Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 20

ตอนที่ 20 ประลองกำลัง

หวังทงสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ แล้วนั่งลง องครักษ์เสื้อแพรแปลกหน้าเหล่านี้ที่มาอย่างกะทันหันได้เห็นหวังทงที่สามารถนิ่งสงบได้แม้ว่าอายุจะน้อยเพียงเท่านี้ก็รู้สึกตกใจอยู่บ้าง หากอาการลนลานของคนอื่นๆ ล้วนตกอยู่ในสายตาของพวกเขา ทุกคนจึงรู้สึกได้ใจ

นายกองธงเล็กอ้วนเตี้ยผู้นั้นพอได้กินหมูสามชั้นน้ำแดงเข้าไปคำแรก ก็ตกตะลึงไป กล่าววาจาหยาบขึ้นว่า

“อร่อยจริงๆ นะนี่”

คนอื่นก็รู้สึกไม่แตกต่างกัน กินกันอย่างมูมมามเสียงดัง ในช่วงเวลานี้มีลูกค้ากำลังเดินเข้ามา แต่พอแหวกผ้าม่านออก โผล่หน้าเข้ามามองตรงประตูเห็นองครักษ์เสื้อแพรท่าทางร้ายกาจหลายท่านนั่งอยู่ ทุกคนที่เข้ามาก็จะถูกองครักษ์เสื้อแพรเหล่านี้ถลึงตาไล่ไป

การกระทำเช่นนี้ ลูกค้าคนไหนจะกล้าเข้ามา มีแต่หดหัวรีบหลบไป ผลคือหลังจากเจ็ดคนนี้มาแล้ว ก็ไม่มีลูกค้าเข้าร้านอีกเลย

แม้แต่คนปัญญาอ่อนยังมองออกว่าอีกฝ่ายมาหาเรื่อง จางซื่อเฉียงส่งสายตาให้หวังทง แต่หวังทงกลับนิ่งเฉย สถานการณ์เช่นนี้ ขอแคอีกฝ่ายกินเสร็จแล้วออกไปก็พอ หากไล่อีกฝ่ายออกไปตอนนี้ก็ดูจะไร้เหตุผล แต่ละคนในร้านล้วนกลัวจนหัวหด ถ้าจะต้องลงไม้ลงมือกันก็คงสู้อีกฝ่ายไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไงอย่างไรดี

หากการหลบเลี่ยงปัญหาไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีปัญหา องครักษ์เสื้อแพรแปลกหน้าเหล่านั้นกินอย่างออกรสออกชาติ พอเห็นว่าใกล้จะกินเสร็จ ผู้คนในหอเลิศรสก็พากันถอนหายใจ แต่กลับได้ยินองครักษ์เสื้อแพรอ้วนเตี้ยผู้นั้นร้องเสียงดังขึ้นและตบโต๊ะอย่างแรงในทันที โมโหตวาดเสียงดังว่า

“มารดาเจ้าสิ อาหารนี่ทำให้คนกินหรือนี่ ทำไมมีหนู!”

พ่อครัวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ก็อ้าปากแล้วกลับหุบลง คนเหล่านี้ล่วงเกินไม่ได้ คนเต็มร้านล้วนเห็นกับตาว่าองครักษ์เสื้อแพรอ้วนเตี้ยผู้นั้นหลังจากกินเสร็จก็ล้วงเอาหนูตายออกมาจากเสื้อตัวหนึ่ง โยนเข้าไปในชามแสร้งว่าเป็นเนื้อ

เห็นได้ชัดว่าเตรียมตัวจะมาหาเรื่องกันชัดๆ องครักษ์เสื้อแพรอ้วนเตี้ยผู้นี้ส่งเสียงตะโกนดัง คนอื่นๆ ที่เหลือก็ตบโต๊ะด่าเสียงดังขึ้น องครักษ์เสื้อแพรอ้วนเตี้ยผู้นั้นตะโกนเสียงดังขึ้นอีก

“เกือบจะกินหนูนี่ลงท้องไปแล้ว ข้าไม่รู้ว่ากินลงไปเท่าไรแล้ว ถ้ามีพิษเจ็บป่วยขึ้นมาจะทำยังไง ร้านโกโรโกโสของเจ้าต้องชดใช้!!”

“กินเนื้ออยู่ดีๆ ก็เจอหนู เจ้าเปิดร้านผิดกฎหมายหรืออย่างไร จ่ายมา 1,000 ตำลึง ไม่งั้นวันนี้พวกข้าจะพังร้านของเจ้าให้พินาศ!!”

เสียงตะโกนด่าทอดังขึ้นต่อเนื่อง คนในร้านไม่เห็นคนนอกร้าน แต่ได้ยินเสียงคนด้านนอกเซ็งแซ่ดังขึ้น ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าข้างนอกคงจะมีคนว่างงานมามุงดูวุ่นวายกันมากมาย

หากยังวุ่นวายอยู่เช่นนี้ ชื่อเสียงของร้านตนจะต้องพังพินาศแน่นอน จางซื่อเฉียงลุกขึ้นยืนพร้อมกับรอยยิ้มกล่าวว่า

“ทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกัน ไยต้องทำกันถึงขั้นนี้ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากัน…”

นายกองธงเล็กอ้วนเตี้ยผู้นั้นเหล่มองจางซื่อเสียงแวบหนึ่งก่อนจะด่าเสียงเย็นเยียบว่า

“ไอ้ขี้ขลาดตาขาว ที่นี่มีที่ให้ไอ้ขี้ขลาดอย่างเจ้าออกปากหรือ…”

นี่เป็นคำด่าที่หักหน้ากันอย่างชัดเจน จางซื่อเฉียงที่ข่มกลั้นจนใบหน้าแดงก่ำแต่ก็มิได้มีการเคลื่อนไหวอันใด เขาก็เป็นพวกขี้ขลาดตาขาวจนเคยชินมาหลายปีแล้วจริงๆ เห็นอีกฝ่ายดุร้ายหลายคน ก็ไม่กล้าทำอันใด

นายกองธงเล็กอ้วนเตี้ยในยามนี้แลดูบารมีน่าเกรงขาม เห็นจางซื่อเฉียงข่มกลั้นจนหน้าแดงก่ำแต่ก็ไม่กล้าออกมาเผชิญหน้า ในใจก็รู้สึกสะใจยิ่ง ในตอนนี้เอง ก็ได้ยินพวกที่มาด้วยกันข้างๆ ร้องขึ้นอย่างตกใจ

เสียงลมพุ่งมา มีคนกระโจนมาทางเขา นายกองธงเล็กอ้วนเตี้ยผู้นั้นยังคงมีสติ พลิกตัวออกหมัดต่อยออกไป

เสียง ‘พลั่ก’ ดังขึ้น หมัดนี้ต่อยตรงเป้าอย่างจัง แปดเก้าส่วนจากสิบส่วนต่อยลงบนจมูกของอีกฝ่ายคนงานในร้านชายหญิงต่างหวีดร้องกันเสียงหลง

เลือดไหลออกมาจากจมูกของหวังทงไม่หยุด น้ำตาก็ไหลออกมาด้วย ดูอเนจอนาถพอควร องครักษ์เสื้อแพรแปลกหน้าพวกนั้นพากันส่งเสียงด่าทอหยาบคายไม่หยุด

หากผู้ใดก็ไม่กล้าขยับ เพราะหวังทงที่ท่าทางอเนจอนาถนั้นกำลังถือมีดสั้นจ่ออยู่ที่คอของนายกองธงเล็กอ้วนเตี้ยที่อวดเบ่งบารมีผู้นั้นอยู่ หากขยับเกรงว่าชีวิตจะหาไม่

“เจ้าเด็กชั่วเล่นมีดรึ วางมีดลงเดี๋ยวนี้!”

นายกองธงเล็กอ้วนเตี้ยเกร็งคอกล่าวเสียงแข็ง หวังทงไม่ขยับมือ แต่กลับเขยิบเข้ามาอีกก้าว ตั้งแต่บิดาจากไป ในรองเท้าของหวังทงก็มีมีดสั้นคมกริบเหน็บไว้เล่มหนึ่ง

พอเห็นความหวังอันริบหรี่ดังฟางเส้นสุดท้ายที่จะขอประนีประนอมสะบั้นลง หวังทงก็เอาจริง ตัดสินใจลงมือทันที ฉวยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังด่าอยู่นั้นพุ่งเข้าประชิดอย่างรวดเร็ว

ดูท่าแล้วคนที่มาก่อนเรื่องเหล่านี้ไม่เคยคิดว่าเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมผู้นี้จะลงมือเด็ดขาด จึงมีปฏิกิริยาตอบกลับช้า รอจนมีดสั้นจ่อคอแล้วทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว

“พี่น้องท่านนี้ชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร สังกัดกองพันไหน ทำงานให้กับนายกองร้อยท่านใด?”

หวังทงไม่เช็ดเลือดสดๆ ที่ไหลออกทางจมูก แค่นเสียงเย็นถามขึ้น นายกองธงเล็กอ้วนเตี้ยผู้นั้นยังอยากจะเสียงแข็งต่อ แต่มีดที่คอก็เพิ่มแรงกดมากขึ้น กลั้นใจพูดเสียงกระชากว่า

“ข้าซุนต้าไห่ ประจำการอยู่ถนนหนิวหลัน”

“วันนี้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเช่นนี้ เราพี่น้องจะจบเรื่องนี้กันอย่างไร? จางซื่อเฉียง ปลดดาบประจำตัวของทุกคนเดี๋ยวนี้!”

หวังทงถามขึ้นเสียงเย็นเยียบ ตามด้วยคำสั่งเฉียบขาดไปยังจางซื่อเฉียงที่ยืนอึ้งอยู่ คนผู้นี้ขี้ขลาดไร้สามารถ ต้องเด็ดขาดหน่อยถึงจะพอใช้การได้บ้าง พอเห็นองครักษ์เสื้อแพรที่เหลือพากันไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน หวังทงก็กัดฟันกล่าวว่า

“ใครขยับ จะตัดคอของพี่ซุนนี่ซะ ข้าพูดจริงทำจริง ส่งอาวุธในตัวมาให้ข้าทั้งหมด”

ทุกคนในร้านตกใจจนพากันอึ้งไป ต่างก็ไม่กล้าขยับ ยอมให้จางซื่อเฉียงเข้ามาปลดดาบปักวสันต์ไป จางซื่อเฉียงยังตรวจที่เอวของพวกมันอย่างละเอียดตามคำสั่งของหวังทง เพื่อดูว่ามีอาวุธลับอะไรซ่อนอยู่หรือไม่

“ไอ้เด็กบัดซบ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”

ซุนต้าไห่ยังคิดดิ้นรนต่อสู้ ปากเพิ่งด่าจบก็ถูกหวังทงดึงผมกดลงบนโต๊ะอย่างแรง ตวาดเสียงดัง ทำให้แรงดิ้นรนลดลงทันที

“ให้คนของเจ้าไปคุกเข่าที่ประตูแล้วตะโกนว่ามีตาบอดหามีแววไม่ ถูกคนหลอกใช้มาหาเรื่องที่ร้านข้า อย่าขยับ เจ้ากล้ามาก่อเรื่อง ข้าก็กล้าเดิมพันกับเจ้าด้วยชีวิต หากตัดหัวเจ้าแล้ว ข้าจะไปมอบตัวที่สำนักองครักษ์เสื้อแพรเอง!”

หวังทงยังกล่าวขึ้นเสียงเย็นเยียบ วันนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ หากไม่ยุติลงด้วยดี เกรงว่าการขายนี้คงจบสิ้นกัน ความกล้าบ้าบิ่นที่อยู่ในตัวของหวังทงถูกนำออกมาใช้จนหมดสิ้น

ข้าจะเป็นเพื่อนเล่นกับเจ้าให้ถึงที่สุด!

ซุนต้าไห่ได้ยินดังนั้นก็ดิ้นรนเอาชีวิตรอด ส่งเสียงร้องขึ้นว่า

“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลย พี่น้องทั้งหลายอย่าได้สน…”

เสียงแข็งดังขึ้นได้เพียงครึ่งเดียว ก็ชะงักกึกทันใด มีดในมือหวังทงกรีดลงไปที่คอทำให้เลือดไหลออกมา ยังดีที่ไม่ลึกนัก ในที่สุดซุนต้าไห่ผู้นั้นก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายกล้าลงมือฆ่าจริงๆ

เงียบไปสักพัก ซุนต้าไห่ผู้นั้นก็ส่งเสียงขึ้นอีก หากครั้งนี้เสียงค่อยลงไปมาก

“พี่ท่านทั้งหลาย ซุนต้าไห่ดีต่อพวกท่าน…พวกเราวันนี้มาขายหน้าที่นี่…ช่วยพี่ชาย…”

องครักษ์เสื้อแพรตะโกนด่าทอหาเรื่องเสียงดังอยู่ข้างใน ผู้คนที่มุงรอชมอยู่ด้านนอกหอเลิศรสเหล่านี้แค่ได้ยินแต่มองไม่เห็น รู้แค่ว่ามีหนูอะไรพวกนั้น หลายคนกินไปแล้วก็พากันหน้าซีด

คิดถึงหมูสามชั้นน้ำแดงนั้น พลันคิดถึงหนู ทุกคนก็รู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียน มีบางพวกฮึดฮัดจะเอาเรื่อง คนที่อารมณ์ร้อนหน่อยก็ส่งเสียงขึ้น

“แม้ว่าจะเป็นร้านขุนนาง แต่ก็เอาเนื้อหนูมาขายให้พวกเราไม่ได้ เดี๋ยวพวกเราเข้าไปเอาเรื่องด้วยกันเถอะ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version