Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 24

ตอนที่ 24 พวกไร้ความกตัญญู

ได้ยินจางซื่อเฉียงกล่าวเช่นนั้น หวังทงก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้น นี่คือผู้กล้าที่เคยลงฟาดฟันในสนามรบ และวันนั้น หลี่เหวินหย่วนยังเป็นคนที่ด่าเจ้ากั๋วต้งเสียงดัง นิสัยใจคอคิดดูแล้วน่าจะเข้ากันได้ดี

วันที่ 17 เดือนสิบสอง บนถนนทักษิณมีร้านค้าสามร้านปิดกิจการเพื่อฉลองปีใหม่ บรรดาเถ้าแก่ได้ส่งของขวัญมาให้หวังทง มีทั้งของหวังทงและของนายกองร้อยเถียน

ตอนนี้บนถนนทั้งสาย นอกจากเถ้าแก่เซี่ยหอรุ่งเรืองผู้ร่วมอาชีพเดียวกันที่ออกจากฝืดเฝื่อนอยู่บ้าง ร้านค้าอื่นๆ ก็รู้สึกเป็นมิตรกับหอเลิศรสมาก เพราะร้านอาหารนี้นำพาผู้คนให้มาเยือน กิจการร้านค้าบนถนนทักษิณนี้ดีกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย ผู้คนสัญจรไปมาคึกคัก ทุกคนก็พลอยได้ประโยชน์ตามไปด้วย

ของขวัญปีใหม่รอช้าไม่ได้ หวังทงจึงรีบนำของไปมอบให้นายกองร้อยเถียน จวนนายกองร้อยเถียนหรงหาวเป็นจวนใหญ่ ตรุษจีนก็ย่อมยุ่งวุ่นวายกันมาก พอส่งมอบของเสร็จ กล่าวอวยพรสองสามประโยคก็รีบกลับมา

นี่เป็นข่าวลือเล็กน้อยที่ทำให้ผู้คนมองอย่างไม่เข้าใจ นายกองร้อยเถียนมีท่าทีดีกับหวังทงมากขึ้น หากไม่ใช่เรื่องจริงก็แล้วไป แต่หากเป็นเรื่องจริงล่ะ?

ตอนกลับไปเป็นช่วงบ่ายแล้ว คนบนถนนไม่มากนัก ที่เห็นก็ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ขันทีในวังและองครักษ์ในวังระดับล่าง คนเหล่านี้หวังทงรู้สึกคุ้นเคยไม่น้อย จึงพยักหน้าทักทายกัน

หากตอนที่เดินมาถึงหน้าร้านอาหาร ก็มีองครักษ์ในวังแปลกหน้า 10 กว่านายเดินเตร่อยู่ หวังทงมองเห็นแล้วก็รู้สึกดีใจ นี่เป็นลูกค้าใหม่ ยิ้มแล้วรีบเข้าไปกล่าวว่า

“องครักษ์ทุกท่าน ร้านข้าทางนี้อาหารร้อนๆ รสอร่อย ทุกท่านลำบากเข้าเวรกันมา อากาศหนาวเช่นนี้ เข้ามาก่อนหากไม่กินข้าวก็ดื่มน้ำซุปร้อนๆ สักหน่อย จะได้อบอุ่น”

พอเขาเอ่ยปาก บรรดาองครักษ์วังหลวงแปลกหน้าก็มองมา ท่าทางมีระเบียบวินัยทำเอาหวังทงตกใจไม่น้อย แต่สถานะเถ้าแก่ของเขาก็เป็นที่รู้กัน

องครักษ์ที่อยู่กับทางซ้ายของประตูทางเข้าสองคนนั้นก็แหวกทางหลบให้ หวังทงแหวกม่านเข้าไปในร้าน พบว่าเวลานี้เหมือนกันกับเมื่อวานตอนบ่าย

ร้านค้าว่างเปล่า ขุนนางนอกราชการมีอายุผู้นั้นกับเจ้าเด็กอ้วนคนเมื่อวานมาอีกแล้ว พอเห็นสายตาเถ้าแก่มองไป เสี่ยวจางคนงานในร้านก็มีปฏิกิริยาฉับไว รีบกล่าวว่า

“นายท่าน นายท่านท่านนี้มาจ่ายเงินเมื่อวานนี้แล้วขอรับ”

เพราะเป็นเรื่องเล็ก หวังทงจึงค่อยไม่ใส่ใจ หันไปพยักหน้ายิ้มให้กับขุนนางนอกราชการผู้นั้น อีกฝ่ายไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เอาแต่มองเจ้าเด็กอ้วนตะกรุมตะกรามกินสามชั้นน้ำแดงนั้นอย่างเอ็นดู

หวังทงเดินไปที่โต๊ะมุมร้านเหมือนเช่นปกติ ถามขึ้นเสียงดังว่า

“พี่จางไปไหน?”

“นายท่าน นายท่านจางไปหาช่างก่อสร้างเรื่องต่อเติมขอรับ บอกว่าจะกลับมาตอนค่ำ”

คนงานตอบขึ้น ช่างก่อสร้างก็คือช่างออกแบบและก่อสร้างร้าน หลังปีใหม่ 15 วันก็จะเริ่มต่อเติมร้านแบบง่ายๆ หลังฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่น เรือนสองสามแห่งต้องสร้างให้เสร็จทั้งหมด ทำให้ต้องคุยแผนงานกับช่างก่อสร้างเหล่านั้นอย่างละเอียด

ขณะที่หวังทงกำลังหยิบดินสอถ่านขีดเขียนวาดรูป ก็ได้ยินเสียงบ่นของเจ้าเด็กอ้วนดังขึ้น

“…แม่และอาจารย์จางกวดขันข้า…เคร่งครัดไปจริงๆ ทุกวันท่องบทเรียนไม่ได้ก็จะลงโทษให้คุกเข่า นี่ก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว กินข้าวยังต้องรู้จักประหยัดอะไรแบบนั้น ข้าวมื้อหนึ่งกับข้าวมีเนื้อหนึ่งอย่าง สู้มากินข้างนอกให้สะใจก็ไม่ได้”

เสียงเขาดังไม่เบา ดึงความสนใจของหวังทงให้นิ่งฟัง เจ้าเด็กอ้วนกล่าวอย่างอัดอั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่พอได้ยินเขาบ่น เป็นเพราะที่บ้านจะกวดขันเคร่งครัดมากไป ทำผิดไม่ได้ เห็นชัดว่าเขาเป็นเจ้าบ้าน แต่อะไรก็จัดการไม่ได้ คนที่บ้านต่างไม่ฟังตนเอง

ฉลองเทศกาลอะไร อยากจะจุดโคมไฟมังกรก็ยังถูกอบรม เรียนหลักการประหยัดดูแลครอบครัวอะไรนั่นทุกวันมันช่างน่าเบื่อมาก เจ้าเด็กอ้วนพูดมากไม่หยุด หากเป็นเรื่องน่าแปลกอยู่บ้าง ก็คือเด็กอ้วนผู้นี้ตอนพูดตะกุกตะกัก จะบอกว่าพูดจาไม่แคล่วคล่องก็ไม่ใช่เสียทีเดียว

ผู้มีอายุผู้นั้นกลับมีสีหน้าลนลานอย่างมาก หันมองรอบร้านก่อนจะกระซิบขอร้องเบาๆ ว่า

“นายน้อยเหนือเกล้า ขออย่าได้พูดต่ออีกเลย หากแพร่ไปถึงข้างใน…”

เห็นท่าทางระแวดระวังของคนที่มาด้วยแล้วรู้สึกว่าไม่เหมือนเป็นพ่อกับลูก หรือว่าจะเป็นผู้ติดตามหรือพ่อบ้านที่บ้านกัน แท้จริงแล้วเป็นตระกูลแบบไหนกันถึงได้มีพ่อบ้านที่ดูเข้าทีเช่นนี้ได้ สวมเสื้อผ้าจัดการเรื่องราวได้ไม่ต่างอะไรกับเจ้าบ้านของตระกูลใหญ่

ผู้แต่งกายอย่างขุนนางนอกราชการผู้นั้นกล่าวเตือนไปไม่เป็นผลอันใด เจ้าเด็กอ้วนยังเหมือนจะถูกเสียงขอร้องนั้นเสียดแทงใจ เสียงจึงยิ่งดังขึ้น

“เป็นมารดาแท้ของข้านะ ยังสู้เจ้านั่นที่มิใช่ลูกแท้ๆ ไม่ได้ ไม่รู้จริงๆ ว่าใช่ลูกแท้ๆ หรือไม่ เข้มงวด…”

ในตระกูลใหญ่ภรรยาน้อยใหญ่มากมาย นี่มิใช่เรื่องที่พบเห็นได้น้อยแต่อย่างใด แต่ที่เจ้าเด็กอ้วนพูดนี่มันทำให้หวังทงรู้สึกโมโห ตอนนี้หวังทงเป็นเด็กกำพร้า มาในยุคนี้แม้ว่าจะมีความสุขกับชีวิตครอบครัวได้ถึง 12 ปี ก็ยังต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าโดดเดี่ยวตัวคนเดียวอีก สามารถมีพ่อแม่อยู่เคียงข้างถือเป็นวาสนาอันยิ่งใหญ่แล้ว

นับประสาอะไร สิ่งที่เจ้าเด็กอ้วนนั่นพูด ก็เป็นเรื่องที่มารดาหวังให้เขาได้ดี อาจารย์จางท่านนั้นก็แค่เข้มงวดไปหน่อยเท่านั้น ไยจึงต้องกล่าววาจารุนแรงเช่นนี้

อย่างไรก็เป็นลูกค้า หวังทงระงับความโกรธ เอ่ยแทรกขึ้นว่า

“น้องชายท่านนี้ สงสารหัวอกพ่อแม่ เมื่อครู่ที่เจ้าพูดมา ล้วนเป็นแม่เจ้าที่ลำบากเพื่อหวังให้เจ้าได้ดี หากรู้ว่าเจ้าพูดเช่นนี้ ก็ยังมิรู้ว่านางจะเสียใจสักเท่าใด…”

แต่ที่ทำให้คาดไม่ถึงก็คือ ปฏิกิริยากลับมาก่อนก็คือชายสวมชุดขุนนางนอกราชการผู้นั้น เขาหันหน้ามาพร้อมใบหน้าเย็นชาดุดัน กล่าวขึ้นอย่างโมโหว่า

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนอย่างเจ้ามาข้องเกี่ยวได้หรือ ช่างบังอาจนัก”

บางทีอาจเพราะโมโหสุดขีด เสียงจึงแหลมเล็กอยู่บ้าง เจ้าเด็กอ้วนนั่นยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ เอาตะเกียบปาลงบนโต๊ะอย่างแรง ชี้หน้าหวังทงด่าว่า

“ไม่รู้อะไรก็อย่ามาพูดจาเหลวไหล…”

“แม่เจ้าหากมิใช่ว่ารักเจ้า เจ้าจะมีเนื้อกินทุกมื้อได้อย่างไร แม่เจ้าหากมิใช่ว่ารักเจ้า เจ้าจะมีแพรพรรณเสื้อหนังสวมใส่ได้อย่างไร แม่เจ้าหากมิใช่ว่ารักเจ้า จะมีพ่อบ้านพาเจ้าออกมากินข้าวได้อย่างไร ผู้เป็นลูกนั้น ต้องคิดดูว่าพ่อแม่ทำเพื่อตนมากมายเพียงใดก่อน ค่อยคิดว่าตนเองนั้นมีสิทธิ์บ่นเช่นนี้หรือไม่!”

หวังทงตัดบทอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย เขารู้สึกโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว ทั้งสองอึ้งไปกับคำพูดของเขา คำพูดของเจ้าเด็กอ้วนถูกตัดบท เดิมก็คิดจะระเบิดอารมณ์ใส่ หากหวังทงพูดจบ ก็ดูเหมือนจะสะเทือนใจ หวังทงพอของขึ้น ก็หยุดไม่อยู่ ยืนขึ้นกล่าวต่อว่า

“อาหารร้านข้าไม่อาจให้คนไร้ความกตัญญูกิน เสี่ยวจาง เอาเงินคืนพวกเขา ท่านทั้งสองเชิญ!”

นี่ก็คือการไล่ลูกค้าออกจากร้าน ชายอายุมากผู้นั้นก็พลันโมโห ยืนขึ้นกำลังจะพูดอะไรออกมา เจ้าเด็กอ้วนนั่นกลับดึงแขนเสื้อชายอายุมากผู้นี้ ค่อยๆ ส่ายหน้าเบาๆ

ดูท่าแล้วชายอายุมากผู้นี้เป็นระดับพ่อบ้านของบ้านคนมีสตางค์จริงๆ ท่าทางเจ้าเด็กอ้วนนั่นเหมือนออกคำสั่ง ความโกรธของคนที่สวมชุดขุนนางนอกราชการผู้นั้นก็หายไปทันที พยักหน้ากระซิบอะไรบางอย่าง

ทั้งสองคนไม่ได้รับเงินที่คนในร้านส่งคืน หากเดินออกจากร้านไปทันที

พอเห็นทั้งสองจากไป หวังทงก็ตบโต๊ะกล่าวอย่างขัดเคืองใจว่า

“พวกไร้ความกตัญญู!!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version