Skip to content

สู่วิถีอสุรา 513

ตอนที่ 513 เฝ้ารอมาสิบห้าปี

โลกเงียบสงัด แดนผนึกน้ำแข็งกลางความมืด ไม่มีพายุเคลื่อนตัวมา ไม่มีแผ่นดินไหวที่ชวนให้ไม่กล้าก้าวเท้าเดิน

ที่นี่เงียบสงบ

มีรูปปั้นน้ำแข็งและภูเขาน้ำแข็งเต็มไปหมด กลายเป็นภาพวาดในแดนน้ำแข็งที่ไม่แปรเปลี่ยนไปนิจนิรันดร์ นอกจาก…เต่ายักษ์ตัวหนึ่ง มันลืมตาจ้องภูเขาน้ำแข็งลูกหนึ่งเขม็ง ลมหายใจกระชั้น และมองด้วยสายตาเคียดแค้น หากสายตาสังหารคนได้ ยามนี้ซูหมิงที่ถูกมันจ้องอยู่ในภูเขาน้ำแข็งลูกนี้คงตายไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง

ซูหมิงยิ้มเฝื่อน นอกจากนี้แล้วก็มีความกลัดกลุ้มที่ไม่อาจแสดงออกจากใจ

เขาไม่คิดเลยว่าสิบห้าปีผ่านมานี้ เต่าตัวนี้จะยังคงเคียดแค้น มันนอนอยู่ที่นี่ มองภูเขาน้ำแข็งมาสิบห้าปี…จนกระทั่งหนึ่งชั่วยามก่อน มันก็เห็นซูหมิงจนได้

ตอนที่เพิ่งมาถึงที่นี่ พอซูหมิงเห็นเต่าในแวบแรกก็หยุดชะงักไปทั้งตัว เต่าตัวนี้นัยน์ตาเปล่งประกายวาวแวว จ้องเขาเขม็ง

หนึ่งคนหนึ่งเต่า มีภูเขาน้ำแข็งขวางกั้น มองกันและกันไปแบบนี้ เต่าตัวนี้ซูหมิงได้สัมผัสถึงความแกร่งของมันอย่างลึกซึ้งในตอนนั้น แม้ตอนนี้ขั้นพลังเขาจะต่างจากกาลก่อน ทว่าก็ยังมองออกถึงความแกร่งของมันได้อย่างชัดเจน

นี่คือความแกร่งที่มากกว่าเชมันระดับสูงสุด ตามการวิเคราะห์ของซูหมิง เกรงว่าจะเทียบเท่าระดับการสร้างชะตา!

ซูหมิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนค่อยๆ ยกมือขวาขึ้น ทว่าวินาทีนั้นเอง เต่าพลันเงยหน้าขึ้น ร้องคำรามใส่ซูหมิง เสียงคำรามข้ามผ่านธารน้ำแข็ง สองหูเขาจึงอื้ออึงและเจ็บปวด

นัยน์ตาเขาเป็นประกาย ทว่าไม่หยุด ยกมือขวาขึ้นต่อก่อนกดไปข้างหน้า ชั้นน้ำแข็งตรงหน้าพลันส่งเสียงกึกๆ แล้วปรากฏรอยร้าว

เต่าเห็นเสียงคำรามไม่มีผลข่มขวัญ จึงยกหางขึ้นฟาดไปยังภูเขาน้ำแข็งโดยพลัน เสียงวูบดังขึ้น วินาทีที่เห็นหางกำลังจะโดนภูเขาน้ำแข็ง มันกลับดึงหางกลับไปแล้วร้องคำรามด้วยความฉุนเฉียวไม่หยุด

ซูหมิงโล่งอกในใจ เขาจำได้ว่าตอนนั้นเต่าเหมือนจะไม่ยอมทำลายภูเขาน้ำแข็งนี้ ยามนี้ลองหยั่งเชิงดูก็รู้ว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ

‘อย่างมากข้าก็แค่ออกไปไม่ได้!’ ซูหมิงกัดฟัน ไม่สนใจเต่าที่จ้องมองอยู่นอกภูเขาน้ำแข็งอีก หลังจากใช้มือเปิดชั้นน้ำแข็งโดยรอบแล้วก็เปิดเป็นจุดนั่งฌาน และยังทำสิ่งอื่นๆ ได้อีกเล็กน้อย

‘ไม่รู้ว่าประตูเชื่อมไปยังแดนอรุณใต้ตกลงไปยังที่ใด ยังกลับไปตอนนี้ไม่ได้ ภัยพิบัติรกร้างบูรพาเกรงว่าจะไม่จบง่ายๆ ในหลายปีนี้แน่

ช่างเถอะ เต่าตัวนี้อยู่ข้างนอก ข้าเลยออกไปไม่ได้ เช่นนั้นก็นั่งฌานอยู่ที่นี่สักสองสามปี อีกทั้งยังมีของที่ต้องเปิดกับหลอมอีก…’ ขณะครุ่นคิดซูหมิงก็มองไปรอบๆ ภูเขาน้ำแข็งลูกนี้ไม่ใหญ่ เขาจึงเปิดมันได้บางมาก ฉะนั้นจึงไม่สะดวกสบายเท่าไร

ซูหมิงก้มหน้าลงขบคิด ครู่ต่อมานัยน์ตาเขาเป็นประกาย มองผิวน้ำแข็งด้านล่างตัวเอง

‘ในเมื่อออกไปไม่ได้ เช่นนั้นข้าจะขุดลงไป สร้างเป็นถ้ำใต้ภูเขาลูกนี้…’

นัยน์ตาซูหมิงขยับแวววูบไหว เขาเงยหน้าขึ้นมองเต่าแวบหนึ่ง ก่อนใช้มือขวาชกพื้นหนึ่งหมัด ด้วยขั้นพลังเขาในตอนนั้นเลยไม่อาจขุดลงไปได้ลึกมากนัก ทว่าตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

ทันทีที่ชกหมัดลง พลันเกิดรอยร้าวขึ้นในชั้นน้ำแข็ง เต่าด้านนอกดูตะลึงงัน จากนั้นก็ร้องคำรามดังยิ่งขึ้น ฟาดหางไปมาราวกับการกระทำซูหมิงจุดเพลิงโทสะของมันให้รุนแรงยิ่งขึ้น

ซูหมิงไม่สนใจเต่าข้างนอกอีก หลังจากรัวหมัดไปสิบกว่าหมัด ชั้นน้ำแข็งใต้เท้าแตกเป็นเสี่ยงๆ ร่างเขาพลันตกลงไป เกิดเสียงโครมครามดังอย่างต่อเนื่อง ใต้ภูเขาลูกนี้ตรงกลางธารน้ำแข็ง ซูหมิงเปิดเป็นถ้ำแบบง่ายๆ ใต้เต่าที่กำลังนอนพาดอยู่

ถ้ำนี้ยังคงหยาบมาก มันเป็นเพียงถ้ำใหญ่เท่านั้น ซูหมิงยืนมองเต่าที่กำลังร้องคำรามผ่านธารน้ำแข็งด้านบน ใบหน้าเผยรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนจัดการรอบๆ

ไม่นานถ้ำนี้ก็ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย กลายเป็นพื้นที่กว้างโล่ง จากนั้นซูหมิงนั่งขัดสมาธิลง หลับตาตกอยู่ในห้วงฌานสมาธิ อีกทั้งยังขยายจิตสัมผัสออกไป ดูเหมือนจะไม่สนใจเต่าตัวนั้น แต่แค่มันคิดจะทำลายชั้นน้ำแข็ง เขาจะสังเกตได้ทันที

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หนึ่งเดือนต่อมา ซูหมิงลืมตาขึ้นแล้วเงยหน้ามองเต่าตัวนั้น ในหนึ่งเดือนนี้ เขากับมันอยู่กันอย่างสงบสุขนัก…

นอกจากจะจ้องเขม็งแล้ว มันก็ไม่ทำอะไรอีก

ซูหมิงละสายตากลับ ยามนี้อาการบาดเจ็บหายดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระดูกหมานหรือว่าจุดอื่นๆ ในร่างกายล้วนบรรลุถึงจุดสูงสุด ขณะครุ่นคิดก็ยกมือขวาขึ้นพลิกลง บนผิวน้ำแข็งตรงหน้าพลันปรากฏหม้อยาสามขา กลิ่นหอมสมุนไพรกระจายสู่โดยรอบ อบอวลอยู่ในถ้ำธารน้ำแข็ง กระทั่งยังกระจายผ่านชั้นน้ำแข็งไปเล็กน้อย

แทบจะเป็นช่วงที่กลิ่นหอมสมุนไพรกระจายออก ซูหมิงสัมผัสได้ว่างูน้อยบินออกมาจากถุงเก็บวัตถุ จ้องหม้อยาและส่งเสียงร้องให้เขา

ในเวลาเดียวกัน เต่าบนธารน้ำแข็งเบิกตากว้าง เบนสายตาจากซูหมิงไปมองหม้อยาเป็นครั้งแรก

ซูหมิงมองหม้อยานี้แล้วก็รู้สึกปลงอนิจจังนัก เขาประมูลหม้อนี้มาในตอนนั้น มันอยู่กับเขามาหลายปีและบ่มเพาะอีกสิบห้าปี สุดท้ายก็ให้พลังฟ้าดินหลั่งไหลเข้าไป จนในที่สุดมันก็บังเกิดผล ทำให้เม็ดโอสถในนี้มีคุณสมบัติยาอีกครั้ง จากกึ่งสมบูรณ์กลายมาเป็นเกือบสมบูรณ์

‘กลิ่นหอมสมุนไพรนี้ไม่เหมือนตอนหลอมเม็ดโอสถอื่นๆ เสร็จ มันกระจายสู่ข้างนอกมากไป เห็นได้ชัดว่าสุดท้ายแล้วไม่มีทางสมบูรณ์ คงมาได้เท่านี้’ ซูหมิงส่ายศีรษะ ยืนขึ้นมาเดินอยู่ข้างหม้อยา

เขาเพ่งมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกดมือบนหม้อยาอย่างเด็ดขาด หม้อยาพลันสั่นไหว เกิดเสียงดังปุดๆ มีหมอกขาวจำนวนมากโชยมาจากข้างใน กลิ่นหอมสมุนไพรเข้มข้นขึ้นในทันใด งูน้อยข้างๆ ก็ร้องด้วยความตื่นเต้น แม้แต่เต่าบนธารน้ำแข็งยังยืนขึ้น เบิกตากว้างมองมาด้วยท่าทีประหลาดใจยิ่ง

เมื่อหมอกขาวกระจายออก ซูหมิงเริ่มขมวดคิ้ว นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี เมื่อครู่นี้ก่อนจะเปิดฝา เรื่องกลิ่นหอมยังใช้การกระจายมาอธิบายได้ ทว่าพอเปิดฝาแล้วกลิ่นหอมเข้มข้นขนาดนี้ อธิบายได้อย่างเดียวว่ายาข้างในหลอมละลาย ไม่ขึ้นเป็นเม็ด!

เมื่อหมอกขาวกระจายออก หลายลมหายใจต่อมาก็ยกฝาหม้อขึ้นอย่างเนิบๆ หลังจากเปิดออกหมดจนเผยส่วนข้างในแล้ว ซูหมิงหรี่ม่านตาลง

ภายในหม้อมีเม็ดโอสถเพียงเม็ดเดียว ทว่ารอบๆ เม็ดโอสถกลับมีของเหลวสีดำแผ่ออกน้อยๆ กลิ่นหอมเข้มข้นก็มาจากของเหลวสีดำนั้น

ซูหมิงขบคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงนำขวดเล็กมาสองขวด เก็บเม็ดโอสถสมบูรณ์ไปก่อน เขาถือมันขึ้นมามอง แต่ก็ยากจะมองออกว่ามีสรรพคุณอะไร

เขายังไม่บุ่มบ่ามกินมัน แต่บรรจุไว้ในขวดเล็กก่อน จากนั้นก็ใช้อีกขวดเล็กเก็บของเหลวสีดำไป งูน้อยข้างๆ พลันร้องพร้อมกับพันรอบแขนซูหมิง มันเงยหน้ามองขวดเล็กทั้งยังมองเขา ท่าทางเหมือนอยากจะกินเอามากๆ

“สมุนไพรนี้อย่างต่ำก็เป็นของเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อน มีสรรพคุณอะไรก็ยังไม่รู้ เจ้ากล้ากินรึ?” ซูหมิงตบศีรษะงูน้อยที่ชะเง้อขึ้น ก่อนมองเต่าบนชั้นน้ำแข็งที่กำลังเบิกตากว้างมองขวดเล็กนี้อย่างประหลาดใจ

ซูหมิงยิ้มมุมปาก ถือขวดเล็กเคลื่อนตัวกลับมายังภูเขาน้ำแข็งด้านบน แล้วใช้นิ้วมือขวากดบนภูเขาน้ำแข็ง พลันเกิดรอยร้าวเส้นหนึ่งพร้อมกับเสียงกึกๆ ทะลวงผ่านธารน้ำแข็งสร้างเป็นโพรงเล็กๆ

เต่าตัวนั้นร้องคำราม หมุนตัวมาจ้องซูหมิง

ซูหมิงแกว่งขวดยาในมือตรงหน้ามันโดยมีชั้นน้ำแข็งกั้นกลาง จากนั้นเทมาหนึ่งหยด ปล่อยให้มันไหลไปตามโพรงเล็กๆ ยาของเหลวสีดำนี้ปรากฏตรงหน้าเต่าในทันใด และลอยนิ่งอยู่ตรงนั้น

เต่ายักษ์ลังเลครู่หนึ่งถึงลองดม สีหน้ามันดูเคลิบเคลิ้ม ไม่มองซูหมิงที่กำลังจ้องมันตาไม่กะพริบ ส่วนงูน้อยบนแขนซูหมิงก็กำลังมองอย่างตึงเครียดเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามันรู้เป้าหมายของเจ้านาย

เต่าตัวนั้นเหมือนลังเลใจอย่างยิ่ง ทว่าสุดท้ายกลับพ่นลมหายใจจากจมูกมาสองคลื่น แล้วหันศีรษะไปอย่างไม่แยแส ไม่สนใจของเหลวสีดำนั้นอีก

ซูหมิงละสายตากลับ ไม่มองมันอีก และกลับมายังถ้ำใต้ชั้นน้ำแข็งของตน เขาหยิบขวดยาขึ้นมาพิจารณาก่อนเก็บกลับไป ในเมื่อเต่าตัวนี้ไม่กิน ก็คงยังไม่รู้สรรพคุณในตอนนี้ เช่นนั้นต้องออกจากที่นี่เพื่อตามหาสรรพคุณของมัน

งูน้อยมองซูหมิงเก็บขวดยาไปอย่างอาลัยอาวรณ์ กลิ่นหอมนั้นดึงดูดมันอย่างยิ่ง แต่ซูหมิงไม่มอบให้มัน มันก็ไม่มีทางเลือก

ซูหมิงไม่ตรึกตรองถึงเรื่องยาโบราณอีก เขานั่งขัดสมาธิลง ตบถุงเก็บวัตถุ มีแสงสีม่วงขยับวูบวาบออกมา แสงนั้นก็ดึงดูดความสนใจของเต่าบนชั้นน้ำแข็งได้ในทันที

ทว่าซูหมิงกลับไม่สนใจเต่าที่ประหลาดใจกับทุกเรื่องตัวนี้อีก เขามองเกราะสีม่วงตรงหน้าพลางขบคิด

เกราะนี้ได้มาจากคนเพียงหนึ่งเดียวในร่างของจู๋จิ่วอิน และก็เป็นบุคคลนี้ที่พูดถึงเทพหมานรุ่นสาม

‘นี่ไม่ใช่เกราะเซ่นไหว้กระดูก น่าจะเป็นเกราะแม่ทัพเทพวิญญาณหมาน…อีกทั้งมันยังไม่ใช่มายา แต่เป็นเกราะแม่ทัพเทพจริงๆ!’ ซูหมิงจ้องเกราะสีม่วงนั้น นัยน์ตาวาววับ ก่อนกัดปลายลิ้นพ่นโลหิตหมานมาหนึ่งกอง เมื่อโลหิตสัมผัสกับเกราะ มันก็ละลายเข้าไปข้างใน เกราะสีม่วงพลันขยับแสงวิบวับ แต่ไม่นานก็มัวหมองอีกครั้ง

ซูหมิงมีสีหน้าเป็นปกติ เหมือนรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ นัยน์ตาเขาดูครุ่นคิด ผ่านไปพักหนึ่งก็พลันอ้าปากสูบไปทางเกราะ ทันใดนั้นเกราะนี้กลายเป็นแสงสีม่วงเส้นหนึ่ง มันหดตัวอย่างรวดเร็วและถูกซูหมิงกลืนกินไป

เขาหลับตาลง แสงสีทองในร่างกายวูบวาบ พลังกระดูกหมานทั้งตัวหมุนโคจรและหุ้มเกราะม่วงนี้เอาไว้ ก่อนซึมเข้าไปทีละนิ้ว หมายมั่นจะหลอมเกราะนี้ให้เป็นของตน!

ตั้งแต่ได้รับมันมา ซูหมิงก็ไม่มีเวลาขบคิดถึงเรื่องนี้มากนัก ทว่ายามนี้ใต้ชั้นน้ำแข็ง เขามีเวลามากพอแล้ว จึงตั้งใจว่าจะหลอมเกราะนี้ให้เป็นของตน

ขณะเดียวกับที่ซูหมิงหลับตาหลอมเกราะนี้ เต่าบนชั้นน้ำแข็งเหลือบตามองของเหลวสีดำที่ลอยอยู่ข้างๆ มีสีหน้าไม่แยแส ทว่าไม่นานมันก็มองอีกครั้ง หลังต่อสู้ดิ้นรนอยู่พักหนึ่งก็อ้าปากเขมือบของเหลวสีดำเข้าไปด้วยความลังเลใจ

และยังเลียริมฝีปากอีก…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version