Skip to content

สู่วิถีอสุรา 796

ตอนที่ 796 ดวงตาวายุ

“โม่อั๋งตายแล้ว!” วินาทีที่ชายชราโม่อั๋งร่างระเบิด เจ้าปกครองโลกแห่งดาวสมบัติสวรรค์สองคนบนฟ้าเข้ามาใกล้แล้ว เพียงแต่ว่าการตายประหลาดของโม่อั๋งสร้างความตื่นตระหนกแก่พวกเขา

ในสายตาพวกเขา ภาพเมื่อครู่น่าตกใจอย่างยิ่ง โม่อั๋งมีขั้นพลังเหมือนกับพวกเขาสองคน ทว่ากลับตายตกอย่างน่าประหลาดเช่นนี้ พวกเขาเลยใจเต้นระรัวและอดชะลอความเร็วลงมิได้

ซูหมิงหมุนตัวกลับมองเจ้าปกครองโลกสองคน หน้ากากสีดำ ดวงตาเย็นชา ในเวลาปกติอาจไม่น่าเกรงขามอะไรมากนัก แต่พอสังหารเจ้าปกครองโลกไปหนึ่งคนแล้ว เขาในตอนนี้จึงมอบความรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดอันหนาวเยือกแก่ผู้คน

เขากวาดสายตามองเจ้าปกครองโลกสองคน สะบัดแขนเสื้อกลายเป็นสายรุ้งยาวหายไปในทะเลวายุ แล้วจึงค่อยๆ เลือนหายไป เจ้าปกครองโลกแห่งดาวสมบัติสวรรค์สองคนมองหน้ากันและกัน ต่างเห็นความจริงจังในแววตาของอีกฝ่าย

พวกเขาไม่ได้ขวางซูหมิงเอาไว้ในทันที โดยเฉพาะแววตาของอีกฝ่ายก่อนไป มันดูเหมือนสงบนิ่ง แต่มีจิตสังหารเย็นชาแฝงอยู่ บ่งบอกความหมายอย่างชัดเจน

หากใครตามมาต้องตาย

ความหมายนี้ชัดเจนยิ่ง ไม่เพียงแค่เขาสองคนที่รู้สึก ผู้ฝึกฌานระดับฟ้าที่ตามมาด้านหลังต่างพากันหน้าเปลี่ยนสี จะเห็นได้ว่าการตายของโม่อั๋งกับสายตาซูหมิงก่อนไปทำให้พวกเขารู้สึกถึงความกดดันที่สูงยิ่ง

“โม่อั๋งรวมถึงผู้ฝึกฌานระดับฟ้าแปดคน…ตายหมดแล้ว”

“ถึงพวกเราจะมาไม่ทันเวลา แต่ด้วยเวลาหนึ่งก้านธูปกว่า หากเป็นข้าคงสังหารผู้ฝึกฌานระดับฟ้าได้ในเวลาอันสั้นนี้ แต่หากต้องเจอกับโม่อั๋ง ข้าคงสังหารเขาในเวลาสั้นๆ ไม่ได้” ทะเลวายุรอบๆ ลากผ่านไปมา แต่กลับไม่อาจสลายความตึงเครียดของที่นี่ เจ้าปกครองโลกแห่งดาวสมบัติสวรรค์สองคนต่างเงียบงัน

“บุคคลผู้นี้มีกลอุบายมาก แต่ก็มีขีดจำกัด มิเช่นนั้นคงไม่หนีไป”

“ไม่ผิด หากมีพลังกำราบพวกเราโดยสมบูรณ์จริงๆ เมื่อครู่นี้คงลงมือกับเราสองคนแล้ว”

“ยิ่งสู้จะยิ่งอ่อนกำลังลง เมื่อครู่นี้เขาจงใจทำ เป้าหมายก็เพื่อให้เราสองคนกลัวจนไม่กล้าไล่ตามไป”

“ยิ่งเขาอยากข่มขวัญเรามากเท่าไร ก็ยิ่งไม่อยากให้เราตามไปเท่านั้น และจะยิ่งแสดงออกว่าเขา…ภายนอกดูแกร่งทว่าความจริงอ่อนแอ บางทีอาจจะบาดเจ็บอยู่” กลางทะเลวายุ เจ้าปกครองโลกแห่งดาวสมบัติสวรรค์สองคนดวงตาแวววาว

“ตามไป เราสองคนจะให้โอกาสเขาไม่ได้ หากเราร่วมมือกันใช้พลังแห่งโลก จะต้องทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสหรือตายได้แน่”

ฟิ้ว!

เจ้าปกครองโลกแห่งดาวสมบัติสวรรค์สองคนพุ่งตรงไปข้างหน้า กลายเป็นสายรุ้งยาวสองสายมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ซูหมิงหายไป ผู้ฝึกฌานระดับฟ้าด้านหลังก็ได้รับเสียงจากสองคนเช่นกัน หลังลังเลอยู่ชั่วครู่ นัยน์ตาก็มีความเฉียบคม ก่อนจะตามหลังเจ้าปกครองโลกไป

ระหว่างที่ทุกคนไล่ตาม ซูหมิงขยับกายวูบไหวราวกับสายฟ้าอยู่กลางทะเลวายุ สายลมพัดผ่านร่างกายจนส่งเสียงดัง ยิ่งบินเข้าไปยังส่วนลึก ดาบวายุจะยิ่งคมกริบขึ้น

ซูหมิงมีสีหน้าเหมือนปกติ ดวงตาขยับประกายเร็วขึ้นอีก เขารับมือกับเจ้าปกครองโลกสองคนพร้อมกันไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าอาศัยสภาพแวดล้อมของที่นี่ ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลย

‘คนที่ไล่ตามมาจากฟ้ากระจ่างดาวก่อนหน้านี้น่าจะใกล้ถึงแล้ว’ ซูหมิงห้อวิ่งพลางเงยหน้ามองด้านบนแวบหนึ่ง ถึงมองไปจะมืดมิดไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เห็นดวงดาว แต่จากการวิเคราะห์ตามเวลา คนที่ไล่ตามมาน่าจะอยู่ไม่ไกลแล้ว

“ซูหมิง ไม่ใช่แค่พวกที่ตามมาเท่านั้น ขุมอำนาจรักษาการณ์ของสี่มหาโลกแท้จริงก็จะมาในอีกไม่ช้าด้วย เจ้า…วางแผนอะไรเอาไว้กันแน่ ตอนนี้หากไม่ออกจากที่นี่โดยเร็วและอยู่ที่เดียวนานๆ จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง” เสียงชื่อหั่วโหวดังก้องในจิตใจซูหมิง

“ข้าคิดจะสร้างอำนาจที่นี่ก่อนแล้วค่อยไป กระทั่งจะเปิดผนึกของที่นี่ ให้ยอดผู้ฝึกฌานเผ่าประหลาดที่ถูกผนึกอยู่หลุดพ้นออกมา จะได้ดึงดูดความสนใจของทุกคน และข้าก็จะเลี่ยงการถูกไล่ล่าได้ง่ายด้วย” ซูหมิงขยับวูบไหวพลางตอบคำถามชื่อหั่วโหว

“อ้อ? เช่นนั้นตอนนี้เล่า?”

“ตอนนี้หรือ…ข้าเห็นเรื่องน่าสนใจมากบางอย่างในความทรงจำของโม่อั๋ง ข้าจะไม่เปลี่ยนความคิด รอจนข้ามั่นใจว่าเรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่ก่อน…แล้วข้าจะสูบกินพลังแห่งโลกของที่นี่ จากนั้นร่างกายข้าจะก้าวสู่ระดับเจ้าปกครองโลก!

ในเมื่อพวกเขามาล่าสังหารข้า เช่นนั้นข้าก็จะทำการใหญ่ไปเลย!” นัยน์ตาซูหมิงฉายประกายเย็นชา กล่าวเนิบช้า

ชื่อหั่วโหวเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพลันเอ่ยผ่านจิตใจ

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพบอะไร แต่เจ้ากำลังทำสิ่งที่อันตรายมาก พลาดนิดเดียวอาจถึงตาย…แต่ในเมื่อเจ้าคิดก่อการใหญ่ ข้าจะช่วยเจ้าเอง

เมื่อครู่นี้ข้าตรวจดูแล้ว สหายร่วมโลกของเราที่ถูกผนึกอยู่ในดาวดวงนี้…ดวงจิตหายไปแล้ว คงสิ้นชีพมาหลายต่อหลายปี ทว่าถึงเขาจะตายแล้ว ต้นกำเนิดภัยพิบัติของเขาก็ยังถูกรวมออกมาเล็กน้อย ให้เวลาข้าสักหน่อย หากเจ้าคลายผนึกนั้นได้ ข้าจะสามารถเหนี่ยวนำต้นกำเนิดภัยพิบัติให้ระเบิดดาวดวงนี้” ช่วงที่เสียงชื่อหั่วโหวดังแว่วมาสู่จิตซูหมิง เขาพลันหยุดชะงัก ตัวยืนอยู่บนที่ราบ

“มั่นใจเท่าไร?” เขากล่าวขึ้นทันที

“มากกว่าห้าส่วนจากสิบ” ชื่อหั่วโหวตอบเสียงเบา

นัยน์ตาซูหมิงมีประกายเย็นชาวูบผ่าน เขาไม่กล่าวอะไร เพียงห้อเหยียดไปข้างหน้า มุ่งสู่ส่วนลึกของทะเลวายุด้วยความเร็วที่มากขึ้นเรื่อยๆ สายลมพุ่งชนใส่ร่างกายเสียงดัง ด้านหลังไกลออกไปมีเจ้าปกครองโลกแห่งดาวสมบัติสวรรค์สองคนกำลังตามมาอย่างรวดเร็ว

“ไม่เข้าที เขามุ่งหน้าสู่ส่วนลึกของทะเลวายุดารา สายลมตรงนั้นต่อให้เป็นพวกเราก็ต้องฝืนต้านเอาไว้ ความเร็วจะลดน้อยลงเรื่อยๆ เขาจะทำอะไรกันแน่”

“ข้าไม่ได้กังวลเรื่องนี้ แต่ข้ากังวลดวงตาวายุตรงส่วนลึกของทะเลวายุดารา เจ้าปกครองโลกบนดาวสมบัติสวรรค์อย่างเรารู้ดี ดวงตาวายุประหลาดนั่นคือถ้ำเคลื่อนย้ายที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หากเข้าไปข้างในจะถูกส่งไปยังที่ใดที่หนึ่งในดาราจักรวงแหวนบูรพา

หากเขาเข้าไปในถ้ำเคลื่อนย้ายนั่น…”

“เขาไม่มีทางรู้เรื่องนี้ได้ ความอัศจรรย์ของดวงตาวายุ ตลอดพันกว่าปีมานี้มีแค่พวกเราสี่คนที่ค้นพบร่วมกัน ผู้ฝึกฌานระดับฟ้าไม่มีใครรู้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนนอกเลย”

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”

ในเวลาเดียวกับที่พวกเขาสื่อสารกันพร้อมกับไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง ซูหมิงที่อยู่ตรงหน้าห่างไปไม่ไกลนักกำลังเผชิญหน้ากับพายุคลั่งที่รุนแรงกว่าเดิม ดาบวายุกรีดบนเรือนร่าง ส่งความเจ็บปวดเข้ามา แต่เขามีร่างกายแข็งแกร่ง และยังมีเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารา เกราะห้าผนึกคุ้มกัน รวมถึงระฆังเขาหาน ฉะนั้นถึงจะเจ็บปวดในพายุคลั่ง ความเร็วกลับไม่ลดน้อยลงเลย

นอกจากสาเหตุเหล่านี้แล้ว

เหตุที่เขาทำแบบนี้ได้ยังมีอีกจุดสำคัญคือ เขาเป็นหมานวายุ!

‘ข้าคือหมานวายุ ได้รับมรดกหมานวายุมา ตอนนั้นข้าอ่านขั้นพลังเสี้ยวดวงจิตของหมานวายุไม่ออก ตอนนี้มานึกย้อนดูแล้ว เขาอยู่จุดสูงสุดของเจ้าปกครองโลก อีกทั้งสิ่งที่ตระหนักรู้ก็คือสายลม

ข้าได้รับมรดกแห่งวายุ ตระหนักรู้การแปรเปลี่ยนของสายลม ข้าสบายตัวกว่าคนอื่นมากในทะเลวายุแห่งนี้ น่าเสียดายที่เวลามีจำกัด หากได้ฝึกฝนอยู่ที่นี่นานๆ จะได้ตระหนักรู้เกี่ยวกับวายุมากกว่าขึ้น’ นัยน์ตาซูหมิงขยับประกายแวววาว สายตามองส่วนลึกของทะเลวายุ ขณะเดียวกันในความคิดก็ลอยขึ้นมาเป็นภาพความทรงจำของโม่อั๋ง

“ส่วนลึกของทะเลวายุมีดวงตาวายุอยู่ ดวงตาวายุนี้คือถ้ำเคลื่อนย้ายที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ขอเพียงต้านแรงของทะเลวายุได้ เมื่อก้าวสู่ดวงตาวายุแล้วก็จะถูกสุ่มส่งไปยังที่หนึ่งในเขตดาราจักรวงแหวนบูรพา

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ข้าก็ก่อการครั้งใหญ่ต่อทุกคนในดาวสมบัติสวรรค์ได้!”

ซูหมิงยิ้มเย็นชา เมื่อห้อวิ่งมาอีกพักหนึ่งก็มาถึงตรงใจกลางทะเลวายุ

สายลมที่นี่ส่งเสียงดังสนั่นแก้วหู ได้ยินเพียงเสียงครึกโครมไม่มีสิ้นสุดกึกก้องไม่หยุด มาถึงตรงนี้เขายากจะรักษาความเร็วแล้ว จึงต้องชะลอความเร็วลงและต้องโคจรพลังทั้งหมด หากคลายออก ตัวเขาจะถูกสายลมม้วนถอยไปทันที

‘เป็นสายลมที่รุนแรงมาก อาศัยร่างกายกับวิธีการมากมายของข้าแล้วยังยากขนาดนี้ หากใช้สายลมพวกนี้เป็นวิชาโจมตีมา คงจะมีอานุภาพทรงพลังอย่างยิ่ง’ ซูหมิงหยุดชะงัก ไม่ได้เดินหน้าต่อ แต่แผ่จิตสัมผัสไปปกคลุมข้างหน้า

จิตสัมผัสทำท่าจะแหลกละเอียดกลางสายลมโดยพลัน ทว่าเพราะห่างกันไม่ไกล ฉะนั้นไม่กี่ลมหายใจก่อนจะหายไป เขาจึงสังเกตเห็นว่าตรงหน้าห่างไปพันจั้ง ภายในทะเลวายุไร้ที่สิ้นสุด มีน้ำวนยักษ์ลอยอยู่โดยที่ตาเนื้อมองไม่เห็น

น้ำวนนั้นมีขนาดหลายสิบจั้ง มีสายลมพัดออกมาจากน้ำวนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งตอนที่สายลมพัดออกไปยังรู้สึกถึงระลอกคลื่นการเคลื่อนย้ายวนเวียนอยู่

“นี่คือแดนประหลาดที่เจ้าว่ารึ ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นดวงตาวายุเคลื่อนย้ายที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่นี่ต่อต้านจิตสัมผัสอย่างรุนแรง มีแต่ต้องตรวจสอบในระยะจากตรงนี้เท่านั้น หากไกลว่านี้จะตรวจพบได้ยากมาก เมื่อครู่ข้าไม่เห็นถึงตรงนี้ หากเจ้าบอกข้าเร็วกว่านี้ละก็ ข้าคงพอมองเงื่อนงำออก เจ้าจะได้ไม่ต้องเสียแรงมาตรวจตรงนี้ด้วยตาตัวเอง

เจ้า…ยังไม่เชื่อใจข้าทั้งหมด” เสียงชื่อหั่วโหวดังแว่วเข้าสู่จิตใจซูหมิง

ซูหมิงไม่ตอบอะไร เรื่องเกี่ยวกับความเป็นตาย เขายังชอบยืนยันด้วยตัวเองก่อนถึงจะวางใจมากกว่า เรื่องนี้เขาจะไม่พึ่งพาคนอื่น

ยามนี้เมื่อมั่นใจว่าเป็นถ้ำเคลื่อนย้ายจริงๆ นัยน์ตาจึงเผยจิตสังหารแวววาว เขาถอยร่นไปอย่างไม่ลังเล อาศัยแรงลมเคลื่อนตัวด้วยความเร็วกว่าเมื่อครู่มาก มุ่งหน้าไปยังกลุ่มคนแห่งดาวสมบัติสวรรค์ที่ไล่ตามมาข้างหลัง

“ความหมายแห่งฤดูใบไม้ร่วงเริ่มขึ้นแล้ว” ร่างซูหมิงแทบจะขยับวิบวับ ทะยานไปราวกับกระบี่จะพุ่งออกจากฝัก

ไม่นาน ภายในทะเลวายุตรงหน้าก็ปรากฏตัวเจ้าปกครองโลกสองคนแห่งดาวสมบัติสวรรค์ก่อน

“เขามาแล้ว กล้ากลับมาสู้กับเราสองคนเชียวรึ รนหาที่ตาย!”

“เวลาเหลือไม่มากแล้ว ต้องลงมืออย่างสุดกำลัง ใช้วิชาแห่งโลกสังหารมันเสีย!” เจ้าปกครองโลกแห่งดาวสมบัติสวรรค์ดวงตาวาววับ ก่อนจะระเบิดพลังแห่งโลกอย่างไม่ลังเล ก่อขึ้นเป็นพายุคลั่งปะทะกับทะเลวายุในพริบตา พลังแห่งโลกอันแก่กล้าทำให้ทะเลวายุม้วนถอยไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version