Skip to content

สู่วิถีอสุรา 489

ตอนที่ 489 คันธนูมาร

“ว่าอย่างไรนะ! เจ้ากล้าห้ามไม่ให้พวกข้าไปรึ!” ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นทองพลันหมุนตัวกลับ จ้องซูหมิงเขม็ง พลางกล่าวเสียงแหลมเล็กเย็นชา

“ที่นี่คือโลกเก้าศักดิ์สิทธิ์ เผ่าค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นหนึ่งในเผ่าศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่ หรือว่าพวกเจ้าเชมันเล็กจ้อยหลายร้อยคนอยากถูกทำลายล้างเผ่าพันธุ์จริงๆ! และยังมีเจ้าอีก แม้ระดับพลังจะไม่ธรรมดา ทว่าหากยั่วยุเผ่าค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ เจ้าต้องตายแน่!” ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นทองกล่าวเสียงเย็นเยียบ แต่สายตาที่มองซูหมิง แวบเดียวก็มองออกว่าแม้ภายนอกจะแข็งกร้าว ภายในกลับอ่อนยวบ

พอค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นทองกล่าวขึ้น ชาวเผ่าค้างคาวศักดิ์สิทธิ์โดยรอบดุร้ายขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาแดงก่ำ จ้องซูหมิงเขม็ง แม้พวกมันจะกลัว ทว่ายามนี้กลับต้องทำท่าทางเช่นนี้

“ผะ….ผู้อาวุโสโม่ ให้พวกมันไปเถอะ…” หนานกงเหินลังเลครู่หนึ่ง แล้วกล่าวเสียงเบากับซูหมิง

ซูหมิงมองหนานกงเหินแวบหนึ่ง ในเมื่อคนที่นี่ไม่อยากสู้ต่อ เช่นนั้นคนนอกอย่างเขาย่อมไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวมากนัก หลังจากสอบถามเรื่องที่อยากรู้แล้ว เขาก็ยังมีเรื่องต้องไปทำอีก ไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก

“ถือว่าเผ่าเชมันรู้ว่าควรจะทำอย่างไร!” ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นทองโล่งอก ทว่ายังคงแค่นเสียงหึด้วยความเย็นชาและแข็งกร้าวแม้ภายในอ่อนปวกเปียกก็ตาม เขามั่นใจว่าเผ่าเชมันไม่กล้าล่วงเกินเผ่าค้างคาวศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน แต่ก็ยังไม่วางใจซูหมิงผู้น่ากลัวคนนี้ ยามนี้จึงจะจากไปอย่างรวดเร็ว

ทว่าทันใดนั้น เถี่ยมู่ที่มีคนประคองอยู่และหมดสติไปกลับพยายามลืมตาขึ้น แล้วกล่าวกับซูหมิงด้วยเสียงแหบแห้ง

“อย่าให้พวกมันไป! คนที่สังหารเผ่าของเรา จะปล่อยไปอย่างนี้รึ! วันนี้หากสหายโม่ไม่มา เผ่าเราคงสูญสิ้นไปแล้ว….ความแค้นครั้งนี้ต้องชำระ!”

“แต่ว่า…” หนานกงเหินลังเลครู่หนึ่ง

“แต่ว่าอะไร! ปล่อยพวกมันไป พวกมันจะขอบคุณเรารึ? พวกมันจะไม่มารุกรานเราอีก ไม่ล่าพวกเราเป็นเหยื่ออีกอย่างนั้นรึ! หนานกงเหิน เจ้าช่างโง่เขลา!

สหายโม่ แซ่เถี่ยขอร้องให้เจ้าลงมือด้วย สังหารค้างคาวศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ให้สิ้นซาก ฆ่าพวกมันให้หมด!” เถี่ยมู่พยายามเอ่ยขึ้น อีกทั้งด้วยความโกรธและฮึกเหิมจึงกระอักเลือดกองโต ก่อนกัดฟันเพื่อไม่ให้หมดสติอีกครั้ง ใบหน้าแก่ชรายามนี้ดูชรายิ่งขึ้นปานตะเกียงน้ำมันที่จะมอดดับได้ทุกเมื่อ

“ขอแค่สหายโม่ช่วย พวกเราจะยอมทำตามทุกอย่าง กระทั่งยอมรับสหายโม่เป็นประมุข!” เถี่ยมู่ใบหน้ามีเลือดฝาดผิดปกติเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเป็นแสงสุดท้ายของชีวิตที่ใกล้จะมอดดับ

ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นทองบนท้องฟ้า ยามนี้หน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ก่อนรีบจากไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ชาวเผ่าโดยรอบยังไม่มีเวลาไปสนใจ

“จะทำตามที่เจ้าบอก ทว่าไม่ต้องรับข้าเป็นประมุข” ซูหมิงมองเถี่ยมู่แวบหนึ่ง เหตุการณ์ต่างๆ ตอนเผชิญหน้ากับชายชราคนนี้ในตอนนั้นลอยขึ้นในจิตใจ ความทรงจำเหล่านี้เดิมทีเลือนรางอยู่บ้าง แต่ยามนี้กลับค่อยๆ ชัดเจนขึ้น

ชายชราคนนี้ใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว ต่อให้มียาวิเศษรักษาก็ยากจะยื้อชีวิต เว้นแต่จะได้รับโชคจากจู๋จิ่วอินอย่างซูหมิง

ซูหมิงลอบถอนหายใจ ละสายตากลับแล้วมองไปยังหุบเขาครู่หนึ่ง ก่อนใช้มือขวาคว้าอากาศ คันธนูมารในมือเชมันนักสู้คนหนึ่งที่ยืนอยู่นอกถ้ำในหุบเขาพลันลอยเข้ามาอยู่ในมือซูหมิง

ซูหมิงถือคันธนูมารสีดำทึบ เดินขึ้นท้องฟ้าหนึ่งก้าว สายตามองค้างคาวศักดิ์สิทธิ์หลายร้อยตัวที่กำลังหนีไปอย่างรวดเร็วอยู่ไกลๆ นัยน์ตาค่อยๆ เย็นชา มือซ้ายถือคันธนู มือขวาง้างสาย คันธนูมารที่ต้องใช้เชมันนักสู้ถึงจะง้างได้ถูกง้างอย่างสมบูรณ์

เมื่อง้างคันธนูนี้แล้ว มีแสงสีทองเปล่งมาจากในตัวซูหมิงแล้วรวมขึ้นเป็นลูกธนูสีทอง ช่วงที่ซูหมิงคลายมือขวาออก แสงสีทองพลันพุ่งออกไปและสร้างเป็นระลอกคลื่นสะเทือนนภา ตรงดิ่งไปไกลราวผ่ามวลอากาศ ภายใต้เสียงโครมคราม มีค้างคาวศักดิ์สิทธิ์หลายตัวถูกลูกธนูทะลวงผ่านจนสิ้นใจลง

ซูหมิงไม่หยุด เขาง้างคันธนูมารอีกครั้ง เป็นที่จับจ้องจากโดยรอบ โดยเฉพาะเชมันนักสู้เหล่านั้นที่ล้วนมีแววตาฮึกเหิม

เป็นที่รู้กันดีว่าคันธนูมารนี้ เผ่าเชมันที่นี่จะง้างได้เพียงครั้งเดียว หากคิดจะง้างครั้งที่สองติดกัน ราคาที่ต้องจ่ายจะสูงอย่างยิ่ง

ทว่าตอนนี้ซูหมิงกลับง้างสองครั้งติดกัน ทั้งยังไม่มีติดขัดแม้แต่น้อย จะเห็นได้ถึงตรงนี้ว่าซูหมิงมีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก มากกว่าเชมันนักสู้เหล่านี้ไม่รู้กี่เท่า

ดอกที่สอง ดอกที่สาม ดอกที่สี่ ดอกที่ห้า…

ซูหมิงยืนอยู่ตรงนั้น ง้างคันธนูติดกันหลายครั้ง จนสุดท้ายความเร็วเพิ่มขึ้น ถึงขนาดที่แทบง้างสายธนูก็คลายออกทันที เสียงระเบิดดังสนั่นฟ้าดิน ระลอกคลื่นกระเพื่อมเป็นชั้นๆ บนท้องฟ้า

ลูกธนูทุกดอกที่ยิงออกไปจะสร้างเสียงดังสนั่น ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์หลายตัวร้องโหยหวน ไม่ว่าพวกมันจะหนีไปเร็วเพียงใด ไม่ว่ายามนี้จะห่างไปไกลเพียงใด ลูกธนูเหล่านี้ล้วนไปตามคำบัญชาและทำลายล้างพวกมันด้วยพลังน่าสะพรึง

สามสิบลมหายใจ ซูหมิงยิงลูกธนูไปทั้งหมดเก้าสิบกว่าดอก ฟ้าดินถึงกับบิดเบี้ยว เสียงระเบิดดังซ้อนทับกันสนั่นหู อีกทั้งค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นยังหวาดกลัว ในความรู้สึกพวกมัน สามสิบลมหายใจนี้ราวกับอยู่ในยมโลกและกลายเป็นเหยื่อ!

ทุกครั้งที่มีเสียงลากยาวเข้ามาจากข้างหลัง จะมีเสียงร้องโหยหวนของสหาย ทุกครั้งที่เสียงอื้ออังดังกังวาน จะมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นเสียงสุดท้ายของชีวิต

ความหวาดกลัวอย่างสุดขีดเพียงพอจะทำลายจิตใจจนย่อยยับ เวลาสามสิบลมหายใจนี้ หลายร้อยตัวที่กำลังหนี ตอนนี้เหลือไม่ถึงยี่สิบตัวแล้ว!

ความหวาดกลัวนี้ทำให้ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ที่เหลืออยู่ตัวสั่น และร้องคำรามด้วยความกลัว ก่อนหนีไปอย่างคลุ้มคลั่งโดยไม่สนสิ่งใด

จนกระทั่งซูหมิงง้างสายธนูอีกครั้ง มีเสียงเอ็นขาดดังเพียะมาจากคันธนู คันธนูมารนี้ไม่อาจทนรับการใช้งานติดๆ กันไหว จึงแตกหักไป

ชาวเผ่าเชมันที่มองซูหมิงอยู่โดยรอบตาค้าง พวกเขาล้วนเข้าใจถึงความแกร่งของคันธนูมาร ทว่ายิ่งเข้าใจ ก็ยิ่งตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น

โดยเฉพาะเหล่าเชมันนักสู้ ล้วนมีสีหน้าเหม่อลอย พวกเขาจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ ว่าพละกำลังแบบใดถึงทำให้คันธนูมารรับไม่ไหวจนแตกหัก

หลังจากคันธนูพังลง ซูหมิงก็เดินหน้าหนึ่งก้าว เพียงหนึ่งก้าวร่างเงาเขาพลันหายไป มิใช่เพราะซูหมิงเร็วมากจนหายไป แต่คือหายไปจริงๆ นี่ก็คือ…การเคลื่อนย้าย!

วินาทีที่ร่างเงาซูหมิงหายไป เขามาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่ง ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ไม่เห็นเลยว่าซูหมิงมาได้อย่างไร กระทั่งในสายตาของมัน ยังไม่ทันเห็นร่างเงาสะท้อนซูหมิง ซูหมิงก็ไปแล้ว

ขณะเดียวกัน ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้พุ่งไปข้างหน้าอีกหลายจั้ง อ้าปากกว้างด้วยความสับสน ตรงระหว่างคิ้วมันปรากฏโพรงโลหิต ก่อนร่างดิ่งลงสู่พื้น

เหตุการณ์แบบเดียวกันปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องบนท้องฟ้า ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ที่กระจายกันอยู่รอบๆ ส่วนใหญ่เป็นเช่นนี้ ถูกเอาชีวิตไปโดยไม่รู้ตัว

หนึ่งในนั้นมีค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นม่วงตัวหนึ่ง แม้จะสังเกตเห็นซูหมิง กลับไม่อาจหลบนิ้วที่กดลงมาด้วยความเย็นชา

ในความรู้สึกของค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นม่วงตัวนี้ นิ้วปานมีกฎของฟ้าดินและให้ความรู้สึกถึงโชคชะตาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง เมื่อสายตามันดำมืด ศีรษะก็ระเบิดกระจุย

ซูหมิงดึงนิ้วกลับ นิ้วนี้ไร้ชื่อ เป็นกระบวนท่าสังหารที่เขาฝึกฝนอยู่ในโลกอมตะเป็นเวลาไม่รู้กี่ปี เวียนว่ายอยู่ในวัฏจักรนับครั้งไม่ถ้วน

นิ้วนี้แฝงไว้ด้วยการผสานรวมของโลกอมตะ แม้ไม่ใช่อดีตและอนาคตของซูหมิง แต่ก็เป็นสองด้านตรงข้ามกัน!

ขณะนี้ ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังหนีอย่างคลุ้มคลั่งเหลือสองตัว หนึ่งคือค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นทอง ส่วนอีกหนึ่งบาดเจ็บ ไม่รู้ว่าใช้วิชาอะไร หนีไปด้วยความเร็วเท่าๆ กับค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นทอง

สองตัวนี้ไปกันคนละทางและห่างกันอย่างยิ่ง มองไปเห็นเพียงจุดเล็กๆ ยิ่งเลือนรางไปเรื่อยๆ

ซูหมิงมีสีหน้าสงบนิ่ง เขาก้มหน้ามองงูน้อยที่เงยหน้าอยู่บนบ่าแวบหนึ่ง จากนั้นก็ชี้นิ้วไปยังค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นม่วงที่อยู่ไกลๆ

งูน้อยพลันส่งเสียงร้อง พุ่งตัวจากบ่าซูหมิงปานสายฟ้า แล้วเข้าไปใกล้ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นม่วงด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ

ส่วนซูหมิงก็มองค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นทอง นัยน์ตาฉายแววประหลาดใจ ความจริงแล้วหากเถี่ยมู่ไม่ตื่นขึ้น แม้ว่าหนานกงเหินจะบอกว่าไม่ต้องสังหารค้างคาวศักดิ์สิทธิ์ให้หมดสิ้น ซูหมิงจะแอบตามไปอยู่ดี

“ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์พวกนี้คล้ายกับค้างคาวจันทรามาก…หรือว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกัน อีกทั้งคนที่ข้าเห็นในร่างจู๋จิ่วอินยังพูดก่อนตายว่าเทพหมานรุ่นสาม…ค้างคาวจันทราเปลี่ยนจากหมานเพลิง ข้าจำได้ว่าหมานเพลิงถูกเทพหมานทำลาย ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวอะไรกันหรือไม่” นัยน์ตาซูหมิงเป็นมันวาว ก่อนหายวับไปจากที่เดิม

บนท้องฟ้า ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นทองมีสีหน้ามืดทะมึน นัยน์ตาฉายแววตื่นกลัว มันรู้สึกถึงความตายของชาวเผ่าทั้งหมด และรู้สึกเด่นชัดยิ่งขึ้นไปอีกถึงความน่าสะพรึงของคนที่ชื่อโม่ซู

‘บัดซบ เหตุใดถึงมาเจอคนน่ากลัวเช่นนี้ได้ ไม่อยากเชื่อว่าร่างกายจะรับการโจมตีจากเส้นม่วงสิบกว่าตัวไหว ความแข็งแกร่งเช่นนี้อยู่เหนือกว่าที่ข้าจะทนไหวอีก! เกรงว่าแม้แต่ผู้อาวุโสในเผ่าก็ยังทำแบบนี้ไม่ได้! มันฝึกฝนวิชาใดกันแน่ถึงได้แกร่งขนาดนี้!

เขาชื่อโม่ซู ดูจากเผ่าเชมันพวกนั้นแล้ว พวกเขาน่าจะรู้จักกับโม่ซูดี ทว่าสีหน้าตื่นตะลึงของพวกเชมัน เหมือนกับว่าโม่ซูในความทรงจำพวกเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้แต่แรก เช่นนั้นเขาต้องได้โชคลากอะไรบางอย่างในโลกเก้าศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน ถึงได้น่าสะพรึงถึงขนาดนี้!

ดวงจันทร์ดวงที่สิบ หรือว่า…’ ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์สูดลมหายใจเข้า นึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง ความคิดเขาย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ดวงจันทร์ดวงที่สิบมีรอยเปิดแยก เหมือนมีคนกำลังจะฉีกรอยนั้นออกมา

พอนึกถึงตรงนี้ ค้างคาวศักดิ์สิทธิ์เส้นทองหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version