Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 238


บทที่ 238 คนดีที่สุด! (ปลาย)

ในโรงครัว

จี้อันซื่อนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ตัวเล็กเบื้องหน้ากองไม้ท่อน ในมือข้างซ้ายถือมีดเล็มหนึ่งซึ่งมีใบมีดบางเฉียบดุจปีกแมลงจักจั่น ขณะนั้นนางก้มลงหยิบท่อนไม้ที่สับไว้เป็นท่อนสั้นๆ ขึ้นมาวางเบื้องหน้า พลันคนตวัดมีดในมือข้างขวาลงฉับหนึ่ง

ฉัวะ!

ท่อนไม้แบะออกเป็นสองท่อนทันควัน หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าหน้าตัดของไม้ราบเรียบดุจแผ่นกระจก!

หญิงสาวหน้านิ่งไร้รู้สึก พลันงัดเอาหมั่นโถวอุ่นจนควันกรุ่นออกมาจากที่ไหนสักแห่งขึ้นมากัดกิน จากนั้นจึงหยิบท่อนไม้สั้นขึ้นมาอีกชิ้นและวางลงเบื้องหน้า พลันตวัดดาบวาบลงอีกครา!

พลังดาบที่ส่งออกรวดเร็วยิ่งนัก!

คมดาบเพิ่งกระหวัดฉับลงไป พลันท่อนไม้แบะครึ่งตรงกลางพอดิบพอดี……

นางมิได้ตวัดดาบต่อเนื่องอีก ด้วยหยุดกัดหมั่นโถวเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากจัดการหมั่นโถวเสร็จแล้วจึงหยิบเอาน่องไก่ขึ้นมา เช่นเคยไม่มีใครเห็นว่าจี้อันซื่อหยิบออกมาจากที่ใด……

ภายในป่าไผ่ใบแน่นทึบ

เยี่ยฉวนยังนั่งอยู่กับที่มิได้ขยับเขยื้อนไปไหน โดยมีปณิธานกระบี่แผ่กระจายรายรอบ อีกทั้งทีท่ากำลังหมกมุ่นครุ่นคิด ตอนนี้เขาสามารถสัมผัสต่อสิ่งรอบข้างได้อย่างแจ่มชัด แจ่มชัดเสียยิ่งกว่าตอนที่ใช้ดวงตามองเสียอีก!

ความคิดแวบขึ้นมาในหัว ไม่มีตาก็ไม่เห็นจะเป็นไร!

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ในที่สุดเยี่ยฉวนดึงกลับปณิธานกระบี่และค่อยผุดลุกขึ้นยืน “ฟู่!” เสียงเขาเป่าปากผ่อนลมหายใจ

ความรู้สึกในตอนนี้ช่างเบาสบาย!

……สบาย อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน!

ดวงตากระบี่!

ความเชื่อมั่นในเส้นทางกระบี่ก็ด้วยเช่นกัน! ทักษะกระบี่และเคล็ดโคจรปราณของสตรีลึกลับ ล้วนสอนให้เชื่อมั่นและศรัทธาในเส้นทางกระบี่!

พลันชายหนุ่มกางฝ่ามือทั้งสองข้างออกไปข้างหน้า ขณะนั้นกระบี่หลิงซิ่วทะยานลงวางสงบนิ่ง แรงสั่นน้อยๆ ส่งมาจากกระบี่ดูเหมือนกระบี่จะสัมผัสและตอบสนองต่อความรู้สึกนี้เช่นกัน

ระดับของการผสานรวมสมบูรณ์เต็มร้อยส่วนแล้ว นั่นย่อมหมายความว่าเยี่ยฉวนสามารถใช้พลังกระบี่หลิงซิ่วได้เต็มที่!

ถ้าเขาสำเร็จขั้นสันโดษเมื่อใด ฝ่ายตรงข้ามในขั้นพลังผสานเทพก็ไม่อาจเทียมทาน หรือแม้แต่สุดยอดแห่งยอดฝีมือดังเช่นอันหลานซิ่วก็เฉกเช่นกัน!

อันหลานซิ่ว!

เมื่อหวนนึกถึงใบหน้าของหญิงสาว เยี่ยฉวนคลี่ยิ้มกับตนเอง อันหลานซิ่วและเยี่ยหลิง ต่างอยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งคู่ นอกจากต้องการไปตามหาพวกนางแล้ว เขายังปรารถนาไปที่นั่นเพื่อดูหน้าของเหล่ายอดยุทธ์ไร้เทียมทานทั้งหลายสักครั้ง!

คนดีต้องมีจุดมุ่งหมายเพื่อคนอื่น คนดีต้องปกป้องคนที่ห่วงใยและเคียงข้างคนที่รัก!

เยี่ยฉวนคิดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นจึงเก็บกระบี่หลิงซิ่ว พลันเขานึกอะไรขึ้นมาได้จึงเข้าสู่หอคอยแห่งเรือนจำ ภายในหอคอย เบื้องหน้าที่เขายืนอยู่คือกระบี่เล่มใหญ่ซึ่งเจ้าของเดิมคือราชันกระบี่คนก่อนนั่นเอง!

นับว่าเป็นกระบี่ที่ใหญ่มากเล่มหนึ่ง ความยาวเกือบครึ่งจั้งและกว้างสองฝ่ามือ กระบี่มีสีดำสนิทและเปล่งประกายสีแดงเรืองระเรื่อ ที่ด้ามจับปรากฏโซ่สีดำห้อยไว้ใช้สำหรับเป็นสายรัดมือ!

เป็นกระบี่ปลายป้าน!

กระบี่เล่มนี้อย่างน้อยต้องเป็นศาตราวุธประกายแสง ซึ่งไม่แน่ว่าอาจมีระดับศาสตราวุธสูงกว่ากระบี่หลิงซิ่ว!

หลังจากนิ่งพิจารณาอยู่ครู่ใหญ่ เยี่ยฉวนเอื้อมมือขวาไปจับด้ามกระบี่โดยใช้สายรัดคล้องมือไว้ แต่แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจอย่างที่สุด เมื่อพบว่าไม่สามารถยกกระบี่ขึ้นมาจากพื้น! เขาลองรวบรวมชี่ และคราวนี้กระบี่พลันเกิดการสั่นน้อยๆ แต่ทว่าก็ยังไม่ขยับขึ้นจากพื้นแม้สักกระเบียด

คิ้วทั้งสองข้างขมวดมุ่นจนเกือบชิดกัน สีหน้างุนงงสงสัยยิ่ง จากนั้นจึงฉวยจับด้ามกระบี่ไว้ด้วยมือทั้งสอง เกร็งแน่น กระบี่สั่นสะท้านและขยับสูงขึ้นจากพื้นราวหนึ่งนิ้ว แต่เพียงครู่เดียวก็ตกลงไปอยู่ที่เดิม!

หนักเหลือเกิน!

เยี่ยฉวนหน้าเคร่งเครียด ด้วยกระบี่มีน้ำหนักมากเกินกว่าที่คาดคิด!

ตอนนี้เขารู้สึกจนปัญญาจะทำสิ่งใดต่อไป

ดูดกลืน?

เขามีความสามารถในการดูดกลืนกระบี่ หากดูดกลืนกระบี่เล่มนี้ได้เขาจะบรรลุขั้นสันโดษทันที และกระบี่หลิงซิ่วจะพัฒนาสู่ระดับสุดยอดกระบี่ประกายแสง!

แต่กระบี่เล่มนี้เป็นศาสตรวุธที่ดีใช้ได้ และถึงเยี่ยฉวนจะยังไม่ดูดกลืนกระบี่ในตอนนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ในภายหน้าเสียหน่อย!

หลังจากนั้นครู่ใหญ่เยี่ยฉวนจึงละจากหอคอยแห่งเรือนจำ ขณะเดียวกันกระบี่เล่มใหญ่พลันออกมาสู่ภายนอกหอคอยด้วยเช่นกัน!

ชายหนุ่มใช้ความรู้สึกสัมผัสกระบี่เล่มใหญ่ จากนั้นจึงใช้มือทั้งสองข้าฉวยด้ามกระบี่กำไว้แน่น อีกทั้งใช้สายรัดโซ่พันรอบมืออีกชั้นหนึ่ง ก่อนโน้มกายยงโย่ยงหยกและทันใดนั้น ที่ตรงกลางระหว่างหัวคิ้วปรากฏตัวอักษรคำว่า ‘ปฐพี’

กฎแห่งเต๋า!

เยี่ยฉวนไม่เคยลืมว่าเขามีทีเด็ดท่าไม้ตายเก็บงำไว้!

ขณะนั้นเองพื้นดินใต้ฝ่าเท้า ณ จุดที่ยืนเริ่มเกิดแรงสั่นและรุนแรงมากขึ้น ครู่ต่อมาพลังปฐพีมหาศาลพุ่งเข้าสู่กายคน!

เมื่อเห็นดังนั้นเขาเหยียดมุมปากยิ้มดุดัน เมื่อออกแรงยกกระบี่ซึ่งมีน้ำหนักมหาศาลด้วยการเสริมพลังปฐพีเข้าไป พลันกระบี่ถูกยกลอยขึ้นมาเหนือพื้นดิน กล้ามเนื้อที่แขนเกร็งจนเริ่มโป่งพองมากขึ้นเรื่อยๆ!

หลังจากนั้นเขาเริ่มออกวิ่งไปข้างหน้าโดยมือจับกระชับกระบี่แน่นหนา ทุกย่างก้าวในการวิ่งทำให้พื้นดินเกิดแรงสั่นสะเทือนน้อยๆ ตลอดระยะทางที่ผ่านไป……

ไม่นานนักเยี่ยฉวนได้มาปรากฏกายที่เนินเขา ขณะเดียวกับที่โม่อวิ๋นฉีกำลังวิ่งลงมาที่เชิงเขาพอดี เมื่อเห็นคนที่ปรากฏมาตรงหน้าโม่อวิ๋นฉีเหยียดยิ้มมุมปาก “เฮ้ย พี่หัวขโมยเยี่ยเจ้ามาก็ดีแล้ว ข้าสำเร็จสันโดษแล้วเฟร้ย……มาเลย มาให้ข้าตีก้นเสียดีๆ ข้าจะ……”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเยี่ยฉวนกระโจนพรวดออกมา พร้อมกับฟาดกระบี่ลงไปที่เนินเขาอย่างรุนแรง!

ฉับพลันนั้นเองเนินเขาที่เคยเป็นเนินเขาแตกกระจายเป็นเสี่ยงต่อหน้าโม่อวิ๋นฉี ไม่เพียงเท่านั้น……พื้นดินรัศมี 45 จั้งล้อมรอบตัวคนพลันปริแยกแตกร้าวทันที ทั้งภูเขาและแผ่นดินพลันเกิดแรงสั่นสะเทือนราวอุบัติการณ์แผ่นดินไหวก็ปาน!

สร้างความสะท้านหวั่นไหวต่อคนที่พบเห็นยิ่งนัก โม่อวิ๋นฉียืนตาเหลือก อ้าปากค้างด้วยความตื่นตระหนก

ทันใดนั้นเยี่ยฉวนซึ่งยืนไม่ห่างออกไปทางเบื้องหน้า หันมามองคนที่กำลังยืนอ้าปากหวอ “อยากต่อยตีกับข้าหรือ?” โม่อวิ๋นฉีพลันรู้สึกตัว เขากลืนน้ำลายเอื้อกและรีบกระวีกระวาดท่าทางพินอบพิเทาเข้ามาหาเยี่ยฉวน ทำทีช่วยปัดเศษหญ้าเศษฝุ่นออกจากเสื้อผ้าให้ ขณะที่ปากก็กล่าวว่า “พุดโถ ตีเตออะไร้เข้าใจผิดกันไปใหญ่ พี่ใหญ่……ข้าออกจะชื่นชมยกย่องเจ้าว่าเป็นคนใจกว้างดุจแม่น้ำที่ไร้ขีดจำกัด……แถมรูปก็หล่อเกินห้ามใจ ทั้งสติปัญญาหรือก็ฉลาดเฉลียวกว่าใคร เป็นมังกรและหงส์สวรรค์ในร่างมนุษย์จริงๆ ข้าน่ะยกท่านให้เป็นคนดีที่สุด ที่สุดของที่ซู้ดดดด……แหะแหะ”

— จบตอน —

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version