Skip to content

สู่วิถีอสุรา 535

ตอนที่ 535 ทำลายเกาะ 4

เมื่อกล่าวจบ ชายวัยกลางคนข้างๆ ก็ยืนขึ้นมองซูหมิง แล้วขยับกายวูบไหวอย่างเงียบเชียบ ที่เดิมของเขาพลันเหลือเพียงเศษเสี้ยวเงา จังหวะเดียวกับที่ร่างจริงเดินมาถึงนอกวิหาร เขากำหมัดขวาปล่อยพลังแก่กล้าทั้งตัว กระทั่งในร่างมีเสียงปุดๆ ดังก้อง ก่อนชกหมัดลงสู่พื้น

“เป่าซาน เชมันระดับสูงสุด จิตพยากรณ์ของการต่อสู้!” ทันทีที่เขาเอ่ย กำปั้นชกลงสู่พื้นในทันที ทว่าแผ่นดินกลับไม่สั่นสะเทือน เพียงแค่ผืนดินใต้เท้าเป่าซานระเบิดกลิ่นอายพลังขึ้นฟ้า กลิ่นอายพลังนี้บริสุทธิ์ยิ่งนัก มันคือพลังฟ้าดินส่วนหนึ่ง

พร้อมกันนั้นเส้นผมเป่าซานเป็นสีขาวในฉับพลัน ใบหน้ามีรอยเหี่ยวย่นเพิ่มขึ้นมาหลายเส้น ทั้งตัวเหมือนเปลี่ยนจิตวิญญาณ มอบความรู้สึกเหมือนว่าซูหมิงเผชิญหน้ากับเชมันนักสู้!

“มนุษย์ส่งคืนต้นกำเนิดปฐพี เปลี่ยนเชมันนักสู้ล่วงหน้า!”

เสียงปุดๆ ดังก้องรอบตัวเขาอย่างรุนแรง ยามเงยหน้าขึ้น ใบหน้ามีเส้นเลือดดำปูดนูน จากนั้นก้าวเดินไปหาซูหมิง ตอนที่เข้ามาใกล้ กลิ่นอายพลังรุนแรงปะทุมาจากร่างพร้อมกับกดทับไปยังซูหมิง!

แทบจะเป็นช่วงที่เป่าซานเดินออกมา นัยน์ตาหมัวหลัวในวิหารเป็นประกาย เขายืนอยู่ตรงนั้นแล้วยกมือขวาขึ้น มีแสงดำปล่อยมาในทันใด แสงดำนั้นปกคลุมทั่วร่าง ในชั่วพริบตาเดียวร่างเกือบครึ่งก็ตกอยู่ในแสงนั้น ดวงตาสองข้างจ้องซูหมิงด้วยความเย็นชา

หนึ่งหมัดของเป่าซานมีพละกำลังของเชมันนักสู้ระดับสูงสุดอย่างสมบูรณ์ หนึ่งหมัดชกออกไปพลันทำให้อากาศระหว่างเขากับซูหมิงเกิดรอยร้าวนับไม่ถ้วน และถล่มลงส่วนหนึ่งประดุจว่าไม่อาจรับไหว!

ซูหมิงยกมือขวา ทวนยาวในมือพลันมีแสงม่วงวนรอบแล้วกวาดไปยังเป่าซาน พร้อมกันนั้น เขายกมือซ้ายขึ้นคว้าอากาศ บนท้องฟ้าเกิดน้ำวนส่งเสียงดังสนั่น สร้างเป็นพายุคลั่งลอยลงมาอยู่ในมือซ้ายซูหมิง เมื่อกำเอาไว้ในมือแล้วก็เหมือนว่าในมือเขามีพายุหมุนไร้ขีดจำกัดอยู่ ตอนที่ทวนยาวปะทะกับเป่าซานพลันส่งเสียงดังกึกก้อง ขณะเดียวกันซูหมิงก็กดมือซ้ายที่กุมพายุหมุนไปทางเป่าซาน

เสียงโครมครามดังก้องกังวาน ซูหมิงในชุดเกราะม่วงมีแสงทองเคลื่อนไหวในกาย กระดูกหมานทั้งร่างปะทุพลังอันแข็งแกร่งในชั่ววินาทีนั้น

เมื่อเดินหน้าหนึ่งก้าว ร่างเขาหายวับไปจากจุดเดิมแล้วมาปรากฏตัวอยู่ข้างเป่าซาน เกราะม่วงรอบตัวมีสายฟ้าไหลเวียน นี่ก็คือพลังหมานอัสนีของซูหมิง ยามนี้มันปะทุออกมาแล้ว

แสงสายฟ้าส่งเสียงครืนๆ พริบตาเดียวก็ปกคลุมโดยรอบ ทันทีที่หุ้มเป่าซานเอาไว้ภายใน ซูหมิงก็ทำสัญลักษณ์มือซ้าย นัยน์ตาลุ่มลึกเกินหยั่ง มีเส้นสีดำจำนวนหนึ่งผุดขึ้นจากมือซ้ายในท่าสัญลักษณ์มือ มันลอยขึ้นมาหมุนวนอยู่ในฝ่ามือเขาราวก้อนเส้นผม ก่อนจะกดฝ่ามือไปทางเป่าซานที่ถูกสายฟ้าโอบล้อม

เส้นสีดำนี้คือพลังคำสาปที่ซูหมิงตระหนักรู้จากจู๋จิ่วอิน เวลานี้เส้นสีดำปล่อยมาจากซอกนิ้วมือ ทันทีที่กดเข้าไป เป่าซานพลันหมุนตัว สองดวงตาหรี่ลง เขาไม่ต่อต้าน แต่ยกเท้าขวาแล้วเหยียบลงพื้น!

“ปฐพีส่งถึงท้องนภา เปลี่ยนดูดเป็นวิญญาณ!” หนึ่งเท้าเหยียบลง ใต้เท้าเป่าซานมีหมอกดำลอยขึ้นมา เมื่อโอบล้อมเขาไว้แล้ว เส้นผมก็เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดง ใบหน้าแก่ชราขึ้นอีกไม่น้อย ทว่าดวงตากลับลุ่มลึก กลิ่นอายพลังของผู้ดูดวิญญาณที่บริสุทธิ์ยิ่งปะทุมาจากในร่าง

ขณะเดียวกับที่ซูหมิงกดฝ่ามือส่งมา เป่าซานยกมือขวาทำสัญลักษณ์มือ บนฝ่ามือเขาเกิดหมอกดำขึ้นเช่นกัน หมอกดำเหล่านี้ดูเบาบางยิ่งนัก แต่มีพลังคำสาปเหมือนกับซูหมิง

วินาทีที่ฝ่ามือของสองคนปะทะกัน หมัวหลัวในวิหารถูกแสงดำโอบล้อมทั้งตัวแล้ว ดวงตามีจิตสังหารวูบวาบ

“ถ่วงเวลามันเอาไว้ แล้วเจ้าก็จะเป็นอิสระ!” หมัวหลัวตะโกนเสียงต่ำ เดินหน้าหนึ่งก้าว พลันเข้ามาใกล้ซูหมิงในชั่วพริบตา!

ทันทีที่เขาเข้ามาใกล้ นัยน์ตาซูหมิงวูบไหว เขามองออกอยู่ก่อนแล้วว่ามีบางอย่างผิดไป ชายชราหมัวหลัวไม่ยอมออกจากวิหาร ต่อให้เขาสังหารบนเกาะก่อนหน้านี้ก็ยังไม่เห็นลงมือ

ทุกอย่างจะต้องเกี่ยวกับวิหารใหญ่นี้อย่างแน่นอน ฉะนั้นซูหมิงจึงไม่เดินเข้าไปในนั้น แต่ใช้ทวนโจมตีจากข้างนอก อีกทั้งต่อให้สู้กับเป่าซาน เขาก็ยังคงรอ รอให้ชายชราคนนี้เดินออกมาจากวิหารใหญ่!

หากชายชรายังไม่ยอมออกมา เช่นนั้นซูหมิงก็มีวิธีทำให้ออกมาเช่นกัน และเขาตัดสินใจแล้วว่าหากตนเผยจุดอ่อนให้เห็น มีความเป็นไปได้สูงมากที่อีกฝ่ายจะต้องสนใจ!

สู้กับเป่าซานมาจนถึงเมื่อครู่นี้ ในที่สุดซูหมิงก็ดึงดูดชายชราหมัวหลัวให้ออกจากวิหารใหญ่ได้สำเร็จ ชั่วขณะที่อีกฝ่ายออกจากวิหาร นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกาย ขณะกำลังจะถอย เป่าซานมีสีหน้าเด็ดเดี่ยวแล้วหลับตาลงอย่างไม่ลังเล

เขาหลับตาแล้วลืมตาอีกครั้ง กล่าวขึ้นมาหนึ่งประโยค!

“ท้องนภาส่งถึงผู้คน!”

ทันทีที่กล่าวประโยคนี้ มวลอากาศรอบตัวซูหมิงพลันปรากฏร่างเงาจำนวนมาก ร่างมายาเหล่านี้มีทั้งบุรุษสตรีเด็กและชรา พวกเขาไม่ใช่วิญญาณอาฆาต ลักษณะหน้าตาแทบจะเหมือนกันทุกประการ!

ไม่ว่าจะเป็นบุรุษสตรี เด็กหรือคนชรา ล้วนมีใบหน้าเหมือนกัน นอกจากแบ่งเพศชายหญิงแล้ว มีอย่างเดียวที่ต่างกันก็คือช่วงอายุ ร่างมายาเหล่านั้นในสายตาซูหมิงมองไม่เห็นสุดปลาย มากจนนับไม่ถ้วน ราวกับตกอยู่ในห้วงจิตหลอน

สิ่งที่น่าตื่นตะลึงคือ เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ายามนี้ใบหน้าของตนกำลังเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ดุจผสานรวมกับทุกคน

วิชาพิสดารแบบนี้ซูหมิงเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก แทบทันทีที่เขาถูกวิชาของเป่าซานปิดล้อมไว้ ชายชราหมัวหลัวเดินออกมาจากวิหารใหญ่แล้ว เขาพลันแผ่ควันดำจากทั้งตัว ควันดำเหล่านั้นกลายเป็นหมอกกลางอากาศแล้วตรงไปหาซูหมิง ดูจากลักษณะแล้วเหมือนจะหุ้มซูหมิงไว้ตรงกลาง

หมอกดำเข้ามาใกล้ซูหมิงทันใด โอบล้อมอยู่รอบตัวก่อนหดเล็กลง คลับคล้ายว่าจะรวมเป็นลักษณะรูปปั้น หากหมอกนี้ห่อหุ้มซูหมิงจนเสร็จ ตัวเขาจะกลายเป็นรูปปั้น

รูปปั้นนี้คือเทวรูปหมานของหมัวหลัว และวิชานี้คือหนึ่งในวิชาสังหารที่เขาชำนาญมากที่สุด แยกวิญญาณหมาน!

ทว่าซูหมิงกล้ามาเกาะหมัวหลัว กล้าสู้กับเป่าซานเพื่อล่ออีกฝ่ายออกมา ก็ย่อมเตรียมตัวไว้อยู่แล้ว ช่วงที่รู้สึกว่าถูกปิดล้อมด้วยกลุ่มคนพิลึก ซูหมิงยกมือซ้ายขึ้นกางฝ่ามือก่อนหงายขึ้นฟ้า

“อดีต อนาคต ผสานรวมเป็นซู่มิ่ง!” ซูหมิงกล่าวอย่างสงบนิ่ง ขณะพึมพำ หมอกดำปกคลุมตัวเขาแล้ว สร้างเป็นรูปปั้นยักษ์อยู่รอบตัว

“แยก!” หมัวหลัวมีสีหน้าดุร้าย พลันส่งเสียงตะโกน

ทว่ายามนั้น รูปปั้นที่หุ้มซูหมิงอยู่ระเบิดกระจายก่อนเวลา เป่าซานหน้าซีดขาว ถอยร่นไปหลายก้าว มุมปากมีโลหิตไหล เขารู้สึกว่าวิชาท้องนภาส่งถึงผู้คนของตนถูกทำลาย

ในเวลาเดียวกัน ภายในเศษรูปปั้นที่ระเบิดออกมีร่างเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินออกมาอย่างช้าๆ…เส้นผมครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว อีกครึ่งหนึ่งเป็นสีม่วง…

สิ่งที่มาพร้อมกับร่างเงานั้นคือพลังแห่งโชคชะตาที่สามารถกลับตาลปัตรฟ้าดิน ทำให้ฟ้าดินไร้สี ท้องนภาหลับตาลง!

“ในเมื่อออกมาแล้วก็อย่าเพิ่งกลับไป” เสียงอันเยาว์วัยและเย็นชาดังแว่วเข้ามา ซูหมิงเงยหน้าขึ้นมองหมัวหลัวกับเป่าซาน!

วินาทีที่เห็นสายตาซูหมิง ทั้งสองคนใจสั่นไหวพร้อมกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version