Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 220


บทที่ 220 ข้าจะขยี้เจ้าให้แหลกคามือ! (ปลาย)

พลันรองเท้าหนังหุ้มขาที่เขาสวมใส่เริ่มสั่นเบาๆ ขณะต่อมาร่างคนแปรเปลี่ยนเป็นเงาเลือนรางและหายวาบในที่สุด โม่อวิ๋นฉีเคลื่อนที่ว่องไว ความรวดเร็วเกินขีดจำกัดของสายตาของมนุษย์! ทันทีที่โม่อวิ๋นฉีทะยานออกไป ไป๋เจ๋อและจี้อันซื่อไม่รอช้า ทั้งสองติดตามออกไปโดยเร็วทันที!

วันนี้เวลานี้ พวกเขาไม่ได้มาเพื่อเจรจาสันติภาพ แต่มาเพื่อต่อสู้! โดยเจาะจงมาที่สถานศึกษาฉางมู่ก่อนอื่น ด้วยมันทั้งหมดต้องรับผิดชอบต่อการตายของอาจารย์ใหญ่จี้! พวกเยี่ยฉวนจะละเลย ไม่เสาะแสวงต่อการล้างแค้นได้หรือ?!

ขณะเดียวกันเยี่ยฉวนพุ่งเป้าไปที่คูมู่ เขาเป็นถึงยอดยุทธ์ขั้นสุดยอดผสานเทพ แต่คนที่อยู่ต่อหน้าเยี่ยฉวนกลับไร้ซึ่งความเชื่อมั่น! เยี่ยฉวนไม่เพียงเป็นสุดยอดทะยานสวรรค์ ทว่ายังลึกซึ้งในปณิธานแห่งกระบี่ด้วย

เป็นทั้งปรมาจารย์วิทยายุทธ์! และปรมาจารย์กระบี่! เวลานี้พลังการต่อสู้ของเยี่ยฉวนกล้าแกร่งแตกต่างจากเมื่อก่อน!

ทันทีที่เห็นว่าเยี่ยฉวนและพวกกำลังพุ่งทะยานตรงเข้าหา คูมู่พึมพำเสียงเหี้ยม “สู้ตายโว้ย!” เสียงขาดหาย คนทะยานออก มุ่งตรงไปข้างหน้า

สถานศึกษาฉางมู่ไม่มีทางเลือกเป็นอื่น ด้วยพวกเขาไม่มีที่ให้ถอยอีกต่อไป ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ ก็ต้องสู้! เพราะอย่างไรเสียเยี่ยฉวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาแน่ ไม่ว่าจะยอมจำนนหรือยอมแพ้ ล้วนนำมาซึ่งความอัปยศทั้งสิ้น!!!

ชั่วขณะที่ร่างของคูมู่พุ่งออกไป บังเกิดแสงสว่างฉายรังสีขึ้นในลานโล่ง! สามยอดยุทธ์ขั้นผสานเทพ ตามเข้ามาสมทบ! คนสามคนรวมทั้งคูมู่พุ่งตรงดิ่งมาทางเยี่ยฉวน ส่อเจตนามุ่งหมายต่อชีวิตของเยี่ยฉวนอย่างชัดเจน

กลุ่มศิษย์ที่เหลือทะยานพุ่งตรงเข้าหาไป๋เจ๋อและอีกสองคน! คนสามคนต่อศิษย์ฉางมู่นับร้อย!

ทั้งการเคลื่อนไหวและจำนวนคน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนทั้งสามจะต้องถูกบดขยี้จนแหลกเละแค่ไหน แต่ทว่าแววตาของพวกเขาทั้งสามปราศจากสิ้นซึ่งความหวาดหวั่นใดทั้งสิ้น!

ในขณะนั้นเอง ปรากฏกลุ่มคนสวมชุดดำขึ้นในลานอย่างปัจจุบันทันด่วน พวกเขามากันกลุ่มใหญ่ราวสี่สิบคนและในมือของแต่ละคนต่างถือตะขอสีดำ เป้าหมายการต่อสู้คือกลุ่มศิษย์ฉางมู่!

ทันทีที่กลุ่มคนสวมชุดดำเข้ามาในลาน ศิษย์ฉางมู่นับไม่ถ้วนเริ่มทยอยล้มลงอย่างต่อเนื่อง……

“ราชสำนักแห่งแคว้นเจียง กับสำนักอัปสรเมรัยเรอะ!” เสียงของคูมู่คำรามเสียงลั่น เมื่อเห็นกลุ่มคนชุดดำ เขารู้ได้ตั้งแต่แรกเห็นว่า คนชุดดำพวกนี้ถูกส่งมาจากสำนักอัปสรเมรัยและราชสำนัก ยามนี้ไม่มีใครตอบถ้อยวาจา! คูมู่เองก็อับจนหนทาง ในที่สุดทำได้เพียงทะยานเข้าหาเยี่ยฉวน!

เมื่อสี่ขั้นผสานเทพออกปะทะกับเยี่ยฉวน แน่นอนว่าชายหนุ่มย่อมตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ ทั้งคูมู่และคนของเขาทั้งสามกำลังบ้าดีเดือด ต่างช่วยกันรุกไล่เยี่ยฉวนอย่างไม่ลดละ ด้วยเจตนามุ่งสังหารต่อคนคนเดียวกัน เยี่ยฉวน!

ทันใดนั้นโม่อวิ๋นฉีปรากฏออกทางเบื้องหลังของเยี่ยฉวน ฉับพลันมีมีดบินสองเล่มถูกซัดอย่างแรงพุ่งเข้าหาคนยอดยุทธ์ขั้นผสานเทพซึ่งรุกไล่เยี่ยฉวนไม่ห่างมากนัก สีหน้าของศัตรูแปรเปลี่ยนทันทีที่เห็นมีดคู่บิน พลันคนเบี่ยงกายหลบคมมีดซึ่งตวัดผ่านเข้าหารวดเร็ว!

เกือบในเวลาเดียวกันนั้นเอง ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างแรงและเร็วราวกับแรดพุ่งชน โดยมีเป้าหมายที่คนยอดยุทธ์ขั้นผสานเทพไม่ไกลออกไป!

ร่างนั้นคือไป๋เจ๋อ!

คนยอดยุทธ์ผสานเทพถูกแรงปะทะอย่างรุนแรง จนร่างของมันกระเด็นลอยไปไกลกว่าสิบจั้งต่อหน้าต่อตาผู้คนที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน!

อีกด้านหนึ่ง จี้อันซื่อออกเผชิญหน้ากับคนหนึ่งในยอดยุทธ์ขั้นผสานเทพ!

การต่อสู้สี่ต่อสี่!

ขณะเดียวกันศิษย์แห่งฉางมู่ ล้วนกำลังถูกสกัดกั้นโดยกลุ่มคนชุดดำ!

อันที่จริงต่อให้เยี่ยฉวนกับพวกไม่ตามมาล้างแค้นในวันนี้ ราชสำนักและสำนักอัปสรเมรัยก็ไม่มีทางปล่อยให้พวกฉางมู่ลอยนวล ด้วยถ้าทั้งสองอำนาจไม่แก้แค้นในวันนี้ จะให้พวกเขาคอยวันที่สถานศึกษาฉางมู่ตามไปแก้แค้นอย่างนั้นหรือ?!

คนที่ยืนปักหลักอยู่ในทิศทางตรงข้ามกับเยี่ยฉวน คูมู่เพ่งสายตามองชายหนุ่มแน่แน่ว “หึหึ ข้าไม่คิดเลยว่าสถานศึกษาฉางมู่แห่งแคว้นเจียง จะต้องพินาศย่อยยับลงเพราะน้ำมือของเจ้า เจ้ามัน……”

ในตอนนั้นเยี่ยฉวนพลันหายวับไปต่อหน้าต่อตา และทันทีที่คนปรากฏขึ้นอีกครั้ง ร่างนั้นทะยานอยู่เบื้องเหนือศีรษะของคูมู่นั่นแล้ว เขาตวัดกระบี่ในมือฟาดฉับลงมาอย่างรุนแรง!

บึ้ม! ร่างของคูมู่กระเด็นไปไกลหลายจั้งเมื่อคนหยุดชะงักอยู่กับที่ พื้นดินใต้ฝ่าเท้ากลับแตกร้าวเป็นร่องลึก ไม่เพียงเท่านั้น โลหิตกระอักออกมาทางปากพรวดหนึ่ง และซึมไหลกระทั่งเสื้อส่วนหน้าอกย้อมไปด้วยสีแดงฉาน!

คูมู่ชะงักงันด้วยความตกตะลึง ชายชราเงยหน้าขึ้งมองเยี่ยฉวน “เจ้า……” ขณะนั้นเยี่ยฉวนซึ่งยืนไม่ห่างเท่าใดนัก พูดสวนขึ้นทันควันด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยว “ไม่ต้องพูดมาก ข้าจะขยี้เจ้าให้แหลกคามือเดี๋ยวนี้!” ขาดคำเขาพุ่งพรวดทะยานออกไปเบื้องหน้า

ถึงแม้เยี่ยฉวนจะขาดความสามารถในการมองเห็น แต่เขาสามารถในการรับรู้! หากมิใช่เพราะตาที่มืดบอด ความกล้าแก่งในการต่อสู้ของเขาอาจมากกว่านี้สองถึงสามในสิบส่วนทีเดียว! การเป็นคนตาบอด ทำให้เยี่ยฉวนเสียเปรียบเล็กน้อย!

เมื่อเห็นเยี่ยฉวนทะยานเข้าหา คูมู่เหยียดยกมุมปาก “เข้ามา!” ทันทีที่สิ้นเสียงคำราม เขาพลันถลันพรวดออกเบื้องหน้ามุ่งเข้าหาเยี่ยฉวนอย่างรวดเร็ว ขณะที่มีแสงสว่างเปล่งรัศมีวาบออกจากร่าง ซึ่งแสงสว่างประกายเจิดจ้าชนิดนี้เป็นความสามารถทั่วไปของยอดยุทธ์ในขั้นผสานเทพ!

ทำลายตัวเอง! ณ ตอนนี้คูมู่เริ่มประจักษ์ชัดเสียแล้วว่าตนเองไม่อาจเอาชนะต่อเยี่ยฉวน ดังนั้นแทนที่จะฆ่าคน เช่นนั้นพวกเขามาตายพร้อมกันเลยเห็นจะดีกว่าเป็นแน่!

ขณะเดียวกันเยี่ยฉวนก็ไม่หยุดยั้งรีรอ เขามุ่งหน้าตรงเข้าหาพร้อมกระบี่กระชับมั่นในอุ้งมือ!

ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า คูมู่เหยียดมุมปากเผยอยิ้มออกทีละน้อย–

ตู้ม!

แรงระเบิดดังสนั่นสะท้านสะเทือนไปทั้งลานโล่ง พลันพลังรุนแรงแผ่รัศมีเป็นวงกว้าง เมื่อสิ้นเสียงดังร่างหนึ่งกระเด็นวืดไกลห่างออกไปทันที

เยี่ยฉวน! ร่างของเขาลอยละลิ่วอย่างไม่หยุดยั้งไปไกลกว่าสิบจั้ง จนปะทะเข้ากับเชิงเขาอย่างแรง!

ทุกคนชะงักหยุด ขณะหันไปมองทางเยี่ยฉวนเป็นตาเดียว

ชายหนุ่มเอนกายพิงผนังภูเขา ก่อนจะค่อยยันกายลุกขึ้นยืนพลางยกหลังมือขึ้นปาดเช็ดโลหิตที่ไหลซึมที่มุมปาก กวาดตามองมาทางโม่อวิ๋นฉีและคนอื่น ส่งเสียงตะโกนก้อง “ฆ่ามัน ฆ่ามันให้หมด!” ฆ่ามัน! ฆ่าให้หมด!

— จบตอน —

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version