ตอนที่ 777 เชิญน้ำเต้าล้ำค่าสังหาร
วิญญาณของซูหมิงออกจากร่าง วินาทีที่สัมผัสกับน้ำเต้าตรงหน้าก็เกิดความรู้สึกร่วมกัน
ความรู้สึกร่วมกันนี้ทำให้ดวงตาบนน้ำเต้าสว่างจ้ามากขึ้นยามมองซูหมิง ถึงที่สุดนัยน์ตายังฉายแววเคารพด้วย ราวกับว่าดวงตาคือวิญญาณของน้ำเต้า และในวินาทีนี้มันยอมรับซูหมิงแล้ว ต่อมา บนน้ำเต้าล้ำค่ามีดวงตาปรากฏต่อเนื่องแปดดวง รวมกับก่อนหน้านี้เป็นเก้าดวง ดวงตาเก้าดวงนี้มองซูหมิงพร้อมกัน
ช่วงที่วิญญาณซูหมิงผันผวน หลงลี่ที่กำลังแผ่ขยายจิตสัมผัสตามหาคนอื่นๆ ในเส้นทางรังผึ้งพลันหยุดชะงัก เขาหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ก่อนกระอักโลหิตออกมา อีกทั้งใบหน้ายังขาวซีด ร่างโซเซถอยไปหลายก้าว จนจับผนังหินข้างๆ เอาไว้ถึงจะหยุดลงได้
เขาในตอนนี้ จากผู้สูงอายุที่กระฉับกระเฉงพลันคล้ายชราลงหลายสิบปี ใบหน้ามีรอยย่น ดวงตาไร้ความแวววาว
“ฮ่าๆ ข้าเสียเวลาไม่รู้กี่ปีกว่าจะค้นพบวิธีใช้น้ำเต้า ทั้งยังหาวิญญาณเจ้าปกครองโลกสิบตนเพื่อผลักดันมัน…..ทว่าวันนี้หัวขโมยน้ำเต้าใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ตัดความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับน้ำเต้าจนสิ้น!” หลงลี่หัวเราะเสียงดัง หัวเราะไปหัวเราะมาเขาก็ไออย่างรุนแรง ตรงมุมปากมีโลหิตไหล เห็นได้ชัดว่าเมื่อถูกตัดสัมพันธ์กับน้ำเต้าแล้วเขาต้องรับผลย้อนกลับ
ผลย้อนกลับนี้ สำหรับน้ำเต้าแล้วคือยิ่งสนใจเท่าไร ยิ่งมันแสดงออกมากเท่านั้น ดูจากลักษณะของหลงลี่ก็จะยิ่งรู้ว่าน้ำเต้าเป็นของที่เขาให้ความสำคัญอย่างยิ่งเพียงใด
“เจ้าคนไร้ยางอาย ขโมยสมบัติของข้า ต่อให้ข้าต้องจ่ายมากกว่านี้ก็จะไม่ยอมให้เจ้าเอาสมบัติข้าไป!” หลงลี่น้ำตาไหลและคลุ้มคลั่ง เงยหน้าคำรามเสียงแหลมเล็ก เสียงคำรามกึกก้องไปรอบๆ เส้นทางถ้ำรังผึ้งไม่หยุด
เสียงคำรามดังไกลออกไปอย่างต่อเนื่อง ยามนี้ซุนคุนที่อยู่ใกล้ส่วนลึกของผนึกที่สุดยังได้ยินแว่วๆ เขาหยุดชะงักครู่หนึ่ง ดวงตาแวววาว
“นี่มันเสียงหลงลี่ หรือว่าน้ำเต้าจะหายไป? เฮอะๆ หากหายจริงๆ ก็เป็นเรื่องดี ไม่รู้ว่าใครเป็นหัวขโมย…” ซุนคุนพึมพำเสียงเบา สีหน้าเสียดายและสงสาร เขาสนใจน้ำเต้าล้ำค่าของหลงลี่มานานแล้ว
ไกลออกไปอีก เถียนหลินสำรวจมามากกว่าครึ่งปี สำรวจผนึกถ้ำรังผึ้งนับไม่ถ้วนไปราวเจ็ดแปดส่วนแล้ว เขาเชื่อว่าอีกไม่นานตนก็จะสำรวจจนมากกว่าเก้าส่วน ถึงตอนนั้นจะหาเส้นทางที่ตรงที่สุดพบ แล้วมุ่งหน้าไปยังส่วนใจกลางผนึกคล้ายเขาวงกตนี้
ตอนเสียงหลงลี่ส่งมาถึงที่นี่ก็เลือนรางไม่ชัดเจนแล้ว ทว่าต้นไม้หลายส่วนของเถียนหลินปกคลุมมากกว่าครึ่งแดนผนึก ทุกส่วนล้วนเป็นร่างแยกของเขา ฉะนั้นจึงได้ยินเสียงหลงลี่เหมือนอยู่ข้างหู
‘หัวขโมยสมบัติของหลงลี่มีโอกาสแปดเก้าส่วนที่จะเป็นซุนคุน สองคนนี้มีความคิดต่างกับข้า สู้กันก่อนก็ดี ด้วยความเจ้าเล่ห์ของซุนคุนคงไม่ตายง่ายๆ เขาจะหลบจนจิงหนานจื่อถูกล่อมา ถึงตอนนั้นไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ต้องร่วมมือกับข้า’ เถียนหลินยิ้มเยาะ ก่อนจะหลับตาลงแบ่งต้นไม้ออกไปอีกครั้งให้ปกคลุมแดนผนึก
ซูหมิงก็ได้ยินเสียงหลงลี่เช่นกัน แต่เขาในตอนนี้ไม่มีเวลาไปสนใจ เขาถูกดวงตาเก้าดวงจ้องอยู่ ครั้นแผ่ขยายพลังวิญญาณ ดวงตาที่สองในเก้าดวงนั้นก็ค่อยๆ สว่างจ้า เวลาผ่านไปจนดวงตาดวงที่แปดสว่างจ้าแล้ว กระเรียนขนร่วงข้างๆ พลันสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความตกใจพร้อมกับเบิกตากว้าง
มันรู้สึกรางๆ เหมือนนึกอะไรบางอย่างออก ทว่าพอนึกดีๆ แล้วกลับเลือนราง ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกที่มันหวนนึกถึงความทรงจำ ต่างกับตอนที่จู่ๆ ก็นึกออกในเวลาปกติ
ขณะกำลังขบคิดอยู่ ดวงตาเก้าดวงบนน้ำเต้าที่กำลังมองซูหมิงอยู่ล้วนส่องสว่าง แต่พอขยับวูบวาบแล้วกลับค่อยๆ หายไปทีละดวง จนสุดท้ายเหลือดวงตาดวงเดียวมองไปรอบๆ ทันทีที่เห็นกระเรียนขนร่วง ดวงตานั้นก็พุ่งทะลวงเข้าไปในดวงตากระเรียนขนร่วงราวกับกระบี่คมกริบ
กระเรียนขนร่วงร้องเสียงแหลมโดยพลัน ภายในแววตามีความตื่นกลัวสุดขีด
ในความคิดมันลอยขึ้นมาเป็นภาพหนึ่ง ในภาพนั้นตัวมันยังไม่ได้ขนร่วง แต่มีขนนกสวยงามที่มันต้องอิจฉา
มันเห็นว่าตนกำลังแอบมองบางอย่างด้วยแววตาชั่วร้าย ทว่าทันใดนั้น ตรงหน้าปรากฏชายชราสวมเสื้อคลุมนักพรตตัวใหญ่คนหนึ่ง ชายชราสะบัดแขนเสื้อใหญ่ทีหนึ่ง ตัวมันพลันถอยไปไกลหลายโลก
จากนั้นมันก็เห็นชายชราคนเดิมมีสีหน้าโกรธกริ้ว หยิบน้ำเต้าล้ำค่ามาจากอกเสื้อ ด้านบนนั้นยังมีดวงตาเพิ่มมาเก้าดวง ดวงตาเก้าดวงนั้นมีอยู่ห้าดวงจับจ้องมัน ความรู้สึกถึงภยันตรายเป็นตายโผล่ขึ้นมาในจิตใจ จากนั้นกระเรียนขนร่วงก็เห็นว่าตนร้องเสียงเล็กพลางถอยไปอย่างร้อนรน
แต่ไม่นานมันก็ได้ยินเสียงเย็นเยียบแฝงไว้ด้วยความโกรธไม่มีสิ้นสุดแว่วมา
“เชิญน้ำเต้าล้ำค่าสังหาร!”
“นักบวชเต๋าลู่ยา ข้าแค่ขโมยเม็ดยาเต๋าของเจ้าไปสองสามเม็ดเองไม่ใช่รึ แค่แอบดูเจ้าหลอมยาเองไม่ใช่รึ จะ จะ เจ้า…ไม่อยากเชื่อว่าจะเชิญศิษย์น้องเล็กน้ำเต้าออกมา?” กระเรียนขนร่วงเห็นตนร้องเสียงเล็ก ขนนกทั้งตัวพองขึ้น ทว่าหลังจากนักบวชเต๋าเอ่ยขึ้น ดวงตาห้าดวงบนน้ำเต้าที่จับจ้องตนอยู่พลันกะพริบพร้อมกัน จากนั้นมีควันสีเขียวโชยออกมา ภายในควันมีตุ๊กตาตัวเล็กเท่ากำปั้นมืออยู่ตัวหนึ่ง ในมือถือกระบี่ที่เล็กยิ่งกว่ากระบี่เล็กเล่มหนึ่ง พุ่งมาหามันด้วยความเร็วอันไม่อาจบรรยาย
เจ็บปวด เป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจเปรียบได้ นี่คือความรู้สึกของมันตอนความทรงจำนี้สิ้นสุดลง
“ข้านึกออกแล้ว นะ….นี่ก็คือน้ำเต้าสังหารเซียนของนักบวชเต๋าลู่ยา! แต่ข้าจำได้ว่ามันน่าจะถูกทำลายไปแล้วตอนที่ลู่ยาสู้กับไท่สิงซู่หนึ่งในสี่ยอดบรรพชน!”
กระเรียนขนร่วงร้องเสียงเล็กพลางถอยไปทันที
นัยน์ตาซูหมิงเป็นประกายแวววาว ตอนนี้เขาเพียงสร้างการเชื่อมต่อกับน้ำเต้า แต่ไม่รู้วิธีควบคุม เดิมทีตอนมาถึงแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต เขาก็สังเกตเห็นเงื่อนงำมากมายจากกระเรียนขนร่วงมาตลอด พอเห็นท่าทางชัดเจนของมันแล้วจึงเอ่ยขึ้น
“สิ่งนี้ใช้อย่างไร?”
“ข้าก็ไม่รู้ว่าใช้อย่างไร จำได้เพียงว่าเคยเห็นลู่ยาพูดกับน้ำเต้าบัดซบนี้ว่า เชิญน้ำเต้าล้ำค่าสังหาร” กระเรียนขนร่วงไม่มีขนเลยทั้งตัว มิเช่นนั้นแล้วคงต้องขนลุกเป็นแน่ พอได้ยินซูหมิงเอ่ยจึงกล่าวไปโดยจิตใต้สำนึก ทว่าพอกล่าวจบแล้วก็รู้สึกเสียใจภายหลังทันที
พอซูหมิงได้ยินมันตอบ เขาก็ว่าตามต่อ
“เชิญน้ำเต้าล้ำค่าสัง…” เพิ่งกล่าวถึงตรงนี้ น้ำเต้าพลันแผ่กลิ่นอายพลังที่ต่อให้เป็นซูหมิงก็ยังรู้สึกกลัว ภายใต้กลิ่นอายพลังนี้ ดวงตาบนน้ำเต้าล้ำค่ามีทีท่าจะกะพริบตา ดูจากลักษณะแล้วเหมือนว่าเพียงซูหมิงเอ่ยอีกคำจบ มันก็จะสังหารโดยทันที!
ขณะเดียวกัน ยังมีเสียงเย็นชาดังอยู่ในใจซูหมิง
“สั่งสมทรัพยากรไม่พอ กายข้าบาดเจ็บเกินกว่าแปดส่วน รีบตามหาพลังมาเสริมโดยเร็ว จับจ้องศัตรู…..”
ซูหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก ขณะกระเรียนขนร่วงตกใจจนแทบจะวิญญาณออกจากร่าง เขากลับไม่เอ่ยคำสุดท้าย แต่ให้วิญญาณกลับคืนสู่ร่าง ก่อนยืนขึ้นใช้มือขวาคว้าน้ำเต้าเอาไว้ แล้วเก็บเข้าไปในถุงเก็บวัตถุ
นัยน์ตาซูหมิงขยับประกาย เขาพลันมีความมั่นใจในตัวเองอย่างแรงกล้า ความมั่นใจนี้เคยมีตอนเป็นเทพหมานบนแดนหมานในโลกมรณะหยิน จนถึงตอนนี้มันเกิดขึ้นอีกครั้งในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต
‘มีน้ำเต้าล้ำค่ากับผึ้งพิษ มีหินสีครามที่มีพลังแห่งเลือดเนื้ออยู่จำนวนมาก และยังมีน้ำหวานดอกผนึกจิตที่ข้าเอามาใช้ได้ตลอดเวลาจากในตัวผึ้งพิษอีก….ข้าเป็นมหาอำนาจของหนึ่งเขตในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตได้! น่าเสียดายเพียงกายวิญญาณของน้ำเต้าบาดเจ็บสาหัส แต่สิ่งนี้ก็มหัศจรรย์นัก ไม่อยากเชื่อว่าจะชี้แนะให้เติมพลังก่อน ตอนนี้มันบาดเจ็บแปดส่วนยังแสดงพลังน่าสะพรึงได้ถึงขนาดนี้ หากมันอยู่ในสภาพสมบูรณ์จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!’ ซูหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก เขายังไม่มีที่บรรจุน้ำหวานผนึกจิตที่เหมาะสม บวกกับเขาไม่รู้ว่าการน้ำหวานดอกผนึกจิตต้องใช้เวลานานเท่าใด ฉะนั้นจึงยังไม่สูบกินมัน
เขาตั้งใจว่าออกจากที่นี่แล้วไปหาที่เหมาะสมสูบกินอย่างเงียบๆ นอกจากนี้เขายังส่งกระแสจิตไปหาผึ้งพิษ ห้ามมันกินน้ำหวานดอกไม้ในร่างกาย แต่ให้เก็บเอาไว้ให้ดีที่สุด
พอเก็บน้ำเต้าล้ำค่าไป กระเรียนขนร่วงก็ค่อยๆ สงบลง
มันมองซูหมิงตาปริบๆ ซูหมิงก็มองกระเรียนขนร่วงแวบหนึ่ง แล้วหยิบหินผลึกจากถุงเก็บวัตถุโยนให้มันไปก้อนหนึ่ง
พอได้หินผลึกปลอบใจ มันจึงจะรู้สึกพอใจได้
ซูหมิงหลับตาลง ระงับอารมณ์ภายใน ตกอยู่ในห้วงการสูบพลังแห่งเลือดเนื้อต่อ เวลาผ่านไปพริบตาเดียวก็สองเดือน
สองเดือนนี้ซูหมิงสูบกินเร็วขึ้นเรื่อยๆ เขาเดินหน้าไปอย่างช้าๆ ไม่หยุด เข้าใกล้จุดที่มีหินโลกมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งหลังจากสองเดือน ระหว่างเขากับหินโลกห่างกันเพียงผนังหินไม่ถึงหนึ่งจั้ง
และก็เป็นตอนนี้เอง หลงลี่ที่หาหัวขโมยน้ำเต้ามาสองเดือน วิ่งมั่วไปมาอยู่ในผนึกถ้ำรังผึ้งในสภาพเส้นผมยุ่งเหยิง บางทีอาจเป็นเพราะโชคชะตาจริงๆ ตอนที่เขาหาหินโลกอย่างเร่งรีบกลับหาทางเข้าไม่พบ แต่ตอนน้ำเต้าหายไปและตามหาอย่างบ้าคลั่ง เขากลับเดินออกมาจากเส้นทางหนึ่งโดยไม่รู้ตัว แวบแรกที่เห็นคือธงใหญ่เก้าอัน และยังมี…..หินแห่งโลกลอยอยู่กลางอาคมบนพื้น!
ในเวลาเดียวกัน ซุนคุนมีสีหน้าตื่นเต้น ช่วงที่เขาเดินออกมาจากเส้นทางหนึ่ง ตรงหน้าเป็นที่กว้างโล่งใหญ่ ตรงใจกลางพื้นที่ เขาเห็นว่าในหินหนืดสีดำมีโครงกระดูกสีขาวโพลนของชื่อหั่วโหวแช่อยู่!
กลิ่นอายพลังแห่งโลกของที่นี่เข้มข้น ทำให้ซุนคุนตื่นเต้นและปีติทันที ลมหายใจก็กระชั้น ทว่าเขาไม่ได้เดินหน้าไป แต่นั่งขัดสมาธิอย่างรวดเร็วอยู่ตรงมุมและคอยสูบกินอย่างต่อเนื่อง
เขาไม่เคยคิดช่วยเผ่าประหลาดออกไป เป้าหมายสำคัญที่สุดคือพลังแห่งโลกเข้มข้นตรงนี้ หากเป็นไปได้เขายังอยากจะใช้วิชาลับสูบกินกระดูกและวิญญาณเผ่าประหลาดมาเสริมสร้างตัวเขาเองด้วย