Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 960


บทที่ 960 : คืนนี้อยากได้อีกหน! (ปลาย)

คนฟังพยักหน้า “ถ้านางไม่ได้มีไม้ตาย……อาจจะถูกสังหารได้ภายในหนึ่งกระบวนท่า ถึงกระนั้นข้ายังมีไม้ตาย แล้วนางจะไม่มีได้อย่างไร? ข้าพูดถูกไหม?”

หญิงสาวบิดมุมปากยกยิ้ม “เจ้านึกสงสารนางขึ้นมาสินะ!”

เยี่ยฉวนสั่นศีรษะ “ข้อแรก ข้ากับนางไม่เคยมีความแค้นต่อกัน พูดตามตรง ข้าทำผิดและควรขอโทษนางด้วยซ้ำไป ข้อสอง ไม่มั่นใจว่าจะสังหารนางได้ การต่อสู้อาจจะทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ แล้วจะเกิดประโยชน์อะไร? ไม่เลย ข้าไม่ได้ประโยชน์อันใดทั้งสิ้น! ข้อสาม ในเมื่อคนยังแข็งแกร่งปานนี้ แสดงว่ากองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง……คงหาใช่กองกำลังที่อ่อนด้อยแต่อย่างใด ถ้าสังหารนาง รังแต่จะหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเท่านั้น เห็นด้วยไหมเล่า?”

ถังชิงตอบเสียงพึมพำ “นางไม่ปล่อยเจ้าแน่!”

ชายหนุ่มเหยียดยิ้ม “นี่แม่นางถัง เรามาเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า ข้าสงสัยนักว่าเผ่าถังจะมาช่วยเจ้าเมื่อไรเท่านั้น”

ฝ่ายตรงข้ามย้อนถามเสียงเรียบ “เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

คู่สนทนายิ้มกว้าง “เรื่องนี้ขึ้นอยู่ที่ว่าเจ้ามีความสำคัญแค่ไหนต่างหาก”

หญิงสาวขยับเข้ามาทรุดตัวลงนั่งข้าง “ถ้าเจ้าอยากจะใช้ข้าเป็นเครื่องมือข่มขู่เผ่าถัง……คิดผิดถนัดแล้ว”

เยี่ยฉวนถามกลับ “ทำไม?”

ถังชิงตอบสุ้มเสียงจริงจัง “ผลประโยชน์ของเผ่าถังเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง”

คนฟังขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกเขาจะทอดทิ้งเจ้างั้นหรือ?”

หญิงสาวถามกลับพลางยิ้ม “เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก “อย่าเพิ่งมั่นใจ มาคอยดูกันว่าเจ้าจะมีความสำคัญต่อเผ่าหรือไม่”

ถังชิงมองเยี่ยฉวนนิ่ง

ขณะที่เยี่ยฉวนมิได้กล่าวอะไรอีกเช่นกัน เขาหันไปตั้งใจกลืนอัญมณีเพชรน้ำค้างเซียนต่อไป

เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้จวบจนกระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เวลานี้ร่างกายฟื้นคืนเกือบสมบูรณ์แล้ว ชายหนุ่มลุกขึ้นหันไปมองถังชิงที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันนัก ขณะทำท่าจะเอ่ยพูดกับนาง ทันใดนั้นเหนือศีรษะของบุคคลทั้งสองเกิดปริแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว พลันปรากฏฝ่ามือขนาดมหึมาโผล่ออกตรงรอยแตกของช่องอากาศ!

เยี่ยฉวนหรี่นัยน์ตาลงเล็กน้อย ก่อนวางนิ้วมือประกบกันและทำท่ากวักเข้าหาตัว

หึ่มมม!

คลื่นพลังลำแสงกระบี่พุ่งขึ้นสูงสู่ท้องฟ้า ก่อนจะสับลงไปที่ฝ่ามือยักษ์อย่างจัง

ฉัวะ!

พลันมือยักษ์ขาดแยกออกเป็นสองส่วน ต่อมาวัตถุบางอย่างถลันลงมาจากกลางอากาศ

เยี่ยฉวนขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับตวัดนิ้วมือที่ประกบกันลากเป็นเส้นยาวออกไปทันที

ฉัวะ!

ลำแสงเปล่งคลื่นพลังฟาดตัดเป็นแนวเฉียงเข้าที่ศีรษะของชายหนุ่มพอดี!

ตูม!

แรงปะทะบังเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว พลันร่างของใครบางคนทะยานถอยห่างออกทางด้านซ้ายไปไกลนับหลายสิบจั้ง

คนหนุ่มอายุยี่สิบเศษรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขานั่นเอง!

คนหนุ่มแปลกหน้าเขม้นมองตรงมายังเยี่ยฉวน พลางขยับปากจะพูดบางอย่าง ทว่ากระบี่บินพุ่งตรงเข้ามาทางด้านหน้า!

สีหน้าของคนหนุ่มแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พร้อมเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วหลบหลีกไปทางด้านข้าง……ทำให้หลบคมกระบี่บินได้ทันท่วงที ทว่าทางด้านหลังฝ่ายนั้นปรากฏกระบี่บินโผล่ขึ้นมาอีกเล่ม

สัมผัสอันว่องไว ทำให้รู้ว่ามีกระบี่บินตรงเข้ามา คนหนุ่มแสดงสีหน้าตกใจเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับรีบเบี่ยงกายหลบวูบ ทว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวช้าไปเพียงลมหายใจเดียวเท่านั้น……จนกระบี่เฉือนตัดแขนข้างขวาของเขาหายไปทันที!

ทางฝั่งขวาทันทีที่คนหนุ่มชะงักหยุด เบื้องหน้าปรากฏกระบี่พุ่งวาบตรงเข้ามา

จอประสาทตาของอีกฝ่ายหรี่แคบ ขณะที่รับรู้ได้ทันทีว่าตนเองถึงฆาตแล้วเป็นแน่!

อย่างไรก็ตาม กระบี่ที่พุ่งเข้ามาอีกเพียงสองสามกระเบียดเท่านั้นจะถึงกลางแสกหน้าอีกฝ่ายแล้ว ทว่ามันกลับหยุดชะงักอยู่กับที่!

ที่แท้เป็นชายชราอีกคนโผล่เข้ามาขวางหน้าคนหนุ่ม และเป็นเขานั่นเองที่ฉวยจับกระบี่บินไว้อย่างแน่นเหนียว!

เยี่ยฉวนเพ่งมองตรงไปที่ชายชรา อีกฝ่ายสวมผ้าคลุมที่มีการประดับประดาอย่างหรูหรา เขาซ่อนลมหายใจเสียสนิท จนชายหนุ่มไม่อาจระบุชัดถึงพลังแกร่งกล้าที่แท้จริงของคนตรงหน้า

ชายชราชำเลืองสายตามองคนหนุ่ม “เจ้าชอบทำอะไรเกินตัว ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่า……ยังห่างชั้นกับคนอื่นเพียงใด?”

สีหน้าของคนหนุ่มแสดงความละอายใจอย่างเด่นชัด และไม่กล้าโต้ตอบแต่อย่างใด

อีกฝ่ายเบือนหน้ามาทางเยี่ยฉวนที่ยืนอยู่ไม่ห่างไปนัก “เจ้าเองสินะ……ที่ทำให้ทั้งชุมนุมผู้คุมกฎกับสำนักกระบี่ต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากันยกใหญ่ หัวคิดฉลาดใช้ได้นี่!”

ชายหนุ่มหันไปถามถังชิงเบาๆ “คนพวกนี้มาจากเผ่าถังงั้นหรือ?”

คนถูกถามสั่นศีรษะปฏิเสธ

เยี่ยฉวนถามอีก “ชุมนุมผู้คุมกฎสินะ?”

ถังชิงปฏิเสธด้วยการส่ายหน้าอีก

ในขณะที่เยี่ยฉวนกำลังจะอ้าปากถามต่อ ถังชิงสวนตอบทันควัน “คนตระกูลฉิน!”

ตระกูลฉิน……งั้นหรือ?

เยี่ยฉวนทำหน้าเหลออย่างฉงนฉงาย “ข้าจำไม่ได้ว่าเคยทำให้ตระกูลฉินไม่พอใจตอนไหน!”

หญิงสาวตอบแผ่วเบา “ตระกูลฉินเคยเป็นคู่หมายกับเผ่าถัง”

คนฟังถึงกับตะลึงไปเล็กน้อย พลันหันไปยังชายชราและคนหนุ่มฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ไม่ไกล “พวกเจ้ามาช่วยนางสินะ?”

ชายชราตอบเสียงเข้ม “เยี่ยฉวน พูดกับเจ้าไปก็เสียเวลาเปล่า เอาเป็นว่าพวกเราจะเอาตัวนางไปเดี๋ยวนี้!”

เยี่ยฉวนขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกเจ้าไม่ได้มาเพื่อช่วยนางนี่นา!”

ชายหนุ่มหันไปมองถังชิง ฝ่ายหลังเอ่ยว่า “ข้าถูกเจ้าจับเป็นตัวประกัน จะให้คนอื่นเชื่อได้อย่างไรว่าเราไม่ได้มีอะไรกัน?”

คำตอบที่ได้ยิน ทำให้เยี่ยฉวนเริ่มเข้าใจ

ตระกูลฉินไม่ได้อยากช่วยถังชิง แต่จะกำจัดนาง!

ชายหนุ่มถามกลับเสียงเรียบ “เผ่าถังก็ปล่อยให้พวกนี้มาฆ่าเจ้า งั้นหรือ?”

สตรีเหยียดมุมปากแค่นยิ้ม “นับตั้งแต่วันที่เรามาอยู่ที่นี่ ย่อมเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าพวกเขาทิ้งข้าแล้ว……เข้าใจหรือยัง?”

ชายหนุ่มเงียบงันไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะมองไปที่ชายชรา “นายท่าน แม่นางถังและข้าเราต่างบริสุทธิ์ใจ เชื่อเถอะว่า พวกเราไม่ได้แตะเนื้อต้องตัว……หรือแม้แต่ปลายเล็บยังไม่เคยสัมผัส”

“ไอ้เยี่ยฉวน!”

ทันใดนั้นเสียงคนหนุ่มตะโกนทะลุกลางปล้องออกมาดังลั่น “เจ้ารนหาที่ตายเอง”

เยี่ยฉวนไม่ได้สนใจฝ่ายนั้น ทว่าหันไปพูดกับถังชิงว่า “พวกเขาไม่เชื่อคำพูดของข้า ให้ตายสิ! เกียรติยศชื่อเสียงของข้าป่นปี้ก็เพราะเจ้าแท้ๆ!”

ถังชิงตาเหลือกและขยับปากจะโต้กลับ พลันคนหนุ่มตรงหน้าหันขวับมาจ้องมองด้วยสายตาชิงชัง “นังแพศยา ทำไมไม่รีบตายๆ ไปเสีย? ชื่อเสียงของตระกูลฉินพินาศหมดก็เพราะเจ้า แม่ยังเป็นหญิงเร่ร่อนรับใช้เผ่าถัง……ตอนนี้เจ้าก็ไม่ต่างกัน”

หญิงสาวหันไปทางเยี่ยฉวน ด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ “เมื่อคืนนี้เจ้าดีกับข้าอย่างเหลือเชื่อจนติดใจไม่หาย คืนนี้ข้าอยากได้อีกหน!”

เยี่ยฉวนเงียบเสียง

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version