ตอนที่ 538 ซูหมิง!
อะไรคือสร้างชะตา!
มันคือการสร้างชะตาชีวิตของตัวเอง ชะตาชีวิตนี้แฝงไว้ด้วยชีวิตและโชคชะตา ทุกอย่างทำเพื่อกุมมันไว้ด้วยมือตัวเอง รับรู้ถึงข้อบกพร่องของตน จากนั้นก็เติมเต็มตัวเองให้สมบูรณ์ รวมให้เป็นจุดสูงสุดที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในใต้หล้าและท้องนภา
ขณะซูหมิงเป็นซู่มิ่ง ต่อให้มีพลังเท่าขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์ ทว่าก็ได้แค่นั้น ยังห่างจากขอบเขตสร้างชะตาอีกไกลเป็นหุบเหวลึก ยากจะข้ามผ่านไปได้ หากแต่ช่วงที่ร่างซู่มิ่งกำลังจะหายไป…เกราะฝังศพกลับทำให้แรงจู่โจมพลันรวมตัวกันบุกทะลวงหุบเหวนั้น!
หากเป็นก่อนหน้านี้ ต่อให้ซูหมิงโจมตีเช่นนี้ก็ยากจะใช้ทวนยาวที่ล้ำเลิศดั่งตอนนี้ เพราะเขายังไม่รู้ถึงขอบเขตสร้างชะตาอย่างแท้จริง และยังไม่มีจิตใจที่บรรลุถึงระดับนั้น!
เขายังอยู่ในความสับสน ยังคงคบคิดอย่างดื้อรั้นอยู่กับตัวเองและวังวนของความทรงจำ คิดว่าตัวเองเป็นใครกันแน่
ทว่าระหว่างเดินทางมายังเกาะหมัวหลัว ท่ามกลางผืนทะเลและท้องฟ้า เสียงหัวเราะลากยาว ความเข้าใจถ่องแท้ รวมถึงอีกหลายประโยคเหล่านั้น สุดท้ายมันทำให้เขาก็โผบินขึ้นปานหนอนกลายเป็นผีเสื้อ!
มันคือการวิวัฒนาการ เป็นการผลัดเปลี่ยนจิตใจและความคิดอย่างหนึ่ง ทั้งยังทำให้ซูหมิงก้าวสู่ผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง มันเป็นหนึ่งก้าวใหญ่ที่สำคัญที่สุด!
“ในเมื่อผู้คนเรียกข้าว่าซู่มิ่ง เช่นนั้นจากนี้ไป ข้าซูหมิงก็จะเป็นซู่มิ่ง!” นี่คือเสียงตะโกนครั้งหนึ่งในชีวิตซูหมิง เป็นเสียงหัวเราะพร้อมกับคำพูดของชีวิตเขาที่กล่าวต่อฟ้าและดิน
คำพูดประโยคนี้กับรอยยิ้มของจ้าวหมานต้าอวี๋ในโลกน้ำแข็งตอบสนองกัน ก่อให้เกิดพลังพลิกฟ้ากับร่องรอยลึกของจ้าวหมานต้าอวี๋!
“เมื่อเจ้ารู้ว่าเจ้าเป็นเจ้า เจ้าจะไม่ใช่เจ้า!
เมื่อเจ้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นเจ้า เจ้าก็จะเป็นเจ้า!”
การผลัดเปลี่ยนของซูหมิง การตระหนักรู้ในความคิดและจิตใจ ดูเผินๆ เหมือนธรรมดา ความจริงนี่ต่างหากคือจุดสำคัญที่สุดที่ทำให้ซูหมิงมีเสี้ยวกลิ่นอายพลังขอบเขตสร้างชะตา!
ช่วงที่ปรากฏทวนยาว ท้องฟ้าสั่นไหวแผ่นดินสะเทือน ราวกับว่ากลิ่นอายพลังนี้หายากยิ่งนักบนแผ่นดินเผ่าหมานในหลายปีมานี้!
การปรากฏขึ้นของมันเขย่าฟ้า เมื่อซูหมิงปาทวนออกไป ทั้งผืนฟ้าพลันสั่นสะเทือน ชั้นเมฆที่ปกคลุมมาหลายปีกระจายออกเป็นครั้งแรก ชั้นเมฆม้วนตลบถอยไป ท้องฟ้า…จึงเผยแสงตะวันอย่างแท้จริงภายใต้ภัยพิบัติเป็นครั้งแรก
แสงตะวันนี้สว่างมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการกระจายตัวของชั้นเมฆ เสียงโครมครามดังสนั่นฟ้า ทะเลรอบเกาะก่อตัวขึ้นเป็นลูกคลื่น ภายใต้เสียงดังกังวาน ประหนึ่งท้องฟ้ากับทะเลกำลังสั่นไหวเพราะกลิ่นอายพลังสร้างชะตาเสี้ยวนี้!
แทบจะเสี้ยวขณะที่กลิ่นอายพลังสร้างชะตาเขย่าฟ้าดินและปลดปล่อยในใต้หล้า บนแผ่นดินแดนอรุณใต้ก็มีอยู่หลายจุดปะทุพลังอำนาจแกร่งกล้าออกมา!
จุดแรกคือหนึ่งในสามแผ่นดินใหญ่ เป็นที่ตั้งของสำนักทะเลตะวันออก ที่นั่นหนาวเหน็บและรกร้าง บนยอดเขาสูงเสียดเมฆลูกหนึ่งหลังสำนักทะเลตะวันออก มีชายวัยกลางคนหน้าต่อหล่อเหลายิ่งนักนั่งอยู่ ชายคนนี้สวมเสื้อคลุมสีเงิน ด้านบนปักลายมังกรดำ!
เขาก็คือหนึ่งในสามยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนอรุณใต้ หลีหลงผู้ยิ่งใหญ่!
เดิมทีเขาหลับตาอยู่ แต่ยามนี้พลันลืมตาขึ้น ทันใดนั้นท้องฟ้าเหนือแผ่นดินจุดนี้เปล่งแสงสว่างจ้า เหมือนเดิมทีท้องฟ้าหลับตาอยู่เช่นกัน และลืมตาขึ้นตามหลีหลง!
“นี่มัน…..กลิ่นอายพลังแห่งโชคชะตา…..” หลีหลงเหม่อมองทอดไกลอยู่นาน ก่อนกล่าวพึมพำเบาๆ
ในเวลาเดียวกันบนแผ่นดินอรุณใต้ อีกหนึ่งแผ่นดินใหญ่มีชนเผ่าขนาดเล็กอยู่ ในชนเผ่านี้มีควันลอยกรุ่น มีเสียงผู้เยาว์หยอกเล่นกันบ้าง ในกระโจมหนังหลังหนึ่งของชนเผ่ามีเสียงซวินดังแว่วออกมา ชายชราคนหนึ่งลืมตาขึ้น ทว่าดวงตาไร้แววปานคนตาบอด และเป็นเขาเองที่เป่าซวิน!
บทเพลงซวินของเขาดังก้อง มุมปากค่อยๆ ยกยิ้มบาง
แดนอรุณใต้เป็นเช่นนี้ บนแผ่นดินรกร้างบูรพาก็เป็นเช่นกัน มีระลอกคลื่นพลังรุนแรงปรากฏขึ้นหลายจุด!
การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเป็นเพราะเสี้ยวพลังสร้างชะตาในทวนของซูหมิงบนเกาะหมัวหลัว!
บนเกาะหมัวหลัว ภายในวิหารใหญ่ หมัวหลัวที่ผสานรวมกับจิตของบรรพบุรุษในสำนักและมีขั้นพลังฟื้นกลับมายังจุดสูงสุดของขั้นวิญญาณหมานตอนปลาย เดิมทีกำลังร้องคำรามด้วยความดุร้ายขณะตรงเข้าไปหาซูหมิง
ทว่าตรงหน้าเขากลับเป็น….ทวน!
ทวนยาวสีม่วงอัดแน่นไปด้วยจิตสังหาร ทั้งยังมีกลิ่นอายพลังที่หมัวหลัวต้องใจสั่นอย่างรุนแรง แม้ว่าอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่งก็ยังไม่อาจระงับความกลัวได้!
สีหน้าและนัยน์ตาเขาฉายแววหวาดกลัวอย่างชัดเจน รวมถึงจิตของบรรพบุรุษที่ไหลเข้าสู่กายเขาด้วย
แม้ว่าจิตนั้นจะมาจากความตาย แต่พอมันสัมผัสถึงกลิ่นอายพลังสร้างชะตาจากในทวนของซูหมิงก็คลุ้มคลั่งขึ้นมา
แทบจะชั่วพริบตาเดียว เงามายาที่มุดเข้าไปในร่างหมัวหลัวพากันไหลทะลักออกมาพร้อมกัน แล้วมารวมอยู่ตรงหน้าเขากลายเป็นร่างเงาเลือนราง จากนั้นร่างเงาก็ยกมือขึ้นกดไปยังทวนยาวที่ตรงเข้ามา!
ช่วงที่สองฝ่ายปะทะกัน ร่างเงามายาสั่นไหวอย่างรุนแรงและระเบิดกระจุย แรงระเบิดทำให้หมัวหลัวซวนเซถอยไปหลายก้าว ทั้งยังกระอักโลหิตกองใหญ่ สีหน้าดูตื่นกลัว ครั้นจิตของบรรพบุรุษออกไปแล้ว ขั้นพลังจึงกลับมายังขั้นวิญญาณหมานตอนต้นอีกครั้ง ซ้ำยังมีเค้าลางว่าจะลดลงไปเรื่อยๆ
“ท่านเจ้าสำนักช่วยข้าด้วย!” หมัวหลัวในยามนี้ถูกความกลัวเข้าครอบงำ เขากลัวแล้ว กลัวอย่างแท้จริง เขาไม่นึกเลยว่าทวนของอีกฝ่ายจะน่าสะพรึงเช่นนี้ พลังของบรรพบุรุษซึ่งรวมอยู่ในของวิเศษที่สำนักมอบให้…แม้แต่ชั่วพริบตาเดียวยังขวางทวนนั้นเอาไว้ไม่ได้!
ภยันตรายถึงชีวิตที่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าวัฏจักรเมื่อครู่จู่โจมจิตใจของหมัวหลัว ใบหน้าเขาซีดขาว ไม่มีเลือดฝาด ทั้งยังตัวสั่นงันงก
ทวนยาวสีม่วงทะลวงผ่านร่างของจิตบรรพบุรุษหมัวหลัว ตรงเข้าไปในวิหาร ทว่าตอนพุ่งเข้ามานั้น ตัววิหารคล้ายตื่นขึ้นจากความตาย ไม่อยากเชื่อว่าจะแผ่พลังชีวิตมหาศาลมาจากทั้งในและนอก
ทว่ามันก็แค่นั้น!
แทบทันทีที่วิหารนี้ตื่นขึ้นแล้วปลดปล่อยพลังชีวิตหมายมั่นจะขวางทวนของซูหมิง ก็พลันเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทั้งวิหารถล่มทลายลงในพริบตาเดียว ก่อนระเบิดกระจุยออกเป็นชิ้นๆ!
เหลือไว้เพียงหมัวหลัวยืนอยู่ที่เดิม เขากระอักโลหิตอีกครั้ง สีหน้าหม่นหมองและหวาดกลัว ถอยหนีไปอย่างต่อเนื่อง
ทว่าหนึ่งทวนของซูหมิงยังไม่หยุดเท่านั้น มันตรงไปยังหมัวหลัว ขณะนั้นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่หมัวหลัวร้องขอให้เจ้าสำนักช่วย
ตอนที่ทวนยาวเข้ามาใกล้หมัวหลัว ตรงหน้าเขาปรากฏน้ำวนแห่งหนึ่ง มันปรากฏกะทันหันยิ่งนัก อีกทั้งยังมีมือหนึ่งยื่นมาจากด้านในแล้วคว้ามาหา ดูจากลักษณะเหมือนจะช่วยหมัวหลัว!
มันเป็นมือแก่ชราข้างหนึ่ง ทันทีที่ปรากฏก็เผยกลิ่นอายพลังขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์อย่างชัดเจน นี่คือนักรบขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์อย่างแท้จริง!
แต่ขณะมือนั้นยื่นมาคว้าตัวหมัวหลัวที่มีสีหน้าตื่นเต้นดีใจเพราะจะรอดจากความตายเข้าไปในน้ำวน ซูหมิงที่อยู่ไม่ไกลนัยน์ตาขยับประกาย
ทวนยาวพุ่งเข้าไปใกล้ในพริบตาเดียว จังหวะที่จะทะลวงเข้าไปในน้ำวน ทันใดนั้นคนที่ยื่นมือคว้าหมัวหลัวจากในน้ำวนก็ยื่นอีกหนึ่งมือมา แล้วชี้ปลายนิ้วไป
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันในทันใด ท่ามกลางเสียงโครมครามดังสนั่น นิ้วมือในน้ำวนพลันระเบิดกระจุยพร้อมกับเสียงร้องดังแว่วมาจากภายใน เสี้ยวกลิ่นอายพลังสร้างชะตาในทวนยาวพลันปะทุขึ้นมา ภายใต้กลิ่นอายพลังนี้ น้ำวนสลายไป เสียงระเบิดดังจากทั้งตัวหมัวหลัว ขาทั้งสองข้างกลายเป็นเศษ แขนสองข้างก็เช่นกัน แม้แต่เรือนร่างยังเป็นเศษชิ้นส่วนในพริบตาเดียว เหลือไว้เพียงศีรษะเชื่อมกับร่างไม่ถึงครึ่งกระเด็นถอยไปไกล
เดิมทีเขาก็ไม่รอดอยู่แล้ว หากมิใช่เพราะซูหมิงไม่ยอมสังหารเขาในตอนนี้ ตอนที่ปรากฏน้ำวน มีพลังมากกว่าครึ่งรวมอยู่ในน้ำวนนั้น หมัวหลัวจะต้องตายอย่างแน่นอน
หลังจากน้ำวนสลายไป ทวนยาวของซูหมิงทะลวงผ่านมันเข้าไปข้างใน ตัดเสียงระเบิดของมวลอากาศ ชั่ววินาทีที่น้ำวนจะสลาย มีเสียงแก่ชราดังแว่วมาจากน้ำวนด้วยความโกรธเกรี้ยวและตื่นตระหนก
“เจ้าเป็นใคร!”
“แดนอรุณใต้ ซูหมิง!” นี่คือคำตอบของซูหมิง ไม่มีการปิดบังใดๆ ทั้งยังไม่ปิดนามตัวเอง บอกไปโต้งๆ แบบนี้ หลังจากทำลายเกาะหมัวหลัวก็กล่าวตอบตาแก่ขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์แห่งแดนรกร้างบูรพา!
ขณะเดียวกับที่เอ่ยคำ น้ำวนก็สลายไปจนหมด จากนั้นในมือซูหมิงมีแสงสว่างวูบวาบ ทวนยาวถูกดึงกลับมาอยู่ในมือเขาอีกครั้ง
ทวนของเกราะฝังอสูรเป็นทั้งจริงและมายา ขอแค่ซูหมิงถือแผ่นหยกโปร่งใสนี้ไว้ ทวนยาวก็จะอยู่ในมือเขาไปชั่วนิรันดร์!
กลิ่นอายพลังหมัวหลัวเบาบางลง พลังชีวิตไหลออกจำนวนมาก หากไม่ใช่ว่าเขาเคยอยู่จุดสูงสุดของขั้นวิญญาณหมานตอนปลาย คงต้องตายด้วยอาการบาดเจ็บที่ไม่อาจรักษานี้อย่างแน่นอน ทว่าต่อให้เป็นอย่างนั้น ตอนนี้เขาก็ใกล้จะสิ้นใจแล้ว!
ตนเป็นผู้อาวุโสของสำนักเวไนยสัตว์บนแผ่นดินรกร้างบูรพา นอกจากรับภารกิจมาอยู่นอกทะเลแล้ว ยังได้รับของวิเศษจำนวนมาก อีกทั้งสำนักยังมอบวิหารนี้ที่มีการป้องกันและโจมตีที่แกร่งที่สุดให้เขา
ในสายตาสำนักเวไนยสัตว์ นี่คือพลังที่แกร่งที่สุดแล้ว ไม่น่าจะเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ขึ้น ต่อให้เจอสามยอดฝีมือแห่งแดนอรุณใต้ก็ไม่มีปัญหา
แต่พวกเขากลับคาดไม่ถึงว่าบนแผ่นดินอรุณใต้ นอกจากสามยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ยังมีอีกคนหนึ่ง….
บุคคลนี้ ลิขิตไว้ว่าจะมีชื่อเสียงโด่งดังในใต้หล้าหลังจากการต่อสู้ครั้งนี้!
บุคคลนี้ ลิขิตไว้ว่าหลังจากเกาะหมัวหลัวมีโลหิตไหลเป็นสายน้ำ จะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับแดนรกร้างบูรพา!
บุคคลนี้ ลิขิตเอาไว้ว่าจะเป็นที่จับตามองของผู้แข็งแกร่งทั้งชนเผ่าและสำนักทั้งหมดในแดนรกร้างบูรพา อีกทั้งยังยังสร้างความหวาดกลัวและตื่นตระหนกให้กับพวกเขา!
นามของเขาจะเขย่าแดนรกร้างบูรพานับจากการต่อสู้ครั้งนี้ไป!
เขาคือ…ซูหมิง!