ตอนที่ 245 เขาไม่ต้องการเจ้า แต่ข้าต้องการเจ้า
เขาทราบดีว่าที่กลิ่นอายพลังของงูหายไป มิใช่ถูกซูหมิงกำราบ แต่เป็นเพราะถูกระฆังเขาหานผนึกอีกครั้งเหมือนก่อนหน้านี้ แม้รู้ เขากลับยังลังเล ทว่าเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้นก็กลายเป็นความเย็นชา
‘เรื่องเมล็ดพันธุ์หมานสำคัญที่สุด! งูตกอยู่ในมือซูหมิงแล้ว แม้ข้าจะรู้จักกับซูหมิงไม่มาก แต่ก็มองออกว่าเขาเป็นคนเด็ดขาด ไม่น่าจะลังเลใดๆ หากเขากำราบงูไม่ได้จะต้องสังหารมันอย่างแน่นอน!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องตาย…ก่อนตายช่วยข้าสักครั้งเถอะ แบบนี้จะได้ตายอย่างสบายใจ’ ซือหม่าซิ่นอดกลั้นความเจ็บปวดในใจ แววตาเด็ดขาด
‘น่าเสียดาย มันยังไม่เติบใหญ่เลย…ช่างเถอะๆ!’ ซือหม่าซิ่นพลันยกมือขวากดลงตรงหน้าอก
เสื้อผ้าตรงหน้าอกเขากลายเป็นเศษหายไป เผยให้เห็นภาพโลหิตลักษณะกลม ภาพโลหิตนั้นดูเหมือนดวงตะวัน หากมองอย่างละเอียดจะค่อยๆ เห็นว่ามีเงาหนอนไม้พลองขยับวิบวับ
‘แม้จะเสียดายงูตัวนี้ แต่ถึงอย่างไรมันก็มีเชื้อสายดึกดำบรรพ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เกรงว่าชั่วชีวิตนี้คงไม่มีทางเป็นเหมือนรุ่นยุคบรรพกาล เป็นเพียงสัตว์ประหลาดที่วิวัฒนาการมาจากสายเลือดจำนวนมากของยุคบรรพกาล อีกทั้งเรื่องนี้เป็นเพียงการคาดเดาของข้า มันมีสายเลือดบรรพกาลหรือไม่ก็ยังไม่รู้
ทิ้งมันเพื่อเพิ่มความมั่นใจเรื่องเมล็ดพันธุ์หมานมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้…คุ้มค่า!’ นัยน์ตาซือหม่าซิ่นเป็นประกาย หลังจากกดตรงหน้าอกแล้ว ก็วนรอบภาพลักษณะกลมสีโลหิตหนึ่งรอบเร็วๆ
จุดที่นิ้วมือผ่านจะมีไอหนาวเยือกปล่อยมาจากผิวหนังอย่างรวดเร็ว ซือหม่าซิ่นมีสีหน้าปกติและเย็นชา ไม่นานนัก ช่วงที่นิ้วมือขยับเชื่อมระหว่างหัวกับท้าย ภาพกลมสีโลหิตตรงหน้าอกเขาพลันมีลูกคลื่นหลั่งทะลัก ท้ายที่สุดค่อยๆ เหมือนหลุดมาจากผิวหนังทั้งอย่างนั้น
วงกลมสีโลหิตเหมือนกับหนังแผ่นหนึ่ง ยามนี้หลุดออกมาอย่างช้าๆ เผยให้เห็นเส้นเหนียวหนืดจำนวนมากระหว่างผิวหนังของซือหม่าซิ่น เส้นเหนียวเหล่านั้นดูน่าอาเจียนยิ่งนัก ทว่าซือหม่าซิ่นกลับยังมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้เปลี่ยนไปมาก
หลังจากวงกลมโลหิตหลุดจากตัวซือหม่าซิ่น เส้นเหนียวเหล่านั้นค่อยๆ ขาดออกจากกัน จนท้ายที่สุดเมื่อวงกลมสีโลหิตลอยอยู่ตรงหน้าซือหม่าซิ่น เส้นเหนียวก็ขาดออกจากกันทั้งหมด
นัยน์ตาซือหม่าซิ่นฉายแววแปลกใจ กัดปลายลิ้นพ่นโลหิต โลหิตตรงเข้าใส่วัตถุวงกลมเหมือนหนังแล้วซึมเข้าไปอย่างรวดเร็ว
‘ก่อนที่ไป๋ซู่จะไปทำตามความต้องการของข้า ข้าต้องเปิดช่องว่างในใจของซูหมิงก่อน เช่นนั้นนางถึงจะทำสำเร็จได้ง่ายขึ้น! งูนี้คือตัวเชื่อมต่อระหว่างข้ากับซูหมิงในขั้นตอนการเปิดช่องว่างในจิตใจของเขา! ยิ่งเขาอยากควบคุมงูตัวนี้เท่าไร ก็ยิ่งเกิดการเชื่อมต่อกับข้ามากขึ้นเท่านั้น! ด้วยความที่เขาอยากควบคุมมัน เมื่องูตัวนี้ตายลง ยิ่งเขาหมกมุ่นมากเท่าไร ความผิดหวังและเสียใจภายหลังก็จะมากขึ้นเท่านั้น สำหรับข้าแล้ว โอกาสในการชักจูงจะสำเร็จมากขึ้น!’ ซือหม่าซิ่นยิ้มเย็นชาตรงมุมปาก ยกมือขวาขึ้นอีกครั้ง ก่อนกดตรงระหว่างคิ้วตัวเอง
“เมล็ดพันธุ์หมาน ยอดวิชาไร้ใจ!” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นเยือกอย่างบอกไม่ถูก ขณะล่องลอยไป วงกลมสีแดงเหมือนหนังตรงหน้าพลันลุกไหม้
ขณะกำลังลุกไหม้ หนอนไม้พลองวิบวับในวงกลมสีแดงสั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับกำลังแผดเสียงร้องอย่างน่าเวทนา ทว่าไร้เสียง
เวลาเดียวกัน บนยอดเขาลำดับเก้า ณ ถ้ำของซูหมิง ภายในระฆังเขาหาน หนอนไม้พลองที่กำลังห่อเหี่ยว ยามนี้ลำตัวพลันบิดเบี้ยว มันที่ใกล้จะหมดลมหายใจเปล่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนา ขณะกำลังร้อง ความดุร้ายในแววตามันสั่นไหว ยามนี้ความซื่อสัตย์ที่ซ่อนลึกอยู่ในความดุร้ายมีความสับสนปรากฏ
ตัวมันปล่อยไอขาวออกมาเป็นระลอกๆ ไอขาวเหล่านั้นไม่มีความร้อนซ่อนอยู่ ทว่าหลังจากหมอกแผ่ขยาย ตัวหนอนไม้พลองคล้ายถูกแผดเผาโดยไม่ทราบสาเหตุ
“นี่คือเจ้านายของเจ้ารึ…เพราะไม่ยอมให้เจ้าเชื่อฟังข้า ดังนั้นเลยสังหารเจ้าอย่างเหี้ยมโหด…” ยามนี้เสียงของซูหมิงกึกก้องอยู่ในระฆังเขาหาน เข้าไปในจิตใจของหนอนไม้พลอง
หนอนตัวนี้มีไหวพริบดียิ่งนัก มันฟังซูหมิงรู้เรื่อง ความดุร้ายในแววตามืดสลัวลง ความซื่อสัตย์ที่ซ่อนอยู่กลายเป็นสับสนมากยิ่งขึ้น เหมือนว่าต่อให้มันฉลาดมากกว่านี้ ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดเจ้านายถึงคิดสังหารมัน…
“ที่เขาสังหารเจ้าก็เพราะว่าเจ้าถูกข้าจับ ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าติดตามซือหม่าซิ่นมานานเท่าไร แต่ดูท่านี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เจ้าถูกกุมตัว ต่อให้ข้าปล่อยเจ้ากลับไป หากมีครั้งที่สองหรือครั้งที่สาม อีกทั้งคนที่จับยังไม่ใช่ข้าอีก สิ่งที่รอเจ้าอยู่มีเพียงจุดจบเดียว!
เจ้านายแบบนี้ เจ้ากลับซื่อสัตย์ด้วย น่าหัวร่อจริงๆ ข้าต้องเสียใจแทนเจ้าด้วย!” ทุกคำพูดของซูหมิงเหมือนกับสายฟ้าผ่าลงในระฆังเขาหาน เข้าไปในจิตใจของหนอนไม้พลอง ทำให้ความดุร้ายในแววตามันหายไปทั้งหมด เผยให้เห็นความซื่อสัตย์ที่ถูกความดุร้ายอำพรางเอาไว้ เพียงแต่ว่าความซื่อสัตย์นั้น ท่ามกลางความสับสนมีความเศร้าโศกอยู่ด้วย
ซูหมิงเห็นทุกอย่าง แม้มีสีหน้าเรียบเฉย ในใจกลับตื่นตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าความฉลาดของหนอนเล็กจะมีมากถึงขนาดนี้ ดูท่าคงจะพอๆ กับเสี่ยวหง
เพียงแต่เสี่ยวหงเป็นวานร พรสวรรค์คือความฉลาดเหมือนมนุษย์อยู่แล้ว ส่วนหนอนตัวเล็กนี้กลับฉลาดหลักแหลม เห็นได้ชัดถึงจุดที่พิเศษของมัน
“อดีตเจ้านายเจ้าจะสังหารเจ้า เจ้ายังภักดีอยู่อีกรึ!” แววตาซูหมิงขยับประกาย เห็นได้ชัดว่าหนอนไม้พลองจิตใจหวั่นไหว ช่วงที่ตัวมันถูกแผดเผามากขึ้น พลังชีวิตลดลงอย่างรวดเร็ว มันแผดเสียงคำรามต่ำในทันใดนั้น
เสียงคำรามของมันดังสนั่นหวั่นไหว ก้องกังวานอยู่ในระฆังเขาหาน ซูหมิงรวมจิตสัมผัสอยู่รอบตัวหนอนงู พลันสังเกตเห็นว่าช่วงที่งูตัวนี้กำลังต่อต้านเกิดช่องโหว่ขึ้น
ตอนที่ช่องโหว่นี้ปรากฏ เหรียญหินที่ลอยอยู่รอบตัวซูหมิงสั่นสะท้านพร้อมกัน ก่อนระเบิดกลายเป็นผงปลิวหายไป พลังวิญญาณมหาศาลหลั่งทะลักมาจากเหรียญหินที่แตกกระจุยเหล่านั้น ไหลเข้าสู่เส้นเลือดลมที่เปิดอยู่ในร่างกายราวกับน้ำหลาก หลังจากทะลักเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้ว ก็ไปรวมกันอยู่ตรงบริเวณศีรษะของซูหมิง แล้วปลดปล่อยพลังจิตสัมผัสที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมา
จิตสัมผัสทะลวงเข้าสู่ระฆังเขาหาน เข้าประชิดตัวหนอนงู และทะลวงเข้าไปตามช่องโหว่ในจิตใจของมันประหนึ่งไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ ก่อนเข้าไปอยู่ในจิตใจของมัน
หลังเข้ามาในจิตใจของหนอนงู สิ่งที่จิตสัมผัสของซูหมิงสังเกตเห็นเป็นอย่างแรกคือ ภาพลักษณะกลมสีแดงขนาดยักษ์ลอยอยู่ในโลกขมุกขมัว วัตถุสิ่งนี้เหมือนกับหนังมนุษย์ บางทีอาจบอกได้ว่ามันเป็นหนังมนุษย์ที่ติดมากับภาพกลมนี้
มันลอยอยู่กลางอากาศ ยามนี้กำลังลุกไหม้ครั้งใหญ่ จากการลุกไหม้ของมัน
ซูหมิงสังเกตเห็นชัดว่าภายในแผ่นกลมสีแดงมีเงาของหนอนไม้พลองกำลังสั่นไหว ทว่ากลับไม่ต่อต้าน แต่อยู่ภายในนั้น ปล่อยให้แผ่นหนังกลมแผดเผาอย่างอิสระ ทำให้มันอ่อนแอลงเรื่อยๆ
เพียงไม่กี่ลมหายใจสั้นๆ แผ่นหนังมนุษย์แผดเผาไปมากกว่าครึ่งจนกลายเป็นรอยดำเหลือเพียงครึ่งเล็กๆ เท่านั้น ดูจากลักษณะของมันแล้ว เกรงว่าอีกไม่กี่ลมหายใจจะต้องหายไปจนหมดแน่นอน
เมื่อหนังมนุษย์หายไปจนหมด เงาหนอนไม้พลองภายในจะหายตามไปด้วย มันจะตายลงทันที
“ซือหม่าซิ่นอำมหิตยิ่งนัก…” แม้ซูหมิงจะคาดเดาได้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ ทว่ายามนี้พอได้เห็นกับตาตัวเอง ก็ยังคงได้เรียนรู้ความอำมหิตของซือหม่าซิ่น
หากเปลี่ยนเป็นเขา เปลี่ยนหนอนตัวนี้เป็นเสี่ยวหง ซูหมิงรู้ดีว่าตนไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้เด็ดขาด
เขารวมจิตสัมผัสแข็งแกร่งในจิตใจของหนอนตัวนี้อย่างไม่ลังเล แล้วพลันพุ่งไปทางหนังมนุษย์ที่กำลังแผดเผา วินาทีที่สัมผัสกับหนังมนุษย์ ซูหมิงพลันตื่นตะลึง เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
อีกทั้งในยามนี้ ร่างกายเขาที่กำลังนั่งอยู่ในถ้ำ ตรงหน้าอกพลันมีแสงอ่อนขยับวูบวาบ แสงที่ว่านั่นคือแผ่นหินสีดำลึกลับที่เขาแขวนไว้ตรงคอ
หลังจากแสงขยับวิบวับ จิตสัมผัสซูหมิงในจิตใจของหนอนงูพลันหยุดชะงัก
“แม้ต้องสังหารสัตว์เลี้ยงตัวเอง ทว่าซือหม่าซิ่นก็ยังไม่ลืมวางแผนจัดการข้า…แม้ไม่รู้เป้าหมายของเขา แต่ก็ไม่น่าใช่เรื่องดี” ขณะจิตสัมผัสซูหมิงหยุดชะงัก หนังมนุษย์ที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งหายไปไม่น้อยแล้ว
หนอนไม้พลองอ่อนแอถึงขีดสุด มันใกล้ถึงที่ตายแล้ว แต่มันเหมือนหมดแรงต่อต้าน เอาแต่อยู่เงียบๆ รอความตาย
ตอนนี้ตรงหน้าซูหมิงมีแค่สองทางเลือก จะช่วยหนอนไม้พลองก็ต้องรับมือกับแผนการของซือหม่าซิ่น ไม่เช่นนั้นก็ทิ้งหนอนตัวนี้ไป
เขาวางแผนกับซือหม่าซิ่น ซือหม่าซิ่นก็วางแผนกับเขาเหมือนกัน ทั้งสองคนต่างไม่รู้เป้าหมายและไพ่ตายของอีกฝ่าย ทว่ากลับใช้หนอนตัวนี้มาเป็นตัวกลางในการต่อสู้ บอกความต่างที่ชัดเจนและแท้จริง!
ซูหมิงลังเลเพียงครู่หนึ่งก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
จิตสัมผัสของเขาพลันห่อหุ้มหนังมนุษย์ที่เหลือไม่ถึงครึ่งโดยไม่สนใจแผนการของซือหม่าซิ่นซึ่งตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ ทะลวงผ่านเพลิงเผาไหม้บนหนังมนุษย์ และเข้าถึงตัวเงาหนอนไม้พลองที่ไม่ต่อต้าน เหมือนกำลังสิ้นหวังอยู่ภายใน
“ต่อให้รู้ว่าซือหม่าซิ่นอยากใช้การตายของเจ้ามาจัดการข้า ทว่าเรื่องนี้เป็นการทดสอบของข้า ต่อให้เจ้าตายก็ต้องไม่ตายในมือเขา!”
ช่วงที่จิตสัมผัสซูหมิงทะลวงเข้ามา หนอนไม้พลองตัวสั่นเทา
“เขาไม่ต้องการเจ้า แต่ข้าต้องการเจ้า!” จิตสัมผัสซูหมิงเปล่งเสียงดังสนั่น ส่งเข้าถึงจิตใจของหนอนไม้พลอง จิตใจมันพลันสั่นสะท้าน เงารางภายในหนังมนุษย์พลันเงยหน้าขึ้น ภายในแววตามืดหม่นราวกับมีความแตกต่าง
‘เขาไม่ต้องการเจ้า แต่ข้าต้องการเจ้า…’ คำพูดประโยคนี้ดึงกึกก้องอยู่ในจิตใจของหนอนไม้พลอง ทำให้สิ่งที่ต่างออกไปในแววตาค่อยๆ เข้าแทนที่ความมืดสลัว
แทบจะเป็นช่วงที่มันไม่ต่อต้าน จิตสัมผัสของซูหมิงฝังตราประทับหยั่งลึกไว้ในจิตใจของมัน
ระหว่างประทับตรา หนังมนุษย์แผดเผาจนหมดสิ้น ทว่าหนึ่งลมหายใจก่อนมันจะกลายเป็นเถ้าธุลี เงารางในนั้นคล้ายถูกลบหายไปก่อนก้าวหนึ่ง
ยามนี้บนยอดเขาลำดับหนึ่ง ซือหม่าซิ่นกำลังนั่งฌานสมาธิ หนังมนุษย์ตรงหน้าเขาลุกไหม้จนกลายเป็นเถ้าธุลีจนหมดสิ้น แต่หน้าเขากลับเปลี่ยนสี ยืนขึ้นราวกับจะพุ่งออกจากยอดเขาลำดับหนึ่ง ทว่ากลับหยุดชะงัก กำหมัดแน่น สีหน้าทะมึนยิ่งนัก เหมือนแฝงไว้ด้วยเพลิงโทสะมหาศาล
“เหตุใดยังไม่ตาย!” เขาพลันเข้าใจเป้าหมายของซูหมิง นั่นคือยืมมือของเขาเพื่อช่วยกำราบหนอนงูประหลาด!