Skip to content

สู่วิถีอสุรา 398

ตอนที่ 398 ง้าวยาวแห่งสวรรค์

“ข้ายังจำได้รางๆ ว่าสำนักซ่อนมังกรมีวิชาโบราณสืบทอดมาจากยุคบรรพกาลอยู่ เรียกว่าซ่อนดวงตาสำเร็จโทษ เจ้าใช้ได้หรือไม่?” เสียงระเบิดสะเทือนฟ้าดิน ท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง ชายชรากระอักโลหิต ร่างโซเซถอยหลังไปหลายก้าว ข้างหูเขามีเสียงสงบนิ่งของซูหมิงดังแว่วเข้ามา

ตรงจุดที่พยัคฆ์กับมังกรเข่นฆ่ากัน มังกรพิโรธแตกสลาย ส่วนพยัคฆ์ร้องคำรามดุดัน เมื่อพวกมันทยอยหายไปแล้ว ก็เห็นซูหมิงค่อยๆ เดินออกมาจากข้างใน เขายังคงมีสีหน้าดังเดิม ยืนอยู่ตรงนั้นพลางมองชายชราด้วยความเย็นชา

“เจ้ายังเหลือโอกาสสุดท้าย ขอแค่เจ้าแสดงวิชาโบราณของสำนักซ่อนมังกรให้ข้าเห็นกับตา ข้าจะไม่สังหารเจ้า”

“จริงรึ!” ชายชราหน้าซีดขาว เขาหวาดผวาอยู่บ้างด้วยมองออกว่าซู่มิ่งตรงหน้ารู้ว่าตนกำลังถ่วงเวลา ทว่ากลับไม่สนใจ อีกทั้งอภินิหารวิชาสองครั้งก่อนหน้านี้ ทำให้ชายชรารู้ว่าความแข็งแกร่งของซูหมิงเกินจินตนาการเขา

ในใจเขาสับสนยิ่งนักว่าซู่มิ่งแสดงพลังระดับนี้แล้ว

เหตุใดรอยแยกบนท้องฟ้าเผ่าหมานถึงเจาะจงมาที่เขา แต่กลับไม่รบกวนอีกฝ่ายแต่อย่างใด

ยามนี้นึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง เผชิญหน้ากับซูหมิงที่ยามนี้ยังไม่ลงมือเลย เขากลับหวาดกลัวอย่างยิ่ง พอได้ยินซูหมิงกล่าว เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะกัดฟันกล่าว

“แล้วแต่เจ้าจะเชื่อ” ซูหมิงขมวดคิ้ว กล่าวขึ้นช้าๆ

ชายชรามีสีหน้าลังเลใจ ก่อนหน้านี้เขาแผ่ขยายจิตสัมผัสเลยรู้ว่าโดยรอบถูกผนึกแล้ว ผนึกนั้นหนาแน่นจนเขายากจะหลบหนี

ยามนี้ไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ ไม่ว่าซูหมิงจะพูดจริงหรือไม่ เขาก็มีแต่ต้องเชื่ออย่างเดียวแล้ว ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็กัดฟัน

“ด้วยขั้นพลังของผู้อาวุโส ไม่น่าจะลดตัวมาหลอกข้า ในเมื่อผู้อาวุโสอยากดู ข้าก็จะใช้วิชานี้สักครั้ง ทว่าวิชาโบราณซ่อนดวงตาสำเร็จโทษยากจะแสดงพลังทั้งหมดเพราะขั้นพลังของข้า จึงใช้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น…” ขณะชายชรากล่าว เขายกสองมือขึ้นกดบนหน้าอกหลายที ใบหน้าพลันมีเลือดฝาด มือขวาทำสัญลักษณ์แล้วชี้ไปข้างหน้า

“หกเต๋าซ่อนมังกร อัคคีซ่อนในอาภรณ์!” ชายชราสะบัดแขนเสื้อ มือขวาเปลี่ยนท่าสัญลักษณ์ กดลงตรงดวงตาขวา ทันใดนั้นดวงตาขวาเปล่งแสงสีเหลืองขยับวิบวับ ภายในลูกตาปรากฏเค้าลางเปลวเพลิง กระทั่งชั่วขณะที่จะเกิดเพลิงขึ้น ในแขนเสื้อชายชรามีเปลวเพลิงส่วนหนึ่งถูกดวงตาขวาสูบเข้าไป

“สามเต๋าซ่อนมังกร พยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน!” สัญลักษณ์มือขวาเปลี่ยนอีกครั้ง ตรงหน้าปรากฏเศษเสี้ยวเงาจากการทำสัญลักษณ์มือจำนวนมาก โดยรอบมีหมอกโอบล้อม มีมังกรประดุจเวียนว่ายอยู่ภายใน ใบหน้าชายชรามีเส้นเลือดดำปูนโปน ปรากฏลายพยัคฆ์ขึ้นอีกครั้ง ยามนี้ดวงตาขวาขยับแสงสีเหลืองวิบวับ เส้นเลือดดำบนใบหน้าเคลื่อนไหว เหมือนถูกสูบเข้าไปในดวงตาขวาและหายไป

ขณะเดียวกัน ในดวงตาขวาชายชราปรากฏเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก เส้นเลือดเหล่านั้นรวมขึ้นเป็นอักษรคำว่าราชา (王) หมอกโดยรอบม้วนเข้ามาอย่างรวดเร็ว หลังจากถูกดวงตาขวาสูบเข้าไปแล้ว ภายในลูกตาขวาเขามีมังกรตัวหนึ่งบินร้องคำรามอยู่ในนั้น!

“เก้าเต๋าซ่อนมังกร ใบไม้ร่วงเก็บเหมันต์ซ่อน!” ชายชราตัวสั่นสะท้าน กัดฟันจนมีโลหิตไหลมาจากมุมปาก มือซ้ายทำสัญลักษณ์มือชี้ไปข้างหน้าอีกครั้ง

“แปดเต๋าซ่อนมังกร เก็บซ่อนความลับ!”

“เจ็ดเต๋าซ่อนมังกร ซ่อนรูปอำพรางเงา!”

“สองเต๋าซ่อนมังกร ซ่อนลึก…ปานมายา!” ชายชราสำแดงอภินิหารไปจำนวนมากในรวดเดียว อภินิหารเหล่านี้เพิ่งปรากฏขึ้น ทั้งหมดก็ถูกดวงตาขวาสูบเข้าไป หลังจากใช้อภินิหารเต๋าทั้งหก ดวงตาขวาชายชราขุ่นมัว ทว่าหากมองดีๆ ในดวงตาประดุจแบ่งออกเป็นหยินหยาง ปรากฏเป็นภาพสัญลักษณ์ผังแปดทิศรางๆ

ยามนี้ รอยแยกยักษ์บนท้องฟ้าแผ่ขยายแรงกดดันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังมีเสียงอื้ออึง วัตถุสิ่งหนึ่งค่อยๆ ลงมาจากในรอยแยก!

วัตถุสิ่งนี้เป็นง้าวยาวสีทองแดง! ตรงปลายเป็นลักษณะโค้ง แผ่กลิ่นอายหนาวเยือก ตอนที่มันลงมาเยือน ทั้งท้องฟ้าพลันมืดครึ้ม ชั้นเมฆหายไป ทั้งยังปรากฏรอยแยกอีกหลายรอย ราวกับว่าฟ้าดินไม่อาจทนรับวัตถุชิ้นนี้ไหวและกำลังจะพังทลายลง

จิตสัมผัสแกร่งกล้าขยายมาจากง้าวยาว ปกคลุมทุกสารทิศในชั่วพริบตา ง้าวยาวนั้นค่อยๆ หมุนตัว ประหนึ่งกำลังหาอะไรบางอย่าง

แทบจะเป็นช่วงที่ง้าวยาวปรากฏขึ้น ท้องฟ้าทั้งแดนอรุณใต้ ไม่ว่าจะเป็นที่ใด ชั้นเมฆล้วนพัดตลบ มีเสียงลากยาวพิลึกลงมาจากท้องฟ้า

บนแผ่นดินเผ่าหมาน ชายชราคนนั้นในเผ่าใหญ่เหมันต์สวรรค์พลันลืมตาขึ้น จ้องท้องฟ้าเขม็ง

ภายในประตูบานที่หกของฝ่ายนภาแห่งสำนักเหมันต์สวรรค์ ชายวัยกลางคนหน้าตาหล่อเหลาอย่างยิ่งผู้หนึ่งอมยิ้มมองศิษย์ฝ่ายนภาเจ็ดแปดคนตรงหน้า กำลังกล่าวอะไรบางอย่าง บางครั้งก็ส่งเสียงหัวเราะ ศิษย์ฝ่ายนภาเหล่านั้นก็หัวเราะตามอย่างนอบน้อม ดูสนิทสนมกันอย่างยิ่ง ทว่าทันใดนั้น ชั้นเมฆบนท้องฟ้าหมุนตลบ มีเสียงลากยาวพิลึกดังก้อง ชายวัยกลางคนหน้าเปลี่ยนสี รอยยิ้มหายไป เขาเงยหน้าขึ้นหรี่ตาจ้องท้องฟ้า ในแววตามีความตึงเครียดเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด

ณ สำนักทะเลตะวันออก ในทะเลลอยล่องบนท้องฟ้าที่สร้างจากผู้แข็งแกร่งในสำนัก มีเกาะอยู่จำนวนมาก หมู่เกาะเหล่านี้อยู่บนทะเล ทว่าทะเลกลับอยู่บนท้องฟ้า ดูแล้วเหมือนกับภาพลวงตา เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ส่งผลต่อทัศนวิสัย

ยามนี้บนเกาะแห่งหนึ่งในทะเลนั้น มีชายชรารูปร่างคล้ายวานรผู้หนึ่ง เขาสวมหมวกฟาง มุมปากคาบกระดูกปลาหนึ่งชิ้น มือถือคันเบ็ดตกปลา หลังพิงหินก้อนใหญ่ตรงสุดหน้าผาริมทะเล กำลังตกปลาอย่างสบายใจ บางคราก็ฮัมเพลง ดูสุขสบายยิ่งนัก

แต่ไม่นานเขาก็กลืนกระดูกปลาลงไป แล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า สีหน้าไม่มั่นคง ผ่านไปพักหนึ่งก็ยืนขึ้นคล้ายขบคิด ผ่านไปอีกครู่หนึ่งก็ถอนหายใจยาว ยิ้มขมขื่นพลางส่ายศีรษะ แล้วนั่งยองตกปลาต่อไป ทว่าจากแววตาซับซ้อนของเขาทำให้มองออกว่าไม่มีใจจะตกต่อแล้ว

ภายในเมืองหมอกนภา สามคนในวิหารใต้ดินรวมบรรพบุรุษเทียนหลัน ยามนี้เงยหน้าขึ้นพร้อมกัน บรรพบุรุษเทียนหลันยิ้มเยาะมุมปาก ส่วนอีกสองคนมีสีหน้าตื่นตะลึง

“นี่คือจุดจบของคนที่เผยพลังเผ่าเซียน ตอนนี้สหายทั้งหลายเข้าใจรึยัง?”

บรรพบุรุษเทียนหลันกล่าวช้าๆ

บนแผ่นดินเชมันเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันขึ้นหลายจุด กระทั่งบนแผ่นดินแดนอรุณใต้ มิใช่เพียงเผ่าเซียนที่รู้สึกถึง ผู้แข็งแกร่งเผ่าหมานและเชมันรุ่นอาวุโสยังสังเกตเห็นถึงปรากฏการณ์พิลึก แต่ละคนมีความคิดต่างกัน…

ข้างใต้ง้าวยาวนั้น สตรีผมยาวหน้าซีดมองง้าวยาวนอกม่านไร้รูป นัยน์ตาฉายแววตื่นกลัว ก่อนจะขยับประกายสีแดง ภายใต้ประกายสีแดงนี้ นางเหมือนซ่อนอยู่ในจิตสัมผัสของง้าวยาว แม้ง้าวยังหมุนอยู่ แม้จิตสัมผัสยังแผ่ขยายทั้งฟ้าดิน ทว่ากลับเหมือนมองไม่เห็นคนเผ่าเซียนด้านล่างมัน

ในใจชายชราตึงเครียดยิ่งนัก ขณะตื่นกลัวก็ทำสัญลักษณ์มือขวา กดในดวงตาขวาแล้วมองซูหมิง

“ผู้อาวุโส ข้าผสานอภินิหารได้เพียงหกรูปแบบ ใช้พลังของวิชาโบราณซ่อนดวงตาสำเร็จโทษได้เพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังใช้นานมากไม่ได้…”

ระหว่างชายชรากล่าว เขาเห็นซูหมิงเดินมาทางเขาทีละก้าว ในใจรู้สึกต่อต้าน ยามซูหมิงห่างจากตนไม่ถึงห้าสิบจั้ง ในใจชายชราบังเกิดจิตสังหาร เขายังคงชินกับการกุมผู้อื่นในกำมือตัวเอง

“สำเร็จโทษ ซ่อนดวงตา!” ชายชราตะโกน มุมปากมีโลหิตไหลรินไม่หยุด ดวงตาขวาเปล่งแสงหมื่นจั้งปานดวงตะวันส่องแสงสว่าง กระทั่งสัญลักษณ์ผังแปดทิศในลูกตาขวายังปรากฏเงาสะท้อนของซูหมิง

ทว่าช่วงที่ชายชราตะโกน เขาพลันร้องโหยหวน พบว่าซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าวแล้วหายวับไปทันใด ก่อนมาปรากฏตัวอยู่ข้างชายชรา ใบหน้าซูหมิงไร้อารมณ์ ยกมือขวาขึ้นควักดวงตาขวาชายชราออกมา

บนลูกตายังมีเศษเส้นเนื้อติดอยู่เล็กน้อย เมื่อถูกซูหมิงกระชากออกแล้ว เส้นเลือดพลันแตกกระจาย ชายชราร้องโหยหวนพร้อมรีบถอยไปอย่างเร็วรี่

ซูหมิงไม่สนใจชายชราอีก แต่ก้มหน้ามองลูกตาอาบโลหิตในมือขวา ยิ้มมุมปากอย่างพอใจ

“ไม่เลว มีวิชาซ่อนดวงตาสำเร็จโทษที่ยังไม่สมบูรณ์นี้ พอกลับไปถึงเผ่าเซียนแล้วจะได้มั่นใจมากขึ้นอีกนิด” ขณะพึมพำ ซูหมิงไม่เงยหน้าขึ้น แต่ยกมือซ้ายขึ้นฉีกท้องฟ้าอย่างสบายๆ

ม่านแสงโลหิตที่ปกปิดท้องฟ้าแดนหมานสั่นสะเทือน เกิดเสียงดังปังๆ ขณะเดียวกันก็แตกร้าวทีละนิดในความเร็วระดับสายตา พริบตาเดียวก็กลายเป็นเศษกระจัดกระจาย ตอนที่ม่านไร้รูปหายไป ง้าวยาวบนท้องฟ้าแผ่ขยายจิตสัมผัสเข้ามา ผนึกตัวชายชราเอาไว้ทันที

“ไหนเจ้าบอกว่าจะไม่ฆ่าข้า!” ยามนี้ชายชราตกใจกลัวสุดขีด พยายามระงับพลังอย่างบ้าคลั่ง อยากจะซ่อนพลังเซียนของตนเอาไว้ ขณะตะโกนเขาก็กลายร่างเป็นเงาโลหิต ใช้ความเร็วน่าทึ่งวูบวาบไกลออกไป ความเร็วของเขาทำให้ร่างกายโปร่งใสปานทะลวงมวลอากาศ

ง้าวยาวเหมือนไม่สนใจชายชราที่กำลังหลบหนีแม้แต่น้อย มันค่อยๆ หมุนตัวไปทางตำแหน่งพลังของชายชรา มีเสียงอื้ออึงดังมาจากในง้าวยาว ก่อนตัวมันจะหายวับไป

มันปรากฏตัวอีกทีห่างไปหนึ่งหมื่นลี้ แล้วกระแทกลงด้านล่างเบาๆ มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ร่างชายชราปรากฏขึ้นกลางอากาศ กระอักโลหิต ขณะเดียวกันนัยน์ตาก็บ้าคลั่ง ไม่หลบหนีอีก แต่เลือกระเบิดตัวเองแทน เขารู้ตัวว่าต้องตายแน่ ทว่าโทสะก่อนตายทำให้เขายอมระเบิดตัวเองอย่างไม่เสียดาย!

เสียงระเบิดดังสนั่น ร่างชายชราระเบิดกระจายออก ทว่าง้าวยาวกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย มันกระแทกลงด้านล่างอีกครั้ง ร่างของชายชราที่ระเบิดถูกรวมกลับมาอีกครั้งอย่างน่าอัศจรรย์ ประดุจเวลาถูกหยุดไว้และไม่อาจระเบิดต่อได้อีก เขาถูกง้าวยาวปะทะเข้าใส่ ร่างค่อยๆ หลอมละลายกลายเป็นน้ำโลหิตตกลงสู่พื้น…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version