Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 384


บทที่ 384 ใครกล้า ก็ให้ออกมาสู้กับข้า! (ต้น)

……

“เขาบอกว่าน้องสาวของเขาตั้งท้องลูกของข้าได้แปดเดือนแล้ว!” ……

……

ชายหนุ่มหน้าซีด “นี่มันเรื่องบ้าอะไร? ข้าควรดีใจที่ได้ทั้งเมียและลูกพร้อมกันเลยหรือเปล่า?” ……

..

เวลานั้นผู้คนที่อยู่รอบตัวเยี่ยฉวนเริ่มทยอยมามากขึ้นเรื่อยๆ จนตัวเขาเองแทบไม่มีที่จะยืน

เยี่ยฉวนรู้สึกท้อใจด้วยไม่รู้จะทำอย่างไร

แรกเริ่มเดิมทีเขาไม่อยากทำตัวให้เป็นจุดสนใจ ทว่าสถานการณ์ตอนนี้ทำให้เยี่ยฉวนจำต้องดีดตัวทะยานขึ้นสู่อากาศ และขณะที่ลอยตัวอยู่เหนือฝูงชน เยี่ยฉวนดีดนิ้วครั้งหนึ่งพลันกระบี่ทะยานวาบมารองรับที่ใต้ฝ่าเท้าทันที

จากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มเคลื่อนออกจากที่ไปช้าๆ ในสภาพที่กำลังยืนอยู่บนกระบี่เช่นนั้น

ซึ่งเป็นจังหวะที่หลายคนเริ่มสังเกตเห็นและมองมายังเยี่ยฉวนบนอากาศ จนในที่สุดเขาก็ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน

ภาพที่ปรากฏ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่บนกระบี่ขณะมือทั้งสองข้างไพล่หลัง สายลมพัดเอื่อยปะทะใบหน้าและเส้นผมซึ่งสะบัดไปตามแรงลม มีทั้งความเป็นธรรมชาติและสง่าผ่าเผย

“ชายคนนั้นไงเยี่ยฉวน!”

ทันใดนั้นเสียงใครคนหนึ่งในลานตะโกนขึ้นมา

“เยี่ยฉวน!”

เพียงครู่เดียวเท่านั้น ฝูงชนในลานเริ่มแตกตื่น

“เยี่ยฉวน!”

ในแผ่นดินชิงในปัจจุบัน เขาคือจ้าวกระบี่ที่มีอายุน้อยที่สุด อาจกล่าวว่าเป็นบุคคลที่น่าทึ่งที่สุดในแผ่นดินชิงก็ว่าได้!

เป็นจ้าวกระบี่ที่มีท่าทางสง่างดงาม!

หลายคนตั้งใจมาเพื่อชมฝีมือการต่อสู้ของเขา และหลายคนอยากเห็นจ้าวกระบี่ผู้มีท่วงท่าสง่าผ่าเผยตัวเป็นๆ สักครั้ง เขาต่างไม่ลืมว่าในแผ่นดินชิงจะหาผู้ฝึกกระบี่ที่กล้าแกร่งอย่างเยี่ยฉวนนั้นมีน้อยคนนัก

ท่ามกลางฝูงคนที่เบียดเสียดกันนั้นเอง ชายคนหนึ่งแหงนมองเยี่ยฉวนขณะกำลังทะยานไปในอากาศก่อนจะตะโกนโหวกเหวก “น้องสาวข้า โน่นไงสามีของน้องข้า……”

ขณะนั้นเยี่ยฉวนทะยานพร้อมกระบี่เคลื่อนไปข้างหน้าไม่เร็วนัก ซึ่งนั่นหาใช่เพราะเขาอยากไปช้าๆ เช่นนั้นเองไม่ ประเด็นสำคัญเป็นเพราะเยี่ยฉวนไม่สามารถเร่งความเร็วได้ต่างหาก!

เยี่ยฉวนไม่ได้สำเร็จทักษะควบคุมกระบี่ อันที่จริงเขาไม่สามารถใช้ทักษะควบคุมกระบี่เพื่อบินด้วยกระบี่เลยต่างหาก!

อย่างไรก็ตามคนอื่นๆ มิได้คิดเช่นนั้น ในมุมมองของคนภายนอกพวกเขาต่างก็เชื่อว่า

เยี่ยฉวนตั้งใจบินเอื่อยๆ ไปในอากาศเช่นนั้นเอง……

ครู่ใหญ่ต่อมา ขณะที่ทุกคนยังมองดูอย่างไม่ละสายตา เยี่ยฉวนควบคุมกระบี่ให้บินไปหยุดลงที่ศิลาก้อนใหญ่ตรงเชิงเขาอันเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาฉางมู่

ชายหนุ่มเคลื่อนไหวนิ้วมือเป็นเชิงให้สัญญาณ ต่อจากนั้นกระบี่ที่ใต้ฝ่าเท้าพลันแปรสภาพกลายเป็นแสงเรืองรองสว่างไสว ก่อนจะทะยานกลับไปที่เยี่ยฉวนด้วยลีลาสง่างาม

ความเคลื่อนไหวนั้นมิได้รอดพ้นสายตาจนทำให้เป็นที่ฮือฮาต่อผู้พบเห็น

“เขาดูดีมากเลย!”

เยี่ยฉวนยืนอยู่บนก้อนศิลาขนาดใหญ่ครู่หนึ่งจึงหันกลับมา กระบี่ที่ถืออยู่ในมือเอียงทำมุมเฉียงลงกับพื้น เขาแหงนเงยไปทางยอดเขาที่ตั้งสถานศึกษาฉางมู่ “คนฉางมู่ ใครกล้าก็ออกมา มาต่อสู้กับข้า!”

“ใครจะกล้าออกมางั้นหรือ?”

ผู้คนที่ยืนดูเบื้องล่างพากันหุบปากเงียบกริบขณะมองไปทางสถานศึกษาฉางมู่อย่างใจจดใจจ่อ ทุกคนอยากเห็นว่าผู้ทรงอำนาจกลุ่มนี้รับมือกับการท้าทายของเยี่ยฉวนครั้งนี้อย่างไร

ซึ่งคนขี้คงขลาดไม่ต้องคอยนาน ด้วยหลังจากนั้นที่เบื้องหน้าเยี่ยฉวน ชายวัยกลางคนออกมาปรากฏตัวอยู่ที่ฟากตรงข้าม

มู่ซ่วนชิง!

อาจารย์ใหญ่แห่งสถานศึกษาฉางมู่!

สายตาของมู่ซ่วนชิงเขม้นมองเยี่ยฉวนพลันขยับปากราวกับจะเอ่ยพูด ทว่าทันทีนั้นเยี่ยฉวนตวัดกระบี่ชี้หน้าอีกฝ่าย “หยุดพล่าม ข้ามาเพื่อต่อสู้ ไม่ได้จะมาฟังเจ้าพูดจาไร้สาระ!”

ทันทีที่เสียงคนพูดขาดปาก ชายหนุ่มขยับมือกระชับกระบี่ก่อนพุ่งทะยานขึ้นสู่ภูเขาที่ตั้งสถานศึกษาฉางมู่

ทำให้ผู้คนที่อยู่ข้างล่างหน้าตาตื่นด้วยความตกใจ

“เยี่ยฉวนเป็นคนเลือดร้อนเช่นนี้เลยหรือ?”

พลันสีหน้าของมู่ซ่วนชิงเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำ!

นับตั้งแต่สถานศึกษาฉางมู่ได้รับการสถาปนา ไม่เคยมีใครแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ใส่หน้าเขา!

มู่ซ่วนชิงกวาดตามองพลางเสียงคำรามดังลอดไรฟัน “เยี่ยฉวน!”

ขณะนั้นประกายแห่งขั้นพลังที่เปล่งออกจากร่างกายมู่ซ่วนชิงเริ่มแผ่วผ่อนลงทุกขณะ เขาลดขั้นพลังปัจจุบันของตนเองจนกระทั่งเทียบเท่าขั้นผสานเทพ!

“อาจารย์ใหญ่ฉางมู่ยอมลดขั้นพลังของตนอย่างหรือ?!”

ทุกคนในลานได้แต่มองดู ตัวแข็งตาค้างแทบไม่ไหวติง!

“มู่ซ่วนชิงคิดลงมือสู้กับเยี่ยฉวนด้วยตนเอง!”

เยี่ยฉวนยืนนิ่งมองคนที่อยู่ห่างออกไป เขาเองก็ไม่คาดคิดว่าครานี้มู่ซ่วนชิงถึงขั้นพยายามเพื่อต่อสู้กับเขา การที่เป็นเช่นนี้จึงชัดแจ้งว่าเขาจะสู้กับชายหนุ่มคนนี้จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง เพราะหากมู่ซ่วนชิงพ่ายแพ้ในครั้งนี้ เขาจะไม่กล้ากลับคืนสู่ขั้นพลังผนึกยุทธ์อีกแล้ว!

นั่นเป็นเพราะว่าชื่อเสียงและความนับถือของสถานศึกษาฉางมู่ถูกทำลายด้วยน้ำมือของมู่ซ่วนชิง ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานนับพันพันปี จะถูกทำลายลงทันทีที่มู่ซ่วนชิงกลับคืนขั้นพลังของตนเอง!

มู่ซ่วนชิงจ้องแน่วนิ่งไปที่เยี่ยฉวน “อยากต่อสู้นักใช่ไหม? ถ้าเช่นนั้นก็จงพินาศไปด้วยกัน!”

ขาดคำนั้นร่างของมู่ซ่วนชิงหายวาบไปทันที ฉับพลันนั้นเองเสียงเสียดแทงดังจนแสบแก้วหูระเบิดขึ้นในลานกว้าง ทันใดนั้นกำปั้นพุ่งวาบเข้าที่ใบหน้าของเยี่ยฉวน กำปั้นนั้นบรรจุพลังหนักหน่วงชนิดหาตัวจับยาก ราวกับสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้าได้ก็ปาน!

ถึงกระนั้นเยี่ยฉวนมิได้ฉวยจังหวะเข้าชนคู่ต่อสู้โดยตรง เขากลับเบี่ยงตัวหลบคมกำปั้นที่พุ่งเข้าใส่ ในเวลาเดียวกันเยี่ยฉวนพลิกข้อมือวูบและตวัดกระบี่ฟาดตัดกลางลำตัวของมู่ซ่วนชิง ทว่าโชคไม่เข้าข้างด้วยก่อนที่กระบี่จะเข้าถึงลำตัวของอีกฝ่าย ฝ่ามือหนึ่งฉวยจับกระบี่ยึดไว้อย่างแน่นหนา!

มือข้างซ้ายของมู่ซ่วนชิงนั่นเอง!

นิ้วมือแข็งแกร่งทั้งห้าของเขายึดกระบี่ของเยี่ยฉวนไว้จนแน่นเหนียว ประดุจฝ่ามือและกระบี่ถูกเชื่อมให้ติดกันจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย!

ชั่วแวบเดียว–

มู่ซ่วนชิงคลายนิ้วมือพร้อมผลักไปข้างหน้าและฟาดใส่ลำตัวด้านหน้าของชายหนุ่ม

ตู้ม!

พลังปะทะผลักร่างของเยี่ยฉวนไถลไกลออกไปกว่า 18 จั้ง!

เสียงคนเงียบกริบลงทันที!

มู่ซ่วนชิงตอบโต้เยี่ยฉวนด้วยหนึ่งกระบวนท่า ทว่าเขามิได้ติดตามไปจู่โจมทันที ขณะนั้นเจ้าตัวกำลังมองที่ท่อนแขนซึ่งบัดนี้โลหิตไหลอาบด้วยคมกระบี่ของเยี่ยฉวน!

ในจังหวะที่เขาพุ่งหมัดใส่เยี่ยฉวนกลางอากาศ กระบี่ได้พุ่งสวนเข้าที่บริเวณแขนข้างนั้นของตนด้วยเช่นกัน!

หากจะว่าไปในยกแรกนี้ดูเหมือนมู่ซ่วนชิงจะเหนือกว่าเล็กน้อย!

เขาเงยหน้ามองตรงไปที่เยี่ยฉวนซึ่งกระเด็นห่างไปไม่ไกลด้วยแววตาครุ่นคิด ผ่านไปหนึ่งกระบวนท่าทำให้เขาเข้าใจอยู่อย่าง ในบรรดาศิษย์รุ่นใหม่ของฉางมู่ ไม่มีคนมีฝีมือพอที่จะต่อสู้กับเยี่ยฉวน! จะว่าไปคนรุ่นใหม่ทั้งแผ่นดินชิงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถรับมือกับเยี่ยฉวนได้!

ข้างฝ่ายเยี่ยฉวนในขณะนั้นใช้มือขึ้นลูบบริเวณกลางลำตัวที่ถูกซัดด้วยฝ่ามือ ตนเองให้รู้สึกประหลาดใจอยู่ครามครัน

เมื่อครู่จัดว่าเป็นจังหวะวิกฤตก็ว่าได้ เยี่ยฉวนผลักออกพลังปณิธานคุณธรรมอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันจุดที่สำคัญบนร่างกาย เจตนาแรกเริ่มเขาคิดใช้พลังเพื่อลดแรงปะทะของมู่ซ่วนชิง ทว่าตนเองกลับต้องประหลาดใจเมื่อสามารถรวบรวมพลังปณิธานกระบี่ได้ในจังหวะที่เหมาะสม ยังผลให้พลังปณิธานคุณธรรมแห่งกระบี่ผนึกแน่นจนกลายเป็นเกราะกำบังกายา ทั้งยังเป็นเกราะกำบังกายาที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเสื้อเกราะปฐพีเสียอีก!

ตอนนี้พลังหมัดของมู่ซ่วนชิงไม่สามารถทำอันตรายเขาได้แล้ว ฉะนั้นเขาจึงถอยฉากออกไป!

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version