขอบเขตมหาเต๋าสูงศักดิ์ ส่วนข้า…มีหวังได้บรรลุขอบเขตเทพเต๋าขั้นเก้า!” กู่ไท่เพ่งมองซูหมิงพร้อมพูดขึ้นช้าๆ

“ตั้งแต่อดีตจนมาถึงตอนนี้ มหาเต๋าสูงศักดิ์ทั้งหมดยกระดับพลังกันแบบนี้รึ?” ซูหมิงเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถามออกไป

“ไม่ใช่ นี่คือทางลัด มิเช่นนั้นเหตุใดสำนักเอกะเต๋ากับฝ่ายอสุราถึงกระตือรือร้นกับเรื่องนี้นัก” กู่ไท่มองซูหมิงพลางตอบกลับนิ่งๆ

“เรื่องอื่นๆ ไม่มีปัญหา แต่ในสำนักเจ็ดจันทรามีสมบัติล้ำค่าที่ข้าต้องการอยู่” ซูหมิงพลันพูดต่อ

พูดจบ กู่ไท่ยิ้มมุมปาก

“พูดมาเถอะ ข้ารู้ว่าเจ้าเลือกมาสำนักเจ็ดจันทราจะต้องเห็นอะไรดีแน่ ถึงได้ซ่อนฐานะเข้ามา”

“ข้าต้องการไข่มุกในมือเขา!” ซูหมิงไม่ลังเลและไม่ปิดบังแม้แต่น้อย พูดตอบพลางมองเต้าหาน

ทันทีที่ซูหมิงพูดจบ เต้าหานขมวดคิ้วเล็กน้อย

“นี่ไม่ใช่ไข่มุก นี่คือ…” กู่ไท่ตรึกตรองอยู่ชั่วประเดี๋ยว ไม่คิดเลยว่าซูหมิงจะต้องการสิ่งนี้ ช่วงที่เขายกมือขวาขึ้น เต้าหานพลันคลายมือ ไข่มุกที่อยู่ในมือเขามาตลอดลอยมายังกู่ไท่ ก่อนถูกคว้าเอาไว้ในมือ

“นี่คือ…ผลเต๋า! ผลเต๋าที่ข้าพูดกับเจ้าก่อนหน้านี้มีลูกหนึ่งเล็กลูกหนึ่งใหญ่ นี่คือผลเต๋าจากการแย่งชิงพิสูจน์เต๋าครั้งก่อน ข้าใช้พลังสูงสุดเกือบเอาชีวิตไม่รอดชิงมาได้

สิ่งนี้เรียกว่าไข่มุกวิญญาณหวนคืน ถูกหลอมเป็นสมบัติล้ำค่าสืบทอดแก่ผู้ดูแลสำนักเจ็ดจันทรา…” กู่ไท่พูดเสียงเบา เหมือนกำลังตรึกตรองบางอย่าง

“ข้าไม่ต้องการสิ่งนี้นานนัก เพียงแค่ยืมใช้ชั่วคราว” ซูหมิงมองไข่มุกในมือ กู่ไท่แล้วตอบกลับนิ่งๆ

“อ้อ?” กู่ไท่เงยหน้าขึ้นมองซูหมิงแวบหนึ่งแล้วยิ้มเล็กน้อย ก่อนสะบัดมือขวา ไข่มุกตรงไปหาซูหมิง

“สำนักเจ็ดจันทราฝากดวงชะตาไว้กับเจ้าแล้ว เหตุใดของนอกกายเล็กจ้อยแค่นี้จะให้เจ้าไม่ได้!”

ซูหมิงใช้มือขวาคว้าไข่มุกเอาไว้ ทันทีที่มือสัมผัส ไข่มุกพลันเปล่งแสงสว่างจ้า ระหว่างที่แสงนี้เปลี่ยนไปเหมือนมีเสียงคำรามดังแว่วมา มีการโห่ร้อง มีการเรียกหา ที่ทำให้ซูหมิงใจสั่นสะท้าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version