ตอนที่ 505 ช่องโหว่
วินาทีที่วิญญาณโลกตื่นขึ้น แผ่นดินโลกเก้าหยินแห่งนี้ พื้นที่ที่เหลืออยู่ไม่มากล้วนสั่นสะเทือนและค่อยๆ สลายไป ประหนึ่งว่าเดิมทีแผ่นดินเหล่านี้ไม่มีอยู่ แม้แต่แท่นบวงสรวงที่เผ่าชะตาชีวิตกับซูหมิงอยู่ก็ด้วย
บนพื้นตรงหน้าชาวเผ่าชะตาชีวิตหลายร้อยคนสลายไป ดุจมีปากใหญ่ไร้รูปกำลังเขมือบเข้ามา ชาวเผ่าชะตาชีวิตเหล่านี้จึงลอยอยู่กลางอากาศ มองไปยังซูหมิง ทว่ายามนี้ไม่เห็นเขา เห็นเพียงจุดที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านี้เลือนราง ทั้งยังมีความรู้สึกบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง
ท้องนภาส่งเสียงโครมคราม ใบหน้าคนที่นูนออกมาจากน้ำวนยักษ์ ยามนี้ลืมตาขึ้นทั้งสี่ดวง ส่องประกายแสงหมื่นจั้ง ตรงหน้ามันมีร่างต้นไม้ใหญ่พุ่งไปยังใบหน้านั้นราวกับจะผสานรวมกัน
ส่วนซูหมิง ภายใต้ความเร็วสูงสุด หลังจากเขาข้ามผ่านเงามายาทั้งหมดแล้ว ก็รู้สึกถึงเยื่อบุจากวงแหวนอาคมที่ขวางเอาไว้ แต่กลับไม่อาจขวางสายตาของเขา
ซูหมิงมองผ่านเยื่อบุไร้รูปนี้ เขาเห็น…มหาสมุทรสีดำกว้างใหญ่!
มหาสมุทรนี้ไร้พรมแดน ด้านบนมีแผ่นดินใหญ่ยักษ์ห้าส่วนลอยอยู่ ยามนี้ในแผ่นดินทั้งห้ามีสองส่วนทางตะวันออกและใต้เข้าใกล้กันมาก หากไม่มองดีๆ จะคิดว่ามันเชื่อมเข้าหากัน!
ทว่าพอเพ่งมองแล้ว จะพบว่ามันไม่ได้เชื่อมกัน แต่แผ่นดินใหญ่ทางตะวันออกกำลังเคลื่อนตัวพุ่งเข้าไปชนแผ่นดินทางใต้ด้วยความเร็วสูงสุด
“โลกกระจก…” เสียงอึกทึกดังในความคิดซูหมิง
เขาเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง ก่อนมองไปทางแผ่นดินตะวันตก เพียงแต่ว่าเขาไม่อาจมองมันอย่างละเอียด เห็นเพียงเค้าโครง จากนั้นเยื่อบุรอบตัวเขาก็ส่งแรงมหาศาลดีดเขาออกมาในพริบตา
แทบเป็นช่วงที่ซูหมิงถูกดีดออกมา เยื่อบุพังทลายลงพร้อมกับแท่นบวงสรวงศูนย์กลางวงแหวนอาคม เขาถอยหลังมาหลายก้าว ทุกก้าวจะเหมือนกับว่าเขาค่อยๆ เผยร่างเงาจากความเร็วสูงสุด จนกระทั่งถอยมาก้าวที่สิบ ร่างเงาเขาชัดเจนขึ้นอีกครั้งในสายตาของชาวเผ่าชะตาชีวิต
ขณะเดียวกัน ใบหน้าคนลืมตาในน้ำวนบนท้องฟ้าก็ผสานรวมกับร่างเงาต้นไม้จนสำเร็จ วินาทีที่พวกมันผสานรวมกัน น้ำวนพลันระเบิดกระจุย กลายเป็นคลื่นลมรุนแรงม้วนฟ้าดินกระจายออกรอบๆ
คลื่นลมนี้รุนแรงราวพายุหมุนกระจายเป็นวงกว้าง ด้วยความเร็วของมัน ไม่กี่ลมหายใจต่อมาก็ปกคลุมทั้งเขตเผ่าชะตาชีวิต หากให้มันเข้ามา เผ่าชะตาชีวิตไม่น้อยคงถูกคลื่นลมถาโถมจนดับสูญปานใบไม้
ชาวเผ่าชะตาชีวิตหลายร้อยคนหน้าเปลี่ยนสี หนานกงเหินพุ่งมายืนอยู่ข้างหน้าชาวเผ่าอย่างไม่ลังเล ทั้งยังมีผู้มีระดับพลังค่อนข้างแกร่งจำนวนหนึ่งในเผ่า ยามนี้กัดฟันห้อเหยียดเข้ามา คิดจะต่อต้านคลื่นลมเอาไว้เพื่อปกป้องชีวิตของชาวเผ่า
แทบจะเป็นขณะเดียวกับที่คลื่นลมถาโถมเข้ามา สายลมเพิ่งกระแทกใส่ หนานกงเหินก็กระอักโลหิตและมีความรู้สึกเหมือนถูกยอดเขาพุ่งชน
ชาวเผ่าชะตาชีวิตคนอื่นๆ ข้างเขากระอักเลือดเช่นกัน อีกทั้งยังมีความรู้สึกร่างจะฉีกขาด ก่อนกระเด็นถอยไป ทว่าด้านหลังพวกเขาคือชาวเผ่าชะตาชีวิต ในชาวเผ่าเหล่านี้ยังมีเด็กอยู่ พวกเขาบินเองไม่ได้ ต้องใช้ชาวเผ่าพาไป ยามนี้คลื่นลมถาโถมเข้ามา ถ้าถูกกระแทกเพียงเล็กน้อยจะต้องตายอย่างแน่นอน!
หนานกงเหินตาแดงก่ำ ใจคิดจะต่อต้าน แต่ไม่อาจควบคุมร่างกาย ร่างถอยไปอย่างต่อเนื่อง พริบตาเดียว ทันทีที่คลื่นลมกำลังจะปกคลุมชาวเผ่าชะตาชีวิต ทันใดนั้น มีร่างเงาสีขาวเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าหนานกงเหิน ยืนอยู่ตรงหน้าชาวเผ่าชะตาชีวิตทั้งหมด
บุคคลชุดขาวนี้ก็คือซูหมิง!
ยามนี้เขาระงับความตื่นตะลึงจากโลกกระจกเอาไว้ ยกมือขวาขึ้นกดไปทางคลื่นลมที่ถาโถมเข้ามา จากนั้นทั้งตัวเขาพลันเปล่งแสงสีทองโอบล้อมชาวเผ่าชะตาชีวิตหลายร้อยคนเอาไว้ เพื่อต้านกับคลื่นลมน่าสะพรึง
เพียงสามลมหายใจ ซูหมิงก็เริ่มรับไม่ไหว แม้ขั้นพลังเขาจะไม่ธรรมดา แม้เลือดเนื้อกระดูกในร่างกลายเป็นกระดูกหมานมากกว่าครึ่ง และมีร่างกายแข็งแกร่งอย่างยิ่งก็ตาม ทว่าต่อหน้าคลื่นลมนี้ก็ยังคงยากจะยืนหยัดได้นาน
ความจริงแล้วที่ยืนหยัดมาถึงตอนนี้ได้ เป็นเพราะความแกร่งของร่างกาย หากเป็นคนอื่น เกรงว่าคงจะเหมือนกับหนานกงเหิน เพิ่งเริ่มปะทะกับคลื่นลมก็บาดเจ็บจนถอยไป
ดีที่ว่าคลื่นลมนี้กระจายเป็นวงกว้าง ไม่ได้เจาะจงมาที่ซูหมิง ฉะนั้นหลังจากยืนหยัดมาสามลมหายใจ คลื่นลมก็เคลื่อนผ่านพวกเขาไป แม้ซูหมิงกับชาวเผ่าชะตาชีวิตจะกระเด็นถอยไปหลายร้อยจั้งดั่งเรือถูกคลื่นซัดสาด แต่ไม่มีใครเสียชีวิต อีกทั้งเมื่อคลื่นลมผ่านไปแล้วทุกอย่างก็ยังกลับมาเหมือนเดิม
ซูหมิงหอบหายใจแรง แสงสีทองจากตัวยังไม่หายไป เขาก็เงยหน้าขึ้นมองใบหน้ายักษ์ที่ผสานรวมกับร่างเงาต้นไม้บนท้องฟ้าหลังจากน้ำวนพังทลาย
ดวงตาทั้งสี่บนใบหน้าก็มองซูหมิงเช่นกัน
“ตรงกลางของดวงตาที่สี่คือวงแหวนอาคม…การช่วยเหลือของท่าน ข้าจะไม่มีวันลืมไปชั่วนิรันดร์…” เสียงแก่ชรากึกก้องฟ้าดิน ผสานรวมกับเสียงโครมคราม จากนั้นใบหน้ายักษ์ก็สั่นสะท้านพร้อมกับพองบวมขึ้น พริบตาเดียวก็สิบเท่า ร้อยเท่า พันเท่า ไม่เพียงแต่ปกคลุมท้องฟ้าเท่านั้น มันยังแผ่ขยายออกไป ท้องฟ้ากว้างใหญ่หายไป แล้วแทนที่ด้วยแสงสีทองสัมฤทธิ์
ความรู้สึกนี้เหมือนกับว่าท้องฟ้าก่อนหน้านี้คลุมม่านเอาไว้หนึ่งชั้น ม่านนี้เป็นสีท้องฟ้า ฉะนั้นตอนที่มองไปจึงเป็นความกว้างใหญ่ไพศาล ทว่าตอนนี้ด้วยการแผ่ขยายของใบหน้าคน ม่านนี้จึงถูกเปิดออกและเผยเป็นสีแท้จริงของมัน
ท้องฟ้านั้น ไม่ใช่ท้องฟ้า!
แสงสีทองสัมฤทธิ์ขยับวูบวาบ ทั้งผืนฟ้าเหมือนของวิเศษยักษ์ ให้ความรู้สึกเก่าแก่ กระทั่งซูหมิงยังเห็นว่ามีแผ่นเหล็กอยู่ในสีทองสัมฤทธิ์บนท้องฟ้า ด้านบนยังมีใบหน้าอยู่แน่นขนัดนับไม่ถ้วน!
กระทั่งยังมีอักขระซับซ้อนมากมายขยับวูบวาบ!
แม้ซูหมิงจะเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว แต่พอได้เห็นจริงๆ กลับยังคงตื่นตะลึง ขนาดเขาเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหนานกงเหินกับชาวเผ่าชะตาชีวิต
“นี่คืออะไร…”
“จากลักษณะแล้ว เหมือนกับของวิเศษบางอย่าง”
“นะ….นี่คือท้องฟ้าแท้จริงของโลกเก้าหยินหรือ? หรือว่าท้องฟ้าก่อนหน้านี้จะเป็นของปลอม แผ่นดินใหญ่ก็เป็นมายา ตอนนี้ต่างหากคือของจริง?” หลังจากตื่นตะลึง ก็มีเสียงอื้ออึงดังมาจากชาวเผ่าหลายร้อยคน พวกเขารู้สึกเหลือเชื่อกับสิ่งที่เห็น
หลังจากท้องฟ้าถูกเปิดม่าน เผยท้องฟ้าปานทองสัมฤทธิ์แล้ว ก็มีอักขระรูปดวงจันทร์ยักษ์อยู่เก้าตัวที่ดึงดูดความสนใจของซูหมิง!
อักขระเก้าตัวนั้นมากกว่าอักขระอื่นๆ มันขยับวิบวับอยู่บนของวิเศษสีทองสัมฤทธิ์ ตอนที่มองไป ซูหมิงก็นึกถึงดวงจันทร์เก้าดวงของโลกเก้าหยิน!
ซูหมิงหรี่ม่านตา ในใจยังตกตะลึงกับปรากฏการณ์ในโลกเก้าหยิน ทันใดนั้นใบหน้าคนยักษ์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ดวงตาที่สี่ตรงระหว่างคิ้วมันก็ซ้อนทับกับตำแหน่งหนึ่งบนท้องฟ้าสีทองสัมฤทธิ์
วินาทีที่มันซ้อนทับกัน ก็มีเสียงดังสนั่นมาจากตำแหน่งตรงนั้น ราวกับท้องฟ้ากำลังเคลื่อนตัวส่งผลให้เปิดเป็นช่องโหว่ ตรงช่องโหว่เปล่งแสงรอบๆ แม้ไม่ใหญ่ ทว่ากลับให้ความรู้สึกโบราณ ตำแหน่งของมันคือเหนือซูหมิง เหมือนตั้งใจเปิดตรงนี้
“ด้วยพลังของข้า จะยืนหยัดได้เพียงสิบลมหายใจ รีบเข้าไปเร็ว!” ช่วงที่เสียงแก่ชราจากชายชราเผ่าวิญญาณหยินดังขึ้น ใบหน้าคนยักษ์พองบวมหยุดชะงัก ราวกับถูกขวางการขยายตัวเอาไว้ ทำให้ช่องโหว่จากการซ้อนทับกันของดวงที่สี่และท้องฟ้าสีทองสัมฤทธิ์ไม่กระจัดกระจายจากการขยายตัว
นัยน์ตาซูหมิงเป็นมันวาว เขาบินขึ้นฟ้าไป ชาวเผ่าชะตาชีวิตด้านหลังก็ตามหา ทว่าพวกเขาช้ามาก ไม่อาจเทียบกับซูหมิง ฉะนั้นตอนที่ซูหมิงเดินหนึ่งก้าว ทั้งตัวเขาขยับแสงสีทองอีกครั้ง แล้วม้วนชาวเผ่าหลายร้อยคนด้านหลังบินขึ้นฟ้าไป
ช่องโหว่สำหรับซูหมิงนี้ ยามนี้ขยับวิบวับไม่หยุด มันเกิดขึ้นจากการซ้อนทับกันของใบหน้าคนและท้องฟ้าทองสัมฤทธิ์ ยามนี้หลังจากตัดสลับกันแล้วควรจะหายไปในพริบตาเดียว ทว่าชายชราเผ่าวิญญาณหยินหยุดเอาไว้ การหยุดครั้งนี้ เหมือนกับให้ของวิเศษที่ใช้ข้ามผ่านโลกแท้จริงหยุดขณะกำลังโคจร มันจึงเป็นเรื่องยากยิ่ง ด้วยความสามารถของชายชราอย่างมากสุดก็สิบลมหายใจ
ซูหมิงพาชาวเผ่าชะตาชีวิตบินขึ้นไป หากมองไกลๆ จะเหมือนกับดาวตกสีทองพุ่งขึ้นฟ้า เข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อลมหายใจที่สี่มาถึง พวกเขาก็เข้ามาใกล้ช่องโหว่บนท้องฟ้าทองสัมฤทธิ์
แต่ทันใดนั้น ช่องโหว่สั่นไหวอย่างรุนแรง เสียงระเบิดดังก้องกังวาน ซูหมิงเห็นชัดเลยว่าใบหน้าคนยักษ์ที่หยุดชะงักอยู่ ยามนี้เริ่มขยับ เวลาไม่ถึงสิบลมหายใจแล้ว!
“เร็ว! ข้ายื้อไม่ไหวแล้ว…” เสียงชายชราเผ่าวิญญาณหยินร้อนรน
เห็นช่องโหว่กำลังจะปิดลงเนื่องด้วยวิญญาณโลกขยับ
ซูหมิงจึงเปล่งแสงทองทั้งตัวอีกครั้ง ชาวเผ่าชะตาชีวิตด้านหลังล้วนใช้ความเร็วสูงสุด พริบตาเดียวก็ตรงเข้าไปในช่องโหว่ ช่องโหว่นั้นขยายตัวออกแล้วหายวับไปพร้อมกับที่ซูหมิงเข้าไปในช่องโหว่นั้น!
ชาวเผ่าชะตาชีวิตส่วนใหญ่ก็เข้าไปด้วยเช่นกัน ทว่ามีชาวเผ่าชะตาชีวิตเก้าคนที่เข้าไปในช่องโหว่ไม่ทัน หลังจากช่องโหว่ปิด ก็ถูกตัดขาดอยู่ข้างนอก…
ในเก้าคนนั้น มีชายหนุ่มที่ดูแลเถี่ยมู่มาหลายปี อีกทั้งยังเคยเจอซูหมิงตอนวัยเยาว์ เขาก็คือเด็กหนุ่มที่เสียแขนขวาไปในตอนนั้น!
เสียงโครมดังขึ้น ช่องโหว่ปิดลง เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในโลกข้างนอกต่อจากนี้ ซูหมิงกับชาวเผ่าที่เข้ามาในช่องโหว่ไม่อาจรู้ได้ ตอนนี้พวกเขาอยู่บนเส้นทางใหญ่เส้นหนึ่ง