Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 952


บทที่ 952 : ชุมนุมเต๋าผู้รอบรู้! (ต้น)

วิ่ง!

เมื่อเสียงพูดของคนบนชั้นที่หกจบลง เยี่ยฉวนหอบเอาถังชิงหายวับไปกับตาอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่พวกเขาหายตัวไป พลันในบริเวณนั้นมีชายชราแปลกหน้าปรากฏตัวออกมา

ชายชราสวมชุดสีเขียวเข้ม อุ้งมือข้างซ้ายถือกระดองเต่ากระ มือขวามีเหรียญโบราณห้อยด้ายแดง สวมรองเท้าสานด้วยฟาง

ทันทีที่คนชราปรากฏตัว ด้านหลังของเขามีชายชราสวมชุดดำสนิทปรากฏตัวขึ้นอีกคน

คนที่สวมชุดดำเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “นักพรตเต๋าอาจารย์ลี่ พวกเขาหนีไปได้สินะ?”

นักพรตเต๋าลี่เขม้นสายตามองกวาดไปทั่วบริเวณก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “เขารู้ว่าพวกเรากำลังจะมา! คนผู้นี้ฝีมือไม่เลวเลย!”

ชายชราสวมชุดดำผงกศีรษะ “จริงอย่างที่ท่านว่า พวกเราได้ข้อมูลมาเช่นนี้”

อีกฝ่ายหรี่นัยน์ตาเล็กน้อย “ข้าคะเนว่าเขาต้องได้รับความช่วยเหลือจากยอดยุทธ์สักคนเป็นแน่!”

ยอดยุทธ์?

ชายชราสวมดำขมวดคิ้วขณะเอ่ยถาม “ยอดยุทธ์งั้นหรือ?”

นักพรตเต๋าลี่พยักหน้า “คนอายุเท่านี้ไม่มีทางล่วงรู้วิชาพยากรณ์ของข้าได้อย่างแน่นอน ถ้าให้อธิบายก็ต้องบอกว่ามีใครบางคนรู้เห็นแล้วบอกเขา!”

คนตรงข้ามเอ่ยถาม “เจ้าใช้วิชาพยากรณ์สืบหายอดยุทธ์ผู้นั้นได้ไหม?”

อาจารย์นักพรตเต๋าลี่มีท่าทีครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะบอกว่า “ต้องลองดู!”

สิ้นเสียงเขาขยับมือข้างขวาสั่นเบาๆ เหรียญโบราณห้อยด้ายแดงพลันทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว

เหรียญโบราณเหล่านั้นตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นดิน

อาจารย์นักพรตเต๋าลี่เพ่งมองไปที่เหรียญโบราณบนพื้นดิน ต่อมานิ้วมือข้างขวาเริ่มขยับเคลื่อนไหว พลันเหรียญโบราณห้อยด้ายแดงที่อยู่ตรงหน้ามีการเคลื่อนที่ไปมา ทันใดนั้น ช่องอากาศบังเกิดการสั่นสะเทือนครั้งแล้วครั้งเล่า ประกอบกับมีบางอย่างเกิดขึ้นตามมา!

ไกลออกไปหลายพันลี้

พลันเสียงของคนที่ชั้นหกดังขึ้นในหัวของเยี่ยฉวน “หยุด!”

ชายหนุ่มชะงักฝีเท้าหยุดกึก!

คนชั้นที่หกพูดว่า “ใครบางคนกำลังพยากรณ์หาที่อยู่ของเจ้า!”

ชายหนุ่มย้อนถามเสียงเร็ว “ข้าจะทำอย่างไรดีขอรับ?”

อีกฝ่ายบอกให้ว่า “หลบเข้าไปในหอคอย!”

คนฟังถามอีก “ทำอย่างนั้นพวกเขาจะไม่พบที่อยู่ของข้างั้นหรือ?”

เสียงตอบบอกง่ายๆ “ไม่เจอ ถ้าคนผู้นั้นสามารถอนุมานเข้าไปถึงหอคอยต่ำช้านี่ได้ พวกมันจะมีชีวิตอยู่ในจักรวาลนี่งั้นหรือ?”

เยี่ยฉวนยิ้มแหย ก่อนจะรีบมุดเข้าไปในหอคอยอย่างเร่งด่วน

ในขณะที่เยี่ยฉวนเข้าสู่หอคอยแห่งเรือนจำ ภายในหุบเขาไกลออกไปนับพันลี้ หัวคิ้วของนักพรตเต๋าลี่ขมวดกดลึกลงไปอีก

ชายชราสวมดำสังเกตเห็นจึงรีบถามออกไป “พบไหม?”

นักพรตเต๋าลี่หันไปยังเส้นขอบฟ้าพลางนิ่วหน้าเขม้นมองอย่างข้องใจ “แปลก! แปลกจริงๆ! เมื่อครู่ ข้ายังค้นพบร่องรอยลมหายใจของเขาอยู่เลย ทว่าจู่ๆ กลับหายไปเสียราวกับระเหยเป็นอากาศธาตุไปแล้ว!”

คนฟังถึงกับผงะก่อนถามเสียงเครียด “เกิดขึ้นได้อย่างไร?”

อีกฝ่ายก้มลงมองเหรียญโบราณบนพื้นอย่างพิจารณา ขณะที่เหรียญเหล่านั้นหยุดนิ่งอยู่กับที่แล้ว

เสียงนักพรตเต๋าลี่เอ่ยเบาๆ “มีเพียงสองคนที่สามารถอธิบายได้ คนหนึ่งตายไปแล้วและดวงวิญญาณหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ส่วนอีกคนหนึ่งใช้วิธีการอะไรบางอย่างหลบซ่อนตัวแล้วออกไปจากโลกนี้แล้ว!”

ชายชรากล่าวออกมาอย่างเคร่งเครียด “ถ้าเช่นนั้นก็อาจเป็นคนที่สอง!”

อีกฝ่ายพยักหน้า “เจ้านั่นไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน”

จากนั้นคนพูดมองไปยังขอบฟ้าแสนไกลอีกคราพลางกล่าวเสียงแผ่ว “ได้ ถ้าเขาโผล่หัวออกมาเมื่อไร ข้าจะตามหาให้เจอทันที!”

คนชุดดำบอกกับเขาว่า “นักพรตเต๋าลี่ ระยะนี้เจ้าคอยอยู่ใกล้ข้าไว้จะดีกว่า เยี่ยฉวนมีพลังแกร่งกล้าโดยเฉพาะเชี่ยวชาญการลอบสังหาร แม้แต่คนขั้นไขว่คว้าเต๋ายังหนีไม่พ้นจากการลอบสังหารได้เลย!”

นักพรตเต๋าเหยียดมุมปากยิ้ม “เขาจะมาสังหารข้างั้นหรือ?”

ขณะที่อีกฝ่ายกำลังจะตอบคำ ทันใดนั้น ม่านตาของนักพรตเต๋าลี่บีบแคบลงอย่างฉับพลัน เขาหมุนตัวพร้อมกับเผยฝ่ามือผลักออก จากนั้นเหรียญโบราณห้อยด้ายแดงเหรียญหนึ่ง แนบติดอยู่ที่บริเวณกึ่งกลางหน้าผากของเขาทันที!

ครู่ถัดมา กระบี่เล่มหนึ่งจ่ออยู่ที่กึ่งกลางหว่างคิ้วเช่นกัน ทว่ากระบี่ถูกเหรียญโบราณขัดขวางไว้ทันที!

ชายชราสวมชุดดำเป็นผู้ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองว่องไว จึงตวัดฝ่ามือผลักออกไปตรงๆ

เปรี้ยง!

ฉับพลันต่อมา ช่องอากาศเบื้องหน้าคนทั้งสองสั่นสะท้านอย่างแรง ในเวลาเดียวกัน ปรากฏภาพเงาร่างคนที่ผงะหงายหลังถอยห่างไปอย่างต่อเนื่อง

ที่แท้เป็นเยี่ยฉวน!

คนสวมชุดดำขยับจะเข้าปะทะซ้ำอีกหน ในขณะที่นักพรตเต๋าลี่รีบออกปาก “นั่นคือร่างเงา!”

ว่าแล้วผู้พูดจัดการเผยฝ่ามือข้างขวา พร้อมกันนั้นใช้มือซ้ายวาดขยุกขยิกลงไป ก่อนจะผลักฝ่ามือข้างขวาออกไปข้างหน้า “ทำลาย!”

พลันต่อมาพื้นอากาศที่ว่างเปล่าตรงหน้ากลับกลายพร่าเลือน ทว่าเพียงครู่เดียวได้กลับคืนสู่สภาพปกติ

ซึ่งในตอนนั้นเยี่ยฉวนหายได้ไปอย่างไร้ร่องรอย

นักพรตเต๋าลี่รำพึงแผ่วเบากับตนเอง “วิชาคัมภีร์ซ่อนเร้น……น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!”

สีหน้าของคนสวมดำหมองคล้ำไปถนัด เขาไม่รู้ว่าบัดนี้เยี่ยฉวนลงมือจู่โจมนักพรตเต๋าลี่คนที่อยู่ต่อหน้าเบื้องหน้า จากนั้นเอ่ยกับนักพรตเต๋าลี่ว่า “อาจารย์นักพรตเต๋า เจ้าหามันเจอไหม?”

นักพรตเต๋าลี่ส่ายหน้า “ตอนนี้ข้าตามหาไม่ได้!”

ชายชราสวมชุดดำขมวดคิ้วพลางถามออกไปอย่างแปลกใจ “ทำไม?”

เสียงตอบอ่อนเบาของนักพรตเต๋าลี่ดังขึ้นว่า “เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะสังหาร ทว่าพลังชี่ของข้าถูกทำลายเสียเมื่อครู่นี้……มียอดยุทธ์อยู่เบื้องหลังเจ้าหนุ่มนั่นแน่นอน!”

พูดถึงตอนนี้ พลันสีหน้าแสดงความตื่นเต้นเล็กน้อย “ก็ดี ข้าจะเล่นกับเขาสักตั้ง! พวกเรากลับเข้าเมืองกันเถอะ ข้าต้องไปตั้งค่ายกลให้เสร็จ!”

หลังจากนั้น คนพูดหันกลับออกไป

ดังนั้นชายชราสวมดำตามกลับไปเช่นกัน

หลังจากที่คนทั้งสองออกไปไม่นาน เยี่ยฉวนปรากฏตัวขึ้นเงียบๆ ที่นั่น ชายหนุ่มมีสีหน้าคร่ำเครียดไปเล็กน้อย

อาจารย์นักพรตเต๋าคนนี้ดูท่าไม่โง่เลย!

เป็นอย่างที่คนชั้นที่หกบอก ทักษะพยากรณ์ของเขาทรงพลังเหลือรับ!

ณ ตอนนั้นข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของชายหนุ่มคือความสามารถในการซ่อนตัวในมุมมืด หากปราศจากข้อได้เปรียบส่วนนี้ สถานการณ์อาจย่ำแย่กว่านี้

พลันเสียงของคนชั้นที่หกพูดดังขึ้นว่า “เจ้าคนนั้นเผยอหน้ามาต่อกรกับข้างั้นหรือ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เยี่ยฉวนสีหน้าแช่มชื่นด้วยความยินดีขึ้นมาทันที และรีบพูดในใจว่า “ผู้อาวุโส คนผู้นั้นจะคู่ควรกับท่านได้อย่างไรขอรับ?”

เสียงมาจากชั้นหกบอกว่า “อย่ามาทำพูดดีให้ข้าหลวมตัวช่วยหน่อยเลย ข้าไม่สู้กับมันเพื่อเจ้าแน่ ไม่มีทางซะหรอก”

เยี่ยฉวนหุบปากเงียบ…

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version