Skip to content

สู่วิถีอสุรา 203

ตอนที่ 203 ลวดลายของซูหมิง

เวลานี้นอกถ้ำของซูหมิง ชายชราบนท้องฟ้ากำลังมองแผ่นดิน นัยน์ตาเป็นประกาย สีหน้าจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดกลายเป็นทึ่ง

“ลายหิมะ…ลายหมานของซือหม่าซิ่นในตอนนั้นก็เป็นลายหิมะ มันเคยสั่นคลอนเหมันต์สวรรค์ เหมาะสำหรับการฝึกฝนวิชาของสำนักเหมันต์สวรรค์อย่างยิ่ง! ไม่คิดเลยว่าข้าจะได้เห็นลายหิมะเหมือนกับซือหม่าซิ่นอีกครั้ง!” ชายชราสูดลมหายใจเข้าลึก แววตาเป็นประกายมากขึ้น

“นักรบขั้นชำระล้างจากรวมโลหิตมหาสมบูรณ์ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง ทั้งยังสัมผัสถึงลายหมานต่างกันสองชนิด เจ้าละทิ้งจันทร์เพลิง ตอนนี้ลายหิมะ…น่าจะสอดคล้องกับสภาพจิตใจของเจ้า ทว่าหากมองจากของซือหม่าซิ่นก็เห็นได้เลาๆ ลายหิมะคือความหนาวเยือกถึงขีดสุด ตัดความรักความต้องการ เป็นหิมะไร้ความรู้สึก…เด็กคนนี้จะเลือกหรือไม่…”

ชายชรากล่าวพึมพำ เพ่งสายตามองแผ่นดิน แววตาของเขาราวกับมองทะลุทุกอย่าง เห็นคนกำลังเศร้าโศก ทั้งตัวถูกเกล็ดหิมะปกคลุม นั่งขัดสมาธิอยู่ภายในถ้ำภูเขาลึก

“หากเขาละทิ้งลวดลายอีกครั้ง….เว้นแต่เขาจะสัมผัสได้ถึงลายหมานที่สาม มิเช่นนั้นแล้วก็มีแต่ต้องเลือกลายหมานที่ไม่เหมาะกับตัวเอง หากไม่ยอมเลือก ขั้นพลังก็จะหยุดนิ่งไปชั่วนิรันดร์ ไม่อาจทะลวงได้อีก….” ชายชรามีสีหน้าเป็นกังวล เขาเข้าใจลายหมานอย่างถ่องแท้ ในประวัติศาสตร์เผ่าหมานเคยปรากฏนักรบขั้นชำระล้างที่ไม่มีลายหมานมาก่อน คนเหล่านี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ล้วนไม่อาจทะลวงขั้นพลังได้อีก ต้องหยุดไปชั่วชีวิต

ไม่มีลายหมานก็ไม่ถือว่าเป็นชาวหมานอย่างแท้จริง!

“เขาไม่น่าจะละทิ้งอีกแล้ว…” ขณะชายชราพึมพำกับตัวเอง สีหน้าพลันเปลี่ยน

ณ ถ้ำภูเขาลึกบนผืนดิน ภายในโลกของจิตใจซูหมิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิมีคำพูดประโยคหนึ่งดังกังวาน

“ใส่มันไว้ในกระจกแล้วไปซะ…อย่านำไปด้วย” ซูหมิงกล่าวพึมพำเบาๆ เขามองกระจกน้ำแข็งตรงหน้า มองดอกไม้น้ำแข็งและชายเสื้อคลุมขาวด้านหลังมัน

“ข้าวางมันไว้ในกระจกแล้วจากไปได้จริงๆ หรือ….” ซูหมิงมีสีหน้าขมขื่น ถอนหายใจอีกครั้ง

“ข้าผิดสัญญามาแล้วครั้งหนึ่ง…”

“แม้แต่ความทรงจำและเรื่องราวในวัยเยาว์ยังละทิ้งได้…หากทำเช่นนั้น ต่อให้ข้าได้ลายหิมะนี้มา ข้า จะยังเป็นข้าอยู่หรือไม่….” ซูหมิงหลับตาลง

“ลายหมานชำระล้าง ไม่นึกเลยว่าความคิดของลวดลายขั้นชำระล้างจะเกิดเป็นภาพมายาเช่นนี้ ดวงจันทร์กลางทะเลสาบ ดอกไม้ในกระจก…สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภาพมายา พวกมันมิใช่ของจริง! ทุกอย่างเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา [ 1 ]ท้ายที่สุดแล้วมิใช่ทางเลือกของข้า!” ซูหมิงพลันลืมตาทั้งสองข้าง

“ภาพมายาเหล่านี้…ข้าไม่ต้องการ!” ซูหมิงกล่าวจบ กระจกน้ำแข็งตรงหน้าพลันปรากฏรอยร้าวจำนวนมาก เกิดเป็นเสียงแกรกๆ ก่อนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ รวมถึงดอกไม้ในกระจกและเงาคนเสื้อคลุมขาวก็ราวกับถูกแยกออกเป็นหลายส่วนอยู่ตามเศษกระจก แล้วจึงพังทลายลงต่อหน้าซูหมิง

“โง่เขลา!” เมื่อชายชราบนท้องฟ้าเห็นดังนั้นจึงกล่าวเรียบๆ ทว่าเขามิได้ห้ามซูหมิงละทิ้งลายหมานเหมือนครั้งแรก เพียงแต่มองการกระทำของซูหมิง

“ทว่ากลับมีความเด็ดเดี่ยวมากพอ! นิสัยเหมาะจะเป็นศิษย์ของข้า หากเจ้าสัมผัสถึงลายหมานที่สามได้จริงๆ ต่อให้เจ้าไม่เป็นศิษย์ของข้า ไม่ผ่านการทดสอบของข้า ข้าก็จะส่งเจ้าเข้าสำนักเหมันต์สวรรค์!” ชายชรามองผืนดินเงียบๆ กำลังรอลายหมานที่สามที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าจะปรากฏหรือไม่!

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ไม่นานก็เข้าสู่ยามค่ำคืน เพียงแต่ในค่ำคืนวันนี้ บนท้องฟ้ากลับถูกปกคลุมด้วยแสงครามและแสงโลหิต เกิดเป็นปรากฏการณ์น่าอัศจรรย์ระหว่างพวกมันโอบล้อม

ภายในถ้ำบนแผ่นดิน หิมะรอบตัวซูหมิงหายไป บนผนังหินไม่มีชั้นน้ำแข็งและไอหนาวอีก ทั้งนอกและในเทือกเขากลับคืนสู่สภาพเดิม

‘ทำไม่ได้อย่างนั้นรึ…’ ชายชราบนท้องฟ้ารออยู่นานจึงถอนหายใจ

เพียงแต่เขายังไม่จากไป ยังคงรออยู่บนท้องฟ้า จนยามค่ำคืนผ่านไปอย่างช้าๆ ยามตะวันทอแสง ซูหมิงในถ้ำภูเขายังคงนั่งขัดสมาธิอย่างสงบนิ่ง ไม่ปรากฏภาพมายาจากลายหมานอีกประหนึ่งหลับใหลไป

‘เขาละทิ้งลายจันทร์เพลิง นั่นหมายความว่าชนเผ่าบ้านเกิดของเขามิได้ฝึกวิชาเพลิง เพราะต่างกันเขาจึงไม่เลือก จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าเขาเป็นคนกตัญญู’

‘เขาละทิ้งลายหิมะ ไม่ยอมไร้ความรู้สึก ไม่ยอมเย็นชา อธิบายได้ว่าเขาให้ความสำคัญกับเรื่องความรู้สึก…’

‘ทว่ายิ่งเป็นแบบนี้เท่าไรก็ยิ่งไม่เหมาะจะฝึกและสืบทอดวิชาของข้า เขาเป็นปีศาจชั่วร้ายมิได้….การทดสอบไม่จำเป็นแล้ว’ สามวันให้หลัง ชายชราถอนหายใจยาว มองผืนแผ่นดินอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่งก่อนตัดสินใจไม่รออีก เขารู้ดีว่าเวลาในการชำระล้างมีเท่าไร เมื่อตื่นจากภาพมายานั่นก็หมายความว่าสิ้นสุดลงแล้ว

และเวลานี้เขาสัมผัสได้ว่าซูหมิงภายในถ้ำภูเขากำลังลืมตา

“หากเจ้าเลือกเหมันต์สวรรค์ ถึงตอนนั้นข้าจะออกปากให้” ชายชราพึมพำกับตัวเอง เดินจากไปไกลทีละก้าวด้วยความเสียดาย เงาแผ่นหลังของเขาดูโดดเดี่ยวเล็กน้อย การจากไปของเขาทำให้แสงครามและแสงโลหิตค่อยๆ เลือนราง ท้ายที่สุดรูปปั้นหินที่หลับตามาโดยตลอดก็หายไปพร้อมกัน

‘ล้มเหลวแล้ว…’ ภายในถ้ำภูเขา ซูหมิงลืมตาขึ้นมองผนังหินตรงหน้าพลางกล่าวเบาๆ โดยรอบมืดสนิทและเงียบสงัดนัก เขาเงยหน้าขึ้นมา

สีหน้าซูหมิงสงบนิ่ง ไม่มีคำว่าเสียใจภายหลัง ไม่มีคลื่นอารมณ์ มีแค่ถามตัวเองในความมืดว่าละทิ้งลายหมานที่แข็งแกร่งสองชนิดไปมันคุ้มค่าหรือไม่

‘จันทร์เพลิงต่างจากชนเผ่าของข้า ให้ข้าเปลี่ยนชนเผ่า จากนี้ข้าจะไม่ใช่ชาวเผ่าเขาทมิฬอีก แต่เป็นหมานเพลิง…เรื่องนี้ข้าไม่ยอม’

‘หิมะ มันให้ข้าวางความรู้สึกทั้งหมดลงในกระจกแล้วจากไป เรื่องนี้ข้าก็ทำไม่ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องมีอะไรให้เสียใจ’ ซูหมิงรู้สึกว่าหลังจากละทิ้งลายหมานสองชนิด ขั้นพลังชำระล้างในร่างกายเขาราวกับเสียความกระปรี้กระเปร่า อ่อนกำลังลง

“อะไรคือลวดลาย…” ซูหมิงไม่สนใจเรื่องพลังถดถอย แต่เงยหน้ามองผนังหินมืดทึบด้านบน พร้อมกล่าวพึมพำ

‘ลวดลายคือการแสดงออกทางจิตใจของเรา มันเป็นสิ่งพิเศษ และเป็นระดับพลังของเราเพียงคนเดียว…..’ นี่เป็นสิ่งที่ท่านปู่เคยบอกกับซูหมิง เขายังคงจำมันได้ตลอด

‘เหตุใดลายหมานถึงต้องมีความคิด…’ ซูหมิงยิ้ม

รอยยิ้มของเขาอ่อนจางยิ่งนัก ทว่าในรอยยิ้มกลับมีความเข้าใจที่คนอื่นมองไม่เห็นในเวลานี้

‘เพราะคนบนโลกมักจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่รู้ความรู้สึกข้างในใจของตัวเอง จึงต้องขบคิดเพื่อสัมผัสความรู้สึกของตัวเอง…..แท้จริงแล้วลายหมานก็คือการถามตัวเอง!’ นัยน์ตาซูหมิงสงบนิ่ง ไม่มีระลอกคลื่นสั่นไหว ทว่ากลับค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้น

‘ข้าถามตัวเองแล้ว ดังนั้นจึงมีจันทร์เพลิงกับหิมะ….ทว่ามันก็แค่ภาพลวงตา ต่อให้ข้าได้มาเพราะถามตัวเอง ก็ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ข้าต้องการจริงๆ ’ ซูหมิงยื่นมือขวาไปตรงหน้า

เขามองมือขวาของตัวเอง นัยน์ตาฉายแววประหลาดใจ

‘ในทางกลับกัน เป็นเพราะต้องขบคิดถามตัวเอง ข้าจึงได้ทราบว่าจริงๆ แล้วข้าต้องการลายอะไรกันแน่….’ ซูหมิงยิ้ม วางนิ้วชี้มือขวาตรงมุมปาก จากนั้นกัดจนแตกบีบโลหิตสดออกมา โลหิตนั้นเหนียวข้นยิ่งนัก ภายในแฝงไว้ด้วยพลังขั้นชำระล้างของซูหมิง

ภายใต้การรวมตัวของพลังชำระล้าง โลหิตนี้คือโลหิตหมาน!

‘ ’ ใช้โลหิตหมานวาดลายหมาน….’ ซูหมิงจิ้มนิ้วตรงระหว่างคิ้วอย่างไม่ลังเล ก่อนวาดลายหมานเส้นแรกในชีวิตลงมาตรงคาง!

มันเป็นรอยน่าตะลึงสีโลหิต เริ่มจากระหว่างคิ้วผ่านปลายจมูก ผ่านริมฝีปากทั้งสองข้างจนกระทั่งเชื่อมกับคาง การวาดลายหมานจะเหนี่ยวนำพลังชำระล้างจนเกิดเป็นเหตุการณ์ผิวหนังขับหมอกแดงเหมือนก่อนหน้านี้ ทว่าตอนนี้กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

‘ลวดลายของข้าคือการสะท้อนเจตนารมณ์ของข้า…’ นัยน์ตาซูหมิงเปล่งประกายมากขึ้น ภายในส่วนลึกดวงตาเขาราวกับมีภาพบางอย่าง ภาพเหล่านั้นประทับในสมองของเขา ไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

เขาใช้นิ้วชี้มือขวาวาดบนใบหน้าอีกครั้ง ผ่านดวงตาซ้าย ทว่าการวาดครั้งนี้ พลังชำระล้างในร่างกายเขายังคงสงบนิ่ง

“มันไม่ใช่สิ่งที่มาจากความคิด แต่ได้มาจากการพิสูจน์เมื่อละทิ้งความคิด….”

ซูหมิงกล่าวพึมพำเบาๆ หลับตาลง ใช้นิ้วชี้วาดเส้นที่สาม เวลานี้บนใบหน้าของเขามีรอยยาวสีโลหิตสามเส้น แต่กลับมองไม่ออกว่าเขากำลังจะวาดอะไรกันแน่ บางทีอาจมีแค่ภาพวาดในดวงตาของเขาเท่านั้นที่จะทำให้ทราบว่าเขากำลังวาดลายหมานอะไร

‘มันมิใช่จันทร์แห่งหมานเพลิง!’ ซูหมิงวาดเส้นที่สี่ เส้นที่ห้า…

‘มันมิใช่หิมะน้ำแข็ง!’ ลายเส้นบนใบหน้าของเขาดูสบสนปนเป แม้มีไม่น้อย ทว่ากลับขาดเส้นเชื่อมพวกมันเข้าหากัน ทำให้มองไม่ออกสักทีว่าเป็นภาพอะไร

‘มันคือ…’ ซูหมิงไม่รู้ว่าวาดไปแล้วกี่เส้น เวลานี้นิ้วชี้หยุดชะงัก ช่วงที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น นิ้วชี้ของเขาปาดไปบนรอยโลหิตปนเปเหล่านั้น เหมือนกับแต่งแต้มดวงตาก็มิปาน เส้นโลหิตพลันเชื่อมเข้าหากันเป็นภูเขาห้ายอดเขา!

ห้ายอดเขา ภูเขาทมิฬ!

ในช่วงที่ลายภูเขาทมิฬปรากฏ พลังชำระล้างในร่างกายซูหมิงพลันถูกเหนี่ยวนำออกมา ทำให้รอบตัวเขาเต็มไปด้วยหมอกแดงจำนวนมาก หมอกเหล่านี้หลั่งทะลักเข้าไปในลวดลายห้ายอดเขา ภูเขาทมิฬราวกับมีชีวิต!

หากเทียนเสียจื่อยังไม่ไป เมื่อเขาเห็นลวดลายนี้จะต้องถอนหายใจอย่างแน่นอน เพราะนี่คือลายภูเขา เป็นลายชนิดที่ธรรมดามากที่สุดในลายหมาน…ทว่าขณะเดียวกัน เมื่อถอนหายใจแล้วจะต้องสูดลมหายใจเข้าลึก จากถอนหายใจกลายเป็นตะลึง กระทั่งความน่าตกตะลึงนี้ก็เพียงพอจะล้ำหน้าเกินลายจันทร์เพลิงและหิมะน้ำแข็งที่เห็นจากซูหมิงก่อนหน้านี้หลายเท่า จนทำให้เขาแทบไม่อยากเชื่อ!

ลายหมานส่วนใหญ่เรียบง่าย แต่หากวาดออกมาเป็นของสองสิ่งมันจะสลับซับซ้อน แต่ยามนี้….

เสื้อผ้าของซูหมิงแผ่ออก เขาไม่ได้หยุดนิ้วเมื่อวาดภูเขาทมิฬเสร็จ แต่ค่อยๆ วาดต่อบนหน้าอกขณะมีแววหวนรำลึกและอ่อนโยน จนวาดออกมาเป็น…..ชนเผ่าแห่งหนึ่ง!

[ 1 ] ภาพลวงตาหรือภาพมายา ภาษาจีนคือ 镜花水月 แปลตรงตัวคือ บุปผาในกระจกและจันทราในน้ำ ทั้งหมดไม่ใช่ของจริง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version