ตอนที่ 985 ภายในเตาหลอม
“พูดบ้าอะไร!” ชายร่างกำยำคิ้วเหลืองขมวดคิ้ว มองทะเลเพลิงรอบๆ ที่กำลังม้วนตัวอย่างเย็นชา เสียงนั้นก็เข้าไปในจิตใจเขาเช่นกัน อีกทั้งตอนนี้ยังดังก้องไม่หยุด
“ซู…..” เด็กหนุ่มชุดคลุมขาวร่างแปลงตะขาบพันขากล่าวเบาๆ ดวงตาเป็นประกายอย่างยากจะตรวจพบ
บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงที่นั่งอยู่บนตัวจูโหย่วไฉหรี่ตาลง ไม่รู้ว่าเกิดความคิดอะไร
แต่จูโหย่วไฉกลับตัวสั่นไหวเบาๆ ก้มหน้าลงปิดซ่อนความซับซ้อนทางสีหน้าที่เกิดขึ้นเพราะเสียงนี้
“ตำนานเล่าลือว่าเจ้าของเตาหลอมลำดับห้ามีนามว่าซูเซวียนอี เขามาจาก โลกแท้จริงที่ห้า เล่าลือว่าตอนนั้นเขาพาภรรยาออกไปข้างนอก จากนั้นก็หายตัวไป หรือว่าเสียงนี้จะเป็นเตาหลอมกำลังเรียกเจ้าของของมัน” ชายร่างกำยำคิ้วเหลืองขบคิดอยู่เล็กน้อยแล้วกล่าวเรียบๆ ตอนที่พูดสายตายังมองจื่อหลงเจินเหริน
จื่อหลงมีสีหน้าปกติ สายตามองทะเลเพลิงว่างเปล่า ไม่ได้กล่าวอะไร
ทุกคนที่นี่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าตอนนี้ซูหมิงก็ก้มหน้าลงเช่นกัน ดวงตาปิดลงแล้ว ดูเหมือนนั่งฌาน ทว่าความจริงกำลังปิดซ่อนความเศร้าโศกในแววตา
‘แม้แต่พวกเขาก็รู้เรื่องซูเซวียนอี ดูแล้วคำพูดของบรรพบุรุษธุลีแผดเผาก่อนหน้านี้คงเป็นความจริง’ ผ่านไปพักหนึ่ง ก็มีเสียงเลือนรางดังก้องที่นี่อีกครั้งข้างหูเขา
คำว่าซูดังอยู่นานไม่เลือนหาย ราวกับกำลังเรียกอยู่จริงๆ ภายในแฝงไว้ด้วยกาลเวลายาวนานอย่างลึกล้ำ เมื่อมีใครได้ยินจะอดรู้สึกหนักหน่วงมิได้
ผ่านไปไม่นานทุกคนก็พากันเข้าสู่การกำหนดลมหายใจอีกครั้ง รอคอยทะเลเพลิงว่างเปล่าหายไป ปล่อยให้เสียงเลือนรางเป็นบางครั้งนั้นแล่นผ่านเข้ามาในจิตใจ
ซูหมิงหลับตาอยู่ ทว่ามือขวาวางบนถุงเก็บวัตถุอย่างเป็นธรรมชาติ ภายในมือมีแผ่นหยกอันหนึ่ง เนื้อหาของมันก็กำลังลอยอยู่ในความคิดเขาตอนนี้
ย่วนเว่ยยืนอย่างทะนงองอาจข้างซูหมิง สายตามองไปรอบๆ อย่างเย็นชา และมองทุกคน มันมองทุกอย่างเป็นศัตรู ต่อให้เป็นซูหมิง ถึงจะทำสัญญากัน ทว่าสำหรับมันแล้วก็ยังไม่ค่อยชินอยู่บ้าง แต่มันรู้สึกได้ว่าซูหมิงสนใจมันจริงๆ
ที่สำคัญที่สุดคือมันอยู่กับซูหมิงแล้วจะรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวและความเศร้าโศกเช่นกัน
เมื่อมีย่วนเว่ยอยู่ ซูหมิงจึงตกอยู่ในแผนที่ในความคิดได้อย่างสบายใจ แผนที่นี้บรรพบุรุษธุลีแผดเผามอบให้ ข้างในอธิบายเตาหลอมลำดับห้าไว้ค่อนข้างละเอียด
ในเตาหลอมลำดับห้ามีแสงไฟอยู่เก้าสิบเก้าดวง นั่นคือเพลิงเก้าสิบเก้าสาย มันจึงถูกเรียกว่าเตาอบ!
ภายในแสงไฟทุกดวงจะมีสมบัติล้ำค่าเหมือนกัน สมบัติล้ำค่านี้คือหนึ่งในส่วนประกอบของเตาหลอมลำดับห้า หากสมบัติเก้าสิบเก้าชิ้นรวมเข้าด้วยกันจะก่อขึ้นเป็นพลังมหาศาลของเตาหลอมนี้
จากการเปลี่ยนแปลงมาไม่รู้กี่ปี เพราะเตาหลอมลำดับห้าเปิดออกไม่หยุดหย่อนและมีคนหวังจะได้โชควาสนาที่นี่เรื่อยๆ จึงมีคนได้สมบัติล้ำค่าไปทีละน้อย โดยการดับเปลวเพลิงและเอาสมบัติไป
ดังนั้นจึงทำให้เตาหลอมลำดับห้าค่อยๆ เสียพลังในการขับเคลื่อนไป ทำได้เพียงหยุดอยู่ที่หนึ่งกลางฟ้ากระจ่างดาว จนกระทั่งเมื่อสมบัติข้างในถูกเอาไปหมดแล้ว มันจะแตกตัวออกและหายไปในผืนฟ้า
ในเตาหลอมลำดับห้าตอนนี้ ต่อให้เป็นเผ่าธุลีแผดเผาก็ยังไม่รู้ว่ายังมีแสงไฟเหลืออีกเท่าไร และมีสมบัติกี่ชิ้นที่ยังไม่ถูกเอาไป
ซูหมิงรู้เป้าหมายของยอดฝีมือข้างกายเหล่านี้ ทุกคนมุ่งหวังไปที่สมบัติล้ำค่ากลางแสงไฟเหล่านั้น
ทั้งเตาหลอมลำดับห้า นอกจากแสงไฟเก้าสิบเก้าดวงแล้ว ยังมีสมบัติรองอีก เก้าร้อยเก้าสิบเก้าชิ้น พวกมันเชื่อมส่วนประกอบของสมบัติเก้าสิบเก้าชิ้นเข้าด้วยกัน จะขาดไปชิ้นหนึ่งไม่ได้
หลายปีมานี้ สมบัติรองเหล่านี้ถูกเอาไปมากที่สุด
ในเตาหลอมลำดับห้า แสงไฟเก้าสิบเก้าดวงนั้นสร้างขึ้นเป็นมิติใหญ่เก้าสิบเก้าแห่ง ทั้งยังสร้างเป็นมิติเล็กอีกเก้าร้อยเก้าสิบเก้าจากสมบัติรองเก้าร้อยเก้าสิบเก้าชิ้น ดังนั้นต่อให้แสงไฟมอดดับ สมบัติล้ำค่าในนั้นถูกเอาไป มิติก็ยังคงอยู่
ในทุกมิติคือหนึ่งโลก ในนั้นมีวิญญาณร้ายเฝ้าสมบัติอยู่ พวกมันแข็งแกร่งอ่อนแอต่างกัน มีพลานุภาพต่างกันไปตามสมบัติ
ในสมบัติรองธรรมดา บางทีระดับภัยพิบัติตะวันก็อาจจะสู้ชนะและเอาสมบัติมาได้ ทว่าหากเป็นสมบัติรองที่แกร่งขึ้นมาหน่อย วิญญาณร้ายในนั้นก็จะยิ่งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ต่อให้สมบัติในมิติถูกเอาไปแล้ว ทว่าเพราะมิติยังคงอยู่ วิญญาณร้ายในนั้นจึงยังอยู่ด้วย แต่เพราะสมบัติหายไป พวกมันจึงดุร้ายมากขึ้น พวกมันจะสู้จนตายกันไปข้างกับสิ่งมีชีวิตทุกตนที่เข้ามา!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสมบัติล้ำค่าเหล่านั้นเลย มิติของสมบัติล้ำค่าทุกชิ้น แม้แต่ ผู้กุมชะตาเกิดดับก็ยังดับแสงไฟในนั้นไม่ได้ นอกจากนี้แล้ว สมบัติล้ำค่ายังแบ่ง ระดับกัน ตามข้อมูลที่ซูหมิงได้มาจากบรรพบุรุษธุลีแผดเผา เขารู้ว่าในสมบัติล้ำค่า เก้าสิบเก้าชิ้น มีอีกเก้าชิ้นที่เป็นศูนย์กลางของทั้งเตาหลอมลำดับห้า
ระดับความยากในการได้สมบัติเก้าชิ้นนี้มามากกว่าทั้งหมด ในนั้นเกี่ยวกับขั้นพลังกับโอกาส และที่มากกว่าคือโชควาสนา
อย่างเช่นที่เผ่าธุลีแผดเผาบันทึกเอาไว้ พวกเขาใช้วิธีการพิเศษบางอย่างรู้มาได้เพียงว่าเมื่อหลายปีก่อนตอนที่เปิดเตาหลอมครั้งหนึ่ง เคยมีอยู่เก้าคนเข้าไปในมิติแห่งหนึ่ง
ในมิตินั้นเดินทางอย่างยากลำบาก ทว่ากลับปรากฏภาพที่ทำให้เก้าคนนั้นคลุ้มคลั่ง เพราะว่า…บนฟ้าของมิตินั้นมีเพลิงหลักอยู่หนึ่งดวง นั่นหมายความว่ามิตินั้นเป็นหนึ่งในเก้าสิบเก้ามิติสมบัติล้ำค่า นี่ยังเป็นเรื่องรอง ที่สำคัญกว่าคือเก้าคนนั้นเห็นว่าใน แสงไฟมีดาบอยู่เล่มหนึ่ง!
ทันทีที่เห็นมัน ในใจทุกคนเกิดเสียงดังกึกก้องมาจากดาบพร้อมกัน นั่นคือนามของดาบ…ดาบริษยา
สมบัติล้ำค่าที่เอ่ยนามตัวเองให้ทุกคนฟังได้แบบนี้ ในเตาหลอมลำดับห้ามันคือหนึ่งในเก้าสมบัติศูนย์กลางที่พบเจอได้เพียงโดยบังเอิญเท่านั้น!
เป็นดาบนี้เองที่สุดท้ายทำให้เก้าคนนี้สูญสิ้นไปทั้งหมด เป็นที่รู้กันดีว่าในเก้าคนนี้มีเจ็ดคนเป็นผู้กุมชะตาเกิดดับ เจ็ดคนนี้มาจากขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริง และเพราะการตายของพวกเขาเจ็ดคน จึงทำให้แผนการยึดครองทะเลดาราต้นกำเนิดจิตของสี่มหาโลกแท้จริงในตอนนั้นเป็นอันต้องยกเลิกไป จากนั้นเปลี่ยนเป็นการเฝ้ารักษาการณ์แทน
จะเห็นได้ว่าสมบัติล้ำค่าสำคัญเก้าชิ้นนี้มีความน่าหลงใหลและแข็งแกร่งในตัวมันเอง แท้จริงแล้ว ตอนที่ซูหมิงมองที่นี่ ในใจก็มีความไม่แน่ใจอยู่
เหตุใดซูเซวียนอีในตอนนั้นถึงไม่เอาเตาหลอมลำดับห้าออกไปด้วย หากเขาเอาเตาหลอมลำดับห้าไป บางทีอาจไม่ต้องอ้างว้างเช่นนั้นในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม
ซูหมิงไม่เข้าใจเรื่องนี้ พอเขาตรึกตรองอยู่ชั่วครู่แล้ว ก็อ่านคำอธิบายเกี่ยวกับ เตาหลอมลำดับห้าบนแผนที่ต่อ
นอกจากสิ่งเหล่านี้ ภายนอกมิติจำนวนมากในเตาหลอม ในอากาศยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่ชนิดหนึ่ง นั่นคือวิญญาณเพลิง
พวกมันถูกสร้างโดยเผ่ายมโลก มอบหมายงานให้ขัดเกลาสมบัติล้ำค่าและ เฝ้าเตาหลอม ไม่รู้กี่ปีมานี้มีส่วนหนึ่งเกิดสติปัญญาขึ้น จึงเลือกจากไปกลายเป็นเผ่าธุลีแผดเผา
ทว่าราคาของการออกไปจากที่นี่คือพวกมันจะเสียกำลังรบแก่กล้ายามเป็นวิญญาณเพลิงไป แต่แม้จะเป็นอย่างนั้นก็มีวิญญาณเพลิงไม่น้อยเลือกอิสรภาพ ทว่าก็ยังมีวิญญาณเพลิงอยู่จำนวนมากที่ต่อให้เกิดสติปัญญาแล้วก็ยังไม่เลือกเป็นอิสระ ยังคงปฏิบัติตามหน้าที่ในเตาหลอมลำดับห้า
ขณะเดียวกัน มีวิญญาณเพลิงจำนวนมากกว่าที่ไม่มีสติปัญญา แต่ลอยไปลอยมาอยู่ในและนอกทุกมิติในเตาหลอมอย่างสับสน สังหารสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่ไม่ใช่ของที่นี่ ยังคงรักษาวงโคจรปกติของเตาหลอมต่อไป
เวลาค่อยๆ ผ่านไป หลังจากซูหมิงศึกษาข้อมูลของเตาหลอมใหม่อีกครั้ง จนกระทั่งลมหายใจที่เจ็ดผ่านไปหลังจากเพลิงทำลายล้างสีดำปะทุ ในทะเลดาราต้นกำเนิดจิตข้างนอก ทะเลเพลิงที่อยู่มานานเกือบเดือนก็หายไปทันที
ทำให้ในทะเลดาราต้นกำเนิดจิตไม่มีเปลวเพลิงอีก เหลือเพียงซากปรักหักพัง เป็นโลกที่ไม่มีสีเขียวแม้แต่น้อย มีดาวจำนวนมากกลายเป็นรอยสีดำกลางทะเลเพลิง มีแผ่นดินใหญ่ที่ลอยอยู่จำนวนมากหายไปจากทะเลดาราต้นกำเนิดจิตพร้อมกับ ทะเลเพลิงนั้น
มิหนำซ้ำยังมีสัตว์จำนวนมากตายไปกลางทะเลเพลิง ส่วนที่เหลือก็อยู่ในช่วงว่างเปล่าของทะเลดาราต้นกำเนิดจิต แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ทว่าขุมอำนาจที่ซ่อนอยู่ในทะเลดาราต้นกำเนิดจิตก็ยังคงไม่อ่อนแอลง
สัตว์ร้ายแก่กล้าเหล่านั้น กลุ่มที่แข็งแกร่งเหล่านั้น พวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่ได้ย่อมมีวิธีหลบหลีกอยู่แล้ว ถึงขั้นเคยชินกับการปะทุของทะเลเพลิงเตาหลอมลำดับห้า
การคงอยู่ของพวกเขาต่างหากคือ รากฐานของเตาหลอมลำดับห้า
หลังจากทะเลเพลิงข้างนอกหายไป ในเตาหลอมลำดับห้า รอบๆ แท่นราบที่ ทุกคนอยู่ เปลวเพลิงที่เดิมทีอยู่กลางมวลอากาศอ่อนแสงลง แต่เมื่อพวกมันอ่อนแสง ทุกคนรวมถึงซูหมิงกลับเห็นว่ากลางเปลวเพลิงที่มอดดับเหล่านั้น….มีร่างที่กำลังหลับใหลอยู่จำนวนมาก!
พวกมันคือ…วิญญาณเพลิง!
ตอนที่ทะเลเพลิงเตาหลอมลำดับห้าปะทุขึ้น พวกมันจะหลับใหล ทว่าเมื่อใด ทะเลเพลิงหายไป พวกมันจะทยอยกันตื่นขึ้นและไปทำหน้าที่ของตน นั่นก็คือสังหารทุกสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ของที่นี่
ชั่วขณะที่เห็นวิญญาณเพลิงเหล่านั้น ชายร่างกำยำคิ้วเหลืองกับจื่อหลงเจินเหรินผู้แข็งแกร่งต่างมีสีหน้าจริงจัง อีกทั้งยังไม่พูดใดๆ เพราะวิญญาณเพลิงเหล่านี้มีมากเกินไปจริงๆ อยู่กันแน่นขนัดนับไม่ถ้วน
ถึงพวกมันจะหลับใหลอยู่ ทว่าแรงกดดันจากพวกมันกลับน่าขนหัวลุก วิญญาณเพลิงเหล่านี้มีขั้นพลังไม่ธรรมดา อ่อนที่สุดก็ภัยพิบัติจันทราแล้ว!
ที่แกร่งที่สุดคือเหมือนขั้นกุมชะตาเกิดดับ ทว่านี่ไม่ใช่พลัง เป็นเพียงแรงกดดันกับกำลังรบที่ส่งมาให้
ดีที่พวกมันส่วนใหญ่ยังไม่มีสติปัญญา
แต่พอเห็นว่าในบรรดาพวกมันมีไม่น้อยที่เปลือกตาขยับเหมือนจะตื่นขึ้น ก็ยังให้ความรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างมากกับทุกคนอยู่ดี
“สหายทุกท่านมาที่นี่ได้ ต่างต้องเข้าใจเตาหลอมลำดับห้าแน่นอน พวกเราทั้งหมดห้าคน หากทุกอย่างราบรื่นจะยึดครองแท่นเหยียบวิญญาณห้าก้อนได้ ถึงตอนนั้น…เฮอะๆ” ชายร่างกำยำคิ้วเหลืองเงยหน้ามองวิญญาณเพลิงเหล่านั้นพลางกล่าวเสียงเบา
ทันทีที่กล่าวจบ ทันใดนั้นรอบๆ แท่นที่ทุกคนอยู่ปรากฏม่านแสงยักษ์เก้าแห่ง ม่านแสงทั้งเก้าเปล่งแสงสว่างจ้าตา ชั่วขณะที่มันเปล่งแสงยังเกิดเสียงคำรามแหลมดังกึกก้อง วิญญาณเพลิงที่หลับใหลอยู่ในอากาศรอบด้านลืมตาตื่น ก่อนจะมองทั้งห้าคนพร้อมกับร้องเสียงแหลม