Skip to content

สู่วิถีอสุรา 150

SVTASR

ตอนที่ 150 ไล่ตาม

แดนแห่งนี้อาจเป็นแดนนั่งฌานละสังขารหรือแดนปิดด่านฝึกพลังของบรรพบุรุษเขาหาน กล่าวได้ว่ามันซ่อนอยู่ในเหวลึกหมื่นจั้งใต้เมืองเขาหาน และกล่าวได้อีกว่ามันเป็นเส้นทางลับของเมืองเขาหาน เป็นมิติน่าอัศจรรย์ที่ถูกสร้างขึ้น

แดนแห่งนี้ไม่ใหญ่มากนัก ทว่าหากจะเดินให้ครบรอบ ด้วยความเร็วของซูหมิงอย่างน้อยต้องใช้เวลาประมาณสิบวัน ภายในเต็มไปด้วยเทือกเขา ทว่ากลับไม่มีความรู้สึกชื้นเท่าไร เห็นได้ชัดว่ามันแห้งแล้งยิ่งนัก ขณะเดียวกันยังอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณเข้มข้นที่ผู้อื่นไม่อาจสัมผัสได้ชัดเจน

พลังวิญญาณโอบล้อมแดนแห่งนี้ ซูหมิงสัมผัสได้ตามการเคลื่อนไหวของหมอก ส่วนคนอื่นรู้สึกเพียงว่าแดนแห่งนี้เย็นสบายราวกับลืมความเหนื่อยล้าได้เท่านั้น

บางทีอาจเป็นเพราะพลังวิญญาณเหล่านี้ จึงทำให้ระหว่างเทือกเขามีพืชเติบโตอยู่ไม่น้อย เทียบกับพืชจากโลกภายนอกแล้วพวกมันดูมีจิตวิญญาณ ดูอิ่มเอิบ กระทั่งสมุนไพรล้ำค่าบางต้นยังหาได้ยากยิ่งในโลกภายนอก

ในใบรายชื่อที่เผ่าบูรพาสงบมอบให้แขกพิเศษทุกคนที่เข้ามา จะระบุถึงตำแหน่งของสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้นเอาไว้อย่างชัดเจน ทั้งยังวาดแผนที่ภูมิประเทศของแดนแห่งนี้เอาไว้

มีแผนที่ฉบับนี้อยู่ทำให้คนไม่หลงทาง ยามนี้ซูหมิงถือแผ่นไม้บันทึกของเผ่าบูรพาสงบในมือ เขาจดจำทุกอย่างเอาไว้ในความคิดก่อนห้อเหยียดไปตามเทือกเขาสลับขึ้นลง มุ่งหน้าไปด้วยความตื่นตัว

ซูหมิงแผ่ขยายเคล็ดวิชาตราประทับตลอดทาง ตื่นตัวกับสายลมที่พัดผ่านใบไม้โดยรอบตลอดเวลา เขาทราบดีว่าแดนแห่งนี้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น พบเจออันตรายได้ทุกเมื่อ ภัยอันตรายนี้มาจากเผ่าเหยียนฉือ

อีกทั้งตอนนี้เขายังไม่ทราบด้วยว่าระหว่างเผ่าผู่เชียงกับบูรพาสงบเป็นพันธมิตรกันหรือไม่ หากไม่เป็นเช่นนั้น แดนแห่งนี้คงวุ่นวายยิ่งนัก

‘ในแขกพิเศษเผ่าบูรพาสงบ ผู้แข็งแกร่งสุดคือแขกพิเศษสูงสุดหนานเทียน…

เขาก้าวสู่ขั้นชำระล้างแล้ว ในแผ่นไม้บันทึกที่ฟางมู่ให้มาอธิบายถึงเขามากที่สุด เขาเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาในแดนแห่งนี้ ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ใด…หนานเทียนแห่งเผ่าบูรพาสงบ เสวียนหลุนแห่งเผ่าผู่เชียง และยังมีเคอจิ่วซือแห่งเผ่าเหยียนฉือ สามคนนี้เป็นผู้แข็งแกร่งสุดในแขกพิเศษจากสามชนเผ่า’ แววตาซูหมิงเป็นประกายวาววับ ก้าวเดินไร้เสียง ผ่านไปหนึ่งก้านธูปเขาเห็นซอกเขายักษ์ระหว่างเทือกเขาเบื้องหน้า ลักษณะเหมือนยอดเขาถูกแบ่งเป็นสองส่วน

‘ว่านวิญญาณสงบอยู่ที่นี่!’ ในแผ่นไม้บันทึกของเผ่าบูรพาสงบมีสมุนไพรเกือบเจ็ดส่วนที่เขาไม่รู้จัก อีกทั้งนอกจากกิ่งไม้เสียงสวรรค์แล้ว สมุนไพรตัวอื่นยังไม่มีประโยชน์กับเขาในตอนนี้

ทว่าในเมื่อเข้ามาแล้วก็ไม่อยากละทิ้งโอกาส จึงพยามเก็บสมุนไพรให้ได้มากและครบครันที่สุด นี่อาจเป็นประโยชน์ในการหลอมสมุนไพรของเขาต่อจากโอสถชิงวิญญาณ

ซูหมิงมองซอกเขาเบื้องหน้า ในใจตื่นตัวมากกว่าเดิม ก่อนเข้าใกล้เขาใช้เคล็ดวิชาตราประทับสองร้อยจั้งมารวมอยู่ตรงจุดนี้ เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดหลายรอบแล้ว จึงพุ่งทะยานเข้าไป กลายเป็นสายรุ้งลากยาวระนาบกับพื้น ลำแสงขยับวูบวาบเพียงหนึ่งครั้งก็เข้ามาในรอยแยกหุบเขาดังกล่าว

รอกแยกแห่งนี้ลึกยิ่งนัก มองไม่เห็นปลายทาง ราวกับทะลวงผ่านผืนดิน ภายในรอยแยก ซูหมิงคลำผนังหินสองข้าง สูดลมหายใจเข้าลึก

‘นี่น่าจะมีคนสร้างขึ้น…จากลักษณะของมันเหมือนถูกดาบแบ่งครึ่ง…พลังระดับใดกันถึงทำได้ขนาดนี้!’ ซูหมิงมองเข้าไปในรอยแยกเงียบๆ เดินไปพลางคำนวณระยะทาง

ผ่านไปครู่หนึ่ง ซูหมิงพลันชะงักอยู่ตรงจุดที่ค่อนข้างลึกของรอยแยก เขาเห็นโพรงแห่งหนึ่งบนผนังหินผาด้านข้าง ขนาดไม่ใหญ่นัก ภายในมืดทึบ คล้ายเคยเป็นเส้นทางก่อนถูกรอยแยกเส้นนี้ตัดผ่าน

‘คือที่นี่แหละ’ ซูหมิงเดินอย่างระมัดระวัง แผ่ขยายตราประทับ ค่อยๆ เดินเข้าไปในโพรงดังกล่าว ในช่วงที่ก้าวเข้ามาพบว่าในโพรงมีหมอกขาวบางๆ ลอยจากรอยแยกตรงเข้ามาโอบล้อมเขาเอาไว้ทันที

ซูหมิงไม่ถอย แต่หยิบแผ่นไม้บันทึกของเผ่าบูรพาสงบขึ้นมา ภายในบันทึกอธิบายถึงสมุนไพรเหล่านี้เอาไว้อย่างละเอียด สถานที่เติบโตของพวกมัน เป็นสิ่งที่เผ่าบูรพาสงบรวบรวมมาได้หลังจากเปิดแดนแห่งนี้มาหลายยุคหลายสมัย อีกทั้งยังปกปักรักษาสมุนไพรเหล่านี้ มิได้เก็บพวกมันจนหมดในครั้งเดียว แต่เลี้ยงพวกมันเอาไว้ที่นี่และมาเก็บเกี่ยวในครั้งต่อไป

เมื่อหาพบและเข้ามาแล้วก็จำเป็นต้องใช้แผ่นไม้บันทึกถึงจะเปิดอาคมป้องกันสถานที่เพาะเลี้ยงสมุนไพรเหล่านี้ได้ ทว่าหลายร้อยปีมานี้เคยเกิดเรื่องถูกอีกสองชนเผ่าชิงแผ่นไม้บันทึกอยู่บ่อยครั้ง ทว่าพวกเขาก็เคยชิงของเผ่าอื่นเช่นกัน ทำให้สถานที่เพาะเลี้ยงสมุนไพรแทบจะเก้าส่วนในแดนแห่งนี้เป็นที่ทราบโดยทั่วกันทั้งสามเผ่า

ทว่าเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายของสมุนไพรระหว่างแย่งชิง ระหว่างสามชนเผ่าจึงเริ่มมีความสมดุล นอกจากสมุนไพรล้ำค่าหลายชนิดที่สามชนเผ่าต้องแย่งชิงกันแล้ว จุดอื่นๆ ส่วนใหญ่ก่อนเปิดแดนแห่งนี้ ทั้งสามเผ่าจะแบ่งพื้นที่กันอย่างชัดเจน

หมอกขาวดังกล่าวม้วนตัวซูหมิง หลังจากสัมผัสกับแผ่นไม้บันทึกในมือเขาแล้วจึงค่อยๆ หายไป เผยให้เห็นเส้นทางด้านใน ซูหมิงไตร่ตรองครู่หนึ่งก่อนเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ไม่นาน เงาซูหมิงในโพรงขยับแสง ก้าวเดินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนห้อเหยียดออกจากรอยแยกมายืนอยู่ตรงชายขอบ แววตาเป็นประกาย หลังขบคิดเพียงชั่วครู่ เขาก้มหน้าลงมองรอยแยกใต้ฝ่าเท้าอีกครั้ง เมื่อตัดสินใจได้จึงกลับเข้าไปในรอยแยกอีกครั้ง

ครั้งนี้เขามิได้เข้าไปในโพรง แต่มุ่งหน้าไปยังส่วนลึก เบื้องล่างมืดทึบ ทว่าด้วยเคล็ดวิชาตราประทับ เขาไม่จำเป็นต้องใช้ตามองก็สัมผัสผ่านความคิดได้อย่างชัดเจน

เวลาผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เบื้องหน้าซูหมิงยังคงลึกมองไม่เห็นปลายทาง แต่มันกลับแคบลงเรื่อยๆ กระทั่งมีหลายจุดจำเป็นต้องเอียงตัว ทันใดนั้นภายในขอบเขตตราประทับของซูหมิง เขามองเห็นบางอย่าง

‘เป็นเช่นนี้จริงๆ!’ ซูหมิงชะงักฝีเท้า ก่อนเดินไปทางวัตถุดังกล่าวตามความคิดจากวิชาตราประทับ ไม่นานเขาพบศพคนไร้ศีรษะเบื้องหน้า ร่างศพติดอยู่บนผนังหินในซอก สวมเสื้อคลุมฟ้า บนตัวเต็มไปด้วยบาดแผล โดยเฉพาะตรงหน้าอกที่แทบทะลวงผ่านร่างกาย ตรงเอวเขาแขวนตราชิ้นหนึ่ง ตรานี้เป็นเครื่องหมายของแขกพิเศษเผ่าบูรพาสงบ!

ซูหมิงพิจารณาศพอย่างละเอียดครู่หนึ่ง เขาพลิกศพไปมาก็ไม่พบของที่ผู้ตายเหลือทิ้งเอาไว้ ทว่าจากบนตัวศพก็มั่นใจได้ว่าตายมาแล้วหลายวัน

‘ไม่มีศีรษะ ไม่มีเลือด…’ ซูหมิงขบคิด ขยับร่างกายไปเบื้องหน้า ไม่นานก็ออกจากรอยแยกเส้นนี้ ก่อนห้อเหยียดไกลออกไป

หลายชั่วยามต่อมา ซูหมิงไปยังสถานที่เพาะเลี้ยงสมุนไพรในบันทึกไม้อีกห้าแห่ง สีหน้าของเขาเคร่งขรึมมากขึ้น ยืนอยู่ข้างก้อนหินยักษ์ คลำแผ่นไม้บันทึกในมือแววตาขบคิด

‘ไม่อยากเชื่อว่าจะได้สมุนไพรมาครบ!’ สำหรับซูหมิงแล้วนี่มิใช่ข่าวดี เพราะนั่นหมายความว่าแขกพิเศษสองกลุ่มของเผ่าบูรพาสงบที่เข้ามาก่อนหน้านี้แทบไม่มีโอกาสได้แยกตัวมาเก็บสมุนไพรเลย ต่อให้มีคนมาก็กลายเป็นศพเหมือนกับคนในรอยแยก

แววตาซูหมิงเป็นประกาย ขบคิดชั่วครู่จนตัดสินใจเด็ดขาด ขณะกำลังจะเดินทางต่อ กระบี่เล็กพลันส่งเสียงร้องในความคิด เขาหมุนตัวกลับ พบว่าบนท้องฟ้าห่างไกลมีเมฆขาวกำลังตรงเข้ามา บนเมฆขาวมีเงาสองคนยืนอยู่ หนึ่งในนั้นมีรูปร่างอ่อนช้อย นางคือหานเฟยจื่อ!

ซูหมิงหรี่ตาลง ล่าถอยโดยไม่ต้องคิด เขาซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินไม่ยอมเผชิญหน้ากับนาง ในความคิดเขาการปรากฏตัวของนางน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ หากหลบได้ก็ควรหลบ

เมฆขาวเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนค่อยๆ ลดความเร็วลง เงาโลหิตที่ลอยอยู่ตรงหน้าหานเฟยจื่อ ยามนี้พลันเปล่งแสงสีแดงเด่นชัดทำให้เป็นที่สังเกตของซูหมิงทันที เดิมทีเขาคิดว่านางแค่ผ่านทางมา ทว่าพอได้เห็นเมฆขาวชะลอตัวลงเหมือนจะหยุด ทั้งยังเห็นแสงสีแดงจากเงาโลหิต พอเพ่งมองเข้าไปซูหมิงพลันจิตใจสั่นไหว ลักษณะของเงาโลหิตที่เขาเห็นคือตัวเขาตอนสวมหน้ากาก!

‘แย่แล้ว!’ ซูหมิงทราบทันทีว่าการปรากฏตัวของอีกฝ่ายมิใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการใช้เคล็ดวิชาหมานพิสดารบางอย่างนำทางมาหาตน!

‘จะต้องเป็นชายเสื้อคลุมแดงจากเผ่าเหยียนฉือแน่!’ ซูหมิงล่าถอยทันที ขณะเพิ่งถอยไปไม่ถึงสามจั้ง ก้อนหินที่เขาซ่อนตัวอยู่ก่อนหน้านี้พลันขับไอหนาวเยือก ส่งเสียงกึกๆ พื้นผิวมีน้ำแข็งค้างเกาะเต็มไปหมด พริบตาเดียวก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็ง

ก้อนน้ำแข็งพลันระเบิดกระจายเป็นเศษหินจำนวนมากตรงเข้าใส่ซูหมิง ขณะเดียวกัน บนเมฆขาวกลางท้องฟ้า เหยียนก่วงชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ด้านหลังหานเฟยจื่อพลันก้าวไปเบื้องหน้า อาศัยแรงโน้มถ่วงจากท้องฟ้ากลายเป็นสายรุ้งตรงเข้าหาซูหมิง

“แขกพิเศษเผ่าบูรพาสงบ สังหารชาวเผ่าเหยียนฉือของข้า ตอนนี้เจ้ากล้าสู้กับแซ่เหยียนหรือไม่!” เหยียนก่วงกล่าวด้วยน้ำเสียงดังกังวานเป็นวงกว้าง

เขาตรงเข้ามาพร้อมกับเสียงคำรามลากยาว ในมือถือทวนยาวหนึ่งเล่ม ทุกส่วนเป็นสีฟ้าพร้อมขยับแสงประหลาด ยามนี้พุ่งทะยานเข้ามาพร้อมกับตัวเขา

‘ขั้นรวมโลหิตตอนปลาย จำนวนเส้นเลือดไม่น้อยกว่าแปดร้อยห้าสิบเส้น!’ ขณะล่าถอย ซูหมิงมองเห็นขั้นพลังของชายหนุ่มผ่านดวงตาภายใต้หน้ากาก บุคคลนี้หากประมือกันเพียงลำพัง เขามั่นใจว่าจะเอาชนะได้ แต่ยามนี้ข้างกายยังมีหานเฟยจื่ออีกคน

ชายหนุ่มคนนี้ซูหมิงเมินเฉยได้ ทว่าหานเฟยจื่อ เขาเคยประมือกับนางมาแล้ว สตรีนางนี้มีกลอุบายหลากหลาย หากสองคนปรากฏตัวพร้อมกันเขาไม่อาจต้านทานไหว

ความคิดจำนวนมากแล่นผ่านสมองของซูหมิง ขณะถอยร่นเขาสะบัดมือขวาไปเบื้องหน้า กำหมัดชกเข้าใส่เหยียนก่วงที่กำลังดิ่งลงมาจากท้องฟ้า ขณะเดียวกันตรงแขนซ้ายซูหมิงมีอสรพิษสีดำปรากฏตัว มันแผดเสียงร้องพุ่งตรงเข้าใส่เศษหินน้ำแข็งเหล่านั้นที่กำลังตรงเข้ามา

ขณะปล่อยหมัด ร่างกายซูหมิงสั่นสะท้าน กระเด็นถอยไปหลายก้าว ใบหน้าภายใต้หน้ากากซีดขาวเล็กน้อย ส่วนเหยียนก่วงบนอากาศอาการหนักยิ่งกว่า เขากระอักโลหิต ทวนยาวสีฟ้าแทบจะหลุดจากมือ ร่างของเขาถูกพลังมหาศาลจู่โจมจนกระเด็นไปหลายสิบจั้ง ก่อนหยุดด้วยความตื่นกลัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version