Skip to content

สู่วิถีอสุรา 267

ตอนที่ 267 ไป๋ฉางไจ้

กระบี่นี้ ซูหมิงออกแรงทั้งหมด

กระบี่นี้ ร่างกายซูหมิงเหมือนรูปปั้นน้ำแข็ง ในจิตสัมผัสเขามีเพียงชายชราเผ่าเชมัน

ซูหมิงทะยานเข้าไปอย่างรวดเร็ว ช่วงที่กระบี่เล่มนี้ฟันไปทางศีรษะชายชรา ห่างไปไม่กี่จั้ง นัยน์ตาชายชราพลันขยับประกาย มุมปากเผยความเหี้ยมโหดอีกครั้ง จากนั้นใบหน้าตื่นตระหนกก่อนหน้านี้ก็หายไปทั้งหมด

“ที่แท้เจ้าเป็นแม่ทัพเทพเผ่าหมาน! ในที่สุดเจ้าก็ออกมา ดูท่ากระบี่เล่มนี้จะเป็นอุบายสุดท้ายของเจ้า!” ชายชราเผ่าเชมันพลันเงยหน้า ยกมือขวาขึ้นกดไปทางซูหมิง

ชั่วเสี้ยววินาทีเมื่อครู่ ตัวเขาหยุดชะงักเพราะโอสถชิงวิญญาณจริงๆ และเกิดความตื่นตะลึงเพราะโอสถชิงวิญญาณกับจิตสัมผัส

ทว่าขั้นพลังของเขาอยู่เหนือกว่าซูหมิงมาก ต่อให้หยุดชะงักเพียงชั่วครู่ เขาก็ยังรับมือกับการพุ่งตัวมาของซูหมิงได้ทัน

สาเหตุที่เขาแสร้งทำทียังต่อสู้ดิ้นรน ก็เพราะในความคิดจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างเขาเกิดความรู้สึกกลัวเล็กน้อยกับความน่าอัศจรรย์ของซูหมิง สิ่งที่เขากลัวมิใช่ตัวซูหมิง แต่เขากลัวว่าซูหมิงจะยังมีกลอุบายน่าอัศจรรย์และน่าทึ่งอะไรอีกหรือไม่

แม้เขาบอกว่าเหยียดหยามซูหมิง ทว่าความจริงแล้วตอนเริ่มประมือก็ให้ความสำคัญกับซูหมิงมากพอ ด้วยอายุของเขา เรื่องราวต่างๆ มากมายกลับไม่เป็นอย่างที่เขาวิเคราะห์ ในการเหยียดหยามมีการให้ความสำคัญอย่างแท้จริงอยู่ เพียงแต่เผยให้เห็นไม่ได้ จึงปลดปล่อยมาขณะลงมือ

คนอย่างเขาเป็นจ้าวเชมันของชนเผ่าแห่งหนึ่ง แผนการและความคิดย่อมไม่ธรรมดา

จนกระทั่งยามนี้เห็นซูหมิงปรากฏตัวและฟันกระบี่เล่มนี้ลง เขาถึงวางใจได้จริงๆ เขาคิดว่าเมื่อครู่ตนยังไม่เผยพิรุธอะไร เท่ากับว่าได้ให้โอกาสอีกฝ่ายแล้ว ด้วยสภาวะที่เคลื่อนไหวไม่ได้ เมื่อเผชิญหน้ากับผู้มีขั้นพลังสูงกว่าตน ไม่ว่าเป็นใครเมื่อได้รับโอกาสนี้จะต้องลงมืออย่างเต็มที่ งัดทุกอย่างมาทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัสแน่

เพราะบางทีนี่อาจเป็นโอกาสเดียว ชายชราเชมันเชื่อว่าหากเป็นเขาก็จะทำเช่นนี้!

ดังนั้น หลังจากเห็นกระบี่ของซูหมิง ชายชราเผ่าเชมันจึงวางใจ เขายิ้มเย็นชาแล้วสะบัดนิ้วเข้าไป ขณะยื่นมือก็มีเกล็ดสีดำปกคลุมด้วยความเร็วระดับสายตา พริบตาเดียว นิ้วมือก็ไม่เหมือนนิ้วคนอีก แต่เหมือนนิ้วของสัตว์ร้าย!

กรงเล็บยืดออกเป็นสีดำทึบ เกล็ดนิ้วมือแผ่กลิ่นอายพลังชั่วร้ายหนาวเยือก เขากดนิ้วกลางอากาศ ปะทะกับกระบี่ที่ฟันลงมาของซูหมิง

เสียงกึกๆ ดังขึ้นตามมา กระบี่เหมันต์สวรรค์เกิดรอยร้าวจำนวนมากบนชั้นน้ำแข็งด้านนอก อีกทั้งยังลุกลามเรื่อยๆ จนกระบี่เหมันต์สวรรค์แตกกระจาย จากสองมือกุมกระบี่กลายเป็นกระบี่ธรรมดาอีกครั้ง ก่อนจะหยุดแตก ทว่าบนตัวมันก็ยังมีรอยร้าวลึกๆ อยู่

ด้วยพลังนิ้วมือของชายชรา ชั้นน้ำแข็งที่ปกคลุมสองมือของซูหมิงรวมถึงทั้งตัวพังทลาย ลุกลามไปทั้งตัว ชั้นน้ำแข็งทั้งหมดบนตัวแตกกระจาย

ขณะเดียวกัน ซูหมิงรู้สึกถึงกลิ่นอายพลังชั่วร้ายหนาวเยือกพัดเข้าใส่ตัวเขาอีกครั้ง ทะลวงเข้าไปในร่างกายจนเขาตัวสั่นเทา ทั้งยังได้ยินเสียงหอบหายใจประหลาดปะปนกับเสียงบดเคี้ยวข้างหู

เขาอ้าปากกระอักโลหิตกองใหญ่ ใบหน้าซีดขาว ขณะดวงตามืดสลัว ตัวเขาถูกพลังมหาศาลกระแทกใส่อย่างแรง ตัวกระเด็นลอยอยู่กลางอากาศ

เกราะแม่ทัพเทพแตกกระจายและก่อรูปกลับมาใหม่อย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็ยังคงแตกเป็นเสี่ยงๆ ยังผลให้ตัวเขาขับหมอกโลหิต โดยเฉพาะบาดแผลตรงหน้าอกที่ถูกฉีกออก โลหิตรินไหล

เสียงอึกทึกดังขึ้น ซูหมิงตกลงบนพื้น ด้านหลังเขาเป็นต้นไม้ใหญ่หนึ่งต้น วินาทีที่ตกลงมา แรงสั่นสะเทือนทำให้มุมปากเขามีโลหิตไหลอีกครั้ง ดวงตาทั้งสองข้างไร้ประกาย พยายามดิ้นรนหลังพิงต้นไม้ จ้องชายชราเผ่าเชมันเขม็ง

ซูหมิงกำหมัดขวาอย่างแนบเนียน คนอื่นมองไม่เห็นกลางฝ่ามือเขา เห็นเพียงการดิ้นรนเหมือนหมดแรง

พลังจากนิ้วของชายชราดูเหมือนธรรมดา ทว่าความจริงแล้วนี่คือพลังทั้งหมดของอีกฝ่ายที่รวมอยู่ในนิ้ว หากรับมือกับนิ้วได้ก็รับมือได้กับทุกวิชาของเขา!

เหมือนว่านิ้วนี้จะเป็นทั้งหมดแล้วจริงๆ!

ความต่างของขั้นพลังทำให้ซูหมิงไม่มีทางรับมือกับนิ้วนั้นได้

โดยเฉพาะเมื่อชายชราไม่ได้หยุดชะงักเพราะโอสถชิงวิญญาณ เขาเพียงแค่ล่อให้ซูหมิงปรากฏตัวก็เท่านั้น

ชายชราเผ่าเชมันลดมือขวาลงอย่างช้าๆ ขณะดึงมือกลับ นิ้วของเขาคืนสภาพเดิมจากเกล็ดอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นนิ้วมือคนอีกครั้ง

บาดแผลเล็กน้อยปรากฏบนนิ้วเขา มีโลหิตซึมออกมาหนึ่งหยด ชายชราเลียโลหิตบนนิ้วตัวเอง ก่อนเดินไปหาซูหมิงใต้ต้นไม้พร้อมกับรอยยิ้มเหี้ยมโหด

“น่าเสียดายคนมีพรสวรรค์เช่นเจ้า ไม่อยากเชื่อว่าอาจารย์ของเจ้าจะให้เจ้ามาเผ่าเชมันคนเดียว…ข้าเลยได้เปรียบ มิเช่นนั้นแล้ว หากให้เวลาเจ้าอีกหน่อย เมื่อขั้นพลังเจ้าสูงขึ้นอีกเล็กน้อย เกรงว่าเมื่อพบกันอีกข้าคงมิใช่คู่ต่อสู้เจ้า

กระทั่งหากเจ้าหนีไปได้จริงๆ การที่เจ้าได้ต่อสู้กับเผ่าเชมันอย่างสุดกำลังเช่นนี้ พบกันครั้งหน้าการจับเจ้าคงจะยากขึ้น!

เม็ดยา จิตสัมผัส แม่ทัพเทพ ทั้งยังมีพลังจากการวาดที่มีโครงสร้างคล้ายเผ่าเชมันของข้าอีก ในตัวเจ้ามีความลับอีกเท่าไรกันแน่…” ชายชราเดินเข้ามาอย่างช้าๆ แววตาดั่งคมมีด เมื่อลากผ่านตัวซูหมิง เขาแทบหมดแรงต่อต้าน

“ใช่แล้ว ยังมีกลอุบายอำพรางเงาและกลิ่นอายพลังอีก พวกมันเป็นของข้าแล้ว…เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่สังหารเจ้า เหตุใดข้าต้องสังหารเจ้ากันเล่า…ข้าจะหลอมเจ้าเป็นหุ่นเชิดเชมัน…” ชายชราเดินมาถึงซูหมิง ย่อตัวลงมองเขา รอยยิ้มบนใบหน้าไม่อาจปิดซ่อนความปีติในใจ

แววตาซูหมิงมืดสลัว ทว่ายังคงเย็นชา เขาเช็ดคราบโลหิตตรงมุมปาก มองตาชายชรา

“สายตาแบบนี้ดีมาก เมื่อข้าหลอมเจ้าเป็นหุ่นเชิดเชมันแล้ว จะเก็บสายตาแบบนี้เอาไว้”

“เจ้าเจอข้าได้อย่างไร” ซูหมิงกล่าวเสียงแหบแห้ง น้ำเสียงเขาอ่อนแรงยิ่งนัก

“เมื่อพาเจ้ากลับเผ่าแล้ว เดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง” ชายชราพลันสะบัดมือขวา มีลมพายุโหมกระหน่ำพัดเข้ามา ม้วนตัวซูหมิงลอยขึ้นฟ้า ขณะเดียวกันชายชราลอยตัวขึ้น กำลังจะกลายเป็นสายรุ้งพาซูหมิงกลับชนเผ่า

ทว่าทันใดนั้น ซูหมิงที่ถูกลมพายุคลั่งม้วนตัว ในแววตามืดสลัวพลันเปล่งประกาย เขากำลังรอโอกาสนี้อยู่ การบาดเจ็บสาหัสของเขาก็มีเพื่อโอกาสนี้

นี่เป็นโอกาสที่อีกฝ่ายลดการป้องกันลงอย่างสมบูรณ์!

เดิมทีโอกาสนี้ไม่มีทางเกิดขึ้น นิสัยเจ้าเล่ห์ของชายชราตัดโอกาสนั้นของซูหมิงไป ฉะนั้นเขาจึงต้องสร้างมันขึ้นมา

ช่วงที่แววตาซูหมิงเป็นประกาย เขาบีบมือขวาอย่างแรง เกล็ดปลาสีขาวที่ถือเอาไว้ในมือตลอดและรอโอกาสนี้มาถึงถูกบีบจนแตก ทันใดนั้น ชายชราเผ่าเชมันที่กำลังจะบินขึ้นสีหน้าเปลี่ยน ตรงหน้าเขาปรากฏมือมายาที่ถูกปกคลุมด้วยเกราะสีขาว การปรากฏของมือดังกล่าวกะทันหันยิ่งนัก มันยื่นออกมาจากมวลอากาศ กระแทกเข้าใส่หน้าอกชายชราที่ลดการป้องกันลงอย่างสมบูรณ์

ชายชราร้องอย่างน่าเวทนา กระอักโลหิตกองโต กระทั่งในโลหิตยังมีเศษเนื้อจากอวัยวะภายใน ตรงหน้าอกเว้าลงไป กระเด็นถอยพร้อมกับกระอักเลือด

สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต ทั้งยังบ้าคลั่ง ขณะกระเด็นถอยเขาเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า สองมือพลันกดหูทั้งสองข้าง หน้าอกที่เว้าลงไปกลับคืนสภาพเดิมอย่างน่าอัศจรรย์

ทว่าเกล็ดปลาที่อาจารย์อาไป๋มอบให้แฝงไว้ด้วยพลังโจมตี จึงย่อมไม่ง่ายดายเช่นนั้น มือขวาที่ยื่นจากมวลอากาศฉีกอากาศด้านข้าง เสียงอึกทึกดังขึ้น พบว่ามวลอากาศถูกฉีกเป็นรอยแยก มีชายร่างกำยำเสื้อเกราะสีขาวทั้งตัวเดินออกมา!

ชายร่างกำยำมีใบหน้าไม่ชัด เห็นเพียงดวงตาเย็นชาทั้งสองข้าง จ้องชายชราเผ่าเชมันที่กำลังถอยหนีและมีจิตสังหาร เพียงแต่ว่าเงาคนนี้มิใช่ของจริง ดูเป็นภาพมายาเล็กน้อย ตรงขอบตัวยังมีหมอกขาวลอยขึ้น

“ไป๋ฉางไจ้!” ชายชราเผ่าเชมันหรี่ตาลง เกราะสีขาวในความทรงจำเขาเป็นเหมือนฝันร้าย ชาวเผ่าเชมันโดยเฉพาะชนเผ่าที่อาศัยอยู่ตรงชายแดน แทบไม่มีใครไม่รู้ว่าบนกำแพงหมอกนภาห่างไกลมีบุคคลที่น่ากลัวอย่างยิ่งอยู่

บุคคลนี้เป็นแม่ทัพเทพ สวมเสื้อเกราะสีขาว ชาวเผ่าเชมันตายตกในมือเขานับไม่ถ้วน ระดับความน่ากลัวของเขา กระทั่งนักรบขั้นวิญญาณหมานของเผ่าหมานบางคนยังตื่นกลัว!

“เจ้าเป็นเพียงจิต นี่คือแดนเผ่าเชมัน เจ้าสังหารข้าไม่ได้หรอก!”

ชายชราเผ่าเชมันหน้าซีด ขณะล่าถอยมีสีหน้าจริงจังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาอวดครวญในใจ หากไม่ถูกโจมตีตรงหน้าอกเมื่อครู่ เขาก็ยังมีความมั่นใจว่าจะรับมือกับจิตของไป๋ฉางไจ้ได้

หากแต่ตอนนี้…ชายชราปวดตรงหน้าอก การโจมตีครั้งนี้เกือบตัดชีพจรหัวใจเขา!

“ที่แท้นี่ก็เป็นอุบายสุดท้ายของเจ้าสวะหมาน สมควรตาย อายุยังน้อยแท้ๆ แต่กลับเจ้าเล่ห์นัก!” ชายชราเผ่าเชมันไม่มีเวลามาสนใจซูหมิง ทว่าความแค้นต่อซูหมิงกลับมากล้น

ด้วยประสบการณ์ของเขา ยามนี้ย่อมเข้าใจทุกอย่าง ขณะเดียวกับที่ตนวางแผนทำร้ายอีกฝ่าย ก็ตกเข้าไปอยู่ในบ่วงแผนการของอีกฝ่ายเช่นกัน ตนแสร้งทำเป็นเคลื่อนไหวมิได้เพื่อล่อให้อีกฝ่ายปรากฏตัวและใช้อุบายสุดท้าย

ขณะเดียวกัน อีกฝ่ายก็เข้ามาติดกับจริงๆ แต่กลับไม่ใช้อุบายสุดท้าย และเลือกให้ตัวเองบาดเจ็บสาหัส เพื่อแลกกับโอกาสให้เขาลดการป้องกันลง!

‘เด็กคนนี้ขั้นพลังไม่สูง แต่กลอุบายเยอะนัก มีเม็ดยา จิตสัมผัส แม่ทัพเทพ ทั้งยังมีจิตของไป๋ฉางไจ้ปกป้อง ดูท่าจะต้องเป็นโอรสแห่งสวรรค์ของเผ่าหมานแน่นอน ฐานะแบบนี้ ทั้งยังเจ้าเล่ห์เพทุบาย หากให้เวลามากกว่านี้จะต้องเป็นภัยพิบัติของเผ่าเชมันแน่นอน! ต้องทำทุกอย่างเพื่อสังหารมันตรงนี้ให้ได้!’ ชายชราเผ่าเชมันพลันขบคิด เงาคนเกราะสีขาวบนท้องฟ้าเดินมาหาทีละก้าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version