Skip to content

สู่วิถีอสุรา 81

ตอนที่ 81 ไร้สามารถ

ลำดับเจ็ดขั้นรวมโลหิต ต้องการสองร้อยสี่สิบสามเส้นเป็นอย่างต่ำ!

ยามนี้ เส้นเลือดของเขาบรรลุถึงสองร้อยยี่สิบสี่เส้น ห่างจากลำดับเจ็ดเพียงสิบเก้าเส้น! ความเร็วเช่นนี้ เป็นเรื่องน่าตะลึงสำหรับทุกคน การทะลวงพลังในครั้งนี้แตกต่างกับตอนอยู่บนเขาร่องลม ถึงอย่างไร ตอนนั้นซูหมิงก็ใช้วิธีการควบคุมความคิดละเอียดอ่อน ดูเหมือนขั้นพลังไต่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่าความจริงแล้วยังเป็นไปตามลำดับขั้นตอน ค่อยๆ เพิ่มทีละเส้น

ทว่าตอนนี้กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง! เส้นเลือดของซูหมิงถูกฝืนทะลวงด้วยน้ำสมุนไพรใบตาข่ายเมฆาจำนวนมาก มิหนำซ้ำเขายังฝืนดูดซับโลหิตหมานขั้นชำระล้างเข้าไปอีก

การทะลวงพลังอย่างรวดเร็วด้วยวิธีนี้ นอกจากซูหมิงแล้ว บุคคลที่มีสติปัญญาล้วนไม่มีใครทำกัน ถึงอย่างไรมันก็ส่งผลเสียต่อร่างกายอาจถึงขั้นแก่ชีวิต! มิเช่นนั้นแล้ว คงจะมีคนจำนวนมากใช้วิธีเช่นนี้ในการทะลวงพลังของตน

ทว่าซูหมิง เขายังมีทางเลือกอื่นอยู่อีกหรือ…..จะให้เขาฝืนทนไม่สนใจความปลอดภัยของชนเผ่า ไม่สนใจความเป็นตายของคนในนั้น ไม่สนใจว่าท่านปู่จะกลับมาหรือไม่ ไม่สนใจว่าบางทีบ้านของเขากำลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติอยู่อย่างนั้นหรือ ไม่ต้องสนใจทุกสิ่ง สนใจเพียงความปลอดภัยของตัวเอง เฝ้ารออย่างเงียบๆ บางทีอาจจะทรมาน อาจสับสนและขมขื่น ทว่าก็ยังปลอดภัย

ทำเช่นนี้บางทีอาจเป็นสิ่งถูกต้อง เพราะนี่เป็นเส้นทางที่ท่านปู่เลือกให้เขาเดิน ถึงอย่างไรในสายตาของผู้คน ซูหมิงยังเป็นเพียงผู้อ่อนแอ ขืนไปก็แค่ส่งไปตาย จะมีประโยชน์อะไร

ทว่าซูหมิงไม่เลือกเส้นทางดังกล่าว ที่เขาอยากแข็งแกร่งก็เพื่อชนเผ่า เพื่อท่านปู่ นิสัยของเขามีความขลาดเหมือนกัน อีกทั้งมันยังหยั่งลึกลงไป

ทว่าเมื่อได้เจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ ความขลาดกลัวพลันมลายหาย และแทนที่ด้วยความยึดมั่นและแน่วแน่ของเขา!

ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ ผู้คนในเผ่าส่วนใหญ่เป็นมิตรกับเขา ในนั้นมีสหายของเขา คนรู้จักหลายคน มีท่านย่าที่คอยดูแลเขาเมื่อเยาว์วัย มีท่านปู่ที่คอยสอนเขาพูดตั้งแต่ยังแบเบาะ รวมถึงคนในเผ่าที่มีจิตใจดีงามเหล่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างสั่งสมมานานจนเขาอายุสิบหก จะให้เขาเยือกเย็นไร้ใจได้อย่างนั้นหรือ

เขาไม่อาจทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเพียงเพื่อให้ตัวเองปลอดภัยทั้งๆ ที่รู้ว่าชนเผ่ากำลังตกอยู่ในอันตราย เขาไม่อาจรออย่างสุขุมโดยที่รู้ว่าคนในเผ่ากำลังเผชิญหน้ากับความตาย กระทั่งชนเผ่าอาจดับสูญ ทว่าตัวเองกลับมุดหัวอยู่ตรงนี้ เขาเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง อายุไม่ถึงสิบเจ็ด เขาก็หวาดกลัวความตายเช่นเดียวกัน……เขาไม่เข้าใจว่าสิ่งใดคือเหตุผล เขาเข้าใจเพียงแค่ ชนเผ่าคือบ้านของเขา!

ยามนี้ครอบครัวกำลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ เขาไม่อาจเมินเฉยได้ แม้จะต้องตาย ก็ขอตายเพื่อปกป้องครอบครัวของเขา

นี่ก็คือซูหมิง!

บางทีความใจร้อนของเขาอาจก่อให้เกิดความคลุ้มคลั่ง ความคลุ้มคลั่งของเขา ในสายตาของทุกคนอาจจะไม่เข้าใจและสงสัย ทว่าทุกสิ่งฝังลึกอยู่ในกระดูก เขามองเผ่าเขาทมิฬเป็นบ้านของตัวเองตั้งนานแล้ว

บ้านของเขาตกอยู่ในอันตราย สหายของเขากำลังเผชิญหน้ากับความตาย ท่านปู่อาจจะไม่ได้กลับมาอีก ทุกคนในครอบครัวผู้มีจิตใจดีงามกับเขามาตลอดตั้งแต่เยาว์วัยกำลังสะอื้นไห้ จะไม่ให้เขา….คลุ้มคลั่งได้หรือ….

ขณะซูหมิงตัวสั่นเทา โลหิตหมานที่เขาสูบกลืนอย่างต่อเนื่องกำลังหลอมรวมเข้ากับโลหิตในร่างกาย ภายใต้การควบคุมความละเอียดอ่อน เส้นเลือดในกายเขามีเค้าลางเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง

ดวงตาซูหมิงเป็นสีแดงโลหิต ดูน่ากลัวแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งไร้สติ ทำให้เขาในยามนี้ดูเหมือนผีร้าย พลังมหาศาลหลั่งทะลักไปทั่วร่างซูหมิงตามเส้นเลือดจำนวนมาก เขาถอยหลังและพุ่งชนเข้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่ศีรษะ ไม่ใช่หมัด แต่เป็นร่างกายของเขา ใช้หัวไหล่ชนประตูที่ถูกผนึกอย่างเต็มแรง

เสียงโครมดังสนั่น ซูหมิงพลันพุ่งชนเข้าใส่ประตูจนมันสั่นสะท้าน เทวรูปหมานหิมะด้านนอกปรากฏรอยแตกขึ้นอีกครั้ง ทว่าผนึกของท่านปู่โม่ซังจะถูกทำลายโดยง่ายได้อย่างไร เป้าหมายของท่านปู่ชัดเจน คือกักขังซูหมิงอยู่ในนี้ ไม่ให้เขาไปเผชิญหน้ากับอันตราย!

ทว่า ท่านปู่คำนวณพลาดไป เขาไม่คิดเลยว่าซูหมิงจะแน่วแน่ถึงเพียงนี้ ยอมทำเรื่องบ้าบิ่นเพื่อออกไปจากที่นี่ ตรงจุดนี้ แม้แต่เขายังคาดไม่ถึง เขาคิดว่าซูหมิงจะต้องไม่ยินยอมเป็นแน่ แต่ด้วยขั้นพลังของซูหมิง ไม่มีทางออกไปจากห้องนี้ได้เป็นอันขาด! ในสายตาของเขา ซูหมิงยังคงเป็นเด็กไปชั่วนิรันดร์

ซูหมิงน้ำตาไหลพราก หลอมรวมกับโลหิต ดูแล้วเหมือนกับร่ำไห้เป็นสายเลือด ทว่าเขาไม่ยอมแพ้ ถอยหลังและพุ่งชนอีกครั้ง เสียงโครมดังสนั่นต่อเนื่อง ขณะพุ่งชน เส้นเลือดในตัวเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง สองร้อยยี่สิบเจ็ด สองร้อยสามสิบเอ็ด สองร้อยสามสิบสาม!

โครมโครม!

ประตูห้องสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายก็มิปาน เหมือนว่าในยามนี้ห้องกลายเป็นเรือนขัง ภายในผนึกสัตว์ร้ายเอาไว้ตนหนึ่ง และตอนนี้สัตว์ร้ายตัวนั้นกำลังต่อสู้ดิ้นรน จนเหมือนกับว่าเรือนขังไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป เทวรูปหมานบนประตูมีรอยแตกเยอะขึ้นเรื่อยๆ เกล็ดน้ำแข็งจำนวนมากหลุดร่วง ราวกับจะระเบิดได้ตลอดเวลา แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงอยู่!

“ข้าจะปกป้องเผ่า…” เบื้องหน้าซูหมิงเลือนราง ขณะกล่าวพึมพำ ก็พุ่งชนเข้าไปอีกครั้ง เสียงโครมดังก้องกังวาน เพราะการกระแทกในครั้งนี้ รวมถึงการดูดซับโลหิตหมาน ทำให้เส้นเลือดเพิ่มจำนวนขึ้นอีกครั้ง จากสองร้อยสามสิบสาม กลายเป็นสองร้อยสามสิบเจ็ด!

“ข้าจะกลับเผ่า…” ซูหมิงไม่แยแสต่อสิ่งใด พุ่งชนประตูอีกครั้ง เสียงโครมดังกังวานอยู่นาน รอยร้าวบนประตูขยายใหญ่ขึ้นไม่น้อย ยามนี้ประตูทั้งบานกลายเป็นโลหิตของซูหมิง โลหิตนั้นเป็นตัวแทนความยึดมั่นของเขา!

“ข้าจะสู้เพื่อชนเผ่า!” ซูหมิงใช้ศีรษะชนเข้าไปอีกครั้ง ในช่วงที่เสียงโครมดังขึ้น เส้นเลือดในตัวพลันเพิ่มขึ้นจากสองร้อยสามสิบเจ็ดเป็นสองร้อยสี่สิบสาม ทันใดนั้น ในร่างกายของเขาหลั่งทะลักพลังมหาศาลแห่งการทะลวงขั้นพลัง

พลังดังกล่าวจะปะทุขึ้นเมื่อทะลวงสู่ลำดับเจ็ดขั้นรวมโลหิต พลังนี้หลั่งไหลในกายซูหมิง พร้อมกับการพุ่งชนของเขา บานประตูพลันสั่นสะท้าน ทว่าได้ยินเพียงเสียงกึก ก่อนมันจะแง้มออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนเทวรูปหมานหิมะด้านนอกเกิดรอยแตกจำนวนมาก เกล็ดหิมะกระเซ็น ทำให้เทวรูปหมานองค์นี้ดูชำรุดไม่สมบูรณ์!

ทว่าอานุภาพแห่งผนึกยังคงอยู่ เพียงแต่ใกล้ถึงขีดจำกัดของมันแล้ว!

หลังจากซูหมิงซวนเซถอยไปหลายก้าว พลันแหงนหน้าขึ้น เส้นเลือดสองร้อยสี่สิบสามเส้นเปล่งแสงโลหิต ความเร็วชั่วพริบตา ภายในแสงโลหิต ทั่วร่างซูหมิงเต็มไปด้วยแรงต้านและกลิ่นอายพลังโหดเหี้ยม เขาในยามนี้ก้าวเข้าสู่ลำดับเจ็ดขั้นรวมโลหิต!

จากลำดับเจ็ดทะลวงสู่ลำดับแปด จำเป็นต้องมีเส้นเลือดสามร้อยเก้าสิบเก้าเส้น เมื่อทะลวงสู่ลำดับแปดแล้ว นั่นหมายความว่าได้กลายเป็นหมานชั้นสูงสุดในระดับกลางของขั้นรวมโลหิต อีกเพียงหนึ่งก้าวก็จะเข้าสู่ลำดับเก้า ซึ่งเป็นระดับปลายขั้นรวมโลหิต!

เป็นที่ทราบดีในเผ่าเขาทมิฬ รวมถึงซูหมิงด้วย ผู้นำกองรักษาการณ์และซานเหินอยู่ลำดับแปดขั้นรวมโลหิต ส่วนจ้าวเผ่าอยู่เหนือกว่าคนทั้งสอง ซูหมิงเดาว่าไม่น่าจะใช่ลำดับเก้า แต่ก็ใกล้เคียง

ตรงจุดนี้จะเห็นได้ถึงความแข็งแกร่งของลำดับแปดขั้นรวมโลหิต และยังอธิบายไปในตัวด้วยอีกว่า ลำดับเจ็ดที่อยู่ต่ำกว่าก็หายากเช่นเดียวกัน! ทั้งเผ่าเขาทมิฬ ไม่ใช่ว่าไม่มีลำดับเจ็ด ทว่าคนเหล่านั้นล้วนเป็นคนรุ่นเดียวกับจ้าวเผ่า ตอนนี้ส่วนใหญ่ดำรงตำแหน่งรองผู้นำกลุ่มล่าสัตว์

ในรุ่นเยาว์ ซูหมิงยามนี้ เป็นคนแรกแห่งเผ่าเขาทมิฬอย่างเต็มภาคภูมิ! แม้ว่าจะเป็นการฝืนทะลวงขั้นพลังโดยไม่สนใจผลข้างเคียง อีกทั้งยังไม่เสถียรภาพก็ตามที ทว่าซูหมิงมองเห็นความหวัง เห็นการสั่นสะท้านของประตู เห็นรอยแตกของเทวรูปหมานหิมะ เวลานี้จึงพุ่งชนเข้าไปอีกครั้ง

แม้ว่าประตูบานนี้เหมือนจะถูกเปิด เทวรูปหมานหิมะเหมือนจะแหลกสลาย ทว่ามันก็ยังคงไม่พังทลาย เห็นได้ชัดว่าด้วยขั้นพลังลำดับเจ็ด ยังไม่พอจะทำลายผนึกของท่านปู่ได้ ยังขาดอีกเล็กน้อย!

ทว่าตอนนี้ถึงขีดจำกัดของซูหมิงแล้ว อีกทั้งลมพายุหิมะด้านนอกยังตลบอบอวล ไม่เห็นแสงจันทร์ สภาพอากาศเช่นนี้ เขาไม่อาจยืมพลังจากแสงจันทร์มาทำเพลิงแผดเผาได้!

แม้ว่าลมหายุหิมะเหมือนเบาบาง คลับคล้ายอีกไม่นานจะหยุดลง ถึงตอนนั้นดวงจันทร์อาจปรากฏให้เห็น ทว่าหากรอต่อไป ซูหมิงก็ไม่อาจทนความทรมานจากการหมุนเวียนของเวลาได้

ที่เขาฝึกฝนเช่นนี้ ก็เพื่อออกไปจากที่นี่แล้วกลับไปถึงชนเผ่าให้เร็วที่สุด หากเสียเวลาต่อไป เขาก็ไม่กล้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น…

ซูหมิงเห็นประตูยังคงเหนียวแน่น นัยน์ตาฉายแววสิ้นหวัง เขาซวนเซถอยหลัง ฝืนยิ้มด้วยความปวดร้าว ทว่าก็ยังไม่ยอมแพ้ โคจรเส้นเลือดทั้งสองร้อยสี่สิบสามเส้น

“ความคิดละเอียดอ่อน…..ความคิดละเอียดอ่อน!” ซูหมิงใช้การควบคุมความละเอียดอ่อนที่บรรลุได้ตอนอยู่บนเขาร่องลม เส้นเลือดสองร้อยสี่สิบสามเส้นบนตัวค่อยๆ หายไปทีละเส้น สองร้อยสิบห้า หนึ่งร้อยแปดสิบหก หนึ่งร้อยหกสิบสอง…..จนกระทั่งถึงเก้าสิบสาม เจ็ดสิบห้า สี่สิบเจ็ด…

ท้ายที่สุด เมื่อเส้นเลือดของเขาเหลือเพียงหนึ่งเส้น ซูหมิงเงยหน้าขึ้น แววตาเป็นประกายน่าสะพรึง

“ท่านปู่……ท่านหยุดไม่ให้ข้ากลับไปไม่ได้!” ซูหมิงหลับตาลงอย่างเชื่องช้า ผ่านไปครู่หนึ่ง เส้นเลือดเพียงหนึ่งเส้นที่เหลืออยู่ พลันเปล่งแสงสีแดงเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว!

นี่ใช่เส้นเลือดเส้นเดียวที่ไหนกัน แสงสีแดงขับเด่นชัดมากยิ่งขึ้น

บ่งบอกได้ว่าซูหมิงกำลังใช้เคล็ดวิชาควบคุมความละเอียดอ่อน ทับถมเส้นเลือดเข้าด้วยกันในเส้นดียว ทันใดนั้น เส้นเลือดเปล่งแสงสีแดงถึงขีดสุด มันเหมือนมีเส้นเดียว ทว่าความจริงแล้วเป็นเส้นเลือดสองร้อยสี่สิบสามเส้นรวมเข้าด้วยกัน!

นี่ถึงจะเรียกว่าเป็นความละเอียดอ่อน!

“ข้าจะกลับเผ่า ชั่วชีวิตนี้ข้าซูหมิงจะเป็นคนของเผ่าเขาทมิฬ ตาย ก็ขอเป็นวิญญาณของเผ่าเขาทมิฬ!” ซูหมิงกำหมัด เส้นเลือดสองร้อยสี่สิบสามเส้นรวมเป็นหนึ่ง ท่ามกลางแสงโลหิต มันราวกับบิดเบี้ยวแผ่ขยาย ตรงเข้าสู่หมัดขวาของซูหมิง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version