Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 723


บทที่ 723 ความพินาศ! (ต้น)

ข้างหลังเยี่ยฉวนปรากฏร่างของคนผู้หนึ่งและเป็นร่างวิญญาณ ที่แท้คนผู้นั้นคือตู๋กูเหลียน

กลลวง!

ชายหนุ่มรู้โดยฉับพลันว่าตนตกอยู่ในกับดักกลลวงเสียแล้ว!

เขามิได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด ขณะเดียวกันหมุนตัวหันขวับทันที

พลันต่อมาปรากฏยอดฝีมือนับสิบกรูกันเข้ามาล้อมเยี่ยฉวนไว้

ทั้งหมดเป็นมีฝีมือขั้นพลังสูงสุด!

เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้เป็นตระกูลตู๋กูส่งมา

ผู้นำที่อยู่เบื้องหน้าหาใช่ใครอื่นเป็นตู๋กูเฝิงนั่นเอง

ชายชรามองคนตรงข้ามด้วยสายตาแน่วนิ่ง “น่าแปลกใจที่เป็นเจ้าจริงๆ”

ชายหนุ่มเหยียดมุมปาก “แปลกใจงั้นหรือ?”

ตู๋กูเฝิงกล่าวน้ำเสียงเย็นชา “เยี่ยฉวน ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะกล้าโผล่มาที่ตระกูลตู๋กูแบบนี้ เจ้ามันใจกล้าบ้าบิ่นเกินไป”

เยี่ยฉวนยิ้ม “พวกเจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าข้าจะมาคนเดียว?”

ได้ยินเช่นนั้นชายชราหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด “มีใครมากับเจ้า?”

คนตรงข้ามยิ้มกว้างขึ้น “เดาสิ!”

ชายชราตู๋กูเฝิงกำลังทำท่าขยับจะตอบ พลันตู๋กูเหลียนซึ่งยืนอยู่อีกด้านพูดอย่างเข่นเขี้ยวทำนองเย้ยหยัน “อย่าเสียเวลาพูดเลย ฆ่ามัน!”

พลันนั้นเองเยี่ยฉวนซึ่งอยู่ตรงกันข้ามพอดี ชายหนุ่มกระแทกฝ่าเท้าลงบนพื้นอย่างแรง ทันใดนั้นพลังรุนแรงชนิดหนึ่งแผ่กระจายวูบออกมาจากร่างกาย จากนั้นหอโถงอันโอ่อ่าระเบิดแหลกละเอียดในฉับพลัน

กายาทองคำไร้เทียมทานและเกราะเทพแห่งความมืด!

ในยามนี้ที่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่กล้าแกร่งมากมาย เขาจึงไม่มีทางเลือกจำต้องเปิดเผยไพ่ตายใบสำคัญ

ทันทีที่ตู๋กูเหลียนมองเห็นเครื่องแต่งกายศักดิ์สิทธิ์ที่เยี่ยฉวนกำลังสวมใส่อีกหน พลันสีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนแปลงเผือดวูบ “ระวัง!”

ฉับพลันนั้นลำแสงกระบี่สีทองเจิดจ้าพุ่งแทงเข้าที่ศีรษะยอดฝีมือเคราะห์ร้ายของตระกูลตู๋กูทันที

วินาทีสังหาร!

เขาต้องวินาทีสังหารตายทันที!

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ทำให้คนอื่นพากันสีหน้าเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง!

ด้วยต่างรู้สึกว่าสิ่งนี้ออกจะเป็นความสามารถที่เกินตัวอย่างยิ่ง!

ยอดฝีมือขั้นพลังสูงสุดต้องตายด้วยวินาทีสังหาร?

เวลานั้นชายหนุ่มเหลือบมองไปยังตู๋กูเฝิง ซึ่งเมื่อฝ่ายหลังรู้ตัวสีหน้าพลันเผือดวูบและทำท่าจะถอยหนี ทันใดนั้นร่างของเยี่ยฉวนหายไปจากสถานที่ฉับพลัน พลันต่อมาปรากฏแสงกระบี่พุ่งตรงเข้าเบื้องหน้าของชายชรา

หนึ่งกระบี่พิฆาตวิญญาณ

เป้าหมายของพลังปะทะนี้เพื่อกำจัดร่างวิญญาณ!

เมื่อเห็นพลังปะทะของเยี่ยฉวน ตู๋กูเฝิงถึงกับตกตะลึง ชายชราสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวที่แฝงมากับพลังนั้น!

ถ้ายังอยู่ในสภาวะกายเนื้อชายชราจะไม่หวั่นเกรงเช่นนี้ ทว่าขณะนั้นเขาเหลือเพียงร่างวิญญาณแล้ว อีกทั้งความแข็งแกร่งก็ลดลงไปกว่าเดิม โดยเฉพาะพลังปะทะเบื้องหน้าซึ่งมีเป้าหมายต่อร่างวิญญาณ

เขาไม่มีเวลาครุ่นคิดอีกต่อไป ตู๋กูเฝิงหันหลังได้จึงวิ่งหนีไปอย่างเร็วจนสุดฝีเท้า ถึงกระนั้นก็ไม่เร็วไปกว่าคมกระบี่ของเยี่ยฉวน!

ฉ่า!

ท่ามกลางสายตาของทุกคนในที่นั้น กระบี่ของเยี่ยฉวนพุ่งเสือกเข้าที่จุดกึ่งกลางหว่างคิ้วของตู๋กูเฝิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเพียงไม่นานร่างวิญญาณเริ่มพร่าเลือนไปทีละน้อยๆ

บัดนี้สีหน้าของตู๋กูเฝิงซีดเผือด เขารับรู้ถึงจุดจบที่กำลังคืบเข้ามานั่นเอง!

อีกฟากหนึ่ง ตู๋กูเหลียนในสภาพร่างวิญญาณถอยกรูดล้มลุกคลุกคลานอย่างสิ้นท่าก่อนจะเลี่ยงหลบไปอยู่ข้างหลังกลุ่มยอดฝีมือใช้เป็นเกราะกำบัง

ด้วยเขาสัมผัสถึงอันตรายใหญ่หลวง!

ภายหลังจากกำจัดตู๋กูเฝิงเพียงหนึ่งกระบวนท่าแล้ว เยี่ยฉวนบิดมุมปากแสยะยิ้มแฝงความโหดเหี้ยมอันทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นถึงกับขนลุกขนชัน

เสียงตู๋กูเหลียนอ้อนวอนดังขึ้นจากฝั่งตรงกันข้าม “บรรพบุรุษช่วยลูกด้วยเถิด! ได้โปรดเถิด ท่านบรรพบุรุษ!”

จากนั้นร่างของเยี่ยฉวนที่อยู่ตรงข้ามหายวับไปทันที เสี้ยวพริบตาต่อมาลำแสงสีทองจากกระบี่พุ่งทะยานตัดข้ามลานโล่ง

ฉัวะ!

ในบริเวณเดียวกัน ศีรษะของยอดฝีมือคนของตระกูลตู๋กูอีกคนขาดกระเด็นปลิวไปไกล

สังหารหมู่!

หลังจากที่กายาทองคำไร้เทียมทานรวมทั้งเกราะเทพแห่งความมืดปรากฏออกมาเท่านั้น พลังความแกร่งกล้าของเยี่ยฉวนดูเหมือนจะพุ่งสู่ระดับที่น่าหวาดกลัวยิ่ง

โดยเฉพาะเกราะเทพแห่งความมืดซึ่งมีผลให้เขาเป็นผู้ไร้เทียมทาน ด้วยคนที่ขั้นพลังสูงสุดไม่อาจทำอันตรายได้แต่อย่างใด!

ไม่นานต่อมาเยี่ยฉวนเริ่มกระทำเข่นฆ่าผู้คนภายในคฤหาสน์ตระกูลตู๋กูอย่างดุเดือด แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีใครสามารถต้านทานหนึ่งกระบวนท่าแห่งพลังปะทะของเขาได้เลย

เดิมมีตู๋กูเฝิงคนหนึ่งที่อาจต้านทานได้ เคราะห์ร้ายนักที่เขามาบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะกับสัตว์อสูรตัวกระจิริดบนชั้นที่เก้าเสียก่อน

ภายในคฤหาสน์ตระกูลตู๋กูมีเสียงโหยหวนร้องระงมด้วยความเจ็บปวดดังลอดออกมา

และเป้าหมายหลักของชายหนุ่มก็คือตู๋กูเหลียน เขาจึงออกไล่ติดตามคนผู้นั้นอย่างไม่ยอมลดละ ด้วยไม่มีทางลืมสิ่งที่ชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าทำกับเยี่ยหลิงได้เลย

เมื่อรับรู้แล้วว่าเยี่ยฉวนมีเป้าหมายอยู่ที่ตนเอง พลันสีหน้าของตู๋กูเหลียนกลับซีดจนเขียวขณะที่พยายามถอยหนีสุดชีวิต ทั้งที่เบื้องหน้าตนเองยอดฝีมือของตระกูลตู๋กูล้มตายลงทีละคนๆ

ขณะนั้นตู๋กูเหลียนรู้สึกหวาดกลัวจนจับขั้วหัวใจ!

พวกเขาสู้อุตส่าห์ออกอุบายวางกับดักให้เยี่ยฉวนมาติดกับไว้อย่างดี อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าหนุ่มนั่นพอมันได้สวมเกราะเทพแห่งความมืดแล้ว พลังของมันกลายเป็นแกร่งกล้าผิดมนุษย์มนาเช่นนี้

กับดักไม่ได้ผลมิหนำซ้ำพวกตนยังถูกไล่เข่นฆ่าอย่างบ้าคลั่ง!

ตู๋กูเหลียนยามนี้มีแต่หนีกับหนี เพียงไม่นานเขาหนีมาจนมุมที่ศาลเจ้าบรรพบุรุษประจำตระกูลตู๋กู ขณะเดียวกันเยี่ยฉวนไล่ติดตามจนมาทันกันที่นั่นเอง

หลังจากสังหารยอดฝีมือของตระกูลตู๋กูสิ้นไปแล้ว ชายหนุ่มจึงตวัดกระบี่ฟาดฉับลงไปที่ศาลเจ้าบรรพบุรุษของตระกูลตู๋กูอย่างรุนแรง ทันทีที่คมกระบี่ฟาดลงไปจวนเจียนจะถึงส่วนยอดศาลเจ้าบรรพบุรุษแห่งนั้น พลังประหลาดชนิดหนึ่งแผ่วาบพลันกระจายล้อมรอบกายคน

ขณะต่อมานั้นเอง……

ตูม!

กระบี่พลังชี่ของเยี่ยฉวนระเบิดออกเป็นเสี่ยงโดยฉับพลัน

เมื่อเห็นดังนั้น ชายวัยกลางคนตู๋กูเหลียนเงยหน้าขึ้นทันทีพลันมองเข้าไปภายในศาลเจ้าบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เยี่ยฉวนขณะอยู่ไม่ห่างออกไปเท่าใดรีบหมุนตัวกลับและทะยานออกไป ด้วยความที่ว่องไวเป็นทุนเดิมชั่วพริบตาเดียวร่างของเขาได้หายลับไปในขอบฟ้าไกลโพ้น

ในขณะที่เยี่ยฉวนลับหายไปจากสายตา บังเกิดเงาสีขาวกระจายฟุ้งดุจภาพนิมิตล่องลอยออกมาจากบริเวณศาลเจ้าบรรพบุรุษ ซึ่งการปรากฏของเงาสีขาวนั้นเองส่งให้พื้นที่บริเวณโดยรอบเกิดการสั่นไหวสะเทือนเลื่อนลั่น

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version