Skip to content

สู่วิถีอสุรา 517

ตอนที่ 517 ชายชราบนแท่นบวงสรวง

“วังสวรรค์ต้าอวี๋”

ตัวอักษรสะท้อนให้เห็นความโบราณ เมื่อมองจะเหมือนมีความเก่าแก่ตามกาลเวลาโชยสู่ใบหน้า!

ซูหมิงนั่งยองอยู่นาน อักษรต้าอวี๋นี้ สำหรับชาวหมานทุกคนล้วนสำคัญยิ่ง เพราะราชวงศ์ต้าอวี๋เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์และใจกลางของเผ่าหมาน เป็นสิ่งที่เทพหมานรุ่นหนึ่งสร้างขึ้น และเป็นสัญลักษณ์ของทั้งเผ่าหมาน!

โดยเฉพาะหลังจากแผ่นดินแยกเป็นส่วนๆ ทะเลมรณะตัดการเชื่อมต่อระหว่างแผ่นดิน ทำให้สัญลักษณ์ของราชวงศ์ต้าอวี๋ในใจของผู้คนค่อยๆ กลายเป็นตำนานไปในแต่ละยุคสมัย หลังจากซูหมิงเป็นแม่ทัพเทพชำระล้างและก้าวเข้าสู่แม่ทัพเทพเซ่นไหว้กระดูก ความรู้สึกที่มีต่อราชวงศ์ต้าอวี๋ก็ลึกซึ้งขึ้น แล้วเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามสิ่งที่ประสบพบเจอ

ถึงแม้มีตำนานมากมาย ในตำนานเหล่านั้นบอกว่าราชวงศ์ต้าอวี๋ไม่มีอยู่อีกแล้ว ทว่าเรื่องนี้ก็เป็นเพียงตำนานเท่านั้น การปรากฏกายของสามมหาเทวรูปทำให้ตำนานนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ ลึกๆ ในใจของเผ่าหมานจำนวนมากกว่าคิดว่าราชวงศ์ต้าอวี๋ยังคงอยู่ มันอยู่ตรงกลางของห้าแผ่นดิน ยังคงปกปักเผ่าหมาน รอคอยเทพหมานรุ่นสี่ปรากฏตัว

ซูหมิงเหม่อมองแผ่นป้ายวังที่ชำรุดนี้ ในความคิดมีเสียงลมพายุถาโถม ผ่านไปนานก็ยังไม่สงบลง จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งก้านธูป เขาถึงเงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก มองเต่าที่มีสีหน้าลำพองใจข้างๆ

“สิ่งนี้…เจ้าได้มาจากที่ใด?” ซูหมิงกล่าวอย่างสับสน

เต่าตัวนั้นสะบัดศีรษะ มีสีหน้าภูมิใจยิ่งกว่าเดิม

“พาข้าไป…” ซูหมิงกล่าวนิ่งๆ

เต่าลังเลครู่หนึ่งก่อนค่อยๆ หมอบลง ซูหมิงขึ้นมาอยู่บนหลังมันอย่างไม่ลังเล หลังจากยืนขึ้นแล้วเต่าตัวนี้ก็เงยหน้าร้องคำรามแล้ววิ่งไกลออกไป

โดยรอบเป็นสีดำเต็มไปด้วยน้ำทะเล จึงมองเห็นไม่ไกลนัก ซูหมิงในตอนแรกรับแรงกดดันของที่นี่ไม่ไหว ทว่าตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

เขาอยู่ในโลกน้ำแข็งมานานหลายปี นอกจากตอนนั้นที่มาเอากระบองเขี้ยวแล้วก็ไม่ได้ออกมาสำรวจข้างนอกอีก ต่อให้ใช้จิตสัมผัสก็ยังส่งไปได้ไม่ไกลนัก ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยาก แต่ยามนี้จิตสัมผัสถูกต่อต้านอย่างหนัก ยากจะขยายออกไปไม่ว่า บวกกับเวลาส่วนใหญ่ซูหมิงจะใช้ไปกับการฝึกฝน อีกทั้งยังมีเต่ายักษ์อยู่ข้างนอก ฉะนั้นจึงไม่ได้ออกไปสืบหาว่าตนอยู่ที่ใด

ในใจเขาคาดเดาบางอย่างไว้ ที่นี่น่าจะเป็นทะเลมรณะ เพียงแต่ไม่รู้ว่าทะเลด้านบนคือที่ใด

อีกทั้งตอนนี้อยู่บนหลังเต่า เมื่อมันเดินหน้าไป ซูหมิงก็ออกจากถ้ำที่อาศัยมาสี่ปีแล้วมุ่งหน้าไกลออกไป

เขาค่อยๆ ขยายจิตสัมผัส แม้ไม่อาจขยายไปได้ไกลนัก แต่ด้วยความยืนหยัดจึงแผ่ปกคลุมได้เล็กน้อย ขณะเต่ากำลังเดินหน้า เขาเห็นถ้ำของตนด้านหลัง ตรงนั้น…เป็นภูเขาลูกหนึ่ง!

ทว่าถ้ำของเขาอยู่ตรงยอดภูเขา!

ไกลออกไปอีก ซูหมิงเห็นวังใหญ่หลังหนึ่ง วังนี้ถูกน้ำแข็งคลุมทั้งหมด เผยให้เห็นเพียงมุมเดียว…ขณะเต่าเดินหน้าเรื่อยๆ ในใจซูหมิงสั่นไหว

ไม่นานเขาก็เห็นวังอีกหลายหลัง…เห็นผู้คนสวมเครื่องแต่งกายพิลึกในน้ำแข็ง…และยังมีสัตว์ใหญ่ยักษ์ งูยักษ์ดุร้าย รวมถึงผู้คนที่กำลังต่อสู้กันจำนวนมาก…

เวลานี้ผู้คนเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของผนึกน้ำแข็ง ท่าทางของพวกเขาสมจริงปานมีชีวิต…

กระทั่งขณะเต่ากำลังเดินหน้า ซูหมิงยังเห็นว่าด้านบนมีชายชราผมขาวทั้งศีรษะอยู่คนหนึ่ง เขาสวมเสื้อคลุมม่วง มีความน่าเกรงขามไม่ธรรมดา อยู่ในท่ากำลังยกมือขวา มีถาดกลมลอยอยู่ ใต้เท้าเป็นเต่าทมิฬใหญ่ยักษ์ตัวหนึ่ง เพียงแต่ว่าตอนนี้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งเชื่อมกับเสาน้ำแข็งบนพื้น

ตรงข้ามกับเขาเป็นชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมจักรพรรดิ บนใบหน้าชายคนนั้นยังมีบางสิ่งเหมือนรอยสัก คล้ายๆ กับลายหมาน มีสีหน้าเศร้าโศก มือขวาถือถุงผ้าใหญ่เหมือนกำลังโบกสะบัด ทว่ากลับกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง เป็นส่วนหนึ่งของแดนน้ำแข็งแห่งนี้

ตรงกลางระหว่างพวกเขาเป็นเกล็ดหิมะแช่แข็ง…ตอนที่นี่กลายเป็นน้ำแข็งกำลังมีหิมะตก มีสายลมเย็นหมุนวน

จินตนาการได้ว่าวันหนึ่งในกาลเวลา สายลมเย็นนี้จะพัดผ่านแผ่นดินใหญ่ พาเกล็ดหิมะเริงระบำ นำเศษชิ้นส่วนท้องฟ้าโปรยบนลงผืนดินหลายชั้น

ซูหมิงเห็นภาพนี้ในจิตสัมผัส จิตใจพลันตื่นตะลึง ขณะเต่ากำลังห้อวิ่งไป เขาเริ่มเห็นมากขึ้น วังใหญ่ที่กระจายตัวไปทั่วมองไม่เห็นสุดสายตา อีกทั้งด้านนอกยังมีเรือนพักเต็มไปหมด ทุกหลังล้วนดูโบราณอย่างยิ่ง…

กระทั่งนอกเรือนเหล่านั้นยังเห็นว่ามีผู้คนอยู่ในท่าต่อสู้กัน กำลังเข่นฆ่ากับคนสวมชุดพิลึกอย่างบ้าคลั่ง!

ซูหมิงรู้จักชุดพิลึกเหล่านั้น เขาเคยเห็นหญิงแห่งโชคชะตาสวมมัน บนแผ่นดินเชมันก็เคยเห็นเผ่าเซียนสวมอยู่ และยังเคยเห็นจากตี้เทียน!

นี่คือเมืองแห่งหนึ่ง!

บางทีอาจพูดได้ว่า…

“เมืองหลวงต้าอวี๋…” ซูหมิงพึมพำเบาๆ เมื่ออยู่บนหลังเต่า เขาเห็นว่าตรงกลางวังสูงตระหง่านทั้งหมดมีหลังที่ใหญ่ที่สุดอยู่ เพียงแต่ว่ามันชำรุด กระทั่งตำแหน่งตรงป้ายยังพังลง

จนกระทั่งไกลออกไป…เต่าตัวนี้ดูเคยชินกับทุกอย่าง มันพาซูหมิงไปยังเมืองน้ำแข็งที่ถูกซ่อนอยู่ใต้ทะเลมรณะแห่งนี้ จนกระทั่งทะยานมาถึงใจกลางเมืองน้ำแข็ง ซูหมิงก็เห็นภูเขาลูกหนึ่ง!

จะให้กล่าวจริงๆ มันคือแท่นบวงสรวง!

มันมีลักษณะเจ็ดมุม ทุกส่วนเป็นสีดำทึบ ตั้งตระหง่านแน่นิ่งอยู่ในผนึกน้ำแข็ง

ใต้แท่นบวงสรวง เขาเห็นคนมากกว่าหนึ่งแสนคนยืนอยู่ราวกำลังคารวะ…ตรงยอดแท่นบวงสรวงมีชายชราคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่

ชายชราคนนี้สวมเสื้อคลุมม่วง ถูกแช่แข็งอยู่กับแท่นบวงสรวง

ซูหมิงเหม่อมองภาพนี้ เต่าด้านล่างก็วิ่งไปเรื่อยๆ พร้อมกับร้องคำราม

มันพาซูหมิงบินขึ้นมาบนแท่นบวงสรวง ยามบินอยู่เหนือแท่น วินาทีที่ซูหมิงก้มหน้ามอง เขาก็เห็นชายชราเสื้อคลุมม่วงที่กลายเป็นน้ำแข็งบนแท่นบวงสรวง

ชายชราคนนี้มีรอยย่นเต็มใบหน้า มีจุดสีน้ำตาลขึ้นเต็มไปหมด เขากำลังลืมตา ทว่านัยน์ตากลับไม่มีประกาย ตรงหน้าวางกระดูกสันหลังที่สมบูรณ์เอาไว้ ยกมือขวาถือเศษหิน แล้วค้างเอาไว้ที่กระดูกสันหลังชิ้นที่สิบสาม

ชายชราเงยหน้าขึ้นประหนึ่งมองท้องฟ้า แต่ช่วงที่ซูหมิงมองชายชราก็มีเสียงโครมดังในความคิด และเกิดความรู้สึกคิดไปเองว่าเหมือนตอนนี้ชายชราบนแท่นกำลังมองเขา…

สายตานั้นปานมาจากกาลเวลา ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไร ราวกับว่าก่อนชายชราจะตายเขามองเห็นอะไรจริงๆ บางทีสิ่งที่เขาเห็นอาจเป็นตอนนี้

มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกบางอย่าง หลังจากเกิดเสียงสะเทือนในความคิดซูหมิง เขาก็รู้สึกว่าโลกน้ำแข็งมีความประหลาดที่บอกได้ไม่แน่ชัด

ทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงคำรามดังมาจากในเมืองน้ำแข็ง เสียงคำรามนี้ดังแว่วมาจากใต้ชั้นน้ำแข็งอันไร้ที่สิ้นสุด สั่นสะเทือนชั้นน้ำแข็งจนก้องกังวาน คล้ายกับว่าอยู่ไกลมาก ทว่ายามดังแว่วเข้ามา เต่าใต้ซูหมิงกลับร้องโหยหวนและรีบถอยไปอย่างเร็ว ชั่วขณะที่ซูหมิงกำลังตื่นตะลึง สายตาพลันพร่ามัว กระอักโลหิต ขั้นพลังในร่างแทบสลายไป

เพียงแค่เสียงคำรามหนึ่ง อีกทั้งยังข้ามผ่านชั้นน้ำแข็งไร้ที่สิ้นสุดมา แต่กลับมีพลังน่าสะพรึงเช่นนี้ ซูหมิงหรี่ตาลง เต่าใต้ร่างก็เร่งความเร็วขึ้นด้วยความหวาดกลัว พริบตาเดียวก็ทะยานออกไปไกล

หลังจากเต่ายักษ์ห้อวิ่งออกมาไกล แท่นบวงสรวงก็ค่อยๆ เลือนราง เสียงคำรามเบาลง ซูหมิงเช็ดคราบโลหิตตรงมุมปาก ในใจยังคงตื่นกลัว เขาเห็นว่าบนแผ่นดินน้ำแข็งไกลออกไปมีร่างเผ่าเซียนถูกแช่แข็งอยู่บนพื้นเต็มไปหมด…ยืดยาวไกลออกไปไร้ที่สิ้นสุด ในความรู้สึกซูหมิง มันมีมากกว่าหลายแสนคน…

ด้านหลังพวกเขายังมีอีกนับไม่ถ้วน…ยากจะนับจนรู้ว่ามีเท่าไร

ซูหมิงเงียบงัน ปล่อยให้เต่าพาเขาวนไปรอบๆ สุดท้ายก็ออกจากเมืองน้ำแข็งจนมาหยุดอยู่ข้างที่ราบก้นทะเลมรณะ จากนั้นมันก็ร้องคำรามลงไปด้านล่าง

ซูหมิงก้มหน้ามอง บนที่ราบนี้เต็มไปด้วยซากวังทรุดโทรม ยามนี้มีอยู่หลายส่วนกำลังลอยขึ้นมาข้างบน

ขณะเดียวกัน เต่าตัวนี้ก็พาซูหมิงวิ่งวนเป็นวงใหญ่ เขายังเห็นเศษซากแบบนี้อีกเช่นเคย มันกำลังจมลงจากด้านบน เห็นได้ชัดว่าเศษซากที่นี่เกิดการคลายตัวเพราะแรงสั่นสะเทือนรุนแรงหรืออะไรบางอย่าง ทำให้เศษซากเหล่านี้ขยับขึ้นๆ ลงๆ

มีบางชิ้นลอยขึ้นไปยังผิวทะเลและจมลงมาอีกครั้ง…..

ทว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ซูหมิงคาดเดาได้ว่าเป็นเพราะแผ่นดินรกร้างบูรพาชนกับแดนอรุณใต้ จึงเกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนไปทั้งทะเลมรณะ

เต่าแบกซูหมิงมุ่งหน้าไปยังถ้ำของเขาด้วยความห่อเหี่ยวและอัดอั้นอย่างบอกไม่ถูก เพราะเสียงคำรามน่าสะพรึงนั้น เต่าตัวนี้เลยวิ่งอ้อมเป็นวงใหญ่หนึ่งรอบ ซูหมิงยืนอยู่บนหลังเต่ายังเห็นแท่นบวงสรวงอยู่ไกลๆ และยังมีชายชราเสื้อคลุมม่วงบนแท่นบวงสรวงด้วย

‘ตอนที่เผ่าเซียนจู่โจมครั้งใหญ่ เขาเงยหน้ามองอะไรอยู่ตรงนั้น…’ ซูหมิงมองชายชราบนแท่นบวงสรวง ผ่านไปอยู่นานจนเต่าเดินออกมาไกล เขาถึงมองไม่เห็นอะไรอีก

เต่ายักษ์พาซูหมิงกลับมาถึงภูเขาอันเป็นถ้ำของเขา

ซูหมิงเดินลงจากหลังเต่ามายืนอยู่ข้างภูเขาน้ำแข็ง ในใจยากจะสงบลงไปอีกนาน เขามองที่นี่ด้วยความรู้สึกซับซ้อน ผ่านไปพักหนึ่งจึงหลับตาลง จนเมื่อเขาลืมตาอีกครั้ง แววตาก็กลับมาสงบนิ่ง

“อยากไปกับข้าหรือไม่?” ซูหมิงลูบศีรษะใหญ่ของเต่าพลางกล่าวเสียงเบา

เต่ายักษ์ลังเลก่อนส่ายศีรษะ ซูหมิงมองมัน ไม่กล่าวโน้มน้าวอะไร เพียงหมุนตัวเดินเข้าไปในภูเขาน้ำแข็งอย่างเด็ดขาด เขาเข้าใจดีว่าที่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ตนในตอนนี้จะสำรวจในระดับลึกได้ เพราะเหตุใดกันแน่ถึงเกิดผนึกน้ำแข็ง และเพราะเหตุใดที่นี่ถึงถูกฝังอยู่ส่วนลึกของทะเลมรณะ

ทุกอย่างนี้ซูหมิงเชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องเข้าใจทั้งหมด เพียงแต่ตอนนี้แม้ขั้นพลังเขาจะแข็งแกร่ง ทว่าก็ยังไม่มากพอ

ความลับของที่นี่ ความประหลาดของที่นี่ และยังมีเมื่อครู่นี้อีก เขาเห็นเต่าตัวนี้เหมือนหลบที่บางแห่ง มันมักจะอ้อมไปเสมอ นั่นหมายความว่าที่นี่…ไม่ได้เงียบสงบดั่งตาเห็น!

บวกกับเสียงคำรามน่าสะพรึงนั่น ทำให้ความลับของที่นี่มีม่านปกคลุมหนึ่งชั้น

ซูหมิงเดินเข้าไปในภูเขาน้ำแข็งอย่างแน่วแน่ แล้วเดินเข้ามาอยู่กลางประตูเคลื่อนย้าย เขาหันไปมองโลกน้ำแข็งด้านหลังแวบหนึ่ง รวมทั้งตัวอักษรบนแผ่นป้ายนอกภูเขาน้ำแข็ง

“วังสวรรค์ต้าอวี๋…” ซูหมิงพึมพำเบาๆ ร่างเงาซึ่งอยู่กลางประตูเคลื่อนย้ายขยับแสงวูบวาบ ก่อนค่อยๆ หายไปข้างใน

เต่าตัวนั้นเห็นซูหมิงหายไป มันก็ร้องคำรามอย่างอาลัยอาวรณ์ นอนหมอบอยู่ตรงนั้นแล้วรอคอยต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version