Skip to content

สู่วิถีอสุรา 733

ตอนที่ 733 ดวงชะตาเก้ามรณะ

เสียงซูหมิงยังคงดังอยู่ ร่างยอดจ้าวเชมันก็สลายหายไปแล้ว ยอดจ้าวเชมันในสภาพนี้มีระดับต่างกับเขามากเกินไป ชั่วพริบตาเดียวเขาก็สังหารได้แล้ว

กระบี่สังหารในมือไม่มีโลหิตแม้แต่น้อย แต่จะเห็นได้ว่ายอดจ้าวเชมันที่ตายไปสองครั้งไม่มีกายเนื้อจริงๆ แต่เป็นสิ่งประหลาดที่แทบอยู่ระหว่างภาพมายากับเลือดเนื้อ

‘วิชาเก้ามรณะ ตอนนั้นข้าแซ่ซู อาจารย์ และยังมีปรมาจารย์หลีหลงเคยสังหารยอดจ้าวเชมันคนนี้ติดกันเก้าครั้ง จนทำให้เขาหลับลึกไป…’ นี่ไม่ใช่ความทรงจำชาตินี้ของซูหมิง แต่คือความทรงจำครั้งก่อนในวัฏจักรความทรงจำหลายครั้ง

ชั่วขณะที่ความทรงจำนี้ผุดขึ้น ภายในมวลอากาศตรงหน้าซูหมิงมีกลิ่นอายพลังที่แกร่งกว่าเมื่อครู่และอยู่เหนือกว่าขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์ของเผ่าหมานปะทุออกมา

หลังจากนั้นก็มีหมัดแห้งเหี่ยวไม่สมประกอบยื่นมาจากความว่างเปล่า ก่อนพุ่งไปยังหน้าอกเขาราวกับสายฟ้าแลบ

เสียงครึกโครมพลันดังกึกก้อง ช่วงที่หมัดห่างจากซูหมิงเจ็ดชุ่นก็เกิดเสียงดังกึกๆ มีน้ำแข็งเกาะอยู่บนหมัดนั้นแล้วลุกลามไปในพริบตา ทำให้ทั้งหมัดกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง

ขณะเดียวกัน ด้านหลังหมัดนั้นมีชายชราอายุราวห้าสิบปีคนหนึ่งเดินออกมาจากความว่างเปล่า เส้นผมไม่ใช่สีขาวทั้งหมด แต่ปะปนกับสีดำเล็กน้อย ร่างกายก็ไม่แห้งเหี่ยวเหมือนกระดูกอีก แต่กำยำขึ้นมาเล็กน้อย เขาก็คือยอดจ้าวเชมันที่ฟื้นคืนชีพมาครั้งที่สาม

ร่างกาย กลิ่นอายพลัง และพลังชีวิตเหมือนกลับคืนสู่ร่างกายอีกครั้งตามการย้อนคืนของอายุ เวลานี้ขณะเดินออกมาก็ระเบิดกลิ่นอายพลังทั่วร่าง มวลอากาศรอบๆ เกิดระลอกคลื่นหลายชั้นทันใด

“ในเมื่อเจ้าบอกว่าข้าเป็นสหายเก่า เช่นนั้นเจ้าเป็นใคร!” ยอดจ้าวเชมันดึงมือขวาแช่แข็งกลับมา ไม่มองน้ำแข็งบนแขนแม้แต่หางตา เพียงสะบัดมือก็เกิดเสียงปึกๆ ดังก้อง แล้วมีแสงสีดำเปล่งมาจากร่างกายหมายจะทำลายน้ำแข็ง

แต่ไม่ว่าแสงดำปกคลุมอย่างไรก็ไม่อาจละลายน้ำแข็งได้แม้แต่นิด มันกลับลุกลามเร็วขึ้นกว่าเดิม

จนถึงตอนนี้ ยอดจ้าวเชมันเพิ่งจะหน้าเปลี่ยนสี

ใจเขาเต้นดังระรัว ยิ่งหวาดกลัวซูหมิงเข้าไปใหญ่ การตายครั้งแรกกับครั้งสองตนยังอ่อนแออยู่ การถูกสังหารก็อยู่ในการคาดเดาอยู่แล้ว และวิชาของเขาคือเก้ามรณะ ยิ่งตายจะยิ่งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

ทว่าฟื้นมาครั้งที่สามนี้คือเป็นการเริ่มต้นความแกร่งแล้ว ต่อให้เป็นอย่างนั้นก็ยังไม่อาจละลายน้ำแข็งบนแขนขวา ส่งผลให้จิตใจเขาสั่นสะท้านและมีสีหน้าตื่นกลัว

เขามีชีวิตอยู่มาเนิ่นนานมาก แต่ไม่ว่าจะครุ่นคิดอย่างไรก็หาร่างเงามาซ้อนทับกับซูหมิงไม่ได้ ทำให้เขาสงสัยในคำพูดอีกฝ่ายอย่างยิ่ง

“เจ้าจะนึกออก” ซูหมิงกล่าวเสียงเบา ก่อนเดินหน้าไปหาชายชราอีกก้าว จังหวะเดียวกับที่ก้าวเดิน นัยน์ตายอดจ้าวเชมันเป็นประกายจิตสังหาร เขาขยับไหวตัว มือซ้ายเปลี่ยนสัญลักษณ์มือตรงหน้าอย่างรวดเร็วพลางบริกรรมวิชาที่ซับซ้อนเข้าใจยาก

ทว่าวินาทีที่เสียงบริกรรมวิชาดังกังวาน ซูหมิงฟันกระบี่สังหารเป็นแนวขวางแทบทันที สองนิ้วมือซ้ายลูบมาจนถึงปลายกระบี่แล้วดีดเบาๆ

เสียงร้องกระบี่ใสกังวานพลันดังก้อง ภายในเสียงร้องกระบี่แฝงไว้ด้วยเสียงคำรามกระหายเลือด นั่นคือเสียงคำรามของวิญญาณกระบี่ เสียงนี้ดังกระจายออกไป ขัดเสียงบริกรรมวิชาของยอดจ้าวเชมันโดยพลัน

ทันทีที่เสียงหยุดชะงักไป ซูหมิงยกกระบี่สังหารขึ้นแล้วฟันเฉียงไปทางชายชรา จังหวะที่แสงกระบี่ลากผ่านท้องฟ้า กระบี่สังหารในมือเขาขีดออกเป็นเส้นลักษณะโค้ง ตรงปลายกระบี่ชี้ไปทางล่างขวา

ยอดจ้าวเชมันซึ่งอยู่ห่างจากตรงหน้าไปหลายสิบจั้งตัวสั่น ก่อนร่างจะแยกออกเป็นสองส่วนแล้วสลายไป เขาไม่อาจต่อต้านพลานุภาพกระบี่สังหารนี้ กระทั่งการต่อต้านยังทำได้ยาก เมื่ออยู่ต่อหน้าซูหมิงผู้ซึ่งไร้คู่ต่อกรในโลกนี้แล้ว ความต่างชั้นของขั้นพลังจึงกลายเป็นระยะห่างของความเป็นตาย

“ตายครั้งที่สาม” ซูหมิงมองตรงจุดที่จ้าวเชมันตายไปอย่างเรียบนิ่ง กระบี่สังหารในมือหายไปแล้วมีหมอกม่วงจำนวนมากลอยขึ้นรอบตัว ก่อนเข้ามารวมอยู่บนตัวเขา สร้างเป็นเสื้อเกราะสีม่วง หลังจากห่อหุ้มใบหน้าแล้วก็เหมือนสวมหน้ากากเอาไว้

ซูหมิงยกมือขวาคว้าอากาศไปทางขวา พลันมีหมอกม่วงรวมขึ้นเป็นทวนยาวใหญ่ในมือ ทวนยาวนี้เป็นสีม่วงทุกส่วน มีกลิ่นคาวเลือดที่ไม่อาจบรรยายแผ่กระจายมาจากทวนฝังอสูรนี้ แทบเป็นช่วงที่ปรากฏทวนฝังอสูรขึ้น กลิ่นอายพลังของยอดจ้าวเชมันซึ่งแกร่งกว่าเมื่อครู่ไม่น้อยรวมตัวอยู่กลางฟ้าดิน ระดับความแกร่งของกลิ่นอายพลังใกล้ขอบเขตสร้างชะตาของเผ่าหมานอย่างที่สุด และใกล้กับระดับนภาหลังผ่านเชมันระดับสูงสุดของเผ่าเชมันแล้ว

ทว่าก็เพียงแค่ใกล้เท่านั้น ไม่ได้บรรลุถึงจริงๆ สำหรับซูหมิงแล้ว ขั้นพลังแบบนี้ยังห่างชั้นกับเขาในตอนนี้อีกมาก

“แข็งแกร่งกว่าตอนนั้นเล็กน้อย ข้าจำได้ว่าตอนนั้นเจ้าตายหกครั้งแล้วถึงจะระเบิดพลังแบบนี้” ซูหมิงกล่าวเรียบๆ การต่อสู้ในตอนนั้น หากไม่ใช่เพราะอาจารย์เทียนเสียจื่อใช้วิชาน่าอัศจรรย์รวมพลังสามคนเข้าด้วยกัน เพื่อกระตุ้นยันต์กระดาษแผ่นหนึ่งจนสังหารยอดจ้าวเชมันติดกันสี่ครั้งและจบการต่อสู้ครั้งนั้นได้ มิเช่นนั้นแล้วการจะให้ยอดจ้าวเชมันหลับใหลก็เป็นเรื่องยากยิ่ง

ชั่วขณะที่ยอดจ้าวเชมันระเบิดพลังแก่กล้าอย่างยิ่งออกมา ร่างเงามายาก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศอยู่ไกลลิบด้วยความเร็วสูง จากนั้นตรงเข้ามาหาซูหมิงในพริบตาเดียว ด้วยความเร็วของเขาร่างจึงกลายเป็นเศษเสี้ยวเงาสายหนึ่ง มาอยู่ห่างจากซูหมิงไม่ถึงสามจั้งในเสี้ยววินาที

แม้ร่างเงานี้จะรวดเร็ว ทว่าก็ยังชัดเจนในสายตาซูหมิง ร่างนี้เป็นชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าปี มีร่างกายกำยำเต็มไปด้วยความรู้สึกถึงพลัง เงาจันทร์เสี้ยวในดวงตาขยับวูบไหวอย่างเร็วรี่

ซูหมิงมีสีหน้าสงบนิ่ง ระหว่างที่ยอดจ้าวเชมันเข้ามาใกล้ เขาพลันยกทวนฝังอสูรในมือขึ้นแทงไปข้างหน้า มวลอากาศคล้ายจะระเบิดออก กลิ่นอายพลังสร้างชะตาปะทุตามมา ตรงปลายทวนไม่เพียงบดขยี้อากาศเท่านั้น ยังมีไอหนาวจำนวนมากแผ่มาจากปลายทวนด้วย ทำให้พื้นที่นี้มีหิมะตกโปรยปราย

นี่คือดวงวิญญาณของซูหมิง คือรูปแบบชะตาหนาวเยือกของเขา หนึ่งทวนยาวพุ่งออกไปปะทะกับยอดจ้าวเชมันที่กำลังตรงเข้ามากลางอากาศ

ทว่าทันทีที่ปะทะกัน ยอดจ้าวเชมันวัยกลางคนพลันยกยิ้มมุมปากชั่วร้าย ยังไม่ทันที่ปลายทวนจะมาถึง นัยน์ตาเขาเป็นประกายเย็นชา ร่างกายระเบิดพลังทำลายล้าง ไม่คิดเลยว่าเขาจะเลือกระเบิดตัวเองตาย!

การระเบิดตัวเองจะแลกมาด้วยระลอกคลื่นที่แกร่งยิ่งกว่า พลังทำลายล้างอยู่เหนือกว่าการโจมตีสุดกำลังตอนก่อนจะระเบิดตัวเอง เขาใช้วิธีสุดโต่งนี้ ใช้ข้อได้เปรียบที่ตนยังคืนชีพได้อีกมาทำลายล้างอีกฝ่าย

ความจริงแล้วตอนที่เขาระเบิดตัวเอง เขาตายครั้งที่สี่แล้ว จิตสำนึกจึงออกจากร่างที่กำลังระเบิดอย่างรวดเร็วเพื่อไปคืนชีพครั้งที่ห้า

ซูหมิงแค่นเสียงหึเย็นชา มือขวายังคงแทงทวนยาวเข้าไป แต่ยกมือซ้ายขึ้น หลังมือคว่ำลง ฝ่ามือตั้งขึ้นฟ้าแล้วเอ่ยเสียงเบา

“ระหว่างอดีตกับอนาคต คือซู่มิ่ง” สิ้นเสียงซูหมิง ตอนที่ทวนยาวกับระลอกคลื่นทำลายล้างจากการระเบิดตัวตายของยอดจ้าวเชมันเข้าปะทะกัน เขาสะบัดมือซ้ายไปทางยอดจ้าวเชมัน

เพียงสะบัดมือ การเปลี่ยนพลังแห่งกฎก็ไปรวมอยู่ในร่างยอดจ้าวเชมันที่กำลังจะระเบิด

“ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตาย เช่นนั้นก็จงตายไปอีกสักหลายครั้ง” กล่าวจบ การระเบิดตัวของยอดจ้าวเชมันพลันหยุดชะงัก ทั้งยังย้อนกลับไป แล้วรวมขึ้นอย่างรวดเร็วจากสภาวะร่างระเบิดราวกับเวลาย้อนกลับ พอกลับคืนเป็นร่างอีกครั้ง เขาก็พบว่าจิตสำนึกของตนถูกดึงกลับมาอยู่ในร่าง ออกไปไหนไม่ได้แล้ว

ด้วยความที่ออกไปไม่ได้ ร่างกายนี้จึงกลายเป็นการคืนชีพครั้งที่ห้า นี่คือเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวครั้งแรกในชีวิตอันยาวนานของเขา ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน

ชั่วขณะที่เขากำลังตื่นตะลึง จังหวะเดียวกับที่ร่างกายถูกบังคับย้อนกลับมาจากการระเบิดตัวเอง ร่างกายเขาก็ระเบิดอีกครั้ง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แต่เกิดจากการเปลี่ยนระหว่างอดีตกับอนาคตที่ซูหมิงควบคุมอยู่

ทันทีที่ความกลัวผุดขึ้นในใจยอดจ้าวเชมันอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายเขาระเบิดกระจายออก จิตสำนึกสลายไป กลายเป็นการตายครั้งที่ห้า

ทว่าไม่นานเขาก็ต้องสิ้นหวัง เพราะพบว่าตอนที่จิตสำนึกตื่นมาอีกครั้งก็ยังอยู่ตรงหน้าซูหมิง และยังอยู่ภายใต้กฏการย้อนเวลาอันน่าสะพรึง ก่อนจะ…..ระเบิดตัวเองอีกครั้ง

ตายครั้งที่หก

ตายครั้งที่เจ็ด

จนกระทั่งยอดจ้าวเชมันตายครั้งที่แปด วินาทีที่ระเบิดตัวเองและจิตสำนึกหายไป ยอดจ้าวเชมันร้องคำรามด้วยความไม่ยินยอม ท่ามกลางเสียงคำราม ตอนที่จิตสำนึกกำลังจะหายไป ตรงหน้าเขาปรากฏยันต์กระดาษแผ่นหนึ่ง มันขยับแสงวูบวาบแล้วดึงจิตสำนึกเขาออกมาผสานรวมเข้าสู่ยันต์กระดาษ ฝืนออกจากวัฏจักรซู่มิ่งของซูหมิง ก่อนค่อยๆ หายไปกลางอากาศ

“ในที่สุดเจ้าก็ใช้ของสิ่งนี้” นัยน์ตาซูหมิงแวววาว แทบเป็นขณะเดียวกับที่ยันต์กระดาษหายไป เขายกมือซ้ายขึ้นคว้าไปทางยันต์กระดาษ ทว่าช่วงที่สัมผัสกลับคว้าได้อากาศ ราวกับมันไม่มีอยู่จริง

“ไม่รู้กี่ปีมาแล้ว มีคนแต่คนอยากแย่งสมบัติของข้า ทว่าไม่มีใครสัมผัสมันได้สักคน เจ้าเองก็ด้วย…..” มีเสียงตะโกนของยอดจ้าวเชมันแว่วมาจากในยันต์กระดาษ

เห็นยันต์กระดาษหายไปมากกว่าครึ่งแล้ว นัยน์ตาซูหมิงฉายแววเย็นชา เขาไม่สนใจเสียงยอดจ้าวเชมัน แต่พลันมีไอหนาวอบอวลอยู่ในมือซ้ายจนคล้ายกับรูปสลักน้ำแข็ง นี่คือการเอารูปแบบชะตากับดวงวิญญาณและทุกอย่างผสานรวมอยู่ในมือซ้าย จากนั้นเขาคว้ามือไปอีกครั้ง ครั้งนี้เมื่อสัมผัสกับยันต์กระดาษ ก็พลันมีเสียงดังสนั่นดังในความคิด

เสียงดังสนั่นนั้นคือเสียงจากการเงยหน้าคำราม เอ่ยออกมาว่า

“ดวงชะตาเก้ามรณะ!”

นัยน์ตาซูหมิงวาววับ เขารู้ว่าที่เกิดเสียงนี้ขึ้นเป็นเพราะว่าตนไม่ได้คว้าแบบธรรมดา แต่ใช้รูปแบบชะตาของตนสัมผัสกับมัน

“จะ…..เจ้า…..” เสียงตะโกนด้วยความเหลือเชื่อแว่วมาจากในยันต์กระดาษ เสียงนั้นแหลมเล็กและตื่นกลัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version