Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 938


บทที่ 938 : เมื่อใดที่นางเจ็บ เมื่อนั้นหมายความว่าข้าตายไปแล้ว! (ต้น)

ทันใดนั้นคุณหนูใหญ่และเหล่ายอดฝีมือผู้ติดตามของเผ่าถังหายวับลับกายไปทั้งหมด

เมื่อเห็นเช่นนั้น อู่เวิ่นและเยว่อู่เฉินต่างถอนใจด้วยความโล่งอก

ถ้าคุณหนูใหญ่ไม่ตัดสินใจถอยกลับ ผลลัพธ์ที่ได้จะเกิดความสูญเสียใหญ่หลวงด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ไม่ว่าจะเป็นสถาบันฝึกยุทธ์หรือสำนักกระบี่ ต่างไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น

ในมุมลับ

สายตาคู่หนึ่งมองตามหลังคุณหนูใหญ่ที่กำลังจากไป เยี่ยฉวนรำพึงออกมากับตัวเองแผ่วเบา “ผู้หญิงอะไรร้ายกาจนัก!”

แท้จริงแล้วคำพูดทิ้งท้ายของนางเป็นการหว่านคำพูด……โดยหวังให้เกิดความร้าวฉานระหว่างตัวเขากับสถาบันฝึกยุทธ์ รวมทั้งสำนักกระบี่!

คงไม่ต้องบอกว่าตอนนี้ สำนักกระบี่กับสถาบันฝึกยุทธ์ต่างตั้งป้อมกับเขาแล้วอย่างแน่นอน!

หลังจากนิ่งงันด้วยครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ เยี่ยฉวนละออกจากสถานที่นั้นไป

นางอยากจะจัดฉากเพื่อลวงเขา……งั้นหรือ?

ไม่มีทาง!

น่านฟ้าเหนือสำนักกระบี่ เยว่อู่เฉินชำเลืองมองอู่เวิ่น จากนั้นเอ่ยขึ้นว่า “พี่อู่ สำนักกระบี่กับสถาบันฝึกยุทธ์ของเจ้าจะทำอย่างไร……”

อู่เวิ่นส่ายหน้า “เรื่องนั้นเป็นอดีตไปแล้ว! ตอนนี้เจ้ามารับหน้าที่เจ้าสำนักกระบี่ ข้าหวังว่าจะทิ้งความคับข้องใจที่มีมาไว้แต่หนหลัง แล้วร่วมเผชิญหน้ากับปัญหานี้ไปด้วยกัน!”

เขารู้ดีว่าทั้งสำนักกระบี่และสถาบันฝึกยุทธ์ต่างสูญเสียไพ่ตายที่สำคัญไปเป็นอันมาก ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่ร่วมมือกัน สักวันนครอานุภาพคงถูกคนนอกเข้ามาครอบงำ!

เยว่อู่เฉินเห็นด้วยเช่นนั้น “พี่อู่ วางใจได้ นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปสำนักกระบี่เราจะร่วมเป็นร่วมตายกับสถาบันฝึกยุทธ์!”

พวกเขาตกลงที่จะร่วมเป็นร่วมตายกัน!

ทั้งอู่เวิ่นและเยว่อู่เฉิน พวกเขาต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าสำนักกระบี่กับสถาบันฝึกยุทธ์ต้องร่วมด้วยช่วยกันในหลายสิ่ง ถ้าฝ่ายใดพังพินาศ อีกฝ่ายจะพบจุดจบที่เลวร้ายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า!

ถ้าทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน กองกำลังใดที่ปรารถนาจะทำลายจะใช้ความพยายามอย่างสูงทีเดียว!

ตอนนั้น เสียงเยว่อู่เฉินพูดเบาๆ ว่า “เรื่องที่คุณหนูใหญ่พูดก่อนที่นางจะจากไป…”

“นางพยายามพูดเพื่อหวังให้เกิดความเข้าใจผิดเท่านั้น!”

อู่เวิ่นกล่าวเสียงเรียบ “สตรีคนนั้นต้องการให้เราพุ่งเป้าไปที่เยี่ยฉวน หรือไม่ก็นางอาจไม่อยากให้เยี่ยฉวนมาเข้ากับฝ่ายเรา!”

เยี่ยฉวน!

สีหน้าของเยว่อู่เฉินบอกความรู้สึกลึกล้ำภายใน!

ความจริงแล้วถ้าสามารถย้อนกลับไปได้ เขายังเลือกที่จะยับยั้งหมู่เฟิงเฉินและหลี่เสวียนเฟิงเหมือนเดิม! แต่ถึงอย่างนั้นตอนนั้นก็รู้สึกกังวลอยู่เช่นกัน

เรื่องแรก ถ้ายับยั้งหมู่เฟิงเฉินกับหลี่เสวียนเฟิง……บางทีอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในสำนักกระบี่ได้ เพราะทั้งหมู่เฟิงเฉินกับหลี่เสวียนเฟิงดูแลสำนักกระบี่มาเป็นเวลานาน กล่าวได้ว่าเป็นคนที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในสำนักกระบี่! ยิ่งกว่านั้น เขาเองก็ยอมรับในบทบาทของหมู่เฟิงเฉินกับหลี่เสวียนเฟิงในเวลานั้น!

เยี่ยฉวนมีสุดยอดสมบัติล้ำค่า ถ้าเขาอยู่ที่สำนักกระบี่……คงไม่เกิดผลดีแน่!

อย่างไรก็ตาม เยว่อู่เฉินนึกไม่ถึงว่า หลังจากขับไล่ไสส่งเยี่ยฉวนออกไปแล้ว กลายเป็นว่าหมู่เฟิงเฉินกับหลี่เสวียนเฟิงต้องการสังหารชายหนุ่มคนนั้นเสีย รวมถึงการฉกชิงสมบัติล้ำค่านั่น……ยังเป็นการกระทำที่โง่เง่ามากอีกด้วย

เขาไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้!

กว่าจะทันรู้ว่าพวกนั้นทำอะไรลงไป ทุกอย่างก็จบลงแล้ว!

จู่ๆ เสียงอู่เวิ่นเอ่ยขึ้นทำนองตั้งคำถามว่า “พวกเราคงเจรจาอะไรกับเยี่ยฉวนไม่ได้แล้ว!”

เยว่อู่เฉินหันไปมองผู้พูด “พี่อู่ คนที่ยินดีกับเรื่องนี้ที่สุดเห็นจะเป็นคุณหนูใหญ่นั่นแหละ!”

อู่เวิ่นส่ายหน้า “เราไม่มีทางเลือก เยี่ยฉวนเหมือนกับวังวน ถ้าเขายังอยู่ในนครอานุภาพ……คงไม่แคล้วมีปัญหาตามมา ตราบใดที่คนคนนั้นอยู่ที่นี่ ไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะตามราวีสถาบันฝึกยุทธ์กับสำนักกระบี่ไม่มีวันเลิกรา! ถ้าเจ้าหนุ่มนั่นออกไปเสีย……เจ้าพวกนั้นอาจยังลังเลถึงความคุ้มค่าหากพุ่งเป้ามาที่เราก่อนลงมือ”

อีกฝ่ายกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เวลานี้เขามีน้องสาวและสหายหลายคนอยู่ที่สถาบันฝึกยุทธ์ คนพวกนี้จะ…”

พูดถึงตอนนี้ เขาเองยังตกใจ

วิจารณญาณ!

ภายหลังจากที่เข้ามาควบคุมสำนักกระบี่ เขาพบว่าวิจารณญาณของตนได้เปลี่ยนไป!

เขาเคยชื่นชมเยี่ยฉวนมาก ทั้งไม่เคยปิดบังความรู้สึกที่มีต่อคนผู้นั้น!

อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้ามารับหน้าที่ในสำนักกระบี่ เขาก็ประจักษ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเยี่ยฉวนกับสำนักกระบี่ โดยจิตใต้สำนึกแล้วจะต้องเลือกเข้าข้างสำนักกระบี่ ถึงแม้ว่าความรู้สึกลึกๆ ในใจจะอดสู่ต่อสำนักกระบี่ก็ตาม!

อย่างเช่น เขาอยากให้เยี่ยฉวน กลุ่มสหาย หรือแม้แต่น้องสาวของเขาไปจากนครอานุภาพเสีย!

ถึงจะเป็นความคิดชั่วแล่น ทว่าเขาคิดก็เช่นนั้นจริงๆ!

จากนั้นเยว่อู่เฉินหันหน้าไปยังทิศที่ตั้งสุสานกระบี่ของสำนักกระบี่นัยน์ตาฉายแววลึกล้ำซับซ้อน

เมื่อก่อนเขาเป็นยอดฝีมือที่มีพรสวรรค์ที่สุดของสำนักกระบี่ ถึงกระนั้นท่านอดีตเจ้าสำนักผู้ที่เป็นอาจารย์กลับแต่งตั้งหมู่เฟิงเฉินเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก

เขาไม่เคยเข้าใจว่าเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น!

มีแต่ความรู้สึกชิงชังอาจารย์ของตนเอง!

เมื่อถึงตอนนี้แล้วเท่านั้นถึงเข้าใจทั้งหมด

ความจริงแล้ว การที่อาจารย์ไม่แต่งตั้งตนให้เป็นเจ้าสำนักคนต่อไปก็ทำเพื่อตัวของเขาเอง! ถ้ารับหน้าที่เจ้าสำนักกระบี่ ในชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสบรรลุขั้นมหาเซียนกระบี่ชั้นยอดเป็นแน่!

ความเป็นเจ้าสำนัก การจะทำอะไรต้องระมัดระวังในทุกสิ่ง……ซึ่งบางครั้งมันมากเกินไป จนทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ

การที่มีวิจารณญาณเช่นนี้ ย่อมส่งผลต่อเต๋าแห่งกระบี่อย่างแน่นอน!

ครู่ต่อมาอู่เวิ่นพูดขึ้นมาว่า “ข้าจะลองคุยกับเขาดู”

เสียงพูดทำให้เยว่อู่เฉินออกจากอาการเหม่อลอยและหันไปมองอีกฝ่าย “คิดว่าเขาจะให้ความร่วมมือกับท่าน……งั้นหรือ?”

อู่เวิ่นตอบกลับเสียงอ่อนเบา “แน่นอนว่าต้องร่วมมือแน่! เจ้าหนุ่มนั่นเป็นคนที่รักพวกพ้องและน้องสาวมาก เพื่อคนพวกนี้เขาจะให้ความร่วมมือกับเรา! อีกอย่างพี่เยว่ นับแต่นี้ไปสำนักกระบี่ของเจ้ากับสถาบันฝึกยุทธ์ของข้า พวกเราทั้งสองฝ่ายต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้ตลอดเวลา เผื่อกรณีที่สตรีผู้นั้นย้อนกลับมาจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว!”

เยว่อู่เฉินผงกศีรษะ “ถูกต้อง ข้าจะเรียกศิษย์สำนักกระบี่ที่ยังอยู่ข้างนอกกลับเข้าสำนักให้หมด!”

ผู้ฝึกกระบี่บางส่วนของสำนักกระบี่เดินทางไปฝึกฝนอยู่ภายนอกสำนัก ในกระบวนคนเหล่านั้นมียอดฝีมือพลังขั้นไขว่คว้าเต๋าหลายคน เพียงแต่คนพวกนี้ออกจากสำนักไปเป็นเวลานานหนักหนา บางคนถึงกับหายไปนานหลายร้อยปี จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีประการใด!

……ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน!

ต่อมาไม่นาน อู่เวิ่นและยอดฝีมือจากสถาบันฝึกยุทธ์ออกไปจนหมด สำนักกระบี่จึงกลับสู่ความสงบ ถึงกระนั้นในใจของผู้ฝึกกระบี่ทั้งหลายหาได้สงบไม่

ด้วยสภาพของสำนักกระบี่เละเทะไม่มีชิ้นดี!

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version