Skip to content

สู่วิถีอสุรา 512

ตอนที่ 512 มหันตภัยอรุณใต้

ความคิดนี้เพิ่งบังเกิด ซูหมิงก็ถูกแรงดันน่าสะพรึงจากทะเลมรณะผลักออกไปไกลหนึ่งพันจั้ง เห็นว่าจะถูกผลักออกไปไกลยิ่งกว่าเดิม เขาจึงเปล่งแสงสีทองสว่างทั้งตัว ร่างจึงพลันหยุดชะงัก มีเสียงกึกๆ ดังมาจากในร่างกาย ก่อนฝืนหยุดเพียงชั่วพริบตา

วินาทีที่หยุดชะงัก จิตแรกพลันปรากฏด้านหลัง และพาซูหมิงเคลื่อนย้ายหายวับไปจากแรงดันทะเลมรณะที่กำลังคลุ้มคลั่ง

ซูหมิงมาปรากฏตัวอยู่ในวงแหวนอาคม ยามนี้ม่านแสงอาคมขยับแสงวิบวับอย่างรุนแรง ทั้งยังมีลายเส้นถี่ๆ ด้านบน เหมือนว่าจะยืนหยัดได้อีกไม่นาน

“ภัยพิบัติรกร้างบูรพา…..เริ่มขึ้นแล้ว…..” ซูหมิงใช้จิตแรกเสริมม่านแสงอาคมพลางยืนอยู่ในวงแหวนอาคม มองกระแสไหลเชี่ยวผ่านเข้ามา พลางพึมพำเบาๆ

ข้างหูยังได้ยินเสียงโครมครามแว่วมาจากข้างนอก แผ่นดินใต้ทะเลถล่มทลายอย่างรุนแรง กระแสน้ำเชี่ยวกราก สิ่งมีชีวิตในทะเลนับไม่ถ้วนถูกพัดผ่านไป

ซูหมิงหน้าซีดขาวเล็กน้อย แรงดันมหาศาลเมื่อครู่นี้ เขามีความรู้สึกว่าไม่อาจต่อต้านได้เลย เป็นที่รู้ดีว่าขั้นพลังของเขาในตอนนี้ไม่ธรรมดา ร่างกายยังแกร่งจนไม่อาจจินตนาการ ต่อให้เป็นทั้งแผ่นดินเผ่าหมานและเชมัน เขาก็ถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง!

ทว่า…เขาในตอนนี้กลับรู้สึกหวาดกลัวแรงดันแกร่งกล้าเมื่อครู่นี้!

ขณะเงียบงัน เขาใช้มือขวากดบนม่านแสงที่มีจิตแรกผสานรวมอยู่ จิตสัมผัสพลันขยายออกมาจากในม่านแสง นี่คือจิตสัมผัสทั้งหมดของเขา ไม่นาน จิตสัมผัสก็พุ่งขึ้นไปยังผิวทะเลเพื่อมองโลกข้างนอก

ชั้นเมฆบนท้องฟ้าหมุนตลบ ฟ้าผ่าดังสนั่น สายฟ้าผ่ายาวลงมา ทั้งยังผ่าลงมากลางทะเล พายุฝนโหมกระหน่ำและมีพายุหมุน พายุนี้ก่อให้เกิดคลื่นทะเลยักษ์ จิตสัมผัสของซูหมิงที่อยู่กลางพายุคลั่งเกิดเค้าลางไม่เสถียร!

จิตสัมผัสซูหมิงขยายไปได้ไม่ไกลนัก ตรงชายแดนแผ่นดินเชมันอรุณใต้ ยามนี้มองไม่เห็นผืนดิน เห็นเพียงน้ำทะเลไม่มีสิ้นสุดไหลเชี่ยว และยังมีแผ่นดินรกร้างบูรพาใหญ่ยักษ์ลอยอยู่บนทะเล!

ชายแดนแผ่นดินรกร้างบูรพาชนกับแผ่นดินอรุณใต้เป็นอย่างแรก เพียงกระแทกกันก็สร้างความตื่นตระหนกทั้งแดนอรุณใต้ รวมถึงซูหมิงเมื่อครู่นี้ด้วย

ขณะแผ่นดินอรุณใต้สั่นสะเทือน ยอดเขานับไม่ถ้วนถล่มลง กำแพงหมอกนภาสั่นไหวอย่างรุนแรง ทางฝั่งเผ่าเชมันใต้กำแพงเมือง ยามนี้เป็นน้ำทะเล และกำลังกระแทกใส่เมืองหมอกนภาไม่หยุดหย่อน ปานจะบุกเข้าไปในแผ่นดินเผ่าหมาน!

เมื่อแผ่นดินรกร้างบูรพาชน ก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวกึกก้องไปทั้งแดนอรุณใต้ ช่วงที่เสียงดังกังวาน แผ่นดินรกร้างบูรพากับแผ่นดินอรุณใต้กระแทกกันอย่างแรงอีกครั้ง ครั้งนี้ชายแดนแผ่นดินรกร้างบูรพากระแทกกับแดนอรุณใต้เต็มๆ ท่ามกลางเสียงกึกก้องสนั่นแก้วหู แผ่นดินอรุณใต้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้นไม่รู้กี่เท่า

หากมองแดนอรุณใต้จากจุดสูงสุดบนท้องฟ้า จะเห็นชัดเลยว่ามีรอยร้าวยักษ์เกิดขึ้นเส้นหนึ่งจากจุดที่แผ่นดินรกร้างบูรพาชน ภายใต้เสียงกึกๆ ดังสนั่น รอยร้าวนั้นลุกลามเข้าไปในส่วนลึกของแดนอรุณใต้อย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็มีความยาวเกือบหนึ่งล้านลี้!

มิได้มีเพียงรอยร้าวเส้นเดียวเท่านั้น แต่มีอยู่จำนวนมาก ปานทั้งแดนอรุณใต้จะแหลกเป็นเสี่ยงๆ ในนั้นมีรอยร้าวเส้นหนึ่งตรงไปยังเมืองหมอกนภา วินาทีที่ชนกับเทือกเขาหมอกนภาก็เกิดเสียงดังสนั่น เทือกเขาหมอกนภาเกิดเป็นช่องโหว่ในทันใด ก่อนรอยร้าวนั้นจะลุกลามเข้าไปในแผ่นดินเผ่าหมานจากช่องโหว่!

มันข้ามผ่านเทือกเขาหมอกนภา และกลายเป็นรอยร้าวเส้นแรกบนแผ่นดินเผ่าหมาน!

หลังจากเกิดช่องโหว่ น้ำทะเลมหาศาลก็หลั่งทะลักเข้าไปในแผ่นดินเผ่าหมาน และกระแทกอย่างบ้าคลั่ง บวกกับพายุหมุนไม่มีสิ้นสุดบนท้องฟ้า กำแพงหมอกนภาจึงแหลกเป็นเสี่ยงๆ!

กำแพงที่ปกป้องเผ่าหมานมาหลายยุคหลายสมัย พังลงแล้ว!

เสียงโครมครามในแดนอรุณใต้ยังคงดังไม่ยอมหยุด โดยเฉพาะตรงชายแดนที่ชนกับแดนรกร้างบูรพา แผ่นดินทลายลงนับไม่ถ้วน แตกกระจายลุกลามไปรอบๆ มันดูเหมือนช้า ทว่าความจริงแล้วกลับรวดเร็วยิ่งนัก

อีกทั้งขณะที่รอยร้าวยืดยาวไป มีอยู่หลายจุดที่รอยร้าวตัดสลับกัน แผ่นดินบางส่วนจึงหลุดออกจากแผ่นดินอรุณใต้ ภายใต้แรงสั่นสะเทือนและทะเลมรณะจู่โจม มันจึงกลายเป็นเศษดินที่ถูกจมลง!

ทุกอย่างเพียงแค่เริ่มต้น!

แผ่นดินรกร้างบูรพายังกระแทกต่อไป เทียบกันแล้ว แผ่นดินอรุณใต้เสียหายกว่าแผ่นดินรกร้างบูรพาที่ใหญ่กว่าหลายเท่านี้มาก ทว่าแผ่นดินรกร้างบูรพาเองก็เกิดรอยร้าวและเสียหายเช่นกัน มีน้ำทะเลหลั่งทะลักเข้ามากลืนกิน

นี่คือภัยพิบัติสำหรับคนแดนรกร้างบูรพา ทว่าสำหรับคนแดนอรุณใต้มันเป็นมหันตภัย!

การชนกันอย่างรุนแรงของสองแผ่นดินทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงฟ้าดิน เหนี่ยวนำแรงไร้ขีดจำกัด มิใช่ใครจะต้านทานไหว เว้นแต่จะมีขั้นพลังสูงยิ่งถึงจะเปลี่ยนได้!

ทว่าชาวเผ่าหมานกับเชมันไม่มีพลังแบบนั้น ดังนั้นจึงต้องต่อสู้ดิ้นรนภายใต้มหันตภัยครั้งนี้!

ทะเลร้องคำราม แผ่นดินแยก ชนเผ่าจำนวนมากถูกจม ผู้คนนับไม่ถ้วนกรีดร้องด้วยความกลัว ใช้ชีวิตแบบนี้ไปชั่วนิรันดร์…รวมถึงเผ่าหมาน ทันทีที่กำแพงหมอกนภาพังลงก็ถูกกุมชะตาชีวิตเอาไว้แล้ว และถูกประทับตราแห่งความตาย!

บนท้องฟ้าเผ่าเชมัน ท่ามกลางพายุคลั่ง สัตว์ปีกของเผ่าเชมันกำลังบินหนีอย่างคลุ้มคลั่ง ทว่าก็ถูกพายุหมุนฉีกร่าง หรือไม่ก็ถูกสัตว์ปีกในพายุขวางเอาไว้ ตอนที่ออกมากลับไม่เหลือเลือดเนื้อแม้แต่น้อย

ณ แดนใกล้กับเผ่าหมาน บนท้องฟ้ามีสัตว์ยักษ์ตัวหนึ่ง มันดูเหมือนปลาชิว เดิมทีมันควรจะว่ายอย่างงดงาม ทว่ายามนี้กลับว่ายอย่างคลุ้มคลั่ง เพียงแต่ว่าบนตัวมันมีสัตว์ปีกจำนวนมาก อีกทั้งกำลังฉีกร่างมันไม่ยอมหยุด

สุดท้าย หลังจากมันบินมาถึงเขตเผ่าหมาน ปลาชิวตัวนี้ก็เปล่งเสียงร้องสุดท้ายของชีวิต ร่างมันพลันระเบิดกระจุย ถูกพายุคลั่งฉีกร่างเป็นชิ้นๆ กลายเป็นเศษเนื้อกระจายไป ทว่าเลือดเนื้อเหล่านี้ยังไม่ทันตกถึงพื้น ก็ถูกสัตว์ปีกจำนวนมากบินเข้ามาโฉบกิน…

เมืองเขาหาน นี่เป็นเมืองแรกที่ซูหมิงมาถึงในแดนอรุณใต้ ยามนี้ผู้คนบางตา ทว่าก็ยังมีชายชราจำนวนหนึ่งนั่งอยู่ในเมือง นั่งอยู่บนยอดเขาประจำเผ่าของตัวเอง มองปรากฏการณ์บนท้องฟ้าอย่างเงียบๆ

พวกเขาไม่ยอมจากไป พวกเขาชราแล้ว ไม่มีความกล้าพอจะจากบ้านไกลเมือง สิ่งที่พวกเขามีคือความแน่วแน่ที่จะตายไปพร้อมกับชนเผ่า ยอดเขาและบ้าน!

สิ่งที่รอพวกเขาอยู่คือน้ำทะเล แผ่นดินสั่นสะเทือน ยอดเขาจะเริ่มถล่มลง ครู่ต่อมา ทั้งเมืองเขาหานจะกลายเป็นซากปรักหักพัง ถูกจมอยู่ในทะเลและกลายเป็นอดีต…

แผ่นดินใหญ่สั่นสะเทือน ทั้งแดนอรุณใต้เริ่มถูกดันออกไปทางตะวันตก แผ่นดินเคลื่อนตัว นอกจากยอดเขาจะถล่มลงและถูกจมแล้ว บนท้องฟ้ายังมีพายุฝนคลั่ง สายฟ้าปกคลุมทุกสิ่งอย่าง ทำให้แดนอรุณใต้กลายเป็นแดนต้องห้ามของสิ่งมีชีวิต!

ทว่าก็ยังมีคนพยายามต่อสู้ดิ้นรน แต่ถึงกระนั้นสุดท้าย…..นอกจากความตายและถูกทอดทิ้ง ก็ไม่มีทางเลือกอื่นๆ อีก

เมื่อรอยร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ตรงชายแดนอรุณใต้อันเป็นแผ่นดินเผ่าเชมัน เวลานี้ทลายลงทั้งหมด แผ่นดินย่อยๆ นับไม่ถ้วนกระจายอยู่กลางทะเล รอยร้าวลุกลามไปทั้งแดนอรุณใต้ ระดับความลึกคือทั้งแผ่นดินใหญ่ หลังจากรอยร้าวชนกันแล้ว แผ่นดินก็จะแยกออกเป็นส่วนๆ!

ไม่รู้ว่ามหันตภัยครั้งนี้ผ่านไปนานเท่าไร และไม่รู้ด้วยว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรแล้ว ทว่าทุกอย่างในตอนนี้เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น!

ซูหมิงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งแผ่นดินใหญ่ เขาเห็นเพียงในระยะหลายพันลี้รอบตัว เห็นแผ่นดินดับสูญ เห็นยอดเขาถล่ม เห็นแผ่นดินแยกออก และเห็นรอยร้าวยักษ์อยู่ห่างไปหลายพันลี้ กำลังตรงเข้ามาทางถ้ำของเขาอย่างรวดเร็ว

ซูหมิงใจสั่นไหว รีบเก็บจิตสัมผัสกลับมา ภายใต้พายุคลั่งจิตสัมผัสเขาหายไปเยอะมาก ยามนี้หลังจากเก็บมาแล้ว ใบหน้าเขาซีดขาว รีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็มาอยู่ตรงหม้อยาในถ้ำ เวลานี้หม้อยายังไม่เสร็จ ยังขาดอีกเล็กน้อย!

ทันใดนั้นเอง ม่านแสงอาคมที่มีจิตก่อกำเนิดผสานรวมอยู่ไม่อาจรับกับแรงดันและสั่นสะเทือนต่อไปได้อีก มันพังทลายลง จิตแรกก็กระเด็นกลับมา น้ำทะเลมหาศาลหลั่งทะลักเข้ามาอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับแรงดันรุนแรง

แทบชั่วพริบตาเดียว ทั้งถ้ำ ทั้งเทือกเขาก็ถูกน้ำทะเลปกคลุม ช่วงเสี้ยววินาทีนั้น ซูหมิงเปล่งแสงทองทั้งตัว ปกคลุมหม้อยา ใช้ร่างกายต้านแรงดันทะเลมรณะเอาไว้ ทำให้หม้อยายืนหยัดไปได้อีกหลายลมหายใจ กลิ่นหอมสมุนไพรแผ่กระจายเป็นวงกว้าง ในที่สุดการกระตุ้นก็สำเร็จสมบูรณ์!

ซูหมิงหน้าซีดขาว มุมปากมีโลหิตไหล ก่อนรีบเก็บหม้อยาอย่างไม่ลังเล ไม่ทันมองเม็ดโอสถในหม้อด้วยซ้ำ ตัวเขาก็เคลื่อนย้ายมาปรากฏตัวอยู่ข้างประตูผนึกน้ำแข็งที่ถูกน้ำทะเลจม

แทบเป็นช่วงที่เขามาถึง ห่างไปร้อยจั้งมีเสียงระเบิดดังสนั่น มันเป็นรอยร้าวกว้างหลายร้อยจั้งกำลังตรงเข้ามาอย่างเร็ว ก่อนข้ามผ่านใต้เท้าซูหมิงไป แผ่นดินใต้เท้าเขาถูกแยกออก ประตูผนึกน้ำแข็งจึงตกลงไปในส่วนลึกของรอยแยก!

ด้านล่างมืดมิด มันเป็นส่วนล่างสุดของแผ่นดินอรุณใต้ บางทีอาจเป็นส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลมรณะอย่างแท้จริง!

ซูหมิงเคลื่อนย้ายติดต่อกันหลายครั้งอย่างไม่ลังเล หลังจากพ่นโลหิตมาหนึ่งคำ ก็ไล่ตามประตูผนึกน้ำแข็งจนทัน หนึ่งฝ่ามือกดลงด้านบน ช่วงที่ผนึกน้ำแข็งเปิดออก เขาพลันพุ่งเข้าไปในประตู ท่ามกลางความมืดมิด มีแสงอ่อนขยับวูบวาบ พร้อมกับร่างเงาซูหมิงหายวับไป

ประตูผนึกน้ำแข็งยังคงดำดิ่งลงไป จนกระทั่งหายไปในความมืด ไม่รู้ว่าลงไปลึกเพียงใด

ภัยพิบัติรกร้างบูรพาดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด สิ่งมีชีวิตต่อสู้ดิ้นรนกับทะเลมรณะต่อไปเรื่อยๆ……ชนเผ่าถูกจมหายนับไม่ถ้วน ในชนเผ่าจำนวนมาก ในซากบ้านเรือนมีผู้คนที่หนีออกมาไม่ทันอยู่หลายคน หรือบางทีอาจไม่อยากจาก พวกเขาลืมตา กลายเป็นศพอยู่ก้นทะเลมรณะไปชั่วนิรันดร์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version